px

เรื่อง : War Sovereign Soaring The Heavens
บทที่ 43 หลิงฉี


ผู้คนทั้งหมดสัมผัสได้ถึงกระแสลมที่เกิดจากการเคลื่อนไหวอันรวดเร็ว

ลี่เซียวตอบรับเสียงเรียกของลี่หยวน ก่อนที่เขาจะพุ่งเข้าไปร่วมมือจู่โจมหลิงเทียนด้วยกันทันที

ด้วยการผสานจากลี่หยวนและลี่เซียวทำให้ หลิงเทียนไม่สามารถหลบพ้นได้... หรือเขาไม่คิดจะหลบกันแน่ ...

หมัดพยัคฆ์คำรน!

ลี่เซียวดุดันราวกับพญาเสือโคร่ง มันส่งหมัดพยัคฆ์คำรนซัดใส่หลิงเทียนด้วยความอำมหิต

แต่ทว่าเรื่องไม่คาดฝันพลันบังเกิดขึ้น เมื่อหลิงเทียนเพียงแสยะยิ้ม ยืนรับหมัดโดยไม่คิดจะหลบแม้แต่นิด

พลังเคลื่อนย้ายจักรวาล!

ร่างทั้งร่างของหลิงเทียนเผยประกายพลังงานต้นกำเนิดบางๆครอบคลุมไปทั่วทั้งตัว ก่อนจะยืนรับหมัดพยัคฆ์คำรนอย่างไม่เกรงกลัว

วู้มมมมม!!

พลังหมัดที่รุนแรงของลี่เซียวกลับถูกหลิงเทียนรับเอาไว้ได้อย่างหมดจด พลังทำลายและความรุนแรงจากการปะทะ ของพลันอันตรธานหายไปอย่างน่าฉงน

ทั้งลานกลับเงียบไร้ซึ่งสำเนียงใด

ในขณะที่ทุกคนคิดว่าหลิงเทียนจะต้องถูกซัดจนกระเด็นหรือบาดเจ็บ แต่ผลที่เกิดขึ้นมันเหนือเกินความคาดหมายไปมาก

ทันใดนั้นพวกเขาเห็นลี่เซียวที่กำลังตะลึงอยู่ๆ สีหน้าของมันพลันบิดเบี้ยวในพริบตา... ก่อนหมัดที่มันซัดใส่หลิงเทียนจะเริ่มสั่นและมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้น ...

“อ๊าคคคคค!”

เสียงร้องโหยหวนของลี่เซียวดังขึ้นเขย่าขวัญของทุกคน ก่อนที่ร่างมันจะโดนแรงระเบิดลึกลับส่งร่างมันลอยกระเด็นถอยออกไป

ลี่เซียวที่นอนบาดเจ็บบนพื้นเงยหน้าขึ้นมามองหลิงเทียนด้วยสายตาหวาดกลัว

เขาไม่คาดฝันไว้เลยว่า หมัดพยัคฆ์คำรน ที่เขาซัดใส่หลิงเทียนไป จะถูกสะท้อนมาจู่โจมเขาเช่นนี้ได้ ความรู้สึกของมันตอนนี้รู้สึกเหมือนจู่โจมใส่กระจก...กระทำเช่นไรย่อมได้ผลลัพธ์เช่นนั้น

ใบหน้าของมันตอนนี้ซีดเผือด ไร้สีเลือด!

หากเมื่อครู่มันไม่เอะใจหมุนวนพลังงานต้นกำเนิดเพื่อป้องกันแขนของมันไว้ล่ะก็ ป่านนี้แขนของมันระเบิดขาดกระเด็น กลายเป็นคนพิการไปแล้ว

เมื่อเห็นภาพตรงหน้าทุกคนได้แต่ตกตะลึง

หมัดพยัคฆ์คำรนของลี่เซียวมีระดับห้วงมหรรณพขั้นกลาง และที่สำคัญมันมีความสำเร็จอยู่ในขั้นตอนเริ่มต้นแล้ว

แต่หลิงเทียนกลับตั้งรับหมัดของลี่เซียวตรงๆ ไม่ได้หลบเลี่ยงแม้แต่น้อย นั่นหมายความว่า วิชาป้องกันลึกลับของหลิงเทียน ย่อมไม่ได้ด้อยไปกว่าวิชาจู่โจมของลี่เซียวและระฆังทองคลุมกายของลี่หยวนแน่นอน ระดับวิชาของมันย่อมไม่ได้อ่อนด้อยกว่าห้วงหรรณพขั้นกลางอย่างแน่นอน

เพราะมีเพียงวิชาห้วงมหรรณพขั้นกลางที่มีความสำเร็จขั้นตอนเริ่มต้นขึ้นไปเท่านั้น ถึงจะป้องกันวิชาจู่โจมระดับห้วงมหรรณพขั้นกลางได้อย่างง่ายดายเช่นนี้

กล่าวได้ว่า หากวิชาป้องกันของหลิงเทียน ไม่ใช่ วิชาระดับห้วงมหรรณพขั้นกลางที่มีความสำเร็จในขั้นตอนเริ่มต้น ก็ต้องเป็นวิชาระดับห้วงมหรรณพขั้นต่ำแต่มีความสำเร็จอยู่ในขั้นผู้เชี่ยวชาญ เป็นแน่

...ทว่าพวกมันไม่มีใครเอะใจสักนิดเลยว่า วิชาป้องกันของหลิงเทียนนั้น กลับอยู่ในระดับห้วงมหรรณพขั้นสูง!!

นี่เป็นเพราะว่า ถึงแม้จะเป็นเมืองใหญ่เช่นเมืองออโรร่า แต่วิชาระดับห้วงมหรรณพขั้นสูง ก็ยังนับว่าเป็นวิชาที่พบได้ยากเย็นอย่างยิ่ง

"พี่ลี่หยวน ข้า ... "

ลี่เซียวที่เคยสงสัยว่าเหตุใดลี่หยวนถึงลำบากยามต่อสู้กับหลิงเทียน ตอนนี้เขารู้แล้วว่าลี่หยวนต้องเจอกับอะไร วิชาป้องกันหลิงเทียนมันบัดซบมาก

เขามั่นใจได้ทันที ว่าต่อให้เขาพยายามสุดชีวิต การโจมตีของเขาก็ไม่มีปัญญาทำอะไร หลิงเทียนได้

“ฮึ่ม!”

ท่าทางของลี่หยวนนั่นดูน่าหวาดกลัวอย่างมาก แววตาของมันจ้องไปยังหลิงเทียนด้วยความอำมหิต ราวกับอยากจะฉีกเนื้อของหลิงเทียนมากลืนกิน...แต่ทว่าน่าเสียดาย ที่โลกนี้อาศัยเพียงสายตาอย่างเดียวฆ่าคนไม่ได้

และสุดท้ายลี่หยวนกับลี่เซียวก็เลือกที่จะหลบหนีไปอย่างไม่ยินยอม ...เมื่อทั้งคู่จากไป คนทั้งหมดหันมาจ้องหลิงเทียนโดยพร้อมเพรียงกัน

สายตาของพวกเขาทั้งหมดเต็มไปด้วยความนับถือ

เขาอายุแค่เพียง 16 ปีเท่านั้น กลับบรรลุวิชาระดับห้วงมหรรณพขั้นกลางถึงขั้นผู้เชี่ยวชาญ อีกทั้งยังมีวิชากระบี่ที่สำเร็จไปถึงแก่นแท้ ยิ่งเรื่องที่น่าประหลาดที่ทุกคนต่างได้ประจักษ์วันนี้อีก

วิชาป้องกันของหลิงเทียนที่ทุกคนคาดเดากันไปต่างๆนาๆว่าจะเป็นระดับห้วงมหรรณพขั้นกลางระดับเริ่มต้น หรือระดับห้วงมหรรณพขั้นต่ำระดับความสำเร็จขั้นตอนผู้เชี่ยวชาญนั้น พวกมันยังไม่สามารถสรุปได้

และวิชาท่าร่างของหลิงเทียนนั้น พวกมันก็คาดเดาไปต่างๆนาๆเช่นกัน เพราะพวกมันคงไม่รู้หรอกว่าโลกใบนี้มีอะไรที่เหนือความคาดหมายของพวกมันอยู่อีกมาก

หากนับในหมู่สาวกสายนอกความสำเร็จของหลิงเทียนนับว่าไม่ด้อยกว่าผู้แข็งแกร่งทั้ง 3 คนแล้ว

ไม่สิ ลี่ฉีฉี นั้นด้อยกว่าหลิงเทียนอย่างแน่นอน

"ด้วยความสามารถของหลิงเทียนยามนี้ เกรงว่า ลี่ฉีฉี และ ลี่หยวนคงพ่ายแพ้หลิงเทียนอย่างแน่นอนแล้ว"

"ในหมู่สาวกสายนอกข้าว่าคงเหลือเพียง ลี่ควง ผู้เดียวที่พอจะเอาชนะหลิงเทียนได้"

"ข้ามั่นใจว่าหลิงเทียนย่อมแข็งแกร่งกว่าลี่ควง พวกเจ้าทุกคนอย่าได้ลืมกันไปเชียวล่ะว่า หลิงเทียนไม่ได้ชำนาญเพลงหมัดพยัคฆ์คำรนมากที่สุด พวกเจ้าลืมความสามารถในเชิงกระบี่ที่ราวกับเทพเซียนของมันไปแล้วหรือ! "

"ถูกแล้ว ข้ากลับลืมนึกไปจริงๆ หากเขาใช้กระบี่พร้อมกับท่าร่างที่คล่องแคล่วนั้น ลี่ควงนับว่าต้องเจอศึกหนักแน่แท้"

......

ตอนนี้บทสนทนาล้วนแต่เป็นเรื่องกล่าวยกย่องหลิงเทียน

หลิงเทียนที่ได้รับฟังคำชมกล่าวยกย่องมัน มันทำเพียงยิ้มรับหน้านิ่งเท่านั้น

เหตุการณ์แบบนี้ชีวิตที่แล้วมันเจอมาจนชินแล้ว เพราะฉะนั้นเรื่องแค่นี้สำหรับมันเล็กน้อยมาก ...

และสำหรับลี่ควงที่พวกเขาพูดถึงนั้น อันที่จริงหลิงเทียนก็ได้ยินชื่อมันมาอยู่บ้าง

มันเป็นสาวกชั้นนอกที่อยู่ในระดับแนวหน้าและมีเสียงร่ำลือถึงความแข็งแกร่งอย่างหนาหู

แต่น่าเสียดายที่หลิงเทียนไม่มีโอกาสได้เจอมัน

เขาได้ยินมาว่าลี่ควงออกเดินทางไปป่าหมอกเพื่อสั่งสมประสบการณ์ และมันคิดจะกลับมาเพื่อเข้าร่วมประลองเท่านั้น

ในขณะที่หลิงเทียนกำลังเดินทางกลับบ้านพัก ก็มีเสียงตะโกนเรียกชื่อเขาด้วยความกังวลใจ "ต้วนหลิงเทียน! ต้วนหลิงเทียน! "

"เจ้ามีเรื่องสำคัญเช่นนั้นหรือ?"

หลิงเทียนมองไปยังเยาวชนที่กำลังเหนื่อยหอบ

"ต้วนหลิงเทียน ศิษย์พี่ลี่ฉีฉีได้ลงมือสั่งสอนคนของตระกูลหลิง นั่นทำให้พวกมันระดมกำลังมากลุ้มรุมศิษย์พี่ลี่ฉีฉีเอาไว้ ศิษย์พี่ให้ข้ารีบมาส่งข่าวแก่ท่าน " เยาวชนคนนั้นค่อยๆกล่าวออกมา

"เจ้าว่าไงนะ?!"

สีหน้าหลิงเทียนเปลี่ยนเป็นกังวลขึ้นมา หนึ่งเดียวที่เขาห่วงคือความปลอดภัยของเค่อเอ๋อ

"รีบนำทางข้าไป!"

หลิงเทียนจ้องไปยังเด็กส่งข่าวด้วยสายตาจริงจัง

เด็กหนุ่มรู้สึกหนาวเหน็บไปทั่วร่างกาย มันไม่มีความกล้าพอจะสบตาหลิงเทียน มันรีบวิ่งไปนำทางทันที

เหล่าสาวกรอบๆที่ได้ฟังเรื่องราว หันมองหน้ากันก่อนที่จะติดตามหลิงเทียนออกไป

"ไอพวกสาวกตระกูลหลิง หากพวกมันกล้าแตะต้องศิษย์พี่ลี่ฉีฉี พวกมันต้องตาย! "

"รีบไป ข้าจะไปสั่งสอนบทเรียนให้พวกมัน"

"พวกมันคิดว่าตนเองยิ่งใหญ่มาจากไหนกัน กล้ามีเรื่องใกล้ๆเขตตระกูลลี่"

......

สาวกสายนอกที่ติดตามหลิงเทียนไปล้วนแล้วแต่เต็มไปด้วยโทสะ

"รีบเข้า ฮึ่ม!"

ต้วนหลิงเทียนขมวดคิ้วเล็กน้องก่อนที่จะเห็นสภาพคนนำทางที่กำลังหอบแฮ่กๆ เขาทนไม่ไหวจึงต้องหิ้วมันขึ้นมา ก่อนที่จะพุ่งตัวออกไปด้วยความเร็วสูง ก่อนที่จะกล่าวว่า

"ชี้ทาง!"

เหล่าสาวกสายนอกได้ยินเพียงเสียงดังแว่วๆของหลิงเทียนเท่านั้นเพราะเขาพุ่งไปเร็วมาก

"เร็วเข้า! พวกเราต้องติดตามเขาไปอย่าให้คลาดกัน "

กลุ่มสาวกของตระกูลลี่ต่างเร่งใช้ออกด้วยวิชาท่าร่าง พยายามเคลื่อนที่ตามหลิงเทียนไปอย่างสุดกำลัง

น่าเสียดายที่พวกเขาทำได้แค่ชำเลืองมองเศษฝุ่นที่หลิงเทียนทิ้งไว้เท่านั้น

ที่ยังเห็นฝุ่นนี่เป็นเพราะหลิงเทียนได้อุ้มเด็กน้อยคนหนึ่งไปด้วย!!

ไม่อย่างนั้นคงเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะตามความเร็วของหลิงเทียนได้ทัน

หลังจากออกขากเขตของตระกูลลี่ หลิงเทียนก็เห็นกลุ่มคนกำลังปิดล้อมร่าง 2 ร่างที่อยู่ตรงกลาง

เมื่อเขาเห็นว่าเค่อเอ๋อยังปลอดภัยอยู่ หลิงเทียนก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

"ลี่ฉีฉี เห็นแก่ความงดงามของเจ้าและเด็กสาวข้างกาย วันนี้เพียงพวกเจ้าติดตามพวกข้าไปดื่มสุราชมจันทร์สักเล็กน้อย พวกเราจะไม่ติดใจเอาความเรื่องราวที่เกิดขึ้น พวกเจ้าเห็นว่าดีหรือไม่? "

เสียงเจ้าชู้ดังเข้าหูหลิงเทียน

ท่าทางของหลิงเทียนแปรเปลี่ยนไปทันที

ลี่ฉีฉีตะโกนออกมาว่า "หลิงเว่ย เจ้าอย่าได้ฝัน!"

"เฮ่อ เช่นนั้นพวกข้าคงต้องเสียดายอย่างมากเป็นแน่ ที่ต้องทำลายดอกไม้ที่สวยงามเช่นพวกเจ้า!"

เสียงเจ้าชู้ดังขึ้นอีกครั้งแตทว่าครานี้มันแฝงไว้ด้วยความอำมหิต

"ไสหัวออกไป!"

ต้วนหลิงเทียนคว้าไหล่ของเด็กหนุ่มตระกูลหลิงที่ขวางทางเอาไว้ ก่อนที่จะโยนมันให้พ้นทาง

"เด็กน้อย หาที่ตาย!"

ใบหน้าของสาวกตระกูลหลิงคนนั้นบิดเบี้ยวเพราะถูกจับโยนออกมา มันพุ่งไปซัดหมัดใส่หลิงเทียนทันที

ปัง!!

แต่ด้วยม่านคุ้มกันของพลังงานที่อยู่บริเวณผิวกายของหลิงเทียน ทำให้การโจมตีของมันไร้ผลใดๆ และพริบตาก่อนที่มันจะทันทำอะไร พลังหมัดของมันก็พุ่งย้อนกลับมาจู่โจมมันโดยพลัน

“อ๊าคคค!”

มันปลิวกระเด็นลอยไปด้านหลัง ก่อนที่จะดิ้นอยู่บนพื้นด้วยสภาพเวทนา

ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นไม่ได้เล็กน้อย มันสามารถเรียกความสนใจของทุกคนได้อย่างง่ายดาย

"นายน้อย!"

"ต้วนหลิงเทียน!"

เมื่อเค่อเอ๋อและ ลี่ฉีฉี ได้เห็นว่าหลิงเทียนเดินทางมาถึงแล้ว สีหน้าของพวกนางโล่งใจเป็นอย่างมาก ใบหน้ากังวลเมื่อก่อนหน้านี้กลับกลายเป็นใบหน้ายิ้มแย้มอย่างมีความสุข ราวกับนางในเรือนหอที่เฝ้ารอคอยบุรุษที่รักกลับมา

"เค่อเอ๋อ เจ้าไม่เป็นอะไรนะ?"

หลิงเทียนเดินไปตรวจสภาพเค่อเอ๋อด้วยที่ท่าอ่อนโยน แววตาของมันเต็มไปด้วยความห่วงใย

"นายน้อยข้าสบายดี"

เด็กสาว ส่ายหน้าเล็กๆ อย่างน่ารัก ก่อนที่จะกล่าวออกมา "พี่หญิงฉีฉี ดูแลข้าอย่างดี"

"ขอบใจเจ้ามาก"

ต้วนหลิงเทียนหันไปพยักหน้าให้กับ ลี่ฉีฉี ก่อนที่จะกล่าวออกมา

"เจ้าจะมาขอบคุณข้าทำไมกัน? เป็นข้าเองที่เอ่ยปากชวนนาง ซ้ำยังเป็นคนพานางมาเองอีกด้วย ข้าย่อมต้องรับผิดชอบนางอย่างดีที่สุดอยู่แล้ว "

ลี่ฉีฉีกล่าวออกมาพร้อมกับส่ายหน้าเบาๆ

นางถอนหายใจออกมาเล็กน้อย

"ในสายตาเขา นอกจากเค่อเอ๋อแล้ว ข้าไม่มีค่าอันใดต่อเขาเลยงั้นเหรอ?"

"เด็กน้อยเจ้ากล้าทำร้ายคนของตระกูลหลิงเช่นนั้นหรือ? วันนี้ข้าหลิงเว่ยจะสั่งสอนเจ้า! "

หลังจากที่กล่าวจบ ร่างเด็กหนุ่มผู้หนึ่งพลันพุ่งออกมา จู่โจมหลิงเทียนในทันทีโดยไม่คิดให้เวลาเขาตั้งตัว

ท่าทางของทุกคนที่อยู่รอบๆหลิงเทียนพลันตระหนก มันสายเกินไปที่จะลงมือช่วยเหลือ

แต่ทว่าหลิงเทียนกลับเดินเข้าไปหาอย่างไม่เกรงกลัว ซ้ำยังแอ่นหน้าอกนำเอาบริเวณส่วนหัวใจยื่นไปรับฝ่ามือของศัตรูเสียอย่างนั้น

พลังเคลื่อนย้ายจักรวาล!

วิชาป้องกัน

ปัง!!

ฝ่ามือของเด็กหนุ่มคนนั้นปะทะกลางอกของหลิงเทียนอย่างจัง

แต่ทว่าหลิงเทียนนั้นไม่ได้ขยับถอยแม้แต่นิ้วเดียว

“อ๊าค!”

เด็กหนุ่มคนนั้นร้องเสียงหลงออกมาก่อนที่จะทรุดลงไปดินบนพื้น ร่างกายของมันดูเหมือนจะได้รับบาดเจ็บภายใน ใช้เวลาอยู่ครู่หนึ่งกว่าที่มันจะลุกขึ้นมายืนได้อีกครั้ง

ความเจ็บปวดที่ปะทุขึ้นมาที่แขนของมันทำให้ทั้งร่างของมันเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ

มันหันไปมองหลิงเทียนด้วยสายตาหวาดกลัว

แปะๆๆๆ ...

ในขณะนั้นเอง เสียงปรบมือก็ดังขึ้นมาจากชายหนุ่มคนหนึ่งที่ท่าทางน่าจะเป็นผู้นำของกลุ่มคนตระกูลหลิง

"หากคาดเดาไม่ผิด วิชาป้องกันของเจ้าคงจะอยู่ในระดับห้วงมหรรณพขั้นสูงใช่หรือไม่?"

ชายหนุ่มที่สวมชุดสีเขียวจ้องไปยังหลิงเทียนด้วยแววตาล้ำลึก

ระดับห้วงมหรรณพขั้นสูง?

ไม่ว่าจะเป็นสาวกของตระกูลลี่ที่ตามมาทีหลัง หรือจะเป็นสาวกของตระกูลหลิงที่ยืนล้อมอยู่ ได้แต่แสดงสีหน้าโง่ งมออกมา

ถึงแม้ว่าทั้งสองตระกูลจะมีวิชาระดับห้วงมหรรณพขั้นสูงอยู่บ้าง แต่ทว่าพวกมันมักจะมอบให้แก่สาวกที่โดดเด่นหรือเป็นความหวังของตระกูลเท่านั้น

ทุกคนได้แต่มองไปยังต้วนหลิงเทียนด้วยความประหลาดใจ

"เค่อเอ๋อ เรากลับบ้านกันเถอะ"

ต้วนหลิงเทียนเดินไปความมือเค่อเอ๋อด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่มันจะนำนางเดินออกไป โดยที่ไม่มีใครกล้าขยับตัวมาขัดขวางมันสักคน

ฟุ่บ!

ทว่าเด็กหนุ่มที่สวมชุดเขียวพลันเคลื่อนไหวร่างวูบมาดั่งภูติพรายขวางทางหลิงเทียนเอาไว้

“หืม?”

ท่าทางของหลิงเทียนพลันแข็งขึ้นเล็กน้อย

"เจ้าทำร้ายคนตระกูลหลิงแล้วคิดจะจากไปง่ายๆเช่นนั้นหรือ"

ชายหนุ่มที่สวมชุดสีเขียวท่าทางดูจริงจังเล็กน้อย แต่อย่างไรก็ตามหลิงเทียนคร้านจะให้ความสนใจกับมัน

สายตาของหลิงเทียนพลันแปรเปลี่ยนเป็นดุดันก่อนที่จะกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบๆ “ไสหัวไป”

"เฮ่อหากคนตระกูลลี่อยากจากไปย่อมไม่มีปัญหา แต่เจ้าต้องประลองกับข้า... นี่เป็นเงื่อนไขเพียงข้อเดียว! ในอดีตคิดว่าเหล่าสาวกสายนอกของตระกูลลี่ จะมีเพียงลี่ควงที่คู่ควรให้ข้าลงมือ แต่วันนี้ข้าพบว่ายังมีเจ้าอีกคน"

ใบหน้าของเด็กหนุ่มชุดเขียวเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ ราวกับว่าเขาสามารถควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างเอาไว้ในกำมือได้

หยิ่งอะไรเช่นนี้

ตาของหลิงเทียนพลันเปลี่ยนเป็นเย็นชา ประกายตาของเขาวูบไหวขึ้นมาเล็กน้อย

"ต้วนหลิงเทียน เขาคือ หลิงฉี สาวกสายนอกระดับสูงสุด ซ้ำยังเป็นบุตรชายของประมุขตระกูลหลิงอีกด้วย" ลี่ฉีฉี กล่าวเตือนออกมา

สาวกที่แข็งแกร่งที่สุดในสายนอก?

บุตรชายของประมุขตระกูลหลิง?

ไม่ว่าจะเป็นสถานะไหน ล้วนทำให้เด็กหนุ่มชุดเขียวผู้นี้สามารถวางท่าและหยิ่งผยองเช่นนี้ได้

ตระกูลหลิงกับตระกูลลี่ก็มีสถานะเท่าเทียมกัน ทั้งสองตระกูลล้วนเป็นตระกูลแนวหน้าของเมืองออโรร่า

"เจ้าคิดเสร็จแล้วหรือไม่? ไม่ว่าผลการต่อสู้ของพวกเราจะเป็นเช่นไร ข้าสัญญาว่าตระกูลลี่จะได้รับการปล่อยตัวทุกคน "

หลิงฉี กล่าวออกมาพร้อมรอยยิ้ม ราวกับเขาไม่ได้สนใจเรื่องที่หลิงเทียนพึ่งทำร้ายคนของเขาเลยแม้แต่นิด

ทั้งหมดเพียงเพื่อ โอกาสในการต่อสู้กับหลิงเทียนเท่านั้น!

หลิงเว่ยที่ได้รับบาดเจ็บเพราะลี่ฉีฉีในตอนแรกล้วนไม่อยากจะยอมรับการตัดสินเช่นนี้ "พี่ฉี แล้วลี่ฉีฉี ที่ลงมือทำร้ายคนของพวกเราก่อนหน้านี้ล่ะ... "

"หุบปาก!"

หลิงฉีหันไปมองหลิงเว่ยด้วยสายตาไม่แยแส "เจ้ามีปัญหากับการตัดสินใจของข้าหรืออย่างไรกัน?"

รีวิวผู้อ่าน