px

เรื่อง : War Sovereign Soaring The Heavens
บทที่ 36 พิธีเฉลิมวัย


พิธีเฉลิมวัยที่กำลังจะมาถึง นับว่าเป็นวันสำคัญที่สุดในชีวิตคนผู้หนึ่ง

ตามกฎที่ผ่านมา ตระกูลลี่ ตระกูลเฉิน และตระกูลฟางจะต้องเข้าร่วมโดยพร้อมเพรียงกัน และแต่ละตระกูลต้องผลัดกันเป็นผู้จัดงานเฉลิมฉลองนี้

ปีนี้ เป็นรอบของตระกูลเฉินที่จะเป็นเจ้าภาพจัดพิธีเฉลิมวัย

"ลูกเทียน เค่อเอ๋อ อีกไม่กี่วันพวกเจ้าก็จะเป็นผู้ใหญ่แล้ว" ลี่หลัวกล่าวกับเด็กทั้งสอง สีหน้านางเต็มไปด้วยความรักและความภูมิใจ

"เค่อเอ๋อ เจ้าได้ยินหรือไม่? เรากำลังจะเป็นผู้ใหญ่เร็วๆนี้ ตอนนั้นเจ้าก็สามารถให้กำเนิดหลานแก่ท่านแม่ ให้ท่านแม่เลี้ยงดูรวมทั้งได้เล่นกับหลานด้วย " เด็กหนุ่มข้างๆกล่าวขึ้นมากับเด็กสาว

ทางด้านเด็กสาวใบหน้าเริ่มแดงขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้นางอายจนไม่กล้าพูดอะไรออกมา

"เจ้าตัวแสบ เจ้านี่ช่างมีความคิดชั่วร้ายนัก!" ​​ลี่หลัวจ้องมองหลิงเทียน ก่อนที่จะกล่าวต่อไปอีกว่า "หากได้หลานสาวก็ดียิ่ง ในอนาคตนางคงน่ารักเหมือนเค่อเอ๋อแน่ๆ ... "

เมื่อหลิงเทียนได้ยินคำกล่าวของแม่เขาช่วงแรกเขาก็สะดุ้งเล็กน้อย แต่เมื่อได้ยินคำกล่าวครึ่งหลังของนาง มันถึงกับไปไม่เป็น เขาไม่รู้จะพูดอะไรเลย

นี่เป็นกรรมพันธุ์หรือไม่?

"เจ้าได้ยินแล้วหรือยัง? อาวุโส 9 กำลังจะได้อุ้มหลานแล้วแต่ดูเจ้าสิ หากเจ้ายังไม่ลดน้ำหนักก่อนวันเฉลิมวัยมาถึง ข้าจะตัดขาเจ้า! ดูสารรูปเจ้าสิ อ้วนกลมเช่นนี้จะมีสะใภ้ให้ข้าได้อย่างไร สาวใดจะเหลือบแลเจ้า? "

อาวุโส 5 ที่อยู่ใกล้ๆ ได้หันไปตำหนิไขมันน้อย ที่กำลังทำหน้าทำตาไร้เดียงสา มันก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี มันชอบกินของอร่อยๆนี่นา

ต้วนหลิงเทียนส่ายหัวเล็กน้อย

.....

วันเฉลิมวัยได้มาถึง....

พิธีเฉลิมวัยนี้ ทั้งสามตระกูลจะเวียนกันจัดปีละครั้ง คนที่จะเข้าร่วมพิธีต้องเป็น เด็กที่จะมีอายุ 16 ในปีนี้ ... หลังจากวันนี้ หลิงเทียน เค่อเอ๋อ และลี่ซวนก็จะนับได้ว่า มีอายุ 16 ปี

ทุกคนตอนนี้มาอัดกันในลานฝึกซ้อมหลักของตระกูลเฉิน

ประมุขครอบครัวเฉิน ที่ยืนอยู่กับประมุขตระกูลฟางและตระกูลลี่ ได้ก้าวออกมาบนเวที ก่อนที่จะให้โอวาท และกำหนดการณ์ต่างๆที่จะเกิดขึ้น

งานในวันเฉลิมวัยก็ไม่มีอะไรไม่มากนัก ที่สำคัญคือการประลองกระชับมิตรที่จะจัดขึ้นหลังจากเสร็จพิธีเฉลิมวัย

การประลองกระชับมิตรนี้ จะให้เหล่าผู้เยาว์ที่เข้าร่วมในงานเฉลิมวัย วันนี้เข้าประลองต่อสู้กัน เมื่อเกิดการประลองก็ย่อมมีการจัดอันดับตามมา จะมีการจัดอันดับ 10 นักสู้ของเมืองวายุโปรย แล้วก็มี 3 อันดับแรก แล้วก็มี อันดับแรก ซึ่งของรางวัลก็จะถูกมอบให้แตกต่างกันไปตามผลงาน

"นั่นใช่ต้วนหลิงเทียนหรือไม่?"

ตอนนี้เยาวชนนับร้อยได้ยืนอยู่ในลานฝึกซ้อมหลักของตระกูลเฉิน ซึ่งก็มีสตรีและบุรุษปะปนกันไป สำหรับตอนนี้ประเด็นร้อนในการสนทนาของมันล้วนไม่พ้น ชื่อเสียงอันลือลั่นของต้วนหลิงเทียน

"ใช่แล้ว ต้วนหลิงเทียนก็เข้าร่วมพิธีเฉลิมวัยในวันนี้ด้วย"

"การประลองกระชับมิตรปีนี้ คงไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น อันดับที่ 1 คงไม่พ้นหลิงเทียนอย่างแน่นอน! "

"คงเป็นเช่นนั้น แต่ข้ากลับเกรงว่าคงไม่มีใครกล้าไปประลองกับเขาเสียมากกว่า"

......

เหล่าคนในตระกูลเฉินเริ่มสนทนากัน

"เขาคือต้วนหลิงเทียนเหรอ?"

หนึ่งในคนของตระกูลเฉินมองไปที่ต้วนหลิงเทียนแล้วรู้สึกทึ่ง ท่าทางของพวกมันเต็มไปด้วยความตกตะลึง

เยาวชนผู้นี้ไม่ใช่คนที่มาเยือนร้านค้าอาวุธของตระกูลเฉินเมื่อวันก่อนหรอกหรือ จำได้ว่าเขามาเพื่อซื้อวัตถุดิบบางอย่างไปสร้างอาวุธ? เป็นไปได้หรือไม่ที่เขาจะมีความสามารถทางช่างตีเหล็กด้วย แต่ข่าวลือที่ได้ยินกลับมีแต่ความสามารถทางด้านการบ่มเพาะ?

พิธีเฉลิมวัยได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ!

เมื่อพิธีเฉลิมวัยเริ่มต้นขึ้น ก็ถึงตาของประมุขทั้ง 3 ตระกูลที่จะขึ้นมากล่าวสุนทรพจน์ คำกล่าวของประมุขทั้งสามก็ไม่ได้มีอะไรมาก ส่วนมากจะเป็นการให้กำลังใจแก่เด็กๆ ...

"น่าเบื่อมาก"

ต้วนหลิงเทียนขมวดคิ้ว เขาแทบจะหลับหลังจากที่ได้ฟังคำกล่าวสุนทรพจน์อันยืดยาว ตอนนี้เขาสัปหงกเล็กน้อย อดไม่ได้ที่เด็กสาวข้างกายจะหัวเราะคิกคักออกมา

ไขมันน้อยที่ยืนด้านข้างหลิงเทียนกล่าวถามออกมาว่าว่า "ลูกพี่ ข้าสามารถใช้อาคมจารึกในการประลองกระชับมิตรได้หรือไม่?

"นอกจากตระกูลลี่แล้ว คนอื่นๆก็แล้วแต่เจ้าเถอะ" หลิงเทียนกล่าวออกมาอย่างเบื่อๆ

"ลูกพี่ ทำไมถึงใช้ได้กับคนอื่นยกเว้นตระกูลลี่ล่ะ ... " ไขมันน้อยถามออกมาด้วยความกังวลตอนนี้มันอยากจะร้องไห้แล้ว

เขาสามารถเอาชนะเยาวชนจากตระกูลอื่นได้แน่นอนหากใช้อาคมจารึก แต่ปัญหาคือเยาวชนที่มีความสามารถของตระกูลลี่เขาจะสู้ได้ยังไงหากไม่ใช้อาคมจารึก

คนที่เก่งกว่าเขามีกี่คนเขาก็ไม่มั่นใจ!

"แล้วใครใช้ให้เจ้าเกียจคร้านการฝึกฝนเล่า!?"

หลิงเทียนรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย

แม้ว่าเขาจะอุตส่าห์ ลำบากสร้างโอสถน้ำบ่มเพาะร่างกาย 7 กระบวนให้แก่ลี่ซวนเพื่อใช้ฝึกฝน แต่มันก็เอาแต่เหลวไหลไม่ตั้งใจฝึกฝน จนตอนนี้มันก็ยังมีระดับการบ่มเพาะร่างกายขั้นที่ 4 เท่านั้น

เด็กคนอื่นๆในตระกูลลี่ ถึงแม้จะใช้เพียง โอสถน้ำบ่มเพาะร่างกาย 6 กระบวน แต่ทว่าพวกมันก็ต่างมีระดับการบ่มเพาะร่างกายขั้นที่ 5 กันหมดแล้ว

"ช่างมันเถอะ ถึงข้าจะไม่มีโอกาสติด 3 อันดับแรก แต่อย่างน้อยข้าคงติด 1 ใน 10 ได้แหล่ะ "

ไขมันน้อยได้ยอมรับชะตากรรมของเขาอย่างรวดเร็ว

สำหรับสามอันดับแรกนั้น เหตุผลที่มันต้องการได้รับก็มีเพียงหน้าตาและชื่อเสียงเท่านั้น ของรางวัลนั้นเล็กน้อยเกินกว่าที่ไขมันน้อยจะสนใจ

เมื่อการกล่าวสุนทรพจน์ของพระสังฆราชทั้งสามสิ้นสุดลง การต่อสู้ที่กระชับมิตรก็เริมต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ!

เยาวชนหนุ่มสาวจากทั้งสามตระกูลที่เข้าร่วมงานครั้งนี้มีถึง 121 คน พวกเขาทั้งหมดถูกแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ และในกลุ่มใหญ่ก็แบ่งเป็น 6 กลุ่มย่อย ทั้งหมดจะแข่งขันกันเพื่อหาอันดับหนึ่งในแต่ละกลุ่มไปเรื่อยๆ

แต่การประลองกระชับมิตรปีนี้มันต่างจากปีก่อนๆเล็กน้อย เพราะ มีต้วนหลิงเทียนเข้าร่วม ...

หลังจากที่ประมุขตระกูลทั้งสามคนได้ร่วมประชุมกัน แม้ประมุขตระกูลฟางจะค่อนข้างขัดใจเล็กน้อยแต่ก็ไม่มีทางเลือก พวกเขาได้แต่ยอมรับว่าการประลองกระชับมิตรครั้งนี้ จะให้หลิงเทียนลอยลำได้รับอันดับที่ 1 ไปโดยปริยาย โดยไม่ต้องเข้าร่วมการแข่งขันใดๆทั้งสิ้น!

เยาวชนทั้งหนุ่มและสาวที่เข้าร่วมการประลองล้วนไม่มีข้อโต้แย้งใดๆในเรื่องนี้

เรื่องนี้ว่าไปมันเป็นเรื่องน่าขันด้วยซ้ำหากจะแย้ง! ต้วนหลิงเทียนพึ่งสังหารระดับก่อกำเนิดด้วยกระบี่เดียวมาหมาดๆ หากจะให้หลิงเทียนเข้าร่วมการประลอง แล้วใครจะกล้าเป็นคู่ต่อสู้ของเขาล่ะ จะมีใครมีปัญญาต่อสู้กับเขา หากเจอหน้าหลิงเทียนพวกมันก็ได้แต่ยอมแพ้อยู่แล้ว

การต้องไปสู้กับตัวประหลาดอย่างต้วนหลิงเทียนนี่เหมือนฆาตกรรมกันชัดๆ!

ต้วนหลิงเทียนอยู่เหนือคนระดับเดียวกันในเมืองวายุโปรยตั้งนานแล้ว

“โอ๊ยลูกพี่ ท่านนี่น่าอิจฉาจริงๆ ไม่ต้องทำอะไรท่านก็ได้อันดับ 1 แล้ว ท่านนี่สบายจริงๆ! "

ไขมันน้อยที่กำหมายเลข 37 ได้แต่มองไปที่หลิงเทียนด้วยความอิจฉาและชื่นชม

หลิงเทียนหันไปถามสาวน้อยข้างๆว่า "เค่อเอ๋อ เจ้าได้หมายเลขอะไร?"

"หมายเลข 7ค่ะนายน้อย"

เด็กสาวยิ้มรับบางๆก่อนที่จะตอบออกมาด้วยน้ำเสียงน่ารัก

หลังจากนั้นไม่นาน การประลองกระชับมิตรก็เริ่มต้นขึ้น

เมื่อเห็นเด็กหนุ่มบนเวทีเตะต่อยกันไม่ต่างอะไรกับเด็กน้อย หลิงเทียนก็รู้สึกเบื่อจนแทบจะหลับอีกครั้ง

เฉพาะตอนที่เค่อเอ๋อลงแข่งขันประลองเขาถึงจะคลายความง่วงได้บ้าง

ยามที่เค่อเอ๋อยืนอยุ่บนเวทีนั้น นางช่างสง่างามและน่ารักเป็นอย่างมาก

เนื่องจากท่าร่างสง่างามและมีใบหน้าราวกับเทพธิดาน้อย ทุกคนที่ได้เห็นถึงกับต้องตกตะลึงและกล่าวชื่นชมนาง ...

"งดงามยิ่ง!"

"หากข้าได้นางมาเป็นภรรยา แม้จะแลกด้วยอายุขัย 10 ปีข้าก็ยอม"

"หยุดฝันเฟื่องได้แล้ว เจ้าไม่กลัวตายหรือไร นางเป็นคนของต้วนหลิงเทียน เจ้าไม่รู้หรือ! "

......

สายตาของเยาวชนทั้งหลายได้แต่จับจ้องไปที่ร่างบอบบางที่งดงามราบกับเทพธิดาบนเวที พวกมันล้วนแต่มีความปรารถนาอยู่ในใจกันทั้งสิ้น

"ระดับการบ่มเพาะร่างกายขั้นที่ 8!"

บนห้างชั้นบน ประมุขตระกูลลี่ ลี่หนันเฟิงและประมุขตระกูลคนอื่นๆได้ แต่จ้องมองอย่างตกตะลึงเมื่อเห็นระดับการบ่มเพาะของเค่อเอ๋อ พวกมันแทบไม่เชื่อสายตาว่าพวกมันกำลังมองระดับการบ่มเพาะของเด็กสาวงดงามวัยเพียง 16 ปี

คู่ต่อสู้ของเค่อเอ๋อ เป็นเพียงเด็กหนุ่มที่มีระดับการบ่มเพาะร่างกายขั้นที่ 3 เท่านั้น เค่อเอ๋อไม่ได้ทำอะไรมาก นางเพียงรับการโจมตีของคู่แข่งตรงๆ ก่อนทีจะฟาดฝ่ามือธรรมดาๆ เพื่อส่งร่างของมันออกนอกเวทีเท่านั้น

ตั้งแต่เริ่มจนจบเค่อเอ๋อไม่ได้ใช้วิชาหรือทักษะการต่อสู้ใดๆ ...

เหตุผลหลักคือเค่อเอ๋อไม่ได้เรียนรู้วิชาอื่นใดมาอีก

นี่ไม่ใช่เพราะหลิงเทียนตระหนี่ แต่เขาได้มอบวิชาบ่มเพาะ จิตกระบี่เหมันต์ แก่นางไปแล้ว และเขาไม่คิดที่จะทำเรื่องไร้สาระอย่างให้เค่อเอ๋อไปฝึกวิชาธรรมดาทั่วไปเป็นการเสียเวลา เพราะเขาอยากให้นางตั้งใจและฝึกฝนในสิ่งที่นางมีให้เชี่ยวชาญเท่านั้น

ในขณะที่เค่อเอ๋อเดินลงจากเวที อาวุโส ที่ทำหน้าที่ควบคุมการประลองก็พูดออกมาอย่างตื่นตระหนก "ระดับการบ่มเพาะร่างกายขั้นที่ 8!"

เมื่อได้ยินคำกล่าวของอาวุโส เยาวชนตระกูลเฉินและคนอื่นๆ ที่ได้ฟังล้วนตกตะลึง!

สาวน้อยร่างกายบอบบางงดงามราวเทพธิดา ที่เพิ่งมีอายุเพียง 16 ปี มีระดับการบ่มเพาะร่างกายขั้นที่ 8 งั้นหรือ?

ในลานฝึกซ้อมหลัก เยาวชนทุกคนที่ได้ยินเสียงการประกาศถึงระดับบ่มเพาะเค่อเอ๋อ พวกมันล้วนตัวแข็งเป็นหิน เป็นเวลานานกว่าพวกมันจะเริ่มรู้สึกตัวเพราะสิ่งที่ได้ยินมันน่าเหลือเชื่อเกินไป

ทุกคนได้แต่เบนสายตาไปมองเด็กสาวยืนสนทนากับหลิงเทียน อย่างตะลึง

"นางมีระดับการบ่มเพาะร่างกายขั้นที่ 8 แล้ว? ล้อกันเล่นใช่หรือไม่…"

"อาวุโส 3 เป็นคนกล่าวออกมาเอง เจ้าคิดว่าเขาจะล้อเล่นหรือไม่เล่า? "

“บัดซบ ตัวประหลาดไม่ได้มีแค่ต้วนหลิงเทียนผู้เดียว แต่คนที่อยู่เคียงข้างมันก็เป็นตัวประหลาดไม่แพ้กันเลย! "

......

การประลองกระชับมิตรก็ดำเนินไปเรื่อยๆ ในที่สุดวันหนึ่งก็ผ่านพ้นไป ในยามเย็นผลการประลองก็ออกมา

อันดับแรก ต้วนหลิงเทียน

อันดับที่สอง เค่อเอ๋อ

อันดับที่สาม ลี่เฉิง

อันดับที่สี่ ลี่เค่อ

อันดับที่ห้า ลี่เฉีย

อันดับที่หก ลี่ซวน

......

ใน 10 อันดับแรก คนตระกูลลี่กลับยึดครองอันดับ 1 ถึง 6 ไปหมดสิ้น

ประมุขของตระกูลลี่ ลี่หนันเฟิง ยามนี้กลับยิ้มแย้มออกมาอย่างอารมณ์ดี เรื่องนี้เขาคาดเอาไว้แล้วไม่ได้แปลกใจอะไร

แต่ทางตระกูลเฉินและตระกูลฟางถึงกับตกตะลึง พวกมันไม่สามารถทำใจเชื่อเรื่องแบบนี้ได้

ยิ่งทางประมุขตระกูลฟาง ฟางยี่ ถึงกับหน้าซีดลง ใน 10 อันดับ มีคนตระกูลฟางติดอันดับแค่ 1 คนเท่านั้น

ถัดไปคือพิธีมอบรางวัล

สำหรับอันดับที่ 1 อย่างหลิงเทียน ได้รับเหรียญเงิน 300 เหรียญ และก็เม็ดยาบ่มเพาะร่างกาย 2 เม็ด

สำสำรับอันดับที่ 2 ,3 เค่อเอ๋อ, ลี่เฉิงนั้น ได้รับเหรียญเงิน 200 เหรียญ และก็เม็ดยาบ่มเพาะร่างกาย 1 เม็ด

ส่วนอีกเจ็ดคนที่เหลือ ได้รับ เพียง เหรียญเงิน 100 เหรียญ เท่านั้น

"ตระหนี่ ตระหนี่เกินไปแล้ว!"

ทุกคนมีแต่อิจฉาต้วนหลิงเทียนที่ได้ที่ 1 แต่ตัวหลิงเทียนเองกลับไม่พอใจในรางวัลที่ได้...แต่สำหรับเขาถึงจะน้อยมันก็ยังเป็นเงินเขาก็ยินดีรับเอาไว้

"นายน้อย นี่ค่ะ!"

เค่อเอ๋อที่อยู่ด้านข้าง ยื่นเงินรางวัลให้หลิงเทียนอย่างน่ารัก

สายตาของทุกคนต่างจ้องไปที่หลิงเทียนอย่างอิจฉาตาร้อน

ณ มุมๆหนึ่งของลานฝึกซ้อม เฉินเม่ยเอ๋อ ที่ยืนรับแสงจันทร์ด้วยชุดสวยงาม ก็ได้แต่กำมือแน่น

สายตาที่นางมองไปยังเค่อเอ๋อ เต็มไปด้วยความอิจฉา

ยามค่ำคืนมาเยือน ในที่สุดงานเฉลิมวัยก็สิ้นสุดลง

......

เมื่อประมุขตระกูลของตระกูลเฉินและตระกูลฟางกลับมาถึงห้องโถงหลังของตระกูลพวกมัน พวกมันต่างเรียกคนของพวกมันเข้าร่วมประชุมในทันที จุดประสงค์ในการเรียกประชุมครั้งนี้คือเรื่องของความสามารถที่โดดเด่นของเยาวชนตระกูลลี่

6 ใน 10 อันดับแรก กลับถูกยึดครองโดยตระกูล ตระกูลหนึ่ง

เรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ ตั้งแต่เมืองวายุโปรยแห่งนี้ก่อตั้งขึ้น

มันต้องมีอะไรผิดปกติ มันต้องมีอะไรสักอย่างเกิดขึ้นอย่างแน่นอน!

หลังจากนี้ทั้งสองตระกูลต่างก็ส่งคนไปสืบเรื่องของตระกูลลี่อย่างลับๆ

แต่ท้ายที่สุดแล้วความพยายามของพวกเขาก็ล้มเหลว พวกเขาไม่สามารถค้นพบอะไรได้

ภายในห้องโถงหลักของตระกูลลี่

ประมุขของตระกูลลี่ ลี่หนันเฟิงมองไปยังหลิงเทียนและเค่อเอ๋อก่อนที่จะกล่าวขึ้นมาว่า "หลิงเทียน เค่อเอ๋อ เหตุที่ข้าเรียกเจ้าสองคนมาพบเพราะว่าข้ามีเรื่องที่ต้องการจะบอกแก่พวกเจ้า"

"ท่านประมุขเชิญพูด"

หลิงเทียนผายมือ

ลี่หนันเฟิงค่อยๆกล่าวออกมาว่า “ด้วยความสำเร็จในปัจจุบันของเจ้าทั้งสองคน ข้าก็ได้เวลาที่จะบอกเรื่องนี้ให้พวกเจ้าได้รับรู้... ที่จริงครอบครัวตระกูลลี่ของเราที่อาศัยอยู่ในเมืองวายุโปรยแห่งนี้ เป็นแค่สาขาของตระกูลลี่ สาขาหนึ่งเท่านั้น พวกเรายังมีตระกูลลี่ ที่เป็นตระกูลหลักอยู่ที่เมือง ออโร่ร่า”

ต้วนหลิงเทียนตกใจเล็กน้อย

เขาเคยได้ยินเรื่องตระกูลลี่แห่งเมืองออโรร่ามาอยู่บ้าง

เขารู้ว่ามันเป็นตระกูลใหญ่ในเมือง หากให้เทียบกันกับตระกูลลี่ที่เมืองวายุโปรยแห่งนี้นับว่ายิ่งใหญ่กว่ากันมาก

แต่เขาไม่คิดเลยว่าตระกูลลี่ของเมืองออโรร่านั้นจะเกี่ยวพันกับตระกูลลี่แห่งเมืองวายุโปรยในลักษณะนี้ ตระกูลลี่แห่งนี้กลับเป็นสาขาของตระกูลลี่แห่งเมืองออโรร่า

ลี่หนันเฟิงยังกล่าวต่อไปอีกว่า "ตระกูลลี่มีกฎที่แจ้งมายังตระกูลสาขาอยู่ข้อหนึ่ง เยาวชนของตระกูลลี่สาขาคนใด ที่เป็นนักหลอมโอสถ นักจารึกอาคม หรือสามารถตัดผ่านไปยังระดับบ่มเพาะร่างกายขั้นที่ 7 ก่อนที่จะอายุครบ 18 ปี สามารถเดินทางไปเข้าร่วมกับตระกูลหลัก และสร้างที่อยู่หรืออาณาเขตของตนได้ในตระกูลหลัก"

รีวิวผู้อ่าน