px

เรื่อง : War Sovereign Soaring The Heavens
บทที่ 40 พลังเคลื่อนย้ายจักรวาล !!


ต้วนหลิงเทียนเมินคำกล่าวดูแคนของลี่เซียว

ในขณะนั้นเอง ผู้จัดการร้านโอสถก็ได้หิ้วถุงใส่วัตถุดิบออกมาก่อนที่จะกล่าวกับหลิงเทียนว่า "นายท่านที่เคารพ นี่เป็นวัตถุดิบส่วนแรกที่ท่านต้องการขอรับ ทั้งหมด เป็นเงิน 487 เหรียญเงิน ... "

ไม่ทันที่ผู้จัดการจะกล่าวจบ ลี่เซียวก็กล่าวเย้ยหยันหลิงเทียนออกมาทันที "สมแล้วที่เป็นพวกบ้านนอก ราคาวัตถุดิบที่ซื้อมีเพียง 487 เหรียญเงิน เหอะ วัตถุดิบห่วยๆ ราคาของมันไม่ได้ถึงครึ่ง เลือดหลิงซี่ 50 ปี ที่มีจำนวนเพียง 50 กรัมด้วยซ้ำ!"

แม้ว่าลี่หยวนจะไม่ได้ร่วมดูถูกหลิงเทียนกับลี่เซียว แต่ว่ามันก็เผยรอยยิ้มดูแคลนออกมาเช่นกัน

ผู้จัดการร้านโอสถไม่ได้สนใจวาจาไร้สาระของลี่เซียวมันเพียงเหลือบมองลี่เซียวด้วยสายตาดูแคลนครู่หนึ่ง ก่อนที่จะหันมามองหลิงเทียนด้วยความนอบน้อม พร้อมกับกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงสุภาพว่า "แต่ทว่า เงินจำนวนน้อยนิดเพียงเท่านี้ทางเราไม่คิดที่จะเก็บค่าบริการแต่อย่างใด เพราะเนื่องจากท่านลูกค้าที่เคารพได้ทำการซื้อขายกับร้านโอสถเราเป็นจำนวนมากพวกเราจึงสามารถละเลยส่วนนี้ได้ ทางร้านเราเพียงคิดค่าสินค้าในส่วนของ เลือดหลิงซี่ อายุ 50 ปี จำนวน 5 ชั่งเพียงเท่านั้น "ผู้จัดการกล่าวออกมาเสียงดังฟังชัด โดยไม่สนใจลี่เซียวและลี่หยวน

"อ่าผู้จัดการ นี่ตั๋วเงินจำนวน 50,000 เหรียญเงินท่านสามารถนับดูก่อนได้"

หลิงเทียนหยิบตั๋วเงินออกมาปึกหนึ่ง ก่อนที่จะยื่นให้ ผู้จัดการร้านโอสถ

"ทั้งหมด 50,000 เหรียญเงินครบถ้วนขอรับ โอกาสหน้าหากนายท่านต้องการสิ่งใด ได้โปรดเรียกใช้ข้าน้อยได้ทุกเวลา"

หลิงเทียนเมื่อได้ของที่ต้องการแล้ว ก็จูงมือเค่อเอ๋อออกจากร้านโอสถ ท่ามกลางสายตาที่ตกตะลึงคาดไม่ถึงของลี่เซียวและลี่หยวน

ตอนนี้ทั้งลี่หยวนและลี่เซียว ถึงกับแข็งค้าง ด้วยความตกตะลึง ในใจของพวกมันปฏิเสธไม่ยอมรับเรื่องราวตรงหน้า

มันไม่สามารถทำใจเชื่อเรื่องที่พึ่งประสบได้

ลี่หยวนถึงกับต้องหยิกต้นขาตัวเองหนึ่งที เมื่อมันรู้สึกเจ็บมันก็ยอมรับความจริงว่าไม่ได้ฝันไป

มันหันไปยังผู้จัดการร้านโอสถ ก่อนที่จะกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่อยากจะเชื่อว่า "ผู้จัดการ เมื่อครูมัน ซื้อ เลือดหลิงซี่ ถึง 50,000 เหรียญเงินเลยเช่นนั้นหรือ?"

"ใช่แล้ว นายท่านผู้นั้น ได้ซื้อ เลือดหลิงซี่อายุ 50 ปี จากทางร้านเราเป็นจำนวน 5 ชั่ง "

ผู้จัดการพยักหน้าก่อนที่จะเอ่ยออกมา

ห้าชั่ง!

ลี่เซียวราวกับถูกอัสนีบาตยามแล้ง

ส่วนใบหน้าของลี่หยวนก็พลันบิดเบี้ยว

ไม่แปลกใจเลยทำไมหลิงเทียนถึงกล่าวว่าเขาเป็นคนขี้เหนียว ...

มันก็ถูกของเขา เพราะเลือดหลิงซี่เพียง 50 กรัมในสายตาของมันคงเล็กน้อยอย่างมาก อย่าว่าแต่ 50 กรัมเลย แม้จะเป็นเลือด หลิงซี่ 250 กรัม ที่เขาคิดจะซื้อ ราคาก็นับได้ว่าเป็นเพียง 1 ใน 10 ของราคาที่มันจ่ายออกอย่างสบายๆ เมื่อครู่เท่านั้น เพราะมันซื้อเลือดหลิงซี่ 5 ชั่งโดยที่สีหน้าไม่เปลี่ยนด้วยซ้ำ

หลังจากที่ใช้เหรียญเงิน 5,000 เหรียญ เพื่อซื้อ เลือดหลิงซี่ อายุ 50 ปี จำนวน 250 กรัม เสร็จสิ้นแล้ว ทั้งลี่หยวนและลี่เซียวก็ออกจากร้านโอสถไป

"ลี่เซียว เจ้ามั่นใจเหรอว่ามันเป็นคนจากตระกูลสาขาจริงๆ?"

ลี่หยวนถามออกมาด้วยน้ำเสียงต่ำและจริงจัง

เหรียญเงิน ถึง 50,000 เหรียญ!

แม้แต่บิดาของเขาก็นับว่าเป็นเรื่องยากที่จะหยิบจ่ายเงินจำนวนมหาศาลขนาดนี้

"พี่ลี่หยวน ข้ามั่นใจว่ามันย่อมเป็นคนจากตระกูลสาขา แต่ว่าข้าไม่เข้าใจเหตุใดมันจึงร่ำรวยพึงเพียงนี้... เหตุใดพวกเราจึงไม่ไปหอทะเบียนแล้วสืบค้นข้อมูลของพวกมันด้วยกันล่ะ?"

ลี่เซียวเองก็ไม่อยากจะเชื่อเรื่องนี้

"ใช่แล้ว! พวกเราไปหาข้อมูลของพวกมันกัน หากพบว่ามันเป็นคนจากตระกูลสาขาจริง เช่นนั้นข้าจะแย่งชิงทุกสิ่งมาจากมัน ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สมบัติ หรือสตรี!"

ลี่หยวนพยักหน้า ตอนนี้ในแววตาของมันเต็มไปด้วยความโลภ

จวบจนกระทั่งทุกวันนี้มันยังไม่ลืมความรู้สึกตกหลุมรักยามได้เจอสตรีที่งดงามคนนั้น ...

แต่ทว่าความรู้สึกครั้งนี้กลับรุนแรงกว่ายามที่มันเจอลี่ฉีฉี ครั้งแรกเสียอีก!

น่าเสียดายที่ลี่ฉีฉีนั้น แข็งแกร่งและมีอำนาจมากกว่ามัน

เมื่อพยายามติดตามนางอยู่ระยะเวลาหนึ่ง ทว่าในสายตาของนางนั้น ไม่เคยเหลียวแลมาที่มันแม้แต่น้อย มันเลยได้แต่ตัดใจ

แต่เด็กสาวที่มันชื่นชอบในครานี้ มันคิดว่าเพียงกำจัดต้วนหลิงเทียนออกไปให้พ้นทางได้สำเร็จคงไม่มีปัญหาอะไร

นอกจากนี้มันอาจยังได้รับทรัพย์สมบัติจำนวนมากจากต้วนหลิงเทียนอีกด้วย

ด้วยความมั่งคั่งของต้วนหลิงเทียนอาจทำให้มันได้รับโอกาสที่ยิ่งใหญ่ จนสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งได้อย่างรวดเร็ว เมื่อการประลองของตระกูลครั้งหน้ามาถึง มันอาจจะโดดเด่นขึ้นมาเป็นที่ยอมรับนับถือในตระกูล ก็เป็นได้

ภายในที่พักของตระกูลลี่

ต้วนหลิงเทียนรีบเริ่มงานทันทีที่เขากลับมา

นอกจากผสมโอสถน้ำบ่มเพาะร่างกาย 7 กระบวนแล้ว เขาต้อง ผสมโอสถน้ำอีกชนิดด้วย

เรียกว่า โอสถน้ำ โลหิตหลอมกายา

โอสถน้ำโลหิตหลอมกายา สามารถให้ผลในการบ่มเพาะร่างกายเมื่อฝึกวิชาที่เน้นด้านการป้องกันถึง 2 เท่า ถูกค้นพบโดยจักรพรรดิกลับชาติมาเกิด

ความคุ้มค้านั้นมีมากกว่าการใช้ โลหิตหลิงซี่อย่างเดียวค่อนข้างมาก เพราะคุณสมบัติของมันนั้น เมื่อนำไปเป็นตัวเสริมเพื่อเร่งปฏิกิริยา จะมีคุณค่ามากกว่าใช้มันเป็นตัวยาหลักอย่างเดียวมากโข!

โอสถน้ำโลหิตหลอมกายา สร้างได้โดยการใช้ โลหิตหลิงซี่ อายุ 50 ปีจำนวน 50 กรัม และวัตถุดิบอื่นๆอีก 2 ชนิด

ซึ่งนั่นจะทำให้มันมีผลลัพธ์ เท่ากันกับ การใช้ โลหิตหลิงซี่อายุ 50 ปี จำนวนถึง 250 กรัม เรียกได้ว่า ประหยัดมากกว่าเดิม ถึง 5 เท่า และราคาต่างกันมหาศาล

อีกทั้งมันยังดูดซับได้ง่ายดายกว่าอีกด้วย

"เค่อเอ๋อ หยิบหญ้าสงบวิญญาณ ให้ข้า 200 กรัม, ใบหม่อนเหลืองอำพัน 190 กรัม , เลือดหลิงซี่ 50 กรัม แล้วก็น้ำสะอาด 100 กรัม " หลิงเทียนเอ่ยปากสั่งการเค่อเอ๋อ

เขาไม่จำเป็นต้องทำทุกอย่างด้วยตนเอง เพราะมีเด็กสาวคอยให้ความช่วยเหลือ

โอสถน้ำโลหิตหลอมกายา ชุดแรกได้ถูกสร้างขึ้นด้วยความรวดเร็ว

"เค่อเอ๋อเนื่องจากวิชาเทพกระบี่เหมันต์ นั้นมีแต่กระบวนท่าจู่โจม ... ตั้งแต่วันนี้ข้าจะมอบวิชาท่าร่างและวิชาป้องกันตัวให้แก่เจ้า"

วิชายุทธ์ที่หลิงเทียนกำลังถ่ายทอดให้เค่อเอ๋อยามนี้นั้น มีระดับห้วงมหรรณพขั้นสูง

วิชายุทธ์เหล่านี้เป็นวิชาที่เหมาะสมที่สุด สำหรับเค่อเอ๋อ นี่จะทำให้นางสามารถก้าวหน้าในเชิงกระบี่อย่างรวดเร็วและ ไม่ออกนอกลู่นอกทางจาก วิชาบ่มเพาะ เทพกระบี่เหมันต์ ที่มันตั้งใจให้นางฝึกฝน

ธารารินไหล เป็นวิชาท่าร่าง ระดับ ห้วงมหรรณพขั้นสูง

เมื่อฝึกฝนจนเชี่ยวชาญ ทุกย่างก้าวของนางจะแช่มช้อยงดงามอ่อนไหวต่อเนื่องราวกับสายน้ำ เมื่อใช้ออกถึงขีดสุดจะทิ้งร่างเงาลวงตาเอาไว้ ...

นับว่าเป็นวิชาที่เหมาะสมแก่สตรีเป็นอย่างมาก

สี่ตำลึงปาดพันชั่ง เป็นวิชาป้องกัน ระดับ ห้วงมหรรณพขั้นสูง

ตรงกันข้ามกับวิชาป้องกันทั่วๆไป ที่ต้องใช้ความหนักแน่นและแข็งแกร่งของร่างกายเพื่อป้องกันความเสียหาย สำหรับวิชานี้จะเป็นการหลีกเลี่ยงแรงปะทะของคู่ต่อสู้ หรือ ใช้อ่อนสยบแข็ง อาศัยหลักการถ่ายเทแรงของศัตรูให้พ้นวิถีจู่โจมของมัน การจะใช้วิชาเช่นนี้ได้ผู้ฝึกฝนต้องมีความยืดหยุ่นของร่างกายสูงและมีความสามารถในการควบคุมพลังที่ละเอียดอ่อน ทั้งยังต้องสามารถผ่อนคลายพลังได้อย่างคล่องแคล่ว

ส่วนใหญ่วิชาป้องกันทั้งหลาย มักจะเน้นเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแกร่งถึงขีดสุด นั่นย่อมทำให้มีกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ หรือเนื้อตัวแข็งกร้าวราวกับเหล็ก ซึ่งไม่ได้เหมาะสมกับสตรีแม้แต่น้อย

อีกทั้งหลิงเทียนไม่ต้องการให้เค่อเอ๋อที่งดงามของมันกลายเป็นสตรีมีกล้ามอย่างแน่นอน

วิชาป้องกัน สี่ตำลึงปาดพันชั่ง จึงเหมาะสมกับนางอย่างมาก

"เค่อเอ๋อ ต่อไปนี้นอกจากจะบ่มเพาะ เทพกระบี่เหมันต์แล้ว เจ้าต้องสละเวลาไปฝึกฝนวิชาท่าร่างธารารินไหล อีกทั้งเจ้าต้อง เผื่อเวลาในการฝึกฝนวิชาป้องกัน สี่ตำลึงปาดพันชั่ง ควบคู่ไปกับการดูดซับ โอสถน้ำโลหิตหลอมกายทุกๆวัน เข้าใจหรือไม่ "

หลิงเทียนมองไปที่เด็กสาวอย่างอ่อนโยน

มีแต่หลิงเทียนเท่านั้นที่มีความสามารถเช่นนี้

แม้กระทั่งตระกูลลี่ตระกูลหลักแห่งนี้ ยังไม่มีผู้ปกครองคนใด สามารถให้บุตรหลานฝึกฝนบ่มเพาะโดยใช้ โลหิต หลิงซี่ ได้ทุกวัน

คนส่วนใหญ่มักใช้ โลหิต หลิงซี่ ในช่วงที่จะตัดผ่านไปยังขั้นตอนต่อไปเท่านั้น

ยกตัวอย่างเช่นลี่หยวน

"เข้าใจเจ้าค่ะนายน้อย"

เด็กสาวพยักหน้ารับคำอย่างว่าง่าย นางสามารถจดจำทั้งสองวิชาที่หลิงเทียนถ่ายทอดได้แล้ว นางจึงรีบกลับไปลองฝึกฝน

เมื่อเค่อเอ๋อกลับเข้าห้องของนางไป หลิงเทียนยืนคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะไปหามารดาของเขาที่ห้อง

เขาคิดที่จะให้มารดาของเขาฝึกฝน วิชา 2 วิชาที่เขาเลือกมา

"ท่านแม่ ... หากข้าตัดผ่านไปยังระดับก่อกำเนิดแล้วข้าจะทำการหลอมสร้างโอสถฟื้นกำเนิด เมื่อถึงยามนั้นข้าอยากให้ท่านแม่สลายพลังงานต้นกำเนิดทิ้งไปทั้งหมด เพราะข้าจะมอบวิชาระดับสูง ที่คล้ายๆกับ เทพกระบี่เหมันต์ ของเค่อเอ๋อให้ท่านได้ฝึกฝน เมื่อท่านเริ่มฝึกวิชาที่ข้าให้ พร้อมกับใช้โอสถฟื้นกำเนิด ที่ข้าหลอมสร้าง ไม่นานพลังงานต้นกำเนิดของท่านจะกลับคืนมาเท่าเดิม หรือแม้กระทั่งสูงกว่าเดิม ในระยะเวลาสั้นๆ อีกทั้งความแข็งแกร่งของท่านจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก” ต้วนหลิงเทียนค่อยๆกล่าวออกมา

เขาอยากมอบวิชาบ่มเพาะดับสูง ให้กับมารดาเขามาตั้งนานแล้ว

แต่น่าเสียดายที่แม่ของเขาพัฒนาพลังงานต้นกำเนิดไปแล้ว ดังนั้นหากจะเริ่มฝึกใหม่ให้มันมีคุณภาพระดับสูงขึ้น จำเป็นต้องสลายพลังงานต้นกำเนิด ที่ฝึกฝนมาออกไปเสียก่อน

การสลายพลังงานต้นกำเนิดทิ้งนั้นนับว่าเป็นเรื่องร้ายแรงมาก แต่หากมีโอสถฟื้นกำเนิด นั่นจะกลับกลายเป็นอีกเรื่องหนึ่งทันที

"ไม่มีปัญหา แม่จะฟังเจ้า" ลี่หลัวพยักหน้าอย่างภูมิใจ

ตอนนี้บุตรชายตัวน้อยของนางเติบโตแล้ว สามารถเป็นที่พึ่งของครอบครัวได้

"พี่เฟิงคะ ท่านเห็นหรือไม่ บุตรชายตัวน้อยของพวกเราเติบใหญ่จนสามารถพึ่งพาได้ถึงเพียงนี้แล้ว.."

สายตาของลี่หลัวเริ่มเหม่อลอย พร้อมกับแสดงสีหน้ามีความสุขออกมา

หลิงเทียนถอนหายใจออกมาเล็กน้อย

ทุกครั้งที่เขาเห็นมารดาเป็นแบบนี้ ย่อมหมายความว่ามารดากำลังคิดถึงบิดาของเขา เขาไม่อยากรบกวนนาง เลยออกจากห้องของมารดามาเงียบๆ

หลังจากที่กลับมาถึงห้องพัก หลิงเทียนก็ค้นหาความทรงจำของจักรพรรดิกลับชาติมาเกิดเพื่อค้นหาวิชาป้องกันที่ดีที่สุดสำหรับเขาในตอนนี้ ...

สำหรับวิชาโจมตีนั้น อาศัยหมัดทะลวง และวิชาวาดกระบี่ ก็เพียงพอแล้วในการจัดการคู่ต่อสู้ในระดับนี้ ตอนนี้สิ่งที่เขาขาดคือวิชาป้องกันเท่านั้น

เมื่อเขาถึงระดับก่อกำเนิด วิชาโจมตีที่เขาจะฝึกฝนคือ วิชามังกรทะลวง!

สำหรับวิชาท่าร่าง เขามี วิญญาณอสรพิษเคลื่อนกาย

เฉพาะวิชาป้องกันเท่านั้น ที่ตอนนี้เขายังไม่ได้ฝึกฝน

สำหรับวิชาป้องกันหลักของ วิชาบ่มเพาะ 9 มังกรจักรพรรดิสงคราม วิชาย่อยที่ต้องฝึกฝนก่อนถึงขั้น มังกรคงกระพันนั้นคือวิชา มังกรครองภพ วิชานี้ต้องมีการเพาะปลูกอย่างน้อยถึงระดับกำเนิดแก่นแท้เสียก่อน

แต่กว่าจะถึงระดับนั้นมันยังอีกไกล ซึ่งหลิงเทียนไม่คิดจะรอนานขนาดนั้น!

"วิชาปราการภูผา ...ไม่เหมาะสม มันย้อนแย้งกับอสรพิษเคลื่อนกาย"

"กายาเหล็กไหล ... เฮ่อ ยืนนิ่งๆก็ตายกันพอดีสิ!"

...

ต้วนหลิงเทียนทำการค้นหา วิชาป้องกัน ระดับห้วงมหรรณพขั้นสูง ในความทรงจำของจักรพรรดิกลับชาติมาเกิดอย่างบ้าคลั่ง

ตอนนี้เขาเริ่มรู้สึกอ่อนเพลียและสูญเสียพลังงานทางจิตไปเยอะมาก

การอ่านความทรงจำของจักรพรรดิกลับชาติมาเกิดนั้นกินพลังงานทางจิตใจสูงมาก เขาไม่สามารถทำมันได้ทั้งวัน แต่ในที่สุด...

"อันนี้ล่ะ!"

ในขณะที่หลิงเทียนกำลังรู้สึกหงุดหงิดนั้น เขาก็บังเอิญเหลือบไปเห็นวิชาหนึ่ง ที่เข้าตาและเป็นอย่างที่เขาต้องการมากที่สุด

พลังเคลื่อนย้ายจักรวาล เป็นการอาศัยแรงของคู่ต่อสู้สนองคืนตอบโต้อย่างทวีคูณ!

รูปแบบของมันคล้ายคลึงกับ สี่ตำลึงปาดพันชั่ง ทว่าเหนือล้ำยิ่งกว่า!

ข้อจำกัดของมันคือ ผู้ที่จะฝึกฝนวิชา พลังเคลื่อนย้ายจักรวาลได้สำเร็จ จำเป็นต้องมีร่างกายที่ยืดหยุ่นสูงถึงขีดสุด จนราวกับว่าไร้ซึ่งกระดูก เพื่อให้แรงจู่โจมของศัตรูสามารถไหลผ่านร่างกายโดยไม่ติดขัดหรือได้รับผลกระทบใดๆ และหยิบยืมแรงนั้นเพื่อจู่โจมกลับ พร้อมทั้งผสานพลังจู่โจมของตนเองเสริมเข้าไป ทำให้การตอบโต้สวนกลับนั้นทรงพลังมากกว่าการโจมตีของศัตรูเสมอ

และแน่นอน หลิงเทียนที่บ่มเพาะร่างกายตามเคล็ดวิชา 9 มังกรจักรพรรดิสงคราม รูปแบบอสรพิษนั้น เหมาะสมที่สุด ที่จะฝึกฝนวิชานี้ และเขาสามารถดึงขีดความสามารถของวิชาได้ออกมาถึงขีดสุดอีกด้วย!

หลังจากที่เลือกวิชาป้องกันได้แล้ว หลิงเทียนก็เริ่มทำการฝึกฝนทันที

ก่อนอื่นเขาใส่โอสถน้ำโลหิตหลอมกายลงในถังน้ำ ก่อนที่จะลงไปแช่กายอยู่ในนั้น

ความหนาวเย็นของโอสถน้ำโลหิตหลอมกาย แทรกผ่านไปทุกอณูของกระดูกเขา สีหน้าของหลิงเทียนเปลี่ยนเป็นจริงจังมากขึ้น เมื่อสงบอารมณ์ลงเล็กน้อย เขาจึงเริ่มเดินพลัง ตามขั้นตอนการฝึกฝนวิชา พลังเคลื่อนย้ายจักรวาลทันที

พลังเคลื่อนย้ายจักรวาลนั้น เน้นหนักไปที่กายเนื้อของผู้ฝึกฝนวิชา เมื่อผู้ฝึกฝนเริ่มฝึกวิชานี้ จุดมุ่งหมายของมันคือกายเนื้อสามารถป้องกันและถ่ายเทพลังงานได้

เมื่อกายเนื้อได้รับการฝึกฝนจนถึงระดับหนึ่งมันจะสร้างพลังงานป้องกันเคลือบไว้ที่พื้นผิวกาย แต่มันไม่ได้เปลี่ยนผิวกายให้แข็งแกร่งหรือแข็งกระด้างอะไรทำนองนั้นโดยตรงมันแค่สร้างชั้นพลังงานคลุมผิวเอาไว้เฉยๆ ความแข็งแกร่งของมันจะขึ้นอยู่กับพลังงานของผู้ฝึกฝนที่ถ่ายเทเอาไว้ นั่นทำให้ร่างกายไม่สูญเสียความยืดหยุ่นแม้แต่น้อย..และส่วนมากผู้ยุทธ์ก็มีพลังงานไหลเวียนแทบจะตลอดเวลาอยู่แล้ว ส่วนคุณสมบัติของชั้นพลังงานคลุมกายนี้ จะสามารถส่งผ่านคลื่นพลังหรือแรงได้อย่างลื่นไหล นั่นทำให้ผู้ฝึกวิชานี้จนถึงขั้นสูงสุด สามารถรับ พลังงานหรือแรงทั้งหมดที่ศัตรูจู่โจมมา แล้วคืนสนองมันกลับไปได้อย่างง่ายดาย

เมื่อชั้นพลังงานคลุมกายเริ่มปรากฏขึ้นตามผิวกาย พลังป้องกันของร่างกายผู้ฝึกฝนวิชาก็จะเริ่มแข็งแกร่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ด้วยความช่วยเหลือของโอสถน้ำโลหิตหลอมกาย การฝึกวิชาพลังเคลื่อนย้ายจักรวาล เกือบจะมีความสำเร็จในขั้นตอนพื้นฐาน แต่ยามค่ำคืนก็มาเยือนเสียก่อน

การเรียนรู้แต่ละวิชา จะมีความสำเร็จทั้งหมด 4 ขั้นตอน

ขั้นตอนพื้นฐาน ขั้นตอนเริ่มต้น ขั้นตอนผู้เชี่ยวชาญ ขั้นตอนแก่นแท้

ความแต่งต่างของแต่ละขั้นตอนนั้นค่อนข้างใหญ่หลวงมาก

ยกตัวอย่างวิชา หมัดทะลวง ที่เป็นสวนหนึ่งของเพลงหมัดนักฆ่าเฉพาะตัวของหลิงเทียนนั้น มีความสำเร็จในขั้นตอนแก่นแท้

แต่เนื่องจากลี่เซียวไม่รู้ว่าเพลงหมัดที่หลิงเทียนใช้นั้น มันคนละวิชากับ หมัดพยัคฆ์คำรน ที่เขารู้จัก เขาเลยเข้าใจผิดไปว่า หลิงเทียนยังมีความสำเร็จอยู่ในระดับ ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพราะว่า วิชาระดับห้วงมหรรณพขั้นกลางนั้น เหนือกว่าวิชาของหลิงเทียนในโลกเก่าอยู่ครึ่งส่วน

ซึ่งจุดนี้เองหลิงเทียนก็ยอมรับ เพราะว่า แง่มุมและองศาในการออกหมัดของ หมัดพยัคฆ์คำรนนั้นเหนือกว่าหมัดทะลวงของเขาเล็กน้อย...แต่ทว่าหลิงเทียนสามารถใช้หมัดทะลวงได้อย่างคล่องแคล่วและหลากหลาย อีกทั้งยังสามารถใช้ในรูปแบบที่คาดไม่ถึง เพราะเขาสำเร็จมันถึงแก่นแท้ จากการเป็นผู้คิดค้นวิชานี้

"ภายในเดือนนี้ วิชาพลังเคลื่อนย้ายจักรวาลคงสำเร็จขั้นตอนพื้นฐานอย่างแน่นอน"

มุมปากของหลิงเทียนแสยะยิ้มออกมาด้วยความมั่นใจ

และแน่นอนถึงแม้หลิงเทียนจะฝึกฝนวิชาพลังเคลื่อนย้ายจักรวาล แต่เขาก็ไม่ได้ลืมที่จะฝึกฝนวิชาวิญญาณอสรพิษเคลื่อนกาย ...

รีวิวผู้อ่าน

runjung12
1645 วันที่แล้ว

ยังไมม่ทันไรวันๆยิ่งห่วงแต่สาว แล้วก็พล่ามมากมาย เสียดายบอกว่ามีความรู้โลกเก่ากะจักรพรรดิสงคราม ไม่ได้เรื่อง แทนที่จะเอาเวลาไปฝึก ไม่งั้นก้อจับนางเอกกดเลย คลั่งไคล้ขนาดนั้น


  แสดงความคิดเห็น