px

เรื่อง : Gate of God
ตอนที่ 311 ส่งกระดาษคำตอบ


วู่ เฟิง ไม่คิดว่า ฟาง เจิ้งจือ อ่อนแอ ก่อนเขาจะรู้ว่า หนานกง เฮา เข้าร่วมการทดสอบหรือก่อนเขาจะเห็นหัวใจแห่งเต๋าของ หนานกง เฮา

เขาคิดว่า ฟาง เจิ้งจือ เป็นคู่แข่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการสอบด้านปัญญา

ใครก็ตามที่สามารถทำข้อสอบครบได้ทั้ง 6 ชุด คงไม่ใช่คนที่มีความสามารถทั่วๆไป

วู่ เฟิง เคยพยายามแล้ว แต่สูงสุดเขาก็ทำได้แค่ 2 ชุด

แต่นี่ทั้ง 6 ชุด ...

พูดได้คำเดียว "สัตว์ประหลาด"

อย่างไรก็ตามเขาคิดว่า ฟาง เจิ้งจือ และตัวเขาคงสูสีกัน ไม่ใช่เพราะ ฟาง เจิ้งจือ อ่อนแอ แต่เพราะ หนานกง เฮา แข็งแกร่งเกินไป!

ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้สังเกตุเห็นสิ่งนี้ เขากำลังร่างนโยบายอย่างมีความสุข ที่ได้เขียนเรื่องราวของบรรพบุรุษในประวัติศาสตร์ในโลกเก่าของเขา

 

เขาเพิกเฉยต่อทุกสิ่งรอบตัว

แน่นอนว่า "หกชาติ" ของ ฟาง เจิ้งจือ มีความแตกต่างจาก "หกชาติ" จริง  เขาได้ปรับมันตามความเข้าใจของเขา

อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้เปลี่ยนแนวคิดที่ว่าห้ามยอมแพ้ แม้แต่องค์กรขนาดเล็กยังใช้แนวคิดเอาชนะพวกยักษ์ใหญ่ในตลาดได้เลย

ดังนั้น...

พวกเขาสามารถใช้แนวคิดเดียวกันได้การไม่ยอมแพ้แสดงถึงเจตจำนงที่จะต่อสู้

 

เป็นเหตุผลง่ายๆ

อย่างไรก็ตามเพื่อให้ "หกชาติฉบับใหม่" เข้ากับอาณาจักรนี้ได้ ฟาง เจิ้งจือ ยิ่งต้องเปลี่ยนบางประโยคไป

มี่หนึ่งในประโยคของต้นฉบับ...

 

"อาณาจักรถูกสร้างขึ้นมาจากขี้เถ้าของทั้ง 6 ชาติ แต่มันก็ล่มสลายด้วยเหตุผลเดียวกัน"

มันหมายความว่าถ้าอาณาจักรไม่เข้มแข็งพอจะจัดการกับพวกเขา พวกรัฐบรรณาการก็ไม่มีทางยอมแพ้ง่ายๆ

ฟาง เจิ้งจือ ใช้แนวคิดนี้เป็นหลัก

ทุกคนที่นี่ไม่ใช่คนโง่ ...

ทุกคนย่อมเห็นว่าเขาหมายถึงอาณาจักรเซี่ย ขณะที่พวกเขามีอำนาจ พวกเขาก็ต้องการที่จะใช้มันเพื่อควบคุมรัฐบรรณาการให้ได้เช่นกัน

 

จากนั้นพวกเขาก็จะตกอยู่ใต้เปลวเพลิง

นโยบายของ ฟาง เจิ้งจือ ใกล้จะสิ้นสุดแล้ว เขาไม่ได้วิเคราะห์สภาพทางการเมืองในปัจจุบันของอาณาจักรเซี่ย เขาเลือกที่จะอธิบายช่วงเวลาหนึ่งในประวัติศาสตร์ผ่านมุมมองของคนนนอก

เหตุผลก็คือ ...

 

เขาไม่รู้สภาพการเมืองในตอนนี้

"อืม ... ก็ไม่เลว!"ฟาง เจิ้งจือ เริ่มตรวจทานผลงานของเขา  ตรวจทั้งคำที่สะกดผิด

และตรวจสอบประโยคที่ผิดไวยกรณ์

 

การตรวจทานนั้นเป็นสิ่งที่ดีเสมอ มันไม่ใช่เรื่องน่าเหน็ดเหนื่อยที่ต้องมาเช็คงานของตัวเองอีกรอบ  แนวคิดนี้ ฟาง เจิ้งจือ ได้มาจากอาจารย์ของเขา

เขาทำการตรวจทานแก้ไขประโยคให้เรียบร้อย

เขาอ่านมันอีกครั้ง

ด้วยความพึงพอใจ ...

 

จากนั้นเขาก็คัดลอกสิ่งที่เขาเขียนทั้งหมดลงในกระดาษแผ่นใหม่

เขามองไปรอบๆและเห็นผู้เข้าสอบกำลังขมวดคิ้วกันอยู่ บางคนนั้นกัดที่ปากกา ราวกับกำลังจะกินมันเข้าไป

พวกเขาหิวขนาดนั้นเลยงั้นรึ?

ฟาง เจิ้งจือ ส่ายหัวด้วยความดูถูก จากนั้นก็หันไปมอง เหยียน ซิว  เหยียน ซิว เริ่มเขียนนโยบายแล้ว เขาดูค่อนข้างมั่นใจ

ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้รู้สึกประหลาดใจกับเรื่องนี้

แม้ว่า เหยียน ซิว จะเตรียมบทความเกี่ยวกับพวกโครงสร้างพื้นฐานเมืองหรือเรื่องน้ำมา แต่ ตระกูลเหยียนนั้นก็มีอิทธิพลและเกี่ยวข้องกับเรื่องทางการเมืองมาเสมอ  ดังนั้นเรื่องนโยบายจึงไม่ใช่เรื่องลำบากสำหรับเขา

จากนั้นเขาก็เห็นไปมอง วู่ เฟิง ที่เริ่มเขียนแล้วเช่นกัน อย่างไรก็ตามดูเหมือนเขาจะได้รับผลกระทบเล็กน้อย ดูไม่มีความสุขเช่นปกติ

 

"หนานกง เฮา เริ่มเขียนแล้วหรือยัง?" ฟาง เจิ้งจือ จำได้และหันไปมองทางนั้น

หนานกง เฮา ยังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้ราวกับรูปปั้น

นี่เขาล้อเล่นงั้นรึ?

ฟาง เจิ้งจือ คิดกับตัวเอง

เขาไม่ใช่อัจฉริยะอันสูงส่งงั้นหรือ? ทำไมเขาถึงใช้เวลาคิดนโยบายนานขนาดนี้?  ถ้าเขาอ่อนแอแบบนี้ก็คงน่าผิดหวัง

ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้หันไปมองรอบๆอีกต่อไป  เขาสงบนิ่งและยืดแขนออก จากนั้นเขาก็เขียนต่อ

ภายใน 15 นาที นโยบาย "หกชาติฉบับใหม่" ของเขาก็เสร็จสิ้น

"ข้าต้องการส่งกระดาษคำตอบ!" ฟาง เจิ้งจือ มักมีนิสัยนอนหลับหลังจากทำข้อสอบเสร็จ พราะก่อนหน้านั้นมีกฎว่าห้ามออกจากห้องสอบก่อนจบการทดสอบ

 

แต่การทดสอบระดับสภาไม่มี

เช่นนั้น ...

เขาตัดสินใจที่จะเล่นสนุกโดยการส่งกระดาษคำตอบก่อนเวลา  เขามักจะทำเช่นนี้เสมอในโลกก่อน

ถือโอกาสย้อนความทรงจำวันวาน

"ส่ง...กระดาษคำตอบ?!"

"เขาทำเสร็จแล้ว?"

"ทำไมถึงเร็วขนาดนั้น?  ข้ายังเขียนเกริ่นนำไม่เสร็จเลย"

"เกริ่นนำ?  ข้ายังนึกไม่ออกเลยว่าจะเริ่มเขียนยังไง"

ผู้เข้าสอบทุกคนตะลึงกับสิ่งที่ ฟาง เจิ้งจือ ทำ  มันยังไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงตั้งแต่เริ่มสอบเลยด้วยซ้ำ ?

ที่สำคัญทุกคนรู้ว่า ฟาง เจิ้งจือ มาที่นี่โดยไม่มีการเตรียมตัว

เขาทำได้ยังไง?

เสร็จเร็วกว่าคนที่เตรียมตัวมาเสียอีก

องค์จักรพรรดิรวมถึงเหล่าเจ้าหน้าที่ต่างตกตะลึง

ส่งก่อนหมดเวลา?

มันไม่เคยเกิดขึ้นมาหลายศตวรรษ!

ไร้สาระ!

มีอะไรที่น่าขันกว่านี้ไหม? มันเป็นการดูหมิ่นการทดสอบระดับสภาชัดๆ มันเหมือนกับ ฟาง เจิ้งจือ อยากบอกว่าการทดสอบระดับสภานั้นง่ายเกินไป!

 

"ฟาง เจิ้งจือ มาจากหมู่บ้านอันห่างไกล เป็นไปได้ไหมที่เขาจะเขียนมั่วๆเพราะเขาไม่รู้นโยบายต่างๆ?"เจ้าหน้าที่ถามอย่างสงสัย  การที่จะเขียนนโยบายเสร็จในเวลาสั้นๆนั้นแทบเป็นไปไม่ได้

"ถ้าเป็นแบบนั้นการรีบส่งกระดาษคำตอบของเขาก็เหมือนกับการขุดหลุมฝังตัวเอง" เจ้าหน้าที่อีกคนหนึ่งส่ายหัว

"หรือเขาจะเขียนนโยบายดีๆออกมาได้จริงๆ?"

"ข้าไม่รู้  ตอนแรกข้าก็คิดว่า ฟาง เจิ้งจือ เป็นคนโง่คนหนึ่ง แต่เขาก็ได้แสดงให้เราเห้นแล้วว่าเขาฉลาดมาก เขาจะไม่ขุดหลุมฝังศพและกระโดดลงไปในนั้นหรอก"

"มันเป็นความจริง  แต่เขาสามารถเขียนนโยบายเสร็จได้อย่างรวดเร็วได้ยังไงกัน?"

"อา... ข้าไม่รู้ อย่างไรก็ตามองค์จักรพรรดิได้สั่งให้ ฟาง เจิ้งจือ ช่วยงานที่กรมพิธีการ ถึงแม้เขาจะไม่ได้ให้ตำแหน่งกับ ฟาง เจิ้งจือ แต่ข้าคิดว่าคงมีอะไรมากกว่านั้น "

"เจ้าหมายความว่าองค์จักรพรรดิคิดว่า ฟาง เจิ้งจือ เป็นคนที่มีพรสวรรค์?  แต่ข้าคิดว่าคงไม่เป็นเช่นนั้น หลังจากเข้าเมืองหลวงเข้าได้สร้างศัตรูกับศัตรูที่ทรงอิทธิพลมากมาย"

"ข้าคิดต่างนะ  เหยียน ซิว เป็นใคร? เขาเป็นทายาทตระกูลเหยียน เขามักจะเย็นชาและพูดคุยไม่มากนัก แต่เขาเป็นเพื่อนกับ ฟาง เจิ้งจือ?  รวมถึงองค์หญิง ปิง หยาง ด้วย จะมีกี่คนที่กล้าเป็นศัตรูกับนาง? แล้ว ฉือ กูเหยียน อีก? จากนั้น ซิง ฉิงซุย และ หนานกง มู่ อีก มันคงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะสนิทสนมกับพวกเขา? แต่พวกเขาทั้งหมดกับมีความสัมพันธ์กับ ฟาง เจิ้งจือ!"

"หรือ ฟาง เจิ้งจือ จะมีพรสวรรค์ในด้านนี้?"

"ข้าคิดว่ามันยังคงเร็วเกินไป  พวกเราจะรู้ได้หลังจากการทดสอบด้านปัญญาเท่านั้น"

"ข้าเห็นด้วย" เจ้าหน้าที่พยักหน้าเบา ๆ และเงียบลง เขาไม่ได้พูดอะไรอย่างอื่น แต่เขามองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ

 

ซู ฉิง ยิ้มและเดินไปที่ ฟาง เจิ้งจือ

"เจ้าหน้าที่ฟาง จะส่งข้อสอบก่อนเวลาหรือ?"

"ข้าส่งไม่ได้หรือ?" ฟาง เจิ้งจือ ถาม

"แน่นอนว่าได้  ยังไงก็ตามทำไมท่านไม่ลองตรวจทานข้อสอบอีกสักครั้งหรือ"ซู ฉิง ยิ้มเล็กน้อย

ท่าทีของเจ้าหน้าที่ต่างเปลี่ยนไป พวกเขามองไปที่ ซู ฉิง และ ฟาง เจิ้งจือ และความคิดที่แสดงออกผ่านสีหน้า

หลังจากที่ได้สร้างความประทับใจที่ที่พักขององค์รัชทายาท แต่เขาก็ไม่ได้เลื่อนขั้นแต่อย่างใด แต่ ซู ฉิง ได้รับการแต่งตั้งเป็นหัวหน้าโรงเรียนหลวงแทน

มันทำให้เจ้าหน้าที่หลายคนไม่พอใจในตอนแรก

อย่างไรก็ตามการได้เห็นความเฉลียวฉลาดของเขาในวันนี้ทำให้พวกเขากระวนกระวายแฝงด้วยความชื่นชม

คำพูดทั่วๆไปแต่มีบางอย่างแอบแผงไว้

จักรพรรดิได้ชี้แจงชัดเจนว่าเขาต้องการให้ผู้เข้าสอบทุกคนใช้ความคิดอย่างลึกซึ้ง คำแนะนำของ ซู ฉิง ต่อ ฟาง เจิ้งจือ บอกผู้เข้าสอบคนอื่น ๆ ว่าการกระทำของ ฟาง เจิ้งจือ ขัดต่อความปรารถนาของจักรพรรดิ

 

เจ้าหน้าที่ต่างหันไปมององค์จักรพรรดิ

จักรพรรดิยกมือให้คนรับใช้วางชาถ้วยใหม่

องค์จักรพรรดิยกแก้วของเขาและจิบเบาๆ เขาไม่ได้พูดอะไรราวกับไม่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้น

เจ้าหน้าที่ทุกคนตกตะลึง

 

ความคิดขององค์จักรพรรดิที่มีต่อ ฟาง เจิ้งจือ เป็นเรื่องที่ค่อนข้างลึกลับตั้งแต่ตอนแข่งม้าและแข่งล่าสัตว์ ไม่ว่า ฟาง เจิ้งจือ จะทำอะไร ดูเหมือนเขาจะไม่สนใจ

เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น?

ไม่มีเจ้าหน้าที่พูดอีก ถ้าจักรพรรดิไม่พูดอะไร พวกเขาก็ทำอะไรไม่ได้ พวกเขาไม่สามารถถามอะไร ฟาง เจิ้งจือ ได้

"ข้าตรวจทานอย่างละเอียดดีแล้ว ข้ายังมีฉบับร่างอยู่ด้วย " ฟาง เจิ้งจือ วางมันลงด้านหน้าของ ซู ฉิง

ซู ฉิง มองไปที่ฉบับร่างของ ฟาง เจิ้งจือ เขายกแขนขึ้นเล็กน้อย แต่ก่อนที่จะรับมันเขาก็ตระหนักว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขารับมันไป

เขาก้าวถอยหลัง

เขามีความอยากรู้อยากเห็นมากเกินไป ความจริงแล้วใครๆก็อยากรู้ว่า ฟาง เจิ้งจือ มีนโยบายอะไร

 

อย่างไรก็ตามเขาเรียกสติกลับมาได้ทันที

ในการทดสอบระดับสภา ข้อสอบจะถูกปิดผนึกไว้ทันทีหลังจากที่ส่งมาจักรพรรดิจะตรวจสอบเป็นการส่วนตัว ในฐานะเจ้าหน้าที่ระดับ 4 เขาเป็นใคร?

แม้แต่หัวหน้าโรงเรียนหลวงอย่าง ฮัน ฉางเฟิง ก็ไม่มีสิทธิ์ดูมัน

"เขา ... ทำมันด้วยความตั้งใจหรือเปล่า?" ซู ฉิง เริ่มเหงื่อตก  เมื่อเขาหันมามอง ฟาง เจิ้งจือ อีกครั้ง ท่าทีของเขาต่างออกไป

ฟาง เจิ้งจือ โบกกระดาษคำตอบอยู่หน้า ซู ฉิง เขาทำตาเป็นประกายขณะโบกมัน ราวกับเด็กน้อยไร้เดียงสา

"เจ้าต้องการจะดูงั้นหรือ?  ลองดูเลยสิ!" ฟาง เจิ้งจือ ยังคงโบกกระดาษในมือและเรียก ซู ฉิน

"ข้าไม่กล้าดูหรอก" ซู ฉิง ตกใจกับการกรทำของ ฟาง เจิ้งจือ  เขาถอยห่างออกไปและก้มหัวลง

"เจ้าไม่กล้า?  อ้อ... ขาคิดว่าเจ้าจะตรวจสอบคำตอบด้วยนามขององค์จักรพรรดิเสียอีก" ฟาง เจิ้งจือ ยิ้มไร้เดียงสา

เจ้าหน้าที่ทุกคนล้วนตกตะลึงด้วยสายตานี้

คำพูดที่ไร้เดียงสานั้นส่งผลกระทบอย่างมาก

ซู ฉิง ใช้คำพูดขององค์จักรพรรดิเพื่อโจมตี ฟาง เจิ้งจือ  เช่นกันกับ ฟาง เจิ้งจือ เขาใช้วิธีเดียวกันเพื่อโต้กลับ  สุดท้าย ฟาง เจิ้งจือ ก็ชนะ

เขาทำมันด้วยความตั้งใจหรือไม่?  หรือเป็เรื่องบังเอิญ?

ไม่มีเจ้าหน้าที่คนไหนกล้าขยับเขยื้อน

ทุกคนหันไปมอง ฟาง เจิ้งจือ

 

แต่ทันใดนั้นอีกร่างหนึ่งก็ลุกขึ้น

"ข้าต้องการส่งกระดาษคำตอบ!"

เสียงของเขาไม่ดัง แต่คมชัด น้ำเสียงที่ราบเรียบราวกับสายหมอกท่ามกลางหุบเขา

มันหลอมรวมกับก้อนเมฆที่ลยอย่างแผ่วเบา

ถึงอย่างนั้นเจ้าหน้าที่ก็หันไปมองร่างนั้นด้วยความหวาดกลัว

การกระทำของ ฟาง เจิ้งจือ ทำให้พวกเขาตกตะลึง แต่การกระทำของชายคนนี้ทำให้พวกเขาหวาดกลัว

ฟาง เจิ้งจือ ส่งกระดาษคำตอบเร็วมันก็พอยอมรับได้

แต่...

ทำไม หนานกง เฮา ถึงส่งกระดาษคำตอบด้วย?

นอกจากนี้เขายังนั่งเงียบๆทั้งๆที่กระดาษตรงหน้าว่างเปล่า

เขาไม่ได้เขียนแม้แต่คำเดียว

แต่ตอนนี้...

หนานกง เฮา ลุกขึ้นยืนและพูดแบบเดียวกับ ฟาง เจิ้งจือ

"ต้องการจะส่งกระดาษคำตอบ!"

เกิดอะไรขึ้น?

 

 

เพจหลัก : Double gate TH

 

รีวิวผู้อ่าน