เขาค่อนข้างมั่นใจอย่างมากว่า วิชา หมัดพยัคฆ์คำรนนั้นมีส่วนคล้ายคลึงกับเพลงหมัดทะลวงของเข้ามากกว่า 70%
และวิธีการส่งแรงแทบจะเหมือนกันไม่มีผิดเพี้ยน!
นอกจากนี้เขายังรู้สึกว่าท่าทางของหมัดพยัคฆ์คำรนดูเหมือนจะมีมุมและองศาการส่งแรงที่ดีกว่าหมัดทะลวงนิดหน่อย
แม้ระดับการเพาะปลูกของลี่เซียวจะเทียบเท่าเขานั่นคืออยู่ในระดับบ่มเพาะร่างกายขั้นที่ 8 และที่สำคัญเขาก็ไม่ได้เชี่ยวชาญวิชาหมัดพยัคฆ์คำรนสักเทาไร
ไม่อย่างนั้นถึงเขาจะพ่ายแพ้หลิงเทียนแต่ทว่าคงจะไม่น่าเกลียดและขาดลอยเช่นนี้
ทักษะระดับห้วงมหรรณพขั้นกลาง?
ต้วนหลิงเทียนพึ่งเข้าใจแล้วว่าเขาอาจจะเข้าใจอะไรบางอย่างผิดไป
เขารีบหวนดูความทรงจำของจักรพรรดิกลับชาติมาเกิดอย่างรวดเร็ว ...
ต้วนหลิงเทียนเริ่มเข้าใจถึงความสามารถของวิชาระดับห้วงมหรรณพ
"อืมที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง ความต่างของระดับห้วงมหรรณพและปฐพีมีข้อแตกต่างกันเช่นนี้นี่เอง ... ทักษะระดับปฐพีในโลกนี้เพียงเทียบเท่า ฝีมือการต่อสู้ของทหารในโลกเก่า ส่วนระดับห้วงมหรรณพขั้นต่ำ จะเทียบได้กับ นักมวยที่ฝีมือดี อืมม”
ต้วนหลิงเทียนเริ่มเข้าใจระดับของโลกใบนี้
ในอดีตตอนนั้นเป็นเพราะเขาเห็นทักษะระดับปฐพีขั้นกลางและต่ำ ของคนในตระกูลลี่สาขา เขาคิดว่ามันช่างอ่อนแอไม่ต่างอะไรกับวิชาทั่วๆไปในค่ายทหาร เขาเลยคิดไปว่าวิชาต่อสู้ในโลกนี้คงไม่ได้มีอะไรมาก วิชาที่เขามีคงเอาตัวรอดได้อย่างสบาย
แต่ตอนนี้เขาได้ตระหนักแล้วว่า สรรพวิชาของเขาในโลกเก่าไม่ได้แตกต่างไปจากระดับห้วงมหรรณพสักเท่าไร
‘ดูเหมือนว่าเราคงต้องฝึกฝนวิชาของโลกนี้อย่างจริงจังซะแล้ว’
หลิงเทียนรู้สึกหงุดหงิดในหัวใจเล็กน้อย
‘วิชาที่เด่นในเรื่อง การโจมตี การเคลื่อนไหว แล้วก็ การป้องกัน สินะ อืมม’
หลิงเทียนรีบค้นหาในความทรงจำของจักรพรรดิกลับชาติมาเกิด เพื่อค้นหาวิชาที่มีระดับสูงๆ เท่าที่เขาจะหาได้ออกมา
‘ที่แท้ วิชา 9 มังกรจักรพรรดิสงคราม เป็นวิชาที่ผสมผสานสุดยอดวิชาระดับสวรรค์ทั้ง 3 ด้านเอาไว้อย่างดีแล้วนี่เอง ... วิชาจู่โจมที่แข็งแกร่งที่สุดคือ 9 มังกรแสงส่องประกาย วิชาการเคลื่อนไหวคือ มังกรทะยานผ่าน 9 สวรรค์ และสุดท้ายวิชาป้องกันคือ 9 มังกรคงกระพัน!’
ต้วนหลิงเทียนสูดหายใจเข้าลึกๆ ตอนนี้เขารู้สึกดีขึ้นมา
วิชาท่าร่าง วิญญาณอสรพิษเคลื่อนกาย ที่อยู่ในรูปแบบ อสรพิษ ของวิชาบ่มเพาะหลัก 9มังกรจักรพรรดิสงครามนั้น นับว่าเป็นท่าร่างพื้นฐานในการ พัฒนาไปเป็น วิชา มังกรทะยานผ่าน 9 สวรรค์
‘ถ้าข้ามีระดับอยู่ที่ ก่อกำเนิดเมื่อไหร่ ข้าจะฝึกฝนวิชาพื้นฐานของ 9 มังกรแสงส่องประกาย ซึ่งเป็นวิชาระดับห้วงมหรรณพขั้นสูงที่ชื่อว่า มังกรทะลวง!’
‘แล้วถ้าข้าตัดผ่านไปยังระดับ กำเนิดแก่นแท้ ข้าจะฝึกฝนวิชาพื้นฐานของ 9 มังกรคงกระพันซึ่งเป็นวิชาระดับห้วงมหรรณพขั้นสูงที่ชื่อว่า มังกรครองภพ!’
เค่อเอ๋อที่อยู่ข้างๆหลิงเทียน สงสัยว่าทำไมเหตุใดนายน้อยของนางถึงเดี๋ยวยิ้มเดี๋ยวขมวดคิ้ว นางเลยอดถามออกมาไม่ได้ว่า "นายน้อยท่านคิดอะไรอยู่เหรอเจ้าคะ?"
หลิงเทียนหัวเราะ "ไม่มีอะไรหรอก พวกเรารีบกลับกันเถอะป่านนี้ท่านแม่ห่วงแย่แล้ว"
คืนนั้นหลิงเทียนก็กลับมานอน เรียบเรียงความคิดบนเตียง
เขามองไปที่เพดานอย่างเหม่อลอย
สติของเขาจมอยู่กับ วิชาต่อสู้ในความทรงจำ ...
ตอนนี้เขากำลังจะก้าวเข้ามาโลกใบใหม่แห่งนี้อย่างเต็มตัว
รุ่งอรุณมาเยือน หลิงเทียนที่ตื่นแต่เช้าตรู่รีบพาเค่อเอ๋อออกจากตระกูลลี่ไป
เขาวางแผนไปซื้อวัตถุดิบสำหรับสร้าง โอสถน้ำบ่มเพาะร่างกาย 7 กระบวน และวัตถุดิบอีกเล็กน้อยเพื่อช่วยเหลือในการฝึกฝน
ส่วนเรื่องเม็ดยาเพลิงอัสนี หลิงเทียนได้ขอให้อาวุโสลี่หัวหลอมเผื่อเขาและเค่อเอ๋อเอาไว้แล้ว ซึ่งทางอาวุโสลี่หัวก็หลอมให้พวกเขาถึง 300 เม็ด ซึ่งนั่นน่าจะเพียงพอให้เขาและเค่อเอ๋อตัดผ่านไปยังระดับก่อกำเนิด
ทั้งสองคนได้เดินมาถึงตลาดที่ใหญ่ที่สุดในเมือง
หน้าตาอันงดงามและเรือนร่างน่ารักของเค่อเอ๋อดึงดูดสายตาบุรุษได้เป็นอย่างดีพวกเขาต่างถูกความงามของนางสะกดให้เผลอเดินตามสาวน้อยเข้าร้านขายโอสถไปด้วย
"ยินดีต้อนรับนายท่านทั้งสอง "
ทันทีที่หลิงเทียนและเค่อเอ๋อเข้ามาผู้จัดการก็กล่าวต้อนรับพวกเขาอย่างดี ด้วยการโค้งคำนับรวมถึงกล่าวออกมาอย่างสุภาพ
เหตุเพราะตราสัญลักษณ์บนอกเสื้อพวกเขา
ตระกูลลี่เป็นยักษ์ใหญ่แห่งเมืองออโรร่า แม้แต่ร้านขายยาแห่งนี้ก็ยังเช่าที่จากตระกูลลี่อยู่ ...
หลังจากที่หลิงเทียน บอกรายการวัตถุดิบและจำนวนที่ใช้ในการสร้างโอสถน้ำ บ่มเพาะร่างกาย 7 กระบวนแล้ว เขายังมีรายการอื่นอีกนิดหน่อย "นอกเหนือจากนี้แล้วให้เตรียม หญ้าสงบวิญญาณ ตะกั่วเหลืองอำพัน แล้วก็ เลือดหลิงซี่ อายุ 50 ปี ไว้ให้ข้าด้วย"
"นายท่านต้องการวัตถุดิบทั้งสามจำนวนอย่างละเท่าไหรหรือขอรับ?" ผู้จัดการถามด้วยความเคารพ
"อืม หญ้าสงบวิญญาณ และตะกั่วเหลืองอำพัน อย่างละ 25 ชั่ง ส่วนเลือดหลิงซี่อายุ 50 ปี เอาสัก 5 ชั่งแล้วกัน"
ผู้จัดการที่รับฟังรายการจากต้วนหลิงเทียน ถึงกับเผลอพูดทวนคำของหลิงเทียน “เลือดหลิงซี่ 50 ปี จำนวน 5ชั่ง”
ผู้จัดการนั้นตกตะลึงไปเล็กน้อย ก่อนที่จะกล่าวถามออกมา "นายท่าน วัตถุดิบอื่นๆนั้นมีราคาไม่มากเท่าไรเพราะพวกมันต่างหาได้ไม่ยากและมีการซื้อขายที่แพร่หลาย ... แต่เลือดหลิงซี่ อายุ 50 ปี นั้น เอ่อ...ราคาของมันเพียง 50 กรัม ก็สูงถึง 1,000 เหรียญเงินแล้วนะนายท่าน 5 ชั่งนี่... "
"50,000 เหรียญเงินใช่หรือไม่?"
หลิงเทียนกล่าวแทรกผู้จัดการก่อนที่จะล้วงไปหยิบตั๋วเงินมูลค่าใบละ 1,000 เหรียญเงิน ออกมาเป็นฟ่อน ก่อนที่จะกรีดไปกรีดมา พร้อมหันไปคุยกับผู้จัดการ "เจ้าไม่ต้องกังวล เพียงจัดหาตามรายการที่ข้าว่ามา เรื่องราคาไม่ใช่ปัญหา"
"เช่นนั้น ข้าจะรีบไปจัดการให้เร็วที่สุดขอรับ นายท่าน "
เมื่อเห็นหลิงเทียนใช้จ่ายเงินจำนวนมากโดยสีหน้าไม่เปลี่ยน ผู้จัดการก็รู้โดยทันทีว่าลูกค้ารายนี้ห้ามเสียมารยาทเด็ดขาด มันรีบกล่าวอย่างนอบน้อมว่า "หากนายท่านต้องการอะไรเพิ่มเติมท่านสามารถเดินเลือกดูได้ ข้าจะรีบไปจัดเตรียมวัตถุดิบที่ท่านต้องการ ใช้เวลาเพียงชั่วครู่เท่านั้น ขอรับ "
"ได้"
หลิงเทียนพยักหน้า
"นายน้อย เหตุใด เลือดหลิงซี่จึงแพงเช่นนั้นล่ะเจ้าค่ะ มีอะไรผิดพลาดหรือไม่?"
เด็กสาวเอยถามหลิงเทียนอย่างซุกซน ดวงตากลมโตน่ารักของนางเต็มไปด้วยความอยากรู้
"มันจำเป็นต้องใช้ เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาในการสร้างโอสถน้ำเสริมสร้างพลังป้องกันให้แก่ร่างกาย อืม...จำนวน 5 ชั่ง นี่เราสามารถใช้มันบ่มเพาะได้ 2 เดือน"
หลิงเทียนยิ้มบางๆ
สองเดือน?
50,000 เหรียญเงิน?
สีหน้าเค่อเอ๋อกลายเป็นโง่งม นางลังเลที่จะพูดออกมา แต่สุดท้ายนางก็พูดออกมา "นายน้อยนี่..มันไม่แพงเกินไปรึเจ้าคะ?"
หลิงเทียนส่ายหัว "เค่อเอ๋อเจ้าต้องจำเอาไว้ว่า หากเพื่อความแข็งแกร่งแล้วเงินทองไม่ได้สำคัญอะไรเลย... เงินมันเป็นแค่ของนอกกายหากไม่ตายเจ้าสามารถหามันใหม่ได้เรื่อยๆ ถึงโลกนี้จะขับเคลื่อนด้วยเงิน แต่ทว่าที่สุดแล้ว ความแข็งแกร่งนั้นอยู่เหนือสิ่งอื่นใด "
เค่อเอ๋อพยักหน้าให้กับคำกล่าวของหลิงเทียน ตอนนี้นางเริ่มเข้าใจแล้ว
"พี่ลี่หยวน หลังจากที่ท่านซื้อเลือดหลิงซี่ไปใช้ วิชาระฆังทองคลุมกายของท่าน จะเข้าสู่ความสำเร็จขั้นตอนเริ่มต้นอย่างแน่นอนใช่ไหม?"
เสียงดังขึ้นมาจากนอกร้านยาและเริ่มใกล้ขึ้นเรื่อยๆ
ระฆังทองคลุมกาย?
หลิงเทียนที่ได้ฟังก็แปลกใจเล็กน้อย
จากวิชาต่างๆของจักรพรรดิกลับชาติมาเกิดที่อยู่ในความทรงจำของหลิงเทียน วิชาระฆังทองคลุมกายนี่ นับว่าเป็นวิชาป้องกันที่ดีที่สุดในหมู่วิชาป้องกันระดับห้วงมหรรณพขั้นกลาง เลยทีเดียว
เมื่อบ่มเพาะสำเร็จแล้ว สามารถยืนผงาดต้านทานทุกสิ่งอย่าง ราวกับระฆังแกร่งบนยอดหุบเขา การโจมตีระดับทั่วไป จะไม่สามารถทะลวงฝ่าการป้องกันไปได้
"ถูกแล้ว หากข้าสามารถซื้อเลือดหลิงซี่อายุ 50 ปี ได้จำนวน 250 กรัม ข้าต้องสำเร็จขั้นตอนเริ่มต้นของวิชาระฆังทองคลุมกายอย่างแน่นอน”
เสียงที่เยือกเย็นเสียงหนึ่งดังขึ้นมา
เสียงของคนอื่นดังขึ้นอีกครั้ง "พี่ลี่หยวน ข้าล่ะอิจฉาท่านจริงๆ เหรียญเงินตั้ง 5,000 เหรียญ ... เฮ่อ หากบิดาข้าทุ่มเทให้กับข้าเช่นนี้บ้าง ป่านนี้วิชา แขนเหล็กไหลของข้า คงสำเร็จขั้นพื้นฐานไปนานแล้ว "
เสียงหนึ่งดังขึ้น "ชีวิตเจ้าก็ยังดีนะ ของข้าสิเฮ่อ บิดาไม่เคยจะสนใจเหลียวแลข้าเลย ที่เจ้าเป็นเช่นนี้คงเพราะพี่ชายเจ้ากระมั้ง ข้าได้ข่าวว่าเขาสำเร็จวิชาแขนเหล็กไหลไปแล้วนี่"
"ถูกแล้ว"
เสียงน้อยใจดังขึ้นมา
"นั่นเป็นเขา!"
ต้วนหลิงเทียนจำเจ้าของเสียงได้ เขาคิดไม่ถึงจริงๆ กลุ่มนี้จะเป็นกลุ่ม ลี่เซียวที่มีเรื่องกับเขาไปเมื่อวานหยกๆ
เขาคาดไม่ถึงว่าลี่เซียวที่กระดูกหัก จะสามารถรักษาให้หายดีจนมาเดินปร๋อในตลาดได้เพียงผ่านไปแค่ 1 คืน
แต่หลิงเทียนก็พอจะเข้าใจได้
อาการบาดเจ็บของลี่ซวนเมื่อวาน เพียงได้รับเม็ดยาทองประสานกาย เวลา 1 คืนก็เหลือเฟือแล้วที่มันจะหายดี
ใช้เม็ดยาทองประสานกาย รักษาอาการบาดเจ็บแค่นั้น
นับว่าคนของตระกูลหลักฟุ่มเฟือยไม่น้อย!
"ลี่เซียว ข้าได้ยินข่าวว่าเจ้าพึ่งพ่ายแพ้ให้กับคนมาใหม่จากตระกูลสาขาไม่ใช่เหรอ อีกทั้งเขายังใช้หมัดพยัคฆ์คำรนเช่นเดียวกับเจ้าอีก?"
"จะว่าไปเรื่องนี้เป็นอย่างที่พี่ลี่หยวนกล่าวนั่นล่ะ เพราะข้าคาดไม่ถึงว่าคนที่มาใหม่จะมีระดับการบ่มเพาะร่างกายขั้นที่ 8 ทำให้ข้าประมาทเกินไป อีกทั้งข้าไม่คิดว่า เขาจะสามารถใช้หมัดพยัคฆ์คำรณได้ถึงขั้นนั้น ...แต่หมัดพยัคฆ์คำรนของเขาก็ยังมีจุดอ่อนอยู่ หากข้ากลับไปฝึกฝนหมัดพยัคฆ์คำรนให้เชี่ยวชาญมากขึ้น ข้ารับรองว่าข้าสามารถเอาชนะเขาได้แน่! "
"แต่มันก็แปลกมากนะ ทีคนของตระกูลสาขาสามารถใช้วิชาระดับห้วงมหรรณพขั้นกลางได้"
"ไม่ใช่แค่เขานะ เจ้าไม่เห็นสตรีที่มากับเขางั้นรึ งดงามไม่ได้ด้อยไปกว่าลี่ฉีฉี แม้แต่นิด"
"ไม่ด้อยกว่า ลี่ฉีฉี เจ้ามั่นใจรึ?"
...
ในที่สุดคนทั้งกลุ่มก็เดินเข้ามาในร้านโอสถ และพวกมันล้วนเห็นเงาร่างของคนสองคน
"เป็นเจ้าเอง!" ลี่เซี่ยวกล่าวออกมาเมื่อเห็น ด้านหลังของคู่รักตรงหน้า มันจดจำแผ่นหลังของทั้งคู่ได้
ลี่หยวนหันไปถามอีกคนหนึ่งด้านข้าง "ลี่เซียวเจ้ารู้จักเขาหรือ?"
"พี่ลี่หยวน เขาเป็นชายที่ข้ากล่าวถึงก่อนหน้านี้ ต้วนหลิงเทียน!" ลี่เซียวกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงต่ำ
“ดูเหมือนว่าดวงพวกเราจะสมพงษ์กันไม่น้อย เมืองออโรร่าแห่งนี้กว้างใหญ่นัก แต่ทว่ากลับได้พบกับเจ้าเช่นนี้” เมื่อได้ยินทั้งสองคนกล่าวถึงตัวเอง ต้วนหลิงเทียนจึงหันกลับมากล่าวกับลี่เซียว
"ฮึ!" ท่าทางของลี่เซียวเปลี่ยนไปเล็กน้อย
ส่วนทางด้านลี่หยวนเมื่อได้ เห็นเค่อเอ๋อ ตัวมันก็ราวกับตกอยู่ในภวังค์ ความงดงามของเด็กสาวตรงหน้าสะกดสายตามันเอาไว้อย่างชะงัด
เด็กสาวที่สวยและน่ารักราวกับเทพธิดาน้อย อีกทั้งยังมีรูปร่างที่บอบบางน่าโอบอุ้ม เช่นนี้มันไม่เคยพบเห็นมาก่อน
ลี่หยวนได้แต่บ่นออกมาราวกับเสียงกระซิบ "ไม่ใช่แค่ไม่ด้อยกว่า ลี่ฉีฉี เท่านั้น นางกลับงดงามยิ่งกว่า ... "
เมื่อเค่อเอ๋อสัมผัสได้ถึงสายตาของลี่หยวนนางรู้สึกขยะแขยงเล็กน้อย
"สวัสดีแม่นาง ได้ยินว่าท่านพึ่งเดินทางมาถึงตระกูลหลักเช่นนั้นรึ ข้าเป็นคนของตระกูลหลัก หากแม่นางมีอะไรสงสัยให้สอบถามข้าได้เลย เรื่องราวในเมืองนี้ข้าย่อมรู้ดี ข้าหวังว่าเราจะเป็นเพื่อนกันได้?"
ลี่หยวนก้าวออกมาก่อนที่จะกล่าวด้วยน้ำเสียงสุภาพ ที่มันไม่ค่อยได้กล่าวกับผู้ใด
"ข้าไม่รู้จักท่าน" เสียงของเด็กสาวกลับเย็นชาและไม่แยแส ราวกับนางไม่อยากเสียเวลาเสวนากับมัน
"เช่นนั้นข้าจะขอแนะนำตัวเอง ... ข้าคือลี่หยวน เป็นคนของตระกูลหลัก ตอนนี้เป็นสาวกสายนอกเช่นเดียวกับแม่นาง แต่หากแม่นางมีปัญหาอะไร หรือกับผู้ใด เพียงเอ่ยชื่อของข้าออกไป รับรองว่าทุกเรื่องราวจะได้รับการแก้ไขอย่างง่ายดาย"
ท่าทีของลี่หยวนนั้นเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง
"โอ้ เช่นนั้นหมายความว่าสาวกสายนอกทั้งหมดไม่มีใครกล้า ต่อกรกับเจ้า?"
ต้วนหลิงเทียนมองไปยังลี่หยวนอย่างท้าทาย
"หลิงเทียนเจ้าอย่าได้กล่าวสามหาว พี่ลี่หยวนแข็งแกร่งติด 3 อันดับแรก ในหมู่สาวกสายนอก เจ้ายังกล้าท้าทายออกมาเช่นนี้อีก เจ้าไม่มีคุณสมบัติเพียงพอเทียบกับพี่ลี่หยวนได้ หุบปากไปซะ แล้วหากเจ้าอยากมีอนาคตที่ดีให้มาเป็นลูกน้องของท่านพี่ลี่หยวนจะดีกว่า "
ก่อนที่ลี่หยวนจะได้พูดอะไร ลี่เซียวก็กล่าวออกมาด้วยความโมโหซะก่อน
"งั้นเหรอ? ไร้สาระ"
หลิงเทียนยิ้มอย่างไม่แยแส ก่อนที่มันจะจูงมือเค่อเอ๋อ พร้อมกับเดินจากทั้งคู่ไปทันที
ลี่หยวนสูดหายใจก่อนที่จะกล่าวออกมาว่า "ตราบใดที่เจ้ายินยอมเป็นเพื่อนกับข้า ข้าจะมอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้แก่เจ้า แม่นางคิดว่า เลือดหลิงซี่อายุ 50 ปี จำนวน 50 กรัมเป็นเช่นใดบ้าง?"
นี่เห็นได้ชัดว่ามันกล่าวกับเค่อเอ๋อ
หลิงเทียนหัวเราะเบาๆ ก่อนที่จะหันไปกล่าวกับเด็กสาว "เค่อเอ๋อ เจ้าดูสิมีตัวตลก คิดอยากจะติดสินบนเจ้าด้วย เลือดหลิงซี่ เพียง 50 กรัม"
"เฮอะ! เด็กบ้านนอกอย่างเจ้าจะรู้อะไร เลือดหลิงซี่อายุ 50 ปีที่พี่ลี่หยวนบอก เพียง 50 กรัม ก็มีมูลค่ามากกว่า 2,000 เหรียญเงินแล้ว ....บ้านนอกอย่างเจ้า เพียงแค่ 100 เหรียญเงินเจ้าจะมีปัญญาหามาได้รึเปล่า?"
ลี่เซียวกล่าวออกมาอย่างดูถูกเหยียดหยาม
ปล. 1 ชั่ง = 500 กรัม
รีวิวของคุณ
คุณจะให้ดาวนิยายเรื่องนี้หรือไม่