px

เรื่อง : เกมสังหารวันอวสานโลก 末世虐杀游戏最新章节
ตอนที่ 1 เข้าร่าง


ตอนที่ 1 เข้าร่าง

 

เมืองม่อโจวเป็นเมืองเล็กๆทางใต้ของสหพันธรัฐโนอาห์ ตั้งอยู่บนถนนสายหลักของการคมนาคม เศรษฐกิจกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว ดึงดูดชาวต่างชาติหลั่งไหลเข้ามาจำนวนมาก มีผู้คนดีเลวปะปนรวมกันมากมายที่นี่ หนุ่มสาวจำนวนนับไม่ถ้วนมาพร้อมกับความฝัน อยากที่จะทำงานในเมืองที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวาแห่งนี้

 

หนุ่มสาวที่อยู่ที่นี่เหมือนกันหมด อาศัยอยู่ในตึกราคาถูกที่ยังสร้างไม่เสร็จ ทุกวันต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำเพื่อไล่ตามความฝันตัวเอง

 

ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงตรง ภายในย่านที่ดูซอมซ่อ เด็กหนุ่มคนหนึ่งนั่งขมวดคิ้วอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เก่าๆ

 

เด็กหนุ่มอายุประมาณ 20 ปี ส่วนสูง 180 ซม. รูปร่างหน้าตาธรรมดา จำพวกที่เดินเข้าไปภายในฝูงชนก็ไม่ได้เป็นจุดสนใจอะไร บนใบหน้าขาวซีดของเขาถูกบดบังด้วยแว่นตาหนาเตอะ ดูหมดอาลัยตายอยาก

 

 “เข้ามาในร่างนี้แล้วจริงๆเหรอเนี่ย?”

เด็กหนุ่มคนนี้แม้ว่าเสื้อผ้าจะดูยุ่งเหยิง ภายในห้องรกกระจัดกระจายไปด้วยกระดาษทิชชู่และตุ๊กตาอนิเมะ แต่เขากลับมีบุคลิกที่ตรงข้ามกับสภาพแวดล้อมโดยรอบ ราวกับต้นสนบนภูเขา

 

 “สหพันธรัฐโนอาห์ ไม่ว่าวัฒนธรรมทางเศรษฐกิจนั้นจะมีความคล้ายคลึงกับประเทศจีนในอดีต แต่ความแข็งแกร่งทางทหาร อาณาเขตและอิทธิพลทางการเมืองนั้นก็ไม่เป็นสองรองใครในโลกนี้ “เด็กหนุ่มยิ้มและมองที่มืออันผอมบางของตัวเอง” “แต่ว่าร่างนี้มันอ่อนแอเกินไป”

 

เด็กหนุ่มคนนี้ชื่อหลี่ต้า ที่น่าบังเอิญก็คือ เจ้าของร่างนี้ก็ชื่อหลี่ต้าเหมือนกัน แม้ว่าทั้งคู่จะมีชื่อและเพศเหมือนกัน แต่ว่าความแตกต่างนั้นไม่น้อยเลย หลี่ต้าในอดีตนั้นเคยเป็นสมาชิกของหน่วยรบพิเศษจีนทีม “เขี้ยวหมาป่า” เขาเก่งด้านเครื่องจักรสงครามทุกชนิด และมีความเชี่ยวชาญในการปฏิบัติการพิเศษทางทะเล ทางบกและทางอากาศ แต่ประสบพบกับความเกลียดชัง เขาจึงถูกโดยเพื่อนร่วมทีมของเขาแว้งกัดตอนทำภารกิจและตาย

 

แต่เจ้าของคนเดิมของร่างนี้แปลกประหลาดมาก ไม่มีบ้านไม่มีรถยนต์ไม่มีเงิน ตอนช่วงเรียนมหาวิทยาลัยเป็นเพราะบุคลิกที่อ่อนแอของเขา เขามักถูกเรียกเก็บเงินค่าคุ้มครอง ถึงขนาดมีสามคนต่อวันมาหาเขาเพื่อที่จะไถเงิน ช่างเป็นภาพที่น่าขัน

 

ในสายตาคนอื่นมันอาจจะดูตลก แต่สำหรับคนที่โดนนั้น มันไม่น่าขำเลยสักนิด

 

เมื่อไม่มีเงิน การกินข้าวของหลี่ต้าจึงกลายเป็นปัญหาสำหรับเขา จะไปเอาเงินที่ไหนมาจ่าย ครั้งนึงตอนถูกพวกเด็กกลุ่มหนึ่งมาไถเงิน เขาหมดความอดทนเต็มที จึงแผดเสียงตะโกนออกไปว่า “ไปให้พ้นน!”

 

แต่เรื่องกลับยิ่งแย่กว่าเดิม หวงเหมาเด็กหนุ่มหัวโจกต่อยเข้าไปที่จมูกของเขาหนึ่งหมัด ตามด้วยกลุ่มคนรอบๆมารุมกระทืบอย่างไม่ยั้ง หลี่ต้ากระดูกหักไปหลายส่วน นอนโรงพยาบาลไปครึ่งเดือนกว่าจะได้ออกมา

 

เป็นสิ่งที่น่าพูดถึง แม้ว่าเพื่อนบ้านจะเป็นคนออกค่ายาให้ก็ตาม

 

ตั้งแต่นั้นมา หลี่ต้าก็มักจะถูกพวกคนกลุ่มนี้รุมซ้อมเวลาเจอ และครั้งนี้ เขาก็โดนทำร้ายอีกครั้ง และถูกปล่อยทิ้งไว้หน้าประตูบ้านเช่าเหมือนหมาปางตาย หรือบางทีอาจเป็นเพราะร่างกายของเขามันอ่อนแอเกินไป หรืออาจเป็นเพราะพวกคนกลุ่มนั้นลงไม้ลงมือหนักเกินไป จนทำให้เขาต้องจบชีวิตลง...

 

บางทีพระเจ้าอาจจะอยากให้โอกาสหลี่ต้าอีกครั้ง เขาได้กลับเข้าร่าง  หลี่ต้าผ่านไปในช่วงเวลาของการระเบิดเขาเห็นเปลวไฟที่กำลังจะมาถึงในดวงตาของเขาอย่างหวุดหวิด มองเห็นร่างกายที่กำลังถูกฉีกเป็นชิ้นๆ ทันใดนั้นภาพตรงหน้าก็มืดลง พอตื่นขึ้น เขาก็มานอนอยู่หน้าบ้านเช่าหลังนี้แล้ว

หลี่ต้ารับช่วงต่อทุกอย่างจากเจ้าของร่างเดิมคนนั้น ทั้งชื่อของเขา ความทรงจำของเขาและชีวิตของเขา เขาทำเป็นมองไม่เห็นกับสายตาที่ดูกถูกเหยียดหยามของคนที่เดินผ่านไปผ่านมา ปัดฝุ่นบนตัวและเดินเข้าไปหาข้อมูลในห้อง

 

ในฐานะสมาชิกหน่วยรบพิเศษ หลี่ต้ามีความตั้งใจแน่วแน่ เขาเริ่มจากตัดความเป็นไปได้ของพวกภาพหลอนออกไป และไม่ได้ตื่นตกใจเป็นกระต่ายตื่นตูนเหมือนพวกตัวละครเอกในเรื่อง ยิ่งไปกว่านั้นกลับสงสัยด้วยซ้ำว่านี่เป็นการแอบถ่ายทำอยู่หรือเปล่า แต่หลังจากดูข้อมูลแล้ว เขาก็ยอมรับความจริงในสิ่งนี้

 

 “พูดง่ายๆก็คือ ในตอนนี้ฉันเป็นลูกกำพร้าพ่อแม่ที่เรียบจบจากมหาวิทยาลัยแล้ว ตอนนี้อยู่ในเมืองเล็กๆทางตอนใต้ สิ้นเนื้อประดาตัว ไม่มีที่พึ่ง มีเพื่อนที่สนิทเพียงคนเดียวคือถังหยงข่าย ที่ตอนนี้ก็จนไม่แพ้กัน และก็ไม่น่าจะสามารถให้ความช่วยเหลืออะไรฉันได้

 

 “ถ้าอย่างงั้น ชีวิตของนายก็ส่งต่อให้ฉันเถอะ!”

 

หลี่ต้านั้นดูโดดเดี่ยวมาก

 

ชีวิตของเขาก่อนหน้านี้ก็เป็นเด็กกำพร้าคนนึงที่ไม่มีที่พึ่งพิง แม้แต่คนที่ให้กำเนิดเขาก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร ตอนที่อยู่ในหน่วยพิเศษ เป็นเพราะนิสัยของเขา จึงไม่มีเพื่อนเลยสักคน ภายใจจิตใจของเขานั้นปรารถนาถึง ครอบครัว มิตรภาพและความรัก

และทุกอย่างภายในโลกต่อจากนี้ เขาต้องสัมผัสกับมันเอง

 

หลี่ต้าเอนกายบนเก้าอี้คอมพิวเตอร์ วางมือไปไว้ข้างหลังศีรษะ พึมพำกับตัวเอง “มันคงสายไปสินะที่จะไปเข้ากรมในวัยนี้ แต่ด้วยความสามารถของฉันถ้าจะไปเป็นบอดี้การ์ดหรือนักมวยให้พอเลี้ยงชีพได้มันก็คงไม่ยากอะไร”

 

เขามองไปที่มือของเขาอีกครั้งแล้วส่ายหัว : “มันอ่อนแอเกินไปจริงๆ ถ้าใช้ความแข็งแกร่งของร่างกายนี้ในการยิงปืนคงลำบาก พลังแค่นี้คงไม่มีทางได้ปล่อยออกมา”

 

แน่นอนว่าแม้เจ้าของเดิมของร่างนี้จะถือปืน ก็คงจะหล่นไปใต้แขน ความรู้สึกของหลี่ต้าในเวลานี้เหมือนกับเดินไปแค่สองก้าวก็หอบ อ่อนแอไปทั่วทั้งร่างกาย แม้แต่ความสามารถในการมองก็สั้นถึงห้าร้อย สภาพร่างกายแบบนี้ ก็ไม่แปลกที่จะโดนกระทืบจนตาย

 

หลังจากดูโพสต์ที่ปักหมุดอยู่ด้านบนไปสองสามโพสต์ ก็ไม่มีอะไรนอกจากดารารถไฟชนกัน หัวหน้าชนเผ่าแอฟริกา สมุนไพรลึกลับที่ไม่มีคุณค่าสารอาหารอะไร หลี่ต้ากำลังจะปิดคอมพิวเตอร์ แต่แล้วหางตาของเขาก็ไปสะดุดกับโพสต์ล่าสุด

“โรคไข้หวัดใหญ่ระบาดหนักไปทั่วโลก มากกว่าหนึ่งพันล้านคนมีอาการเป็นไข้เล็กน้อยและไอ แม้ว่าผู้เชี่ยวชาญจะวินิจฉัยว่าไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่ทุกคนก็ยังต้องทำให้ร่างกายอบอุ่นเสมอ เพื่อต้านทานต่อโรค”

หลี่ต้าปิดคอมลง สำหรับเขาแล้วแม้แต่หวัดเขาก็ไม่ได้เป็น ในเมื่อไม่อันตรายถึงชีวิต มันก็เป็นเรื่องที่ถ้าเป็นขึ้นมาก็แค่กินยา
 

หลี่ต้าคลำดูกระเป๋า เหลืออยู่ยี่สิบหยวนสุดท้าย เขาหัวเราะเยาะตัวเอง ตอนนี้เอาให้ท้องอิ่มก่อนค่อยว่ากันละกัน

แต่ว่าแค่ยี่สิบหยวน มันไม่น่าพอที่จะกินหม่าล่า ตอนนี้คงกินได้แค่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
 

หลี่ต้าถือตะกร้าซื้อของออกจากบ้าน แม้ว่าเขาจะไม่เคยเห็นเมืองนี้มาก่อน แต่อาศัยความจำของเจ้าของร่างเดิม เขาเดินออกจากชุมชนอย่างคุ้นเคยและไปยังซุปเปอร์มาร์เก็ตฝั่งตรงข้าม
 

ซุปเปอร์มาร์เก็ตเฟิงฮว๋า

 

เถ้าแก่ของซุปเปอร์มาร์เก็ตนี้แซ่หวัง เป็นชายวัยกลางคนอายุประมาณสี่สิบกว่าๆ แต่ตามความทรงจำของเจ้าของร่างเดิม เมื่อก่อนเขาเคยมาแก้ไขปัญหาชีวิตที่นี่อยู่บ่อยๆ เถ้าแก่เป็นคนไม่เลว ช่วงที่เขาการเงินขัดสนก็มักที่จะช่วยเหลือ
 

หลี่ต้าเดินเข้ามา ทางเข้าประตูคือเคาน์เตอร์ชำระเงิน ด้านหลังเคาน์เตอร์ชำระเงินเป็นชายวัยกลางคนที่มีร่างกายแข็งแรง ผู้ชายคนนี้มีความสูงสองเมตร แข็งแรงกำยำเหมือนกับหมีขั้วโลกเหนือ บนแขนของเขามีรอยสักอยู่สองสามจุด
 

หลี่ต้ามองแค่ครั้งเดียว ก็รู้สึกถึงความเป็นทหารออกมาจากตัวของชายคนนี้
 

เมื่อเห็นหลี่ต้าเดินเข้ามา ชายวัยกลางคนที่กำลังนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่หลังเคาน์เตอร์ชำระเงินก็เงยหน้าขึ้นมามองเขาและยิ้มออกมาทันที

 

 “ นายนั่นเองหลี่ต้า เป็นไง? เสบียงหมดบ้านแล้วล่ะสิ? คราวก่อนค้างค่าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปฉันอยู่หนึ่งถ้วย เมื่อไหร่จะคืน?”
 

หลี่ต้าลูบจมูกอย่างจนปัญญา ฉันพึ่งจะเข้าร่างนี้มาแท้ๆ ยังจะต้องมารับหน้าเรื่องนี้แทนอีก
 

“เอ่อ ลุงหวัง ผม...”
 

“เอาล่ะ นายไม่ต้องพูดแล้ว!” ชายวัยกลางคนส่ายหัวอย่างจำใจ “ นายก็ยังหนุ่มยังแน่น ควรจะหางานทำซักอย่าง วันๆหมกอยู่แต่ในห้องจะไปมีอนาคตอะไร”


เขาเอื้อมมือออกไปและหยิบบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปสองถ้วยออกมาจากชั้นวางด้านหลังของเขา : “ เอ้า  นายเอาไปกินก่อนเถอะ ไปหางานทำซะ มีเงินเมื่อไหร่ก็ค่อยมาใช้เมื่อนั้น”

ยังไม่ทันรอให้หลี่ต้าพูด ทันใดนั้น ประตูกระจกของซุปเปอร์มาร์เก็ตก็เปิดออก มีกลุ่มวัยรุ่นจำนวนหนึ่งเดินเข้ามาด้วยเสียงหัวเราะ

 

ตาของหลี่ต้าเหลือบไปมอง ดวงตาที่ซ่อนอยู่ภายใต้กรอบแว่นหนาๆแวววาวไปด้วยแสงอันเย็นเฉียบที่น่าสะพรึงกลัว
 

นึกไม่ถึงเลยว่าจะเป็นพวกเขา!

 

ไม่ผิดแน่ เหมือนที่เค้าว่ากันว่าคนเรามักจะได้เจอกับคนที่ไม่อยากเจอ กลุ่มเด็กวัยรุ่นตรงหน้าเขา ก็คือพวกคนที่รุมกระทืบเจ้าของร่างเดิมนี้จนตาย ถึงแม้ว่าหลี่ต้าจะไม่สนใจพวกเขา แต่ก็ยังมีความโกรธอยู่ในจิตใจของเขา
 

แม้ร่างจะตายไปแล้ว แต่ความแค้นที่ยึดติดมันยังไม่หายไป หลี่ต้าในเวลานี้เกิดแรงกระตุ้นขึ้นมา อยากที่จะเข้าไปสั่งสอนไอ้ระยำพวกนั้น

แต่อย่างไรก็ตามท้ายที่สุดแล้วหลี่เหว่ยเป็นทหารพิเศษที่ต่อสู้กับสงครามร้อยครั้ง แรงกระตุ้นนี้จึงถูกเขาสกัดไว้อย่างรวดเร็ว เขาจึงทำแค่มองวัยรุ่นพวกนั้น แล้วก็ก้มหัวหลบไป
 

“เฮ้ย! นี่มันไม่ใช่หลี่ต้าน้อยของพวกเราเหรอวะ!”

หลี่ต้ายืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์ชำระเงิน พวกวัยรุ่นเดินเข้าประตูมาจึงเห็นเขาทันที หวงเหมาหัวโจกคนนั้นเดินยิ้มพร้อมกับวางแขนของเขาบนไหล่หลี่ต้า “ไง กระทืบเบาไปสินะ ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงก็ลุกขึ้นมาได้”
 

หลี่ต้าขมวดคิ้ว ผลักแขนของหวงเหมาออกพร้อมพูดอย่างเย็นชา “ออกไป!”

เขาไม่ได้จะยั่วยุหรือกลัวพวกนั้น ถึงแม่ว่าร่างกายจะอ่อนแอมากแค่ไหน แต่เขาก็มีความมั่นใจที่จะจัดการพวกนี้ให้ฟันร่วงได้

 

เสียงเย็นชาของหลี่ต้า ปลุกให้เลือดของของความเป็นหน่วยรบพิเศษลุกโชนขึ้น  หัวโจกหวงเหมารู้สึกเย็นวาบไปทั้งตัวพร้อมถอยกรูไปหลายก้าว
 

“ไอ้พวกสวะ!”


ทันใดนั้นหวงเหมารู้สึกเหมือนโดนเหยียดหยาม ตามมาด้วยความโกรธ เด็กชายร่างผอมที่เพิ่งโดนเขาทุกตีเหมือนหมาเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน ตอนนี้เขากลับกลัวมันแทน!
 

“กล้ามากนะที่มาด่าฉัน”
 

เด็กหนุ่มหวงเหมาจับคอเสื้อของหลี่ต้าไว้แน่น : “ก่อนหน้านี้ฉันอุตส่าห์ตั้งใจปล่อยแกไป แต่ตอนนี้ฉันจะอัดแกให้พิการ!”
 

“อ๋อเหรอ? งั้นวันนี้มีกี่คนที่จะไปกับฉันล่ะ?”
 

หลี่ต้ามองที่หวงเหมาอย่างหน้าตาเฉย และหันไปมองดูคนไม่กี่คนข้างหลังเขาที่กอดอกยิ้มเยาะ “ที่นี่มันร้านของลุงหวัง อย่าทำลายร้านเลย พวกเราไปหาที่อื่นดีกว่า ”


ชายวัยกลางคนที่ถูกเรียกว่าลุงหวังทนดูต่อไปไม่ไหว เขาทุบโต๊ะลุกขึ้นตะโกน“ไอ้พวกลูกหมา พวกแกไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีหรือไง ฉันบอกแกก่อน ถ้าวันนี้แกทำอะไรหลี่ต้าแม้แต่นิดเดียว อย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจ!”
 

เด็กหนุ่มหวงเหมามองไปที่ลุงหวังอย่างเกรงกลัว แต่ดูเหมือนจะเป็นความกลัวซะมากกว่า แต่ปากก็ยังตะโกนออกไป“ผมบอกไว้ก่อนนะลุงหวัง เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับลุง ยังไงซะวันนี้ใครก็ปกป้องหลี่ต้าไม่ได้”
 

หลี่ต้ามองไปที่ลุงหวังอย่างคาดไม่ถึง  ลุงหวังถึงแม้ว่าจะเข้าวัยกลางคนแล้ว แต่ก็ไม่ได้มีพุงที่เป็นสัญลักษณ์ของการเข้าสู่วัยกลางคนเหมือนกับคนอื่นๆ
 

“ฮ่าฮ่า ลุงหวัง ไม่ต้องเป็นห่วงผม”หลี่ต้ายิ้ม “ผมแค่อยากหาสถานที่พูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้สึกกับพวกพี่ชายเพื่อแก้ไขปัญหา ทุกคนเป็นคนมีอารยธรรม พวกเขาไม่ทำอะไรหรอก”


เมื่อเห็นต่างฝ่ายต่างก็พูดเช่นนั้น ลุงหวังก็ทำอะไรไม่ได้ เขาได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ
 

หลี่ต้าถูกพวกอันธพาลล้อมรอบกันเข้ามาและลากเข้าไปในซอยเล็กๆ ที่นี่เป็นเขตพื้นที่มืดของเมืองที่ล้อมรอบด้วยบ้านเก่าๆ  แม้แต่คนเดินตามถนนยังมองไม่เห็น คงไม่ต้องพูดถึงกล้องวงจรปิด
 

หลี่ต้าพยักหน้า แสดงให้เห็นว่าพอใจกับที่แห่งนี้มาก
 

วัยรุ่น2คนที่ตามหลี่ต้าเดินเข้ามาในซอยมองหน้ากัน และเริ่มลงมือโดยยกเท้าขึ้นและถีบเข้าไปที่หลังของหลี่ต้า
 

นี่คือแผนการต่อสู้ของพวกอันธพาล ต่อให้จะเป็นวีรบุรุษผู้กล้ามาจากไหน แต่ถ้าลงมือก่อนก็ได้เปรียบ เริ่มจากเอาเท้าถีบให้ลงไปนอนที่พื้น หลังจากนั้นมารวมตัวกันรุมกระทืบ ถึงแม้คุณจะรัวหมัดก็รับมือไม่อยู่

แต่ครั้งนี้พวกเขาคิดผิดแล้ว คู่กรณีของหลี่ต้าในอดีตล้วนเป็นพวกพ่อค้ายาเสพติด ก็เคยมาสู้กันในซอยแบบนี้ และซัดพวกเขาไปไม่น้อย
 

หลี่ต้าเหมือนกับมีตาอยู่ข้างหลัง รีบหันตัวหลบ จากนั้นเขาก็หันกลับไปคอล็อคและเท้าของชายหนุ่มลงไป ทิ้งให้ชายหนุ่มร่างสูงกองอยู่ที่พื้น
 

นี่ยังเป็นผลมาจากความปราณีของเขา เทคนิคการต่อสู้ของทหารมุ่งเน้นไปที่การฆ่าเพียงครั้งเดียวและฝีมือการคว้านลูกตาและตัดคอ ถ้าอีกฝ่ายไม่ตายก็อัมพาต
 

“หลี่ต้ามึงง! !”


เมื่อเห็นพวกเดียวกันพ่ายแพ้ หวงเหมาทั้งตกใจและโมโห ที่ตกใจก็คือหลี่ต้าวันนี้ดูแปลกไปมาก แต่ที่โมโหก็คือไอ้ขี้แพ้ที่ปกติเขานั้นดูถูก ในวันนี้ได้จัดการพวกของเขาซะราบคาบ

พวกเขาดึงท่อเหล็กออกมาจากถังขยะด้านหลังสองสามอันและเข้ามาล้อมหลี่ต้าไว้

“อาวุธพร้อมแล้ว แต่ดูเหมือนไม่มีความกลัวเลยหนิ” หลี่ต้ามองไปรอบๆและหัวเราะออกมาเบาๆ “ฉันจำได้แล้วว่าคราวก่อนพวกแกก็มากระทืบฉันที่นี่สินะ”

“หวงเหมา แกน่ะกลัวจนหัวหดแล้วสินะ หยุดแกล้งทำเป็นไม่เป็นอะไรได้แล้ว!”

หวงเหมาพูดอย่างโมโห “วันนี้ต่อให้แกมาคุกเข่าขอร้องต่อหน้าฉัน ฉันก็จะตัดขาของแกทิ้ง!”

 

รีวิวผู้อ่าน