px

เรื่อง : War Sovereign Soaring The Heavens
บทที่ 44 การต่อสู้ที่ดุเดือด


น้ำเสียงของหลิงฉีนั้นแฝงความเอาแต่ใจและหยิ่งยโสเอาไว้อย่างมาก

ถึงแม้ว่าอายุเขาจะยังไม่มากเท่าไร แต่ท่าทางและบรรยากาศของความเป็นผู้นำ ก็แผ่ออกมาอย่างสูง

หลิงเว่ยได้แต่สูดลมหายใจด้วยความหนาวเหน็บ ตอนนี้เขาไม่กล้าเอ่ยอะไรออกมาแม้สักครึ่งคำ แต่ทว่าสายตาอาฆาตของเขายังไม่จางหายไปจากหลิงเทียน เชื่อว่าหากสบโอกาสเหมาะเมื่อไหร่ มันต้องลงมืออย่างแน่นอน

หลิงเทียนเองก็สัมผัสได้ถึงสายตาที่จ้องมาของหลิงเว่ย แต่เขาก็ไม่ได้สนใจอะไร

ความแข็งแกร่งของหลิงเว่ยก็เพียงเท่าเทียมกับลี่เซียวเท่านั้น ซึ่งไม่ได้เป็นภัยคุกคามอะไรหลิงเทียนแม้แต่น้อย

หลิงเทียนจับจ้องไปยังหลิงฉี

"หากเจ้าต้องการต่อสู้ เช่นนั้นเจ้าก็จะได้!"

หลิงเทียนหันไปยิ้มให้กับเค่อเอ๋อ พร้อมกับเหลือบไปมองลี่ฉีฉีอย่างมีความหมาย ซึ่งนางก็เข้าใจได้ว่าหลิงเทียนต้องการให้นางคุ้มครองเค่อเอ๋อหากมีอะไรไม่คาดฝันเกิดขึ้น ...หลังจากนั้น หลิงเทียนก็เดินมาเผชิญหน้ากับ หลิงฉี

เหล่าสาวกของทั้งสองตระกูลที่ยืนคุมเชิงกันอยู่ ต่างถอยออกมาเป็นวงกลม เว้นระยะให้คนทั้งสองได้มีพื้นที่ในการประลอง

นี่เป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของเมืองออโรร่า ดังนั้นประชาชนและคนทั่วไปต่างมามุงดูกันอย่างหนาแน่นในเวลาเพียงไม่นาน

"ข้าได้ยินมาว่า ชายหนุ่มชุดเขียวนั่น เป็นบุตรชายของ หลิงจุน ประมุขตระกูลหลิง นามว่าหลิงฉี"

"หลิงฉีรึ? ข้าได้ยินว่าเขาเป็นสาวกสายนอกที่แข็งแกร่งที่สุดในตระกูลหลิง เขาตัดผ่านไปยังระดับบ่มเพาะร่างกายขั้นที่ 9 ด้วยวัยเพียง 17 ปี เท่านั้น อีกทั้งยังฝึกฝนวิชาระดับห้วงมหรรณพขั้นสูงไว้ถึง 3 วิชา"

"วิชาระดับห้วงมหรรณพขั้นสูง 3 วิชา? บ้าไปแล้ว ... ตระกูลหลิงช่างลงทุนกับเขาไว้สูงลิบ "

"แล้วผู้ใดกันที่เผชิญหน้ากับเขา?"

"ข้าคิดว่าเป็นสาวกของตระกูลลี่ที่ใช้แซ่อื่น"

......

ผู้คนรอบๆต่างสนทนากันอย่างอื้ออึง

ต้วนหลิงเทียนหันไปมองหลิงฉีอย่างจริงจัง

เมื่อมองไปที่มันเขาสัมผัสได้ถึงความกดดัน

แม้ในตอนที่เขาเผชิญหน้ากับผู้ดูแลตระกูลฟาง ฟางเจี้ยน ที่อยู่ในระดับก่อกำเนิดขั้นที่ 1 ตอนที่อาศัยอยู่ในเมืองวายุโปรย เขายังไม่รู้สึกกดดันเท่านี้

นี่หมายความว่า หลิงฉีผู้นี้ อันตรายกว่าฟางเจี้ยน!

หากคิดง่ายๆมันก็คงจะเป็นเพราะเหตุนี้

ตระกูลทั้งสามในเมืองว่ายุโปรยนั้น วิชาการต่อสู้ระดับปฐพีขั้นสูงก็ถือว่าเป็นวิชาที่สุดยอดมากๆแล้ว

ยิ่งวิชาท่าร่างด้วยแล้ว หากไม่ได้หลิงเทียนมอบวิชาท่าร่างให้ ตระกูลลี่ก็คงไม่มีวิชาท่าร่างสักวิชาให้ฝึกฝน ...ด้วยความอนุเคราะห์จากหลิงเทียนตอนนี้ตระกูลลี่จึงเป็นตระกูลเดียวใน 3 ตระกูลที่มีวิชาท่าร่าง

ส่วนวิชาป้องกันนั้นมันอยู่ไกลเกินกว่าความฝันของทั้งสามตระกูล

ต้วนหลิงเทียนค้นพบเรื่องหนึ่งได้จากความทรงจำของจักรพรรดิกลับชาติมาเกิดได้ว่า วิชาโจมตีนั้นสามารถแบ่งได้ 4 ระดับคือ ปฐพี ห้วงมหรรณพ พิภพ และ สวรรค์ โดยจะมีระดับปฐพีเป็นระดับที่ต่ำที่สุด วิชาโจมตีระดับนี้ก็ไม่ต่างจากหมัดมวยธรรมดา ไม่ได้มีอะไรเลิศเลอนัก แต่ทว่า ในด้านวิชาท่าร่างและวิชาป้องกัน กลับไม่มี วิชาในระดับปฐพีแม้แต่วิชาเดียว

กล่าวได้ว่าในทวีปเมฆาล่องนี้ วิชาท่าร่างและวิชาป้องกัน จะมีขั้นต่ำสุดอยู่ที่ ห้วงมหรรณพขั้นต่ำ

ฟึ่บ!

ราวกับว่าทั้งคู่ได้นัดกันไว้ก่อนหน้านี้ พวกมันต่างเคลื่อนไหวโดยพร้อมเพรียงกัน

วิญญาณอสรพิษเคลื่อนกาย!

วิชาท่าร่างของหลิงเทียนนั้นดูสวยงามมาก ราวกับร่างกายของเขายืดหยุ่นดั่งสายน้ำ การเคลื่อนที่ของเขาพริ้วไหวราวกับเป็นมิตรกับสายลม

ความเร็วของเขานับว่าสูงมากจนแทบมองไม่ทัน นี่ทำให้เหล่าผู้ชมธรรมดาและสาวกของทั้งสองตระกูลต่างทึ่ง

ส่วนทางด้านของหลิงฉี ขาของมันนั้นเคลื่อนไหวพัลวันว่องไวจนมองเห็นเป็นภาพติดตา นี่หากมันไปเคลื่อนกายบนพื้นหิมะมันอาจจะไม่ทิ้งร่องรอยอะไรเอาไว้

ย่างก้าวเงาเลือน!

วิชาท่าร่างระดับห้วงมหรรณพขั้นสูง

"ต้วนหลิงเทียนผู้นี้มาจากที่ใดกัน? ตระกูลลี่มีสาวกมหัศจรรย์เช่นนี้ตั้งแต่เมื่อใดกัน? ความเร็วของวิชาท่าร่างมัน ไม่ได้ด้อยไปกว่า ย่างก้าวเงาเลือนที่เป็นวิชาท่าร่างระดับห้วงมหรรณพขั้นสูง ของพี่ฉี แม้แต่น้อย! "

"ย่างก้าวเงาเลือนของพี่ฉี เป็นวิชาระดับห้วงมหรรณพขั้นสูงอีกทั้งเขายังมีความสำเร็จอยู่ในขั้นตอนเริ่มต้น นั่นหมายความว่ามันเทียบเท่าวิชาท่าร่างระดับห้วงมหรรณพขั้นกลาง ที่มีความสำเร็จขั้นตอนผู้เชี่ยวชาญ และ ความสำเร็จขั้นตอนแก่นแท้หากเป็นวิชาท่าร่างระดับห้วงมหรรณพขั้นต่ำ เชียวนะ!"

"คาดไม่ถึงจริงๆ! ว่านอกจากลี่ควงจากตระกูลลี่ และ เซี่ยวหยุน จากตระกูลเซี่ยว จะมีผู้อื่นที่สามารถเทียบกับพี่ฉีในด้านวิชาท่าร่างได้! "

"เฮอะ! ต้วนหลิงเทียนนั้นมีระดับบ่มเพาะเพียงระดับบ่มเพาะร่างกายขั้นที่ 8 เท่านั้น พวกเจ้าคิดว่าพี่ฉีได้ใช้กำลังเต็มที่เช่นนั้นหรือไร พี่ฉีต้องจำกัดพลังให้อยู่ในระดับการบ่มเพาะร่างกายขั้นที่ 8 เพื่อต่อสู้กับมันอย่างยุติธรรม พวกเจ้าไม่รู้หรือไร? "

"หากเจ้าไม่พูดข้าคงไม่ทันได้สังเกต ถึงว่าทุกครั้งที่พี่ฉีโจมตี เขากลับไม่ได้ประสานพลังงานฟ้าดินจนก่อเงาร่างของช้างแมมมอธโบราณ "

......

สาวกสายนอกของตระกูลหลิงที่อยู่รอบๆ ที่มีระดับบ่มเพาะร่างกายขั้นที่ 8 รวมถึงผู้อื่นต่างลองจินตนาการว่าตนเองเป็นคู่ต่อสู้ของหลิงเทียน

ราวกับว่าตอนนี้พวกมันกำลังเป็นคู่ต่อสู้ให้กับหลิงเทียนแทนที่หลิงฉี พวกมันอยากรู้ว่าหากเป็นตนเองจะสู้ได้แบบหลิงฉีหรือไม่

"ต้วนหลิงเทียน รับฝ่ามือข้า!" อยู่ๆหลิงฉีก็ตะโกนออกมาดังสนั่น

ซู่มมมม!

เสียงฝ่ามือแหวกลมดังขึ้น

ฝ่ามือขวาของหลิงเทียนพุ่งแหวกอากาศมาอย่างน่าสะพรึง พลังงานที่แท้จริงที่ควบแน่นมหาศาลสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ฝ่ามือนี้ของหลิงฉีนับว่าทรงอานุภาพมากนัก

ทั้งฝ่ามือนี้ยังเป็นวิชาจู่โจมที่สามารถล่อลวงคู่ต่อสู้ได้อีกด้วย เนื่องจากบนอากาศปรากฏรูปฝ่ามือจำนวนมากมายพุ่งโจมตีมาในลักษณะแตกต่างกัน

หากรับมือพลาด เผลอไปป้องกันฝ่ามือลวงตา คงต้องรับการจู่โจมจากฝ่ามือที่แท้จริงไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

"นั่นคือวิชาระดับห้วงมหรรณพขั้นสูง เงาลวงเร้นลับ วิชาการต่อสู้ขั้นสูงของตระกูลหลิง!!"

"หาก เงาลวงเร้นลับ ฝึกฝนให้เชี่ยวชาญจนมีขั้นตอนความสำเร็จระดับแก่นแท้ เห็นว่าสามารถสร้างเงาลวงตาได้ถึง 99 เงา ... "

"สมกับเป็นอัจฉริยะที่ตระกูลหลิงทุ่มเททรัพยากรให้ถึงขนาดนี้ อายุเพียง 17 ปี กลับมีความสำเร็จในขั้นตอนเริ่มต้น แล้ว"

......

นับว่าฝูงชนโดยรอบยังมีผู้ที่ตาถึงอยู่บ้าง

"อืม..นี่เป็นวิชาจู่โจมระดับห้วงมหรรณพขั้นสูง!"

หลิงเทียนรู้สึกตื่นเต้นในหัวใจเล็กน้อย

ด้วยความทรงจำของจักรพรรดิกลับชาติมาเกิด เขาย่อมมีความเข้าใจในระดับวิชาห้วงมหรรณพขั้นสูงอย่างดี

ระดับความสามารถของวิชาระดับห้วงมหรรณพขั้นสูงนั้น เหนือกว่าระดับห้วงมหรรณพขั้นกลางอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นพลังทำลาย ความซับซ้อน หรือความต่อเนื่อง วิชาขั้นสูงยังสามารถควบคุมให้แสดงความสามารถออกในระดับต่ำๆ เพื่ออาศัยจังหวะช่วงชิงความได้เปรียบในการต่อสู้ได้อีกด้วย

แต่ทว่าเมื่อต้องมาเจอกับต้วนหลิงเทียนผู้เป็นนักฆ่าหมายเลข 1 ของโลกเก่าที่ผ่านสนามรบแห่งความเป็นตายมานับไม่ถ้วน มีหรือ การล่อหลอกของเด็กอายุเพียง 17 ปีจะทำอะไรมันได้ ทุกๆการจู่โจมของหลิงฉี หลิงเทียนค้นพบช่องโหว่ ที่สามารถสวนกลับจนได้ชัย ครั้งนึงไม่ต่ำกว่า 10 จุด

หมัดทะลวง!

หลิงเทียนใช้ออกด้วยหมัดทะลวงทันที ร่างของมันเอนไปด้านหลังแขนถูกรั้งไปด้านหลังจนสุด ก่อนที่มันจะเลือกโจมตีไปยังฝ่ามือที่แท้จริงของหลิงฉี

ปัง!!

ฝ่ามือและกำปั้นปะทะกัน

เมื่อปะทะกันทั้งสองคนต่างก็สั่นสะท้าน ก่อนที่หลิงเทียนจะถอยหลังเพื่อสลายแรงปะทะเป็นจำนวน 3 ก้าว...ทว่าหลิงฉี กลับต้องถอยหลังเพื่อสลายแรงปะทะถึง 5 ก้าว

ผู้คนรอบๆ ล้วนตกตะลึง

หลิงฉีที่จำกัดระดับการบ่มเพาะไว้ที่ระดับการบ่มเพาะร่างกายขั้นที่ 8 ไม่สามารถเทียบหลิงเทียนที่อยู่ในระดับเดียวกันได้ ...

"ความแข็งแกร่งของเจ้านับว่าเหนือล้ำไปกว่าผู้ที่อยู่ในระดับการบ่มเพาะเดียวกันมากนัก"

หลิงฉีได้แต่จ้องมองไปยังหลิงเทียนด้วยความประหลาดใจ

หลิงเทียนทำเพียงยิ้มรับอย่างไม่แยแส

เรื่องนี้เป็นเพราะว่าเขาได้ บ่มเพาะพลังด้วยวิชา 9 มังกรจักรพรรดิสงคราม ทุกๆการเลื่อนระดับขั้นของเขานั้น จะให้ผลลัพธ์ที่มากมายกว่าผู้ที่อยู่ในระดับเดียวกันอยู่แล้ว ยิงระดับขั้นหลังๆความต่างของวิชาบ่มเพาะ จะยิ่งเห็นได้ชัดเจนมากกว่านี้

ยกตัวอย่างเช่น

ผู้ฝึกยุทธ์ที่มีระดับการบ่มเพาะร่างกายขั้นที่ 8 โดยทั่วไปนั้น จะมีความแข็งแกร่งอยู่ที่ 5,000 ปอนด์

แต่ทว่าหลิงเทียนกลับมีถึง 7,000 ปอนด์

"ฮ่าฮ่า ... สะใจยิ่งนัก! อย่างที่ข้าคิดไว้ไม่มีผิด นอกจากลี่ควงและ เซี่ยวหยุนแล้ว ในบรรดาสาวกสายนอกทั้งหมด ยังมีเจ้าอีกคนที่สามารถมองเห็นฝ่ามือที่แท้จริงของข้าได้"

หลิงฉีหัวเราะด้วยความดีใจ ที่ได้พบคู่ต่อสู้

"มาอีกครั้ง!!"

ร่างของหลิงฉีสั่นไหวก่อนที่จะพุ่งมาอย่างรวดเร็ว

ย่างก้าวเงาเลือน!

คราวนี้ทั้งเขาและหลิงเทียนไม่คิดจะปะทะกันเพื่อวัดกำลังอีก ทั้งคู่ต่างเคลื่อนไหวเพื่อหาจังหวะช่องว่างของอีกฝ่ายเพื่อฉกฉวยโอกาสจู่โจมเพื่อหวังผลในชัยชนะ

วิญญาณอสรพิษเคลื่อนกาย!

หมัดทะลวง!

ร่างกายของหลิงเทียนเคลื่อนไหวราวกับพญาอสรพิษมันวูบไหวเล็ดรอดฝ่ามือทั้งหมดไปก่อนที่จะซัดหมัดทะลวงในระยะประชิด

ถึงแม้ว่าวิชาเงาลวงเร้นลับ จะเป็นวิชาที่มีระดับเหนือกว่าหมัดทะลวงของหลิงเทียน แม้กระทั่งมันยังสามารถสร้างฝ่ามือลวงตาขึ้นมาได้อีกมายมาย แต่ทว่าน่าเสียดาย

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการสังหารและใช้อาวุธของนักฆ่าหมายเลขหนึ่งอย่างหลิงเทียนในชาติภพที่แล้ว ภาพเงาลวงหริภาพติดตาระดับนี้ มันนับว่าอ่อนด้อยเกินไป ..อีกทั้งประสบการณ์ด้านการต่อสู้ของทั้งสองนั้นต่างกันราวฟ้ากับดิน

ปัง!!

หมัดทะลวงของเขาบรรลุไปยังร่างกายของหลิงฉี

แต่ทว่าทันที ที่หมัดของเขากระทบร่างกายของอีกฝ่ายเขารู้สึกเหมือนชกไปยังกระดองเต่าที่แข็งแกร่ง อีกทั้งมันยังสะท้อนแรงโจมตีกลับมาได้อีกด้วย!

พลังเคลื่อนย้ายจักรวาล!

หลิงเทียนพลันใช้ออกด้วยวิชาป้องกันของเขาทันที!

พลังจากการสะท้อนของอีกฝ่ายพลันถูกสะท้อนกลับไปอีกครั้ง

เขาสามารถสะท้อนพลังที่เกิดจากการสะท้อนของหลิงฉีกลับไปได้ทั้งหมด

และพลังที่สะท้อนกลับไปครานี้นั้น มันเป็นพลังของหลิงฉีเอง แน่นอนว่ากำแพงพลังงานต้นกำเนิดที่คอยป้องกันหลิงฉีอยู่ย่อมไม่สามารถป้องกันพลังงานชนิดเดียวกันได้ ...

ร่างกายของหลิงฉีถึงกับสั่นสะท้านทรุดลงไปเล็กน้อย เมื่อพลังงานของเขาถูกสะท้อนกลับมาจู่โจมตนเองเข้าอย่างจัง โดยปราศจากการป้องกัน

"เจ้าใช้วิชาป้องกันผีสางอันใดกันแน่?"

หลิงฉีได้แต่มองหลิงเทียนอย่างตกตะลึงราวกับเห็นภูตผี

ถึงแม้เขาจะตกใจกับประสบการณ์ต่อสู้ของหลิงเทียนที่สามารถมีเปรียบเขาได้ทุกอย่างแต่ทว่า เขาไม่ได้ตกใจมากมายเท่ากับยามที่ได้ประจักษ์ถึงความสามารถในวิชาป้องกันของหลิงเทียน

เมื่อครู่วิชาป้องกัน พญาเต่าคลุมสมุทร ของเขาได้สะท้อนการโจมตีหมัดทะลวงของหลิงเทียนไปในรูปแบบพลังงานต้นกำเนิดของเขาเอง

และการจู่โจมนั้นนับว่าเป็นรูปแบบเดียวกับพลังงานต้นกำเนิดที่ปกคลุมอยู่ทั่วร่างกายเขา เขาจึงไม่สามารถป้องกันมันได้ในยามที่มันหวนกลับมาจู่โจมเขาอีกครั้ง

นี่แสดงว่าวิชาป้องกันของหลิงเทียนนั้นเหนือชั้นไปกว่าวิชาป้องกันของเขาอย่างเทียบไม่ติด

ดวงตาของหลิงเทียนหรี่ลงเล็กน้อยก่อนที่จะกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบๆ "เจ้าใช้ความแข็งแกร่งทั้งหมดที่เจ้ามีเถิด ไม่จำเป็นต้องจำกัดระดับการบ่มเพาะให้เท่าเทียมกับข้าแล้ว หากเจ้ายังฝืนเช่นนี้เจ้าไม่มีโอกาสเอาชนะข้าได้อย่างแน่นอน! "

"หากเจ้าต้องการเช่นนั้นก็ย่อมได้! ข้าไม่คิดเลยว่าจะมีใครอื่นนอกจาก ลี่ควงและเซี่ยวหยุน ที่สามารถบีบคั้นให้ข้าต้องลงมืออย่างสุดกำลังได้ เจ้าจงระวังไว้ หากข้าใช้กำลังที่แท้จริงของข้า ความแข็งแกร่งของข้าจะสูงถึงระดับ ช้างแมมมอธโบราณ 1 ตัว หากให้เทียบกับตอนนี้ มันก็มากกว่าเดิมถึง 3,000 ปอนด์ "

หลิงฉีหัวเราะก่อนที่จะกล่าวอย่างตรงไปตรงมา

เขาย่อมรู้ว่าสิ่งที่หลิงเทียนกล่าวนั้นเป็นความจริง

จากการต่อสู้ที่ผ่านมาหลิงฉียอมรับว่าตนเองนั้นอ่อนด้อยกว่าหลิงเทียนตรงหน้า ที่มีอายุน้อยกว่าตนเองเสียอีก ในเรื่องประสบการณ์การต่อสู้ ไม่ว่าจะเป็น ท่วงท่า การเคลื่อนไหว และการตัดสินใจ หลิงเทียนนับว่าเหนือล้ำไปกว่ามันทั้งสิ้น หากจะเอาชัยได้คงมีแต่ต้องพึ่งพาความแข็งแกร่งที่มากกว่าอย่างท่วมท้นเท่านั้น

หลิงฉีที่นิ่งไปครู่หนึ่งนั้นอยู่ๆก็เร่งพลังขึ้นมาจนทั้งร่างของมันอัดแน่นไปด้วยมวลกล้ามเนื้อ

เหนือศีรษะของมัน พลังงานต้นกำเนิดเริ่มหลอมรวมกับพลังงานฟ้าดิน จนก่อเงาร่างของช้างแมมมอธโบราณขึ้นมา 1 ตัว

"ต้วนหลิงเทียนนี่นับว่าเป็นสัตว์ประหลาดโดยแท้ มันสามารถบีบคั้นให้หลิงฉีใช้ความแข็งแกร่งที่แท้จริง ทั้งๆที่ตัวมันยังมีระดับการบ่มเพาะร่างกายขั้นที่ 8 เท่านั้น"

"หลังจากการต่อสู้ในวันนี้สิ้นสุดลง ไม่ว่าจะชนะหรือแพ้ หลิงเทียนย่อมได้ชื่อเสียงและเกียรติยศอย่างมหาศาล!"

"ใช่แล้ว ตอนนี้หลิงฉีไม่สามารถเทียบกับหลิงเทียนได้ในยามที่ต้องจำกัดพลังให้อยู่ในระดับเดียวกันกับหลิงเทียน ...เช่นนี้ต่อไปเมื่อหลิงเทียนมีระดับการบ่มเพาะร่างกายขั้นที่ 9 ข้าเกรงว่า หลิงฉีจะยิ่งไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลิงเทียนเข้าไปใหญ่ และหากพวกเจ้ายังไม่ลืม จำกันได้หรือไม่ ต้วนหลิงเทียนนั้น ยังมีอายุเพียง 16 ปี เท่านั้น "

......

ตอนนี้สาวกสายนอกของตระกูลหลิงต่างมองไปที่หลิงเทียนด้วยความตกตะลึงและหวาดกลัว

ส่วนทางด้านตระกูลลี่กลับตรงกันข้าม พวกมันต่างมองหลิงเทียนด้วยแววตาเป็นประกายเพราะความดีใจ

ต้วนหลิงเทียนนำเกียรติยศมาสู้ตระกูลลี่แล้ว!!

ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผู้เข้มแข็งของสาวกสายนอกไม่ได้มีแต่ลี่ควงแล้ว ยังมีหลิงเทียนอีกคน

ส่วนทางด้านลี่ฉีฉี ก็มองไปยังหลิงเทียนด้วยสายตาล้ำลึกราวกับจะค้นหาตัวตนของหลิงเทียน

กลับกัน เด็กสาวข้างๆนางกลับมองหลิงเทียนด้วยสายตาดุจเดิม

ในสายตาของนางนั้น นายน้อยของนางย่อมดีที่สุดไม่มีผู้ใดเทียบได้ และสายตาของนางนั้นแสดงความมั่นใจในตัวหลิงเทียนอย่างมาก

"ต้วนหลิงเทียน เจ้าระวังให้ดี ในสภาพนี้ ไม่ว่าการจู่โจมหรือความเร็วของข้า ล้วนเหนือกว่าเมื่อครู่อย่างเทียบไม่ติด! "

หลังจากเตือนหลิงเทียน หลิงฉีก็เริ่มเคลื่อนย้ายร่างกาย

ย่างก้าวเงาเลือน!

ตอนนี้ความเร็วของหลิงฉีเพิ่มมากขึ้น กว่า 30%

เงาลวงเร้นลับ!

ผลของวิชาเงาลวงเร้นลับเพิ่มมากขึ้นอย่างสูง ตอนนี้ฝ่ามือลวงตาของหลิงฉีกลับมีฝ่ามือลวงตาเพิ่มมาอีก 10 ฝ่ามือ อีกทั้งความเร็วในการจู่โจมยังมากกว่าเดิมอยู่หลายส่วน

หลิงฉียามใช้ความแข็งแกร่งออกถึงขีดสุดนับว่ามีความเร็วเหนือกว่าหลิงเทียนเล็กน้อย ที่สำคัญ ฝ่ามือของเขายามใช้ผสานกับวิชาเงาลวงเร้นลับ ยังว่องไวเกินกว่าหมัดทะลวงของหลิงเทียนจะต้านทานได้ทัน หนำซ้ำมันยังต่อเนื่องเกินกว่า พลังเคลื่อนย้ายจักรวาลของหลิงเทียนจะสะท้อนกลับไปได้ทั้งหมด

ถึงแม้หลิงเทียนจะลองใช้พลังเคลื่อนย้ายจักรวาลต้านรับอย่างเต็มที่แล้ว แต่ทว่าในไม่กี่กระบวนท่า หลิงเทียนก็ตกเป็นรองอย่างเห็นได้ชัด

หากวิชาต่างๆ เทียบได้กับ ซอฟท์แวร์ ตัวผู้ใช้ วิชาก็เสมือน ฮาร์ดแวร์

หากฮาร์ดแวร์มีระดับต่ำกว่า ซอฟท์แวร์ นั่นทำให้ตัวผู้ใช้อย่างหลิงเทียนเองต้องแบกรับความเสียหายที่เกิดจากการฝืนตัวเกินกำลัง

"หึ ยามนี้ความแข็งแกร่งของทั้งคู่แตกต่างกันเกินไป หลิงเทียนกำลังจะปราชัยให้แก่พี่ฉีแล้ว"

เมื่อสังเกตเห็นหลิงเทียนที่ได้แต่ป้องกันโดยไม่อาจสวนกลับได้หลายครั้งหลายครา เหล่าคนของตระกูลหลิงล้วนแต่ ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข

รีวิวผู้อ่าน