px

เรื่อง : Crazy Leveling System
ตอนที่ 12 เป็นที่น่ารังเกียจ


 

 

 

 

 

 

" มันช่างสดชื่นจริงๆ สิ่งที่ได้รับจากการทำภารกิจสมบูรณ์มีมากมาย เกราะเทพเจ้าและทอง 120 มันช่างคุ้มค่ากับเวลา "





ว่าด้วยเรื่องรางวัลนี้ ยี่ เทียนหยุนรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก จะเสียใจก็เพียงแต่สมบัติที่ได้รับจากศิษย์นิกายวิญญาณสวรรค์นั่นน้อยไปหน่อย อย่างไรก็ตามสามารถเข้าใจได้ว่ารางวัลที่ได้จากพวกเขานั้นยังห่างไกลกับของบอส พวกเขาเป็นเพียงสัตว์ประหลาดขนาดเล็กเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ของที่ได้จึงค่อนข้างจำกัด





" ในตอนนี้จะดูคุณสมบัติได้อย่างไรในเมื่อเลื่อนมาอยู่ขั้นปรับแต่งวิญญาณแล้ว ไม่รู้เลยจริงๆ " ยี่ เทียนหยุนถ้าพูดถึงความเร็วในการยกระดับนี้ หากล่วงรู้โดยผู้อื่นเข้าแล้วล่ะก็ บรรดาเขาเหล่านั้นก็คงจะพ่นออกมาเป็นเลือดโดยแน่แท้





ตั้งแต่เริ่มบ่มเพาะพลัง ระยะเวลาสั้นๆเพียงครึ่งเดือน ตัวของยี่ เทียนหยุนก็ทะลวงเข้าสู่ขั้นปรับแต่งวิญญาณ นี่เรียกได้ว่าดี..... แค่นั้นหรือ ?? ความง่ายนี้คือพรสวรรค์ของทรราชย์ผู้ยิ่งใหญ่ !!






ผู้เล่น : ยี่ เทียนหยุน



ชั้น : ปรับแต่งวิญญาณระดับ 1



ค่าประสบการณ์ : 1,573 / 30,000



แต้มคลั่ง : 698 แต้ม



ทักษะวรยุทธ์ : ทักษะดาวเหนือเร้นลับ ( เกรดระดับมนุษย์ ความชำนาญ 378 / 1,000 )



ความสามารถ : เทคนิคดูดซับพลังแห่งดาวดาวชั้นยอด (เกรดระดับมนุษย์ ความชำนาญ 378/1,000)กรงเล็บอินทรีย์ เทคนิคดาบขนนกร่วงโรย ดั้นเมฆา



อาวุธ : ถุงมือแช่แข็ง ( เกรดเหล็กทั่วไป ความชำนาญ 329 / 1,000 )



ชุดเกราะ : รองเท้าบูสท์ประจัญบานหมาป่าหิมะ



ความสามารถพระเจ้า : โหมดคลั่ง





กรงเล็บนกอินทรีย์และเทคนิคดาบร่วงโรยไม่สามารถที่จะยกระดับได้ เกรดที่สมบูรณ์เป็นเพียงเกรดระดับมนุษย์เท่านั้น ระดับความสามารถของกรงเล็บอินทรีย์และเทคนิคดาบนี้ต่ำมาก ศักยภาพไม่อาจที่จะพัฒนาได้ ถ้าพูดตามตรงถึงจะมีมากก็ไม่ต่างไปจากขยะ





อย่างไรก็ตามรูปแบบของยี่ เทียนหยุนในตอนนี้ยังมีอยู่น้อยมาก ดังนั้นจึงต้องใช้ทักษะประกอบกันหลายอย่าง มองดูไปที่ค่าความชำนาญ เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากแต่ก็ยังไม่อยู่ในเกณฑ์พึงพอใจ พูดได้ว่าการเลื่อนระดับของค่าความชำนาญนี้ช้าเป็นอย่างมาก สัตว์อสูรในภูเขาหิมะค่อนข้างน้อยมาก ยี่ เทียนหยุนเลเวลอัพเรียบร้อยแล้วแต่ค่าความชำนาญของเขาก็ยังมีแค่ไม่กี่ร้อยแต้ม





ถ้ามีการ์ดประสบการณ์ที่สามารถเลื่อนระดับค่าความชำนาญได้คล้ายกันแล้วล่ะก็ มันก็คงจะดีมาก แต่อย่างไรก็ตามค่าประสบการณ์ก็คือค่าประสบการณ์ไม่มีอะไรที่เกียวกับค่าความชำนาญ





นอกจากนี้ยี่ เทียนหยุนยังสามารถเปิดแพ็คของขวัญเลเวล 1 ได้ในที่สุด สิ่งเล็กๆนี้ไม่ใช่ว่าฐานพลังถึงระดับ 10 แล้วจะเปิดได้..... มันจะต้องเลื่อนระดับ 1 ขั้นจึงจะสามารถเปิดมันได้ เมื่อยี่ เทียนหยุนก้าวเข้าสู่ขั้นปรับแต่งวิญญาณก็เลยสามารถเปิดแพ็คของขวัญนี้ได้ อันที่จริงแล้วว่ากันตามปกติจะต้องทะลวงข้ามขั้นจึงจะสามารถเปิดแพ็คของขวัญนี้ได้





ขณะที่ยี่ เทียนหยุนกำลังตรวจสอบคุณสมบัติอยู่นั้น จ้าว ฮั่วหลงที่อยู่ด้านล่างเวทีในตอนนี้ก็เกิดอาการกลัวโดยสมบูรณ์





" นี่..... นี่มันเป็นไปไม่ได้..... " จ้าว ฮั่วหลงรู้สึกคับอกคับใจอย่างหาใดเปรียบ





ชนะ 3 คนอย่างสมบูรณ์ แถมยังไม่มีทีท่าที่จะหอบให้เห็นอีกด้วย !! ไหนจะอาวุธถุงมือนั่นอีกแล้วยังแสดงทักษะที่พวกเขามั่นใจ จริงๆแล้วนี่มันหมายความว่าอย่างไร ??





ไม่เพียงศิษย์ของเขาที่ถูกฆ่าตายไป 3 คนแต่ยังสูญเสียโควต้าซากปรักหักพังโบราณอีกด้วย แล้วยังเม็ดยาทะลวงวิญญาณอีก !! นี่ทำให้จ้าว ฮั่วหลงกำหมัดแน่นอย่างบ้าคลั่ง เขาปรารถนาที่จะฆ่ายี่ เทียนหยุน ถ้าเป็นด้านนอกแน่นอนว่ายี่ เทียนหยุนจะต้องถูกฆ่าด้วยฝ่ามือของจ้าว ฮั่วหลงไปแล้ว





" น.....นี่ร้ายกาจมาก เมื่อกี้นี้มันทักษะดั้นเมฆาไม่ใช่เหรอ ?? ยี่ เทียนหยุนแสดงทักษะของนิกายวิญญาณสวรรค์ได้อย่างไรกัน ?? "





" นี่มันฉากอะไร ยี่ เทียนหยุนแสดงทักษะดั้นเมฆาอย่างนั้นรึ ?? ยิ่งกว่านั้นสปีดความเร็วดูเหมือนจะเตรียมตัวมาจริงๆด้วย ?? "





.........





หลังจากที่ผู้คนเริ่มจะตอบสนอง ความรู้สึกภายในของพวกเขาช็อคจนยากจะบรรยาย เปรียบเทียบกับการต่อสู้ครั้งก่อนทั้งสองครั้งแล้ว การต่อสู้ครั้งนี้ทำให้พวกเขาช็อคซะยิ่งกว่าช็อค!! ศิษย์ตำหนักหยกสวรรค์สามารถใช้ทักษะยุทธ์ของนิกายวิญญาณสวรรค์ได้ ??





ยี่ เทียนหยุนสามารถแสดงความเร็วที่เหนือกว่าเหตุผลใหญ่ก็คือ เขาได้สวมใส่รองเท้าบูสท์ประจัญบานหมาป่าหิมะของเขา หากมองดูที่เท้าของเขาก็จะไม่พบสิ่งผิดปกติอะไร แต่พอเวลาวิ่ง สปีดความเร็วก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลอย่างน้อยๆก็เพิ่มขึ้น 2 เท่า โดยธรรมชาติแล้วเปรียบเทียบได้กับหม่อ เฉิงที่ได้แสดงขีดสุดของความเร็วเมื่อครั้งก่อน





" ผู้อาวุโสจ้าว การแข่งขันครั้งนี้ผู้แพ้ก็คือนิกายวิญญาณสวรรค์ของท่าน !! " ฉี ซู่หยุนมองดูพวกเขาด้วยสายตาที่เย็นชา ในที่สุดพวกเขาก็ประสบความพ่ายแพ้





ใบหน้าของเหล่าศิษย์จากนิกายวิญญาณสวรรค์บ่งบอกถึงความไม่เต็มใจที่จะยอมรับ มาอย่างมั่นใจเอาเข้าจริงๆกลับโดนขับไล่ ความอัปยศอดสูในครั้งนี้ มันสามารถจินตนาการได้





" เขา เขาไม่ใช่ศิษย์ของตำหนักหยกสวรรค์ !! ตำหนักหยกสวรรค์ไม่เคยรับศิษย์ผู้ชาย นี่จึงไม่ต้องรักษาสัญญา !! "






" ก็คือ !! ตำหนักหยกสวรรค์จะรับแต่สตรีโดยพื้นฐาน แล้วผู้ชายก็มีสถานะไกลเกินกว่าจะเรียกว่าศิษย์ ส่วนมากจะเป็นเพียงแค่ศิษย์นอกเท่านั้น !! "





.........





เหล่าบรรดาลูกศิษย์ของนิกายวิญญาณสวรรค์คิดว่าการแข่งขันครั้งนี้ไม่ต้องรักษาสัญญา ตำหนักหยกสวรรค์รับแต่ศิษย์ผู้หญิงมาโดยตลอดจู่ๆก็มีผู้ชายโผล่ขึ้นมา จะไปนับได้ยังไง ??





ศิษย์เหล่านี้ตายด้าน ยี่ เทียนหยุนจะไม่ทนต่อการถูกดูถูกเหยียดหยามถ้าไม่นับผลการแข่งขัน ทำไมให้เขาลงแข่งตั้งแต่แรก?? นี่ไม่ใช่เป็นการถอดหน้ากากของจ้าว ฮั่วหลงอย่างชัดเจนหรอกรึ ??





ยี่ เทียนหยุนหยอกล้อกับจ้าว ฮั่วหลงว่า " ผู้อาวุโสจ้าว ศิษย์ของท่านกำลังงัดปากท่านอยู่น่ะ ?? "





" เจ้าใช้ทักษะลับของนิกายเราวิญญาณสวรรค์ได้อย่างไร !! " จ้าว ฮั่วหลงจงใจเปลี่ยนหัวข้อ สายตาเย็นชามองมาที่ยี่ เทียนหยุนแล้วสอบถาม





" นี่ ข้ามองดูแล้วเรียนรู้ได้หลายส่วน ผู้อาวุโสจ้าวคิดว่าข้าจะเป็นคนต่ำช้าที่ไปขโมยของของท่านมาจากนิกายวิญญาณสวรรค์อย่างนั้นรึ ?? " ยี่ เทียนหยุนกล่าวอย่างไม่แยแส





" จริงๆ ถ้าขโมยมานิกายวิญญาณสวรรค์ก็ควรจะต้องเสียดายด้วย !! " ฉี ซู่หยุนกล่าวเสริมด้วยความเย็นชาอีกว่า " ผู้อาวุโสจ้าวตอนนี้ท่านแพ้แล้ว ยังมีคำไหนที่อยากจะพูดอีกไหม !! "





จ้าว ฮั่วหลงสีหน้าพลันน่าเกลียดในทันที เดินมาถึงจุดนี้แล้วจะไม่นับผลการแข่งขันก็ทำไม่ได้ เพราะเมื่อก่อนเป็นเขาที่ยอมรับผลการแข่งขันก่อนหน้านี้ ตอนนี้ลูกศิษย์ตายไปแล้วถึงสามคน แถมยังจะมาเสียโควต้าไปอีก เขาจะไม่คิดถึงศิษย์รักได้อย่างไรนับเป็นความอัปยศอดสูของเขา





จ้าว ฮั่วหลงสายตาเย็นชามองที่ยี่ เทียนหยุนแล้วพูดว่า " ไม่มีปัญหาเจ้าจะเรียนรู้มันมาได้ยังไง แต่นับจากนี้ไปห้ามเจ้าแสดงทักษะของพวกเราอีก !! "





นี่เป็นทักษะยุทธ์ที่เป็นความภูมิใจของพวกเรานิกายวิญญาณสวรรค์ โดยธรรมชาติแล้วไม่อนุญาติให้คนนอกได้แสดงแม้ต้องการที่จะให้ยี่ เทียนหยุนกำจัดพื้นฐานวรยุทธ์แต่มันก็คงจะเป็นไปไม่ได้





" นี่เป็นสิ่งที่ข้าเรียนรู้เอง จะแสดงหรือไม่แสดงล้วนไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับท่าน " ยี่ เทียนหยุนพูดอย่างไม่แยแส " ทักษะระดับนี้ข้าใช้ก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอก ถ้ายึดตามจุดนี้ว่าห้ามแสดง มันคงไม่ทำให้ดูดีขึ้นหรอกมั้ง?? แล้ว..... รางวัลของข้าเวลานี้ล่ะ ?? "





จ้าว ฮั่วหลงมองยี่ เทียนหยุนอย่างถมึงทึง นัยน์ตาของเขาเต็มไปด้วยจิตสังหาร !!





พริบตาเม็ดยาและป้ายสัญลักษณ์โลหะก็ตกลงบนมือของฉี ซู่หยุน จ้าว ฮั่วหลงหมุนตัวด้วยใบหน้าที่ขุ่นมัวแล้วพูดว่า " กลับนิกาย !! " เขาไม่มีหน้าที่จะอยู่ต่อ จ้าวฮั่วหลงจึงนำคนที่เหลือออกจากที่นี่ในทันทีอย่างรวดเร็ว





มองดูร่างของจ้าว ฮั่วหลงที่จากไปไกลแล้ว สายตาของยี่ เทียนหยุนส่องประกายแวววาว ศัตรูของเขานั้นผูกอาฆาต แต่อย่างไรก็ตามเขามองดูบนศีรษะของจ้าว ฮั่วหลงที่มีป้ายชื่อส่องประกายระยิบระยับสีทองปรากฏบนหัวของเขา เขาอยากจะสู้กับจ้าวฮั่วหลงด้วยกำปั้นซะจริงๆ ถ้าฆ่าบอสระดับนี้ลงได้ ไม่รู้ว่าสมบัติอะไรที่จะออกมา





หลังจากที่นิกายวิญญาณสวรรค์ได้จากไปแล้ว บรรดาเหล่าผู้ที่มีพรสวรรค์ของตำหนักหยกสวรรค์ที่เชียร์การแข่งขันระหว่างนิกายที่พวกเธอเป็นฝ่ายชนะ !! ทั้งหมดนี่คือ ยี่ เทียนหยุนนำมา ถ้าเปลี่ยนตัวเป็นพวกเธอขึ้นเวทีแล้วละก็ คงจะแพ้อย่างแน่นอน พวกเธอไม่มีอะไรเลยที่จะไปเปรียบเทียบกับเม่อเฉิงขึ้นเวทีเมื่อไรเป็นต้องแพ้อย่างแน่นอน






" เอาชนะศิษย์จากนิกายวิญญาณสวรรค์สามคนอย่างต่อเนื่อง เทียนหยุนพื้นฐานของเจ้ากลัวว่าจะทะลวงปรับแต่งกายาขั้นสูงสุด !! " ฉี ซู่หยุนคาดคะเนจากพลังที่ปะทุของยี่ เทียนหยุน โดยพื้นฐานแล้วต้องอยู่ในระดับนี้





อย่างไรก็ตามนี่เป็นข้อมูลครั้งในอดีตแต่เขาในตอนนี้นั้นอยู่ในขั้นปรับแต่งวิญญาณระดับที่ 1 !!





" นี่..... สูงขึ้นนิดนึง " ยี่เทียนหยุนถูจมูกแล้วยิ้ม ถ้าไม่ใช่ฉี ซู่หยุน เขาคงจะไม่เปิดเผย





" นี่..... ขั้นปรับแต่งวิญญาณระดับ 1?! " ฉี ซู่หยุนช็อค เขาเลเวลอัพตอนไหน ??















 




 

รีวิวผู้อ่าน