แต่ตอนนี้กลับมีมารดาของเขาที่สามารถใช้ได้เป็นอย่างดีเพิ่มมาเป็นคนที่ 3 จำกัด ดังนั้นจำนวนการใช้งานโอสถน้ำโลหิตหลอมกายก็ย่อมเพิ่มสูงขึ้น และเวลาที่ใช้งานก็สั้นลงเป็นเงาตามตัว
เพียงเวลาแค่เดือนเดียว โลหิตหลิงซี่อายุ 50 ปี ก็หมดลงเสียแล้ว
แต่แน่นอนว่าผลลัพธ์ที่ได้มาก็ย่อมคุ้มค่ากับราคาที่ต้องจ่าย
นอกเหนือจากพลังเคลื่อนย้ายจักรวาลของหลิงเทียนที่มีความสำเร็จในขั้นตอนเริ่มต้นแล้ว สี่ตำลึงปาดพันชั่งของเค่อเอ๋อและมารดาเขาก็ มีความสำเร็จในขั้นตอนเริ่มต้นเช่นเดียวกัน
แต่สิ่งที่น่าสะพรึงก็คือ สำหรับพวกเขาทั้ง 3 คนนั้น หากเจอคู่ต่อสู้ที่ใช้วิชา ระดับห้วงมหรรณพขั้นสูงที่มีความสำเร็จในขั้นตอนเริ่มต้นลงไปนั้น จะไม่มีทางทำอะไรพวกเขาได้เลยแม้แต่นิดเดียว เงื่อนไขเหล่านี้รวมถึงระดับอื่นๆที่มีความสำเร็จเทียบเท่ากันด้วย
แน่นอนว่าเรื่องนี้ย่อมไม่รวมถึง การใช้อาวุธ
หากฝ่ายตรงข้ามใช้อาวุธ ผลลัพธ์อาจจะต่างไปจากนี้
หลิงเทียนได้ไปร้านค้าโอสถอีกครั้ง และซื้อ โลหิตหลิงซี่ อายุ 50 ปีมา อีก 8 ชั่ง จนตอนนี้เงินเก็บที่เขามีนั้นเริ่มร่อยหรอลงแล้ว
แรกเริ่มเดิมทีนั้น หลิงเทียนมีเหรียญเงินอยู่ราวๆ 130,000 เหรียญที่ได้รับมาจากตระกูลลี่ รายได้ส่วนนี้มาจากการขายเม็ดยาเพลิงอัสนี โอสถน้ำบ่มเพาะร่างกาย และสุดท้ายคือ วิชาท่าร่างระดับห้วงมหรรณพขั้นกลางนั่นเอง
หลังจากซื้อโลหิตหลิงซี่ ครั้งที่ 2 ไป เงินเก็บเขาแทบจะไม่เหลือแล้ว
"ข้ายังไม่ทันตัดผ่านไปยังระดับก่อกำเนิด แต่เงินเก็บกลับหมดลงซะแล้ว สงสัยข้าคงต้องหาเงินก่อนแล้วสินะ "
หลังจากกลับมาถึงบ้าน หลิงเทียนก็เริ่มผสมโอสถน้ำโลหิตหลอมกายจากโลหิตหลิงซี่ทันที โดยมีเค่อเอ๋อเป็นลูกมือคอยช่วยเหลือเช่นเดิม ตอนนี้มันก็ได้แต่ขบคิดถึงวิธีสร้างรายได้
ถ้าเขาสุ่มสูตรโอสถระดับสูงสักสูตรจากความทรงจำของจักรพรรดิกลับชาติมาเกิด เพื่อนำออกมาขาย รับรองว่าเขาจะได้เงินจำนวนมหาศาลอย่างแน่นอน
แต่แน่นอนว่าเขาไม่คิดที่จะทำแบบนั้น
หากเป็นสูตรยาทั่วไปคงจะพอขายได้แต่คงไม่ได้กำไรอะไรมากนัก
แต่ถ้าเขาขายสูตรยาที่หายสาบสูญไปจากทวีปเมฆาล่องแล้วล่ะก็รับรองได้ว่า เขาต้องร่ำรวยอย่างแน่นอน ทว่าทรัพย์สินที่ได้มา ย่อมดึงดูดผู้ไม่ประสงค์ดีให้ดมกลิ่นตามมามากขึ้นเป็นเงาตามตัวด้วยเช่นกัน
ความแข็งแกร่งของเขาในปัจจุบันยังไม่พร้อมรับมือกับเรื่องแบบนี้
ตัวเขาเองเขาย่อมรู้ดีที่สุด
"เช่นนั้นข้าคงได้แค่เพียงหนทางนี้"
หลังจากขบคิดอยู่ครู่หนึ่งในที่สุดหลิงเทียนก็ตัดสินใจได้
ในตลาดเมืองออโรร่ามีหลายร้านค้าโอสถที่มียารักษาอยู่ในรูปแบบของโอสถน้ำ แต่ทว่ากลับไม่มีร้านไหนเลยที่มีโอสถที่ช่วยเหลือการบ่มเพาะ ที่เป็นโอสถน้ำ
อย่างไรก็ตามผู้หลอมโอสถส่วนมากก็ไม่ค่อยมีสูตรยาหลอมโอสถน้ำกันมากนัก
ส่วนโอสถรักษาโรคทั่วไป แบบน้ำนั้นพบเห็นได้มาก เพราะโอสถแบบน้ำจะเห็นผลไวกว่าโอสถแบบเม็ด
ต้วนหลิงเทียนนำเค่อเอ๋อมายังร้านค้าโอสถที่เขาได้ซื้อโลหิตหลิงซี่
"นายท่านที่เคารพไม่ทราบว่าวันนี้ต้องการสิ่งใดหรือขอรับ?" ผู้ดูแลรีบเข้ามาต้อนรับหลิงเทียนด้วยใบหน้ากระตือรือร้น
จะไม่ให้เขากระตือรือร้นได้อย่างไร เด็กหนุ่มตรงหน้านี้ เพียงเวลาเดือนกว่าก็ซื้อโลหิตหลิงซี่ไปแล้วกว่า 13 ชั่ง นั่นมันเป็นเงินมหาศาลทีเดียว
หากคิดง่ายๆ แค่เพียงกำไรปันส่วนที่เขาได้รับจากการขายโลหิตหลิงซี่ให้หลิงเทียนนั้นก็มีมากกว่า 20,000 เหรียญเงินแล้ว
"ผู้ดูแลวันนี้ข้าไม่ได้มาซื้อ อะไร เพียงแต่ว่าข้านำโอสถเสริมการบ่มเพาะ รูปแบบน้ำมาเสนอขาย"
ต้วนหลิงเทียนบอกถึงจุดประสงค์ในการมาของเขาวันนี้
เขาวางแผนที่จะนำโอสถน้ำบ่มเพาะร่างกาย 6 กระบวนที่เขา สร้างได้ออกมาขาย
ถึงแม้ว่า โอสถน้ำบ่มเพาะร่างกาย 6 กระบวนจะด้อยกว่า โอสถน้ำบ่มเพาะร่างกาย 7 กระบวน ที่ครอบครัวของหลิงเทียนใช้กันอยู่เป็นประจำ อีกทั้ง ยังมีประสิทธิ์ภาพต่อหน่วยเพียง 10% ของโอสถบ่มเพาะร่างกายแบบเม็ดก็ตาม แต่ทว่าเวลาที่ใช้ในการดูดซับนั้นต่างกันเป็นเท่าตัว!
ผู้บ่มเพาะในระดับการบ่มเพาะร่างกายโดยทั่วไปนั้น กว่าจะดูดซับโอสถบ่มเพาะร่างกายชนิดเม็ดโดยใช้เม็ดยาเพลิงอัสนีช่วยแล้วนั้น ต้องใช้เวลาถึง 10 วันเลยทีเดียว
แต่หากใช้โอสถน้ำบ่มเพาะร่างกาย 6 กระบวนร่วมกับเม็ดยาเพลิงอัสนีนั้น จะใช้เวลาเพียงแค่ครึ่งวันเท่านั้นในการดูดซับ
กล่าวให้ชัดแจ้งก็คือ หากเปรียบเทียบกันแล้วการใช้โอสถน้ำบ่มเพาะร่างกาย 6 กระบวนนั้น จะมีความเร็วที่เหนือกว่า การใช้เม็ดยาบ่มเพาะ ถึงเท่าตัวเลยทีเดียว
"นายท่าน ... ท่านไม่ได้ล้อข้าเล่นใช่หรือไม่?"
หลังจากที่เขาได้ฟังผลลัพธ์ของโอสถน้ำบ่มเพาะร่างกาย 6 กระบวนเขาถึงกับตะลึง
สำหรับเขานี่มันเรื่องน่าเหลือเชื่อเกิน
หากมันเป็นดังคำกล่าวเช่นนี้จริงๆ แล้วอย่างนี้โอสถน้ำบ่มเพาะร่างกาย 6 กระบวน จะไม่เข้ามาแทนที่ตลาดของโอสถบ่มเพาะร่างกายชนิดเม็ดหรอกเหรอ หากขายในราคาที่เท่ากัน?
"หากท่านผู้ดูแลไม่สนใจการค้านี้ ข้าไปติดต่อร้านอื่นก็ได้"
ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกมาพร้อมยิ้มบางๆ ท่าทางเขาราวกับจะพูดว่า "ข้าไม่ได้บังคับท่านนะ"
ผู้ดูแลลังเลอยู่เล็กน้อยก่อนที่จะมองไปที่เครื่องหมายตระกูลลี่บนหน้าอกของอีกฝ่าย เขากัดฟันกล่าวออกมา "นายท่าน เช่นนั้นข้าขอรับไว้จำหน่ายสัก 10 ชุดก่อน ดีหรือไม่? "
"ตกลง"
หลิงเทียนพยักหน้ารับก่อนที่จะยื่นโอสถไปให้ผู้ดูแลจนครบจำนวน
"นายท่าน ต้องการขายราคาชุดละเท่าไรหรือขอรับ?"
ผู้ดูแลถามออกมา
"ยาโอสถบ่มเพาะร่างกายชนิดเม็ด ราคา 100 เหรียญเงินใช่หรือไม่? เช่นนั้นโอสถน้ำบ่มเพาะร่างกาย 6 กระบวนนี้ ให้จัดขายชุดละ 110 เหรียญเงินแล้วกัน แต่ละชุดที่ขายได้ ข้าจะให้ท่าน 10 เหรียญเงิน ตกลงหรือไม่? "
ผู้ดูแลก้มหน้าลงเล็กน้อย
ถึงยังไงหากวัดกันที่ ผลลัพธ์ ต่อ 1 หน่วย โอสถน้ำบ่มเพาะร่างกาย 6 กระบวน ก็มีประสิทธิภาพเทียบเท่าโอสถบ่มเพาะร่างกายแบบเม็ด เพียง 10% เท่านั้น
แม้กระทั่งเค่อเอ๋อเองก็ตกตะลึง นางรู้ดีว่ามูลค่าวัตถุดิบที่จำเป็นในการใช้สร้างโอสถน้ำบ่มเพาะร่างกาย 6 กระบวนคืออะไรบ้าง
วัตถุดิบที่ใช้ในการสร้างโอสถน้ำบ่มเพาะร่างกาย 6 กระบวน 1 ชุดนั้นมีราคาไม่ถึง 1 เหรียญเงินด้วยซ้ำ
ผลกำไรมากมายมหาศาล!
"ผู้ดูแล ในการขายโอสถน้ำบ่มเพาะร่างกาย 6 กระบวนนี้ ข้ามีข้อแม้เพียงข้อเดียวเท่านั้น คือท่านห้ามให้ใครรู้เด็ดขาดว่า ข้าเป็นผู้ขายโอสถตัวนี้"
หลังจากกล่าวธุระกับผู้ดูแลจนหมดสิ้น เค่อเอ๋อและหลิงเทียนก็จากมา
"โอสถน้ำบ่มเพาะร่างกาย 10 ชุดยังมีค่าเท่ากับ โอสถบ่มเพาะร่างกายแบบเม็ดเพียงแค่เม็ดเดียว นั่นหมายความว่า ราคามันต่างกัน ถึง 11เท่า นั่นคือ ต้องเสียเหรียญเงินซื้อโอสถน้ำบ่มเพาะร่างกาย 6 กระบวนถึง 1,100 เหรียญเงิน เพื่อได้ผลลัพธ์เดียวกัน ”
ผู้ดูแลได้แต่มองตามหลังเด็กสองคนที่จากไปไกลแล้วด้วยสายตาซับซ้อน
หลังจากที่ออกมาจากร้านค้าโอสถแล้ว หลิงเทียนและเค่อเอ๋อไม่ได้เดินทางกลับตระกูลลี่
แต่พวกเขากลับไปซื้อม้า 2 ตัวและเดินทางออกนอกเมืองเสียอย่างงั้น
จุดหมายปลายทางของทั้งคู่คือ ป่าหมอกมรณะ!
ทั้งคู่ควบม้าออกไปทางประตูทิศเหนือ
ในระหว่างทางเด็กสาวกล่าวถามขึ้นมาว่า "นายน้อย ท่านตั้งราคาโอสถน้ำบ่มเพาะร่างกาย 6 กระบวนแพงถึงเพียงนี้ จะมีผู้ใดซื้อมันไปใช้หรือเจ้าคะ? "
"เค่อเอ๋อ เช่นนั้นข้าขอถามเจ้า หากเจ้ามีเงินถึง 10,000 เหรียญเงิน เจ้าจะเลือกซื้อ โอสถน้ำบ่มเพาะร่างกาย 6 กระบวน หรือ โอสถบ่มเพาะร่างกายแบบเม็ด?"
หลิงเทียนไม่ได้ตอบนางกลับกันมันเลือกที่จะถามออกมาแทน
"โอสถน้ำบ่มเพาะร่างกาย 6 กระบวนเจ้าค่ะ!"
เด็กสาวตอบทันทีโดยไม่จำเป็นต้องไตร่ตรอง
แม้ว่าราคาของโอสถน้ำบ่มเพาะร่างกาย 6 กระบวนจะแพงกว่า เม็ดยาบ่มเพาะร่างกายถึง 10 เท่า แต่ทว่าหากเทียบเวลาดูดซับกันอย่างละเอียดแล้วจะพบว่า โอสถน้ำนั้นกลับใช้เวลาดูดซับลดลงถึง 2 เท่า
นั่นหมายความว่า ความเร็วในการเพาะปลูกของผู้ที่ใช้โอสถน้ำบ่มเพาะร่างกาย 6 กระบวนนั้น จะเร็วกว่าผู้ที่ใช้เม็ดยาบ่มเพาะร่างกาย ถึง 2 เท่านั่นเอง
ในที่สุดเด็กสาวก็เข้าใจ
แต่คำถามในใจของนางก็ยังคงอยู่
"นายน้อยแต่ราคาที่ท่านตั้งมันก็นับว่าสูงอย่างมาก ข้ากลัวว่าผู้ที่สามารถซื้อได้จะมีไม่มากนะเจ้าคะ "เด็กสาวยังคงกล่าวถามออกมา
"ข้าก็ย่อมรู้"
หลิงเทียนพยักหน้า
"เอ๋?"
นั่นทำให้เด็กสาวเริ่มสับสน
"เค่อเอ๋อเจ้าลองคิดดูนะ หากข้าตั้งราคาของมันให้ถูกหรือเทียบเท่ากับเม็ดยาบ่มเพาะร่างกาย เจ้ายังคิดว่าจะมีผู้ใดไปซื้อเม็ดยาบ่มเพาะร่างกายอยู่อีกหรือไม่? หากเป็นเช่นนั้นรับรองได้เลยว่าผลกระทบจะทำให้เกิดการปั่นป่วนไปทั้งตลาด "
"โอสถน้ำบ่มเพาะร่างกายของข้านั้น เหมาะแก่ผู้ที่เร่งรีบและไม่อยากเสียเวลา กล่าวให้ชัดคือมันเหมาะสำหรับผู้ที่ร่ำรวยเท่านั้น... ข้าจึงตั้งราคาแพงๆเพื่อหวังลูกค้าระดับสูงเช่นนั้น สำหรับผู้ที่ไม่มีทุนทรัพย์พวกเขาก็ยังสามารถเลือกใช้ เม็ดยาบ่มเพาะร่างกายแบบเดิมได้" หลิงเทียนค่อยๆกล่าวออกมา
"นายน้อยท่านฉลาดยิ่ง"
ตอนนี้เด็กสาวเข้าใจแจ่มแจ้งแล้ว
"เค่อเอ๋อเมื่อเราเข้าเขตป่าหมอกมรณะ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเจ้าห้ามแยกออกไปจนคลาดสายตาข้าเด็ดขาด" ต้วน หลิงเทียนกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่จริงจังอย่างมาก
"เจ้าค่ะ"
เด็กสาวรีบพยักหน้า
ม้าของทั้งคู่ควบตะบึงไปเรื่อยๆ 3 ชั่วโมงต่อมาหลิงเทียนก็เห็นอาณาเขตป่าหมอกมรณะอยู่ด้านหน้า
ป่าหมอกมรณะ จัดเป็นป่าดิบชื้นที่อยู่ทางตอนเหนือของเมืองออโรร่า มันตั้งอยู่ตรงใจกลางระหว่างเมืองทั้ง 3นั่นเอง ซึ่งเมืองออโรร่าก็เป็นหนึ่งใน 3 เมืองนั้น
ป่าแห่งนี้ปกติแล้วก็เต็มไปด้วยผู้ฝึกยุทธ์ทั้ง 3 เมืองที่ต่างเข้าไปล่าสัตว์อสูรและค้นหาสมุนไพรต่างๆ
ในรอบนอกของป่าหมอกมรณะนั้น จะมีสัตว์อสูรเป็นผู้ปกครองพื้นที่บางส่วน ยังมีสัตว์ป่าธรรมดาปะปนอยู่มาก
แต่ทว่าในเขตป่าชั้นในนั้น จะพบเจอเพียงแต่สัตว์อสูรเท่านั้น จะไม่มีสัตว์ป่าธรรมดาแม้แต่ตัวเดียว
สัตว์อสูรนั้นแตกต่างจากสัตว์ป่าอย่างมาก ด้วยเหตุผลลึกลับบางอย่างพวกมันได้กลายร่างกลายไปเป็นสัตว์อสูรที่มีความแข็งแกร่งเหนือล้ำกว่าสัตว์ป่าธรรมดา อีกทั้งพวกมันยังสามารถพัฒนาพลังได้อีกด้วย
สัตว์อสูรที่อ่อนแอ นั้นก็มีระดับเทียบเท่ากับ ผู้ฝึกยุทธ์ระดับก่อกำเนิดแล้ว สัตว์อสูรที่แข็งแกร่งนั่นย่อมเทียบได้กับผู้ฝึกยุทธ์ระดับกำเนิดแก่นแท้ขึ้นไป
ผู้ฝึกฝนฝนระดับการบ่มเพาะร่างกายนั้น สามารถอยู่ได้เพียงรอบนอกเท่านั้น และอาจจะสามารถสู้กับสัตว์อสูรที่อ่อนแอมากๆได้บางตัว หรือไม่ก็สัตว์ป่าธรรมดาเท่านั้น
หลิงเทียน มี 2 เป้าหมายในการมายังป่าหมอกมรณะแห่งนี้
หนึ่งคือเพื่อเงิน!
สองเพื่อขัดเกลาเค่อเอ๋อ!
ในป่าหมอกมรณะนั้น สัตว์ป่าที่แข็งแกร่งจะมีขนและชิ้นส่วนของร่างกายที่มีราคาค่อนข้างสูง
ตัวอย่างเช่น หากล่า แรดตัวผู้
หนังที่หนาของมันรวมถึงกับขนบางส่วนของมันแข็งแกร่งมาก สามารถนำมาทำเป็นชุดเกราะได้
ยิ่งกว่านั้น อัณฑะของแรด ยังเป็นยาชูกำลังชั้นเยี่ยมสำหรับท่านชาย ซึ่งร้านโอสถนั้นรับมันในราคาค่อนข้างสูง
แค่ 2 ชิ้นนี้มูลค่าก็มีราวๆ 300 เหรียญเงินแล้ว
และที่สำคัญ แรดตัวเต็มวัย ไม่ใช่สัตว์ป่าที่มีราคามากที่สุดในเขตนอกของป่าหมอกมรณะแห่งนี้...
ชนิดของสัตว์ป่าที่หลิงเทียนต้องการล่าเป็นพิเศษคือ เสือดาว สุนัขจิ้งจอก และก็ หมาป่า หากเขาล่าสัตว์จำพวกนี้รายได้จากการล่ามันจะค่อนข้างสูง อีกทั้งยังเป็นการฝึกฝนเค่อเอ๋ออย่างที่เขาต้องการอีกด้วย
ถึงแม้ว่าเค่อเอ๋อจะมีระดับการบ่มเพาะร่างกายถึงขั้นที่ 8 และติดตามหลิงเทียนไปต่อสู้หลายครั้งแล้ว แต่ทว่าตัวนางเองนั้นกลับไม่เคยมีประสบการณ์ต่อสู้เป็นตายเลยสักครั้ง
สำหรับหลิงเทียนนั้น นักรบที่ดีและผู้เข้มแข็งต้องผ่านการเคี่ยวกรำจากศึกที่แลกมาด้วยเลือดเนื้อเท่านั้น
เช่นเดียวกับเขาที่เคยเป็นถึง ผู้เชี่ยวชาญการสังหารและการใช้อาวุธทุกชนิดของโลก!
ผู้เชี่ยวชาญในโลกเก่าที่เขารู้จักนั้นมีไม่กี่คน แต่ทว่าทุกคนนั้นล้วนต้องเดินผ่านถนนโลหิตและภูเขาที่เต็มไปด้วยโครงกระดูกและซากศพของเหยื่อจำนวนนับไม่ถ้วนทั้งสิ้น
ถึงแม้ว่าความแข็งแกร่งของคนพวกนั้นอาจจะต่ำกว่าเค่อเอ๋อ แต่หากให้สู้กันถึงตายแล้วล่ะก็ เกรงว่าคนที่ตายจะไม่ใช่พวกเขา
เมื่อหลิงเทียนมายังโลกนี้ นอกจากแม่ที่ใกล้ชิดกับเขามากที่สุดแล้วก็มีเค่อเอ๋ออีกคน
เขาหวังว่าเค่อเอ๋อจะแข็งแกร่งพอที่จะปกป้องตัวเองได้
เพราะเขาเองไม่สามารถอยู่เคียงข้างเพื่อปกป้องนางได้ตลอดเวลา
หลังจากที่ทำการผูกม้าไว้กับต้นไม้นอกเขตป่าหมอกมรณะแล้ว หลิงเทียนก็พาเค่อเอ๋อเข้าไปในป่าหมอกมรณะชั้นนอกทันที
วิชาท่าร่าง วิญญาณอสรพิษเคลื่อนกาย!
หลิงเทียนวิ่งนำหน้าไป
วิชาท่าร่าง ย่างก้าวธารารินไหล!
เด็กสาวพุ่งตามหลังไปติดๆ
หลังจากฝึกฝนวิชาท่าร่างเป็นเวลาหนึ่งเดือน เด็กสาวก็สามารถฝึกฝนวิชาท่าร่างธารารินไหลจนมีความสำเร็จในขั้นตอนพื้นฐาน และอีกไม่นานก็จะสำเร็จขั้นตอนเริ่มต้นแล้ว
หลิงเทียนและเค่อเอ๋อพบกับเหยื่อที่ต้องการอย่างรวดเร็ว
หมาป่าตัวเต็มวัย..และทีสำคัญ
มันมีนับสิบๆตัว...
ความแข็งแกร่งของหมาป่าโตเต็มวัยนี้จะเทียบเท่ากับ ผู้ฝึกยุทธ์ระดับการบ่มเพาะร่างกายขั้น ที่ 6
และแน่นอนว่าส่วนที่อันตรายที่สุดของมันคือ คมเขี้ยว
หากผู้ฝึกยุทธ์ระดับการบ่มเพาะร่างกายขั้นที่ 6 ถูกพวกมันขย้ำเข้าที่คอ หรือจุดสำคัญส่วนอื่นของร่างกาย ไม่ว่ามันผู้นั้นจะมีวิชาป้องกันล้ำเลิศขนาดไหน ก็คงไม่อาจปฏิเสธเคียวมัจจุราชให้นำพาไปได้
รีวิวของคุณ
คุณจะให้ดาวนิยายเรื่องนี้หรือไม่