px

เรื่อง : เกมสังหารวันอวสานโลก 末世虐杀游戏最新章节
ตอนที่ 3  สีเลือดยามเย็น


ตอนที่ 3  สีเลือดยามเย็น


ที่หลี่ต้าเคยพูดว่าจะเอาพวกเขามาเป็นตัวทดลอง ไม่ใช่แค่พูดไปลอยๆเท่านั้น  แต่เขาทำมันจริงๆ

วิธีการของเขาทั้งโหดร้ายและนองเลือด เพื่อตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของค่าชีวิตเมื่อโดนทำร้าย เขานำหนึ่งในกลุ่มอันธพาลมาและชกเข้าไปเรื่อยๆจากบาดเจ็บเล็กน้อยจนพิการ ผ่านการดูคู่มือเพื่อสังเกตการเปลี่ยนแปลง

 

ในกรณีที่ได้รับบาดเจ็บ ค่าชีวิตของบุคคลนี้จะตามมาด้วยคุณสมบัติร้อยเปอร์เซ็นต์และเมื่อสถานการณ์การบาดเจ็บรุนแรงมากขึ้นคุณสมบัติโดยรอบก็ลดลงเช่นกัน


“ความจริงแล้วไม่ใช่แค่ข้อมูลทางกายภาพเท่านั้น มันจะทำให้เจ็บปวดและจะลดคุณสมบัติ หากไม่รักษาภายในเวลาก็จะสูญเสียชีวิต มันแค่แสดงให้เห็นถึงสถานะของร่างกายมนุษย์ในรูปแบบของข้อมูล”หลี่ต้าพึมพำกับตัวเอง เอามือลบร่องรอยและชำระล้างเลือดในที่เกิดเหตุ “แต่การรับเอาพลังมาจากคนธรรมดามันไม่ค่อยเห็นผลมากนัก การกลืนกินห้าคนถึงจะได้เพิ่มวิวัฒนาการ 5% พูดง่ายๆก็คือจำเป็นต้องกลืนคน 100 คนถึงจะสามารถไปถึงระดับแรก ”

หลี่ต้าส่ายหัว พูดได้ว่าเป็นเพราะพวกอันธพาลเคยฆ่าหลี่ต้าไว้ในโลกนี้ เขาถึงสามารถกล้าที่จะเป็นมือสังหารได้อย่างไม่ลังเล ถ้าเป็นคนอื่นเขาคงไม่กล้าที่จะกลืนกินเข้าไป

 

ในใจครุ่นคิดไปมาจนเขาทำความสะอาดเสร็จหมด แม้จะไม่สามารถพูดได้ว่าจะไม่มีทางหาร่องรอยไม่เจอ แต่ถ้าเพียงมองแค่ตาเปล่า พวกนักสืบตำรวจที่ประสบการณ์ช่ำชองก็ไม่มีทางรู้ว่านี่เป็นสถานที่เกิดเหตุ


ในฐานะที่เป็นคนสุดท้ายที่ใกล้ชิดหวงเหมามากที่สุด เขาอาจจะถูกตำรวจเรียกไปสอบสวน แต่จากประสบการณ์อบรมหน่วยรบพิเศษที่ผ่านมา อย่าพูดว่ามันเป็นแค่การสอบสวน ต่อให้โดนทรมานก็ไม่มีทางเผยความจริงออกมา

“ว่าตามมุมมองโลก
ต้นแบบการสังหารโหด ไวรัสซอมบี้เป็นองค์ประกอบที่ขาดไม่ได้” หลี่ต้าพูดกับตัวเอง “ ไม่ว่าจะมีไวรัสซอมบี้หรือไม่มีก็ตามการเตรียมการไว้ก่อนย่อมดีที่สุด”
 

คิดไม่ถึงจริงๆว่าพวกอันธพาลจะทิ้งเงินไว้ให้หลายร้อย สิ่งนี้มันช่วยแก้ปัญหาเร่งด่วนของหลี่ต้าได้พอดี เขากำลังคิดไม่ตกว่าจะเอาเงินจากไหนมาคืนลุงหวัง แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าปัญหานั้นจะมีทางออกแล้ว


หลี่ต้าปัดฝุ่นบนเสื้อผ้าและจับรอยพับของมุมเสื้อให้เรียบ ฮัมเพลงเบาๆเดินออกจากซอยไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ท่าทางของหลี่ต้าไม่เหมือนกับฆาตกรที่เพิ่งฆ่าคนมาเลยสักนิด กลับดูเหมือนคนที่เพิ่งกลับมาจากการไปเดทซะมากกว่า

เมื่อเห็นหลี่ต้าเดินกลับเข้ามาในซุปเปอร์อีกครั้ง ลุงหวังก็ประหลาดใจ

“หลี่ต้า! ไอ่คนเลวพวกนั้นไม่ได้ทำอะไรเธอเหรอ?”

“ลุงหวัง ผมบอกแล้วว่าลุงน่ะคิดมากไป” หลี่ต้าถอนหายใจก่อนจะอธิบาย “ที่จริงแล้วหวงเหมามันก็ไม่ใช่คนเลวอะไร พวกเราคุยกันไปพักหนึ่ง มันก็คิดว่าที่ผมพูดก็สมเหตุสมผลและก็จะกลับตัวกลับใจเป็นคนดี ไม่มาสร้างความเดือดร้อนแถวนี้แล้ว ”

“จริงเหรอ?” ลุงหวังถามอย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง “สันดานของไอ
พวกนี้ฉันรู้ดีกว่าใคร มันแก้ไม่ได้หรอก ฉันยังนึกว่าครั้งนี้แกจะโดนกระทืบอีกรอบ
 

“จะเป็นไปได้ยังไงล่ะ!”


หลี่ต้าหัวเราะออกมา “ลุงหวัง เอาน้ำแร่ให้ผมกล่องนึง แล้วก็บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอีกกล่อง รวมยอดกับที่คราวก่อนค้างไว้ด้วย ผมจะจ่ายทีเดียวเลย”

ลุงหวังกลอกตามองบน เดินไปหยิบของพลางบ่นพึมพำไปด้วย

 

หลี่ตั่วจึงอาศัยจังหวะนี้แอบใช้คู่มือกับลุงหวัง

[คู่มือ]
ชื่อ: มนุษย์
สถานะ: ปกติ
ระดับ: 0
ชีวิต: 8
พลังงาน: 1.5
การป้องกัน: 1.4
พละกำลัง : 2
ความเร็ว: 1.5

病毒抗性:1.5
การต้านทานไวรัส: 1.5
ความสามารถพิเศษ: ไม่ทราบ

การประเมินประสิทธิภาพการต่อสู้: 1 ดาว

“เอ๊ะ?”
หลี่ต้าประหลาดใจ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นมนุษย์ที่มีประสิทธิภาพในการต่อสู้


ความสามารถพิเศษของลุงหวังขึ้นว่า "ไม่ทราบ" ซึ่งทำให้เขาเกิดการคาดคะเนเอาเล็กน้อย

“เป็นเพราะไม่มีก็เลยไม่ทราบ หรือว่าพลังสูงจนไม่สามารถดูได้กัน”

อย่างแรกการคาดคะเนว่าพลังลุงหวังสูงจึงถูกตัดไป แม้ว่าลุงหวังคุณสมบัติจะสูงกว่าคนธรรมดา แต่ก็ยังไม่ถือว่าสูงขนาดนั้น หลี่ต้าถามร่างกายของตัวเองว่าคุณสมบัติร่างกายเขาต้องสูงกว่าลุงหวัง และความสามารถพิเศษนั้นคงเหมือนกับการต่อสู้ทางทหาร

 

นอกจากนี้เขายังสังเกตคนอื่นๆในซุปเปอร์มาร์เก็ต จำนวนผู้คนรอบตัวที่ระดับเกินคนธรรมดาก็ไม่ใช่ไม่มี แต่ความสามารถพิเศษก็ยังขึ้นเหมือนกันหมดว่า "ไม่มี" และการประเมินประสิทธิภาพของการต่อสู้ก็ขึ้นเป็นกลุ่มเดียวกันว่า "0 ดาว"


ขณะที่เขากำลังคิดอยู่นั้น ลุงหวังก็หอบน้ำแร่และบะหมี่สำเร็จรูปกลับมา

“หลี่ต้าเอ้ย ของเยอะขนาดนี้ ถ้าเธอถือไม่ไหว ฉันช่วยถือไปส่งที่บ้านก็ได้นะ”

โดนดูถูกเข้าให้แล้ว

หลี่ต้าแอบยิ้ม หลังจากกลืนกินหวงเหมากับพวกไปแล้ว พลังของเขาก็เหนือกว่าคนธรรมดาทั่วไป กับแค่ถือกล่องสองกล่องเขาจัดการได้สบาย

 

“งั้นผมไม่รบกวนลุงแล้ว”


หลี่ต้าหัวเราะ วางเงินสองร้อยหยวนโดยไม่รอเงินทอนจากลุงหวัง เพราะยังไงซะมันก็ไม่ใช่เงินเขาเอง

พอมองหลี่ต้าเดินออกจากประตูไป ทันใดนั้นลุงหวังก็สังเกตเห็นว่ารูปร่างของหลี่ต้านั้นดูกำยำกว่าก่อนออกไปกับพวกหวงเหมา

หลี่ต้าหอบน้ำแร่และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกลับไปยังชุมชนที่เขาอาศัยอยู่อย่างอารมณ์ดี แต่ทันทีที่เขาเข้าไปในตึก เขาก็กระแทกกับหญิงสาวอีกคนที่กำลังเดินออกมาข้างนอก

ทันทีที่ชนก็ทำให้หญิงสาวล้มเซไป ช่อกุหลาบในมือของเธอหล่นกระจัดกระจายไปที่พื้น

 

“โอ้ย! ไม่มีตาหรือไง!”


หลี่ต้าขมวดคิ้วเงยหน้าขึ้นมอง คนคุ้นเคยนี่นา หญิงสาวที่แต่งตัวสะสวยตรงหน้าเขาอาศัยอยู่ชั้นข้างล่าง ปกติผู้หญิงคนนี้มักจะแต่งตัวดูดีตลอด ทันใดนั้นเธอจึงเดินไปหาเศรษฐีวัยกลางคนที่ใส่สร้อยทองเส้นใหญ่ ที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ

“ขอโทษครับ”
 

หลี่ต้าก็ไม่ใช่นักเลงที่อำนาจบาตรใหญ่อะไรขนาดนั้น เมื่อเขาเห็นว่าตัวเองทำช่อดอกไม้ของเธอพัง ก็พร้อมที่จะรับผิดชอบ เขาควักเงินออกมาสองร้อยหยวนและส่งให้เธอ

“แค่ขอโทษก็จบแล้วเหรอ? เธอนี่มันหมาไส้แห้งจริงๆ!”

กุหลาบหนึ่งกำมือแบบนี้ก็หนึ่งร้อยหยวน หลี่ต้าแสดงความจริงใจมามากพอแล้ว แต่ผู้หญิงคนนี้ไม่คิดแม้แต่จะมองเงินในมือ เหมือนกับผู้หญิงปากร้ายที่เดินเข้ามาด่าๆ ยกมือมาจะตบท่าเดียว ทำยังกับหลี่ต้าเป็นแค่หูอะไรอย่างนั้น

 

หลี่ต้ายกมือมาคว้ามือเธอที่กำลังจะตบเข้ามา สีหน้าเริ่มเปลี่ยนเป็นไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัดและพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า : “อย่าคิดว่าเป็นผู้หญิงแล้วผมจะไม่กล้าทำอะไรนะ!”


ขณะที่พูด หลี่ต้าไม่ทันระวังเผลอใส่อารมณ์ออกมา หญิงสาวคนนั้นที่ก่อนหน้าวางท่าใส่เขา ตอนนี้ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ไม่กล้าด่าต่อ จึงไปหลบอยู่หลังชายวัยกลางคน

“ เสี่ย ดูสิเขาทำดอกไม้ที่เสี่ยให้ฉันเละหมดเลย ฮือๆ”

หญิงสาวทำเสียงออดอ้อน
บีบน้ำตาทำเอาเครื่องสำอางบนหน้าไหลไปกองรวมกันหน้าแดงสลับขาวไปหมด หลี่ต้ารู้สึกท้องไส้ปั่นป่วนไปหมดเหมือนจะพะอืดพะอม

หลี่ต้ามองไปที่ชายวัยกลางคนอย่างเยือกเย็น : “ยังไง? คุณยังจะต้องเอาเรื่องแทนเธอไหม?”

ชายวัยกลางคน
สะดุ้งสัมผัสได้ถึงความเย็นยะเยือก เขายิ้มๆแล้วตอบว่า : “ไม่เป็นไร ไม่เอาๆ ไอน้องชาย มันก็แค่เรื่องเข้าใจผิด......
 

หลี่ต้าจึงเดินผ่านไปไม่ได้มองพวกเขาต่อ


“เสี่ย เด็กคนนี้มันจองหองขนาดนี้ ทำไมเสี่ยไม่สั่งสอนมันล่ะ!”

หญิงสาวแต่งหน้าจัดทนไม่ไหว เปิดปากพูดออกมา สีหน้าไม่พอใจ

“แม่งเอ้ย เธออย่ามาหาเรื่องให้ฉัน คนคนนี้น่ะมันเคยฆ่าคนมาก่อน”

ย้อนนึกถึงสายตาอันเยือกเย็นของหลี่ต้า ชายวัยกลางคนก็รู้สึกเสียววาบไปทั้งตัว

“เป็นไปไม่ได้”

 

หญิงสาวแต่งหน้าจัดใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ “ไอ้ขี้แพ้นั่นมันเป็นแค่นักเรียนจนๆที่เพิ่งเรียนจบ วันก่อนยังแอบมาดูฉันอาบน้ำอยู่เลย จะไปมีปัญญามาฆ่าคนได้ยังไง”


ชายวัยกลางคนส่ายหัวไปมา ความรู้สึกแบบนี้เขาเคยเห็นแต่ในทหารพิเศษที่ปลดประจำการแล้วเท่านั้น

ตึกนี้มีทั้งหมดห้าชั้น หลี่ต้าอยู่ชั้นสี่ เมื่อก่อนเค้าขึ้นบันไดแค่ชั้นเดียวก็หอบจะเป็นจะตายแล้ว ตอนนี้ขึ้นสี่ชั้นแถมหอบของในมืออีกสิบกว่าโลก็ยังไม่รู้สึกเหนื่อยเท่าไร

หลี่ต้าเปิดคอมพิวเตอร์และป้อนคำว่า "การฆ่ารูปแบบดั้งเดิม" ในช่องค้นหา

 

“ไม่มีงั้นเหรอ?”


หลี่ต้าถอนหายใจยาว ไม่มีข้อมูลในเกมมาอ้างอิงเลย

แต่ยังไง ระบบแบบนี้มันก็ดูพิลึกพิลั่นอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?

แน่นอนว่า
มีแค่หลี่ต้าที่ไม่รู้สึกแบบนั้น

หลี่ต้าถอดเสื้อผ้าและเดินเข้าไปในห้องอาบน้ำตั้งใจจะอาบน้ำอุ่นให้สบายตัวสักหน่อย

ในขณะที่กำลังถอดเสื้อผ้า จู่ๆโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น

ทันทีที่เขาเลื่อนหน้าจอ ก็ปรากฏอักษรสามตัวขึ้น ถังหยงข่าย

 

“เฮ้ ลูกพี่!”

 

หลี่ต้ายิ้มอย่างรู้ใจ เขาสืบทอดชีวิตของหลี่ต้าในโลกนี้และสืบทอดความทรงจำของเขา สำหรับเพื่อนรักหนึ่งเดียวคนนี้แล้วก็มีความรู้สึกสนิทใจ

“ฮัลโหล! พี่ต้าทำอะไรอยู่? ผมได้ข่าวว่าพี่โดนพวกอันธพาลมันกระทืบเอาเหรอ เป็นเรื่องจริงหรือเปล่า รอก่อนผมจะไปหาพี่เอง เราไปจัดการพวกมันด้วยกัน!”

หลี่ต้าหัวเราะออกมา ถังหย่งข่ายคนนี้ ถึงแม้ว่าร่างกายจะแข็งแรงกว่าเขา แต่ยังไงก็เป็นคนธรรมดา ถ้าหากเป็นหลี่ต้าคนก่อน ถึงเขาจะมาก็คงไม่มีประโยชน์อะไร ก็เพียงแค่ไปโดนอัดด้วยกันกับเขาเท่านั้นเอง
“ ถังหยงข่ายแกอย่าเอาแต่ฟังคำพูดคนอื่น มันก็แค่พวกอันธพาลไม่กี่คน ฉันคนเดียวก็จัดการพวกมันได้ ”

หลี่ต้าหัวเราะและพูดตอบ


“สุดยอด! พี่ต้า พี่โม้ต่อเถอะ” ถังหยงข่ายเห็นได้ชัดว่าไม่เชื่อ พฤติกรรมของหลี่ต้าแน่นอนว่าเค้ารู้ดีที่สุด ในฐานะเพื่อนซี้ของหลี่ต้าตอนมหาลัย แม้กระทั่งหลี่ต้าใช้กระดาษกี่แผ่นตอนชักว่าวเค้าก็รู้หมด สำหรับรูปร่างเล็กๆของหลี่ต้า พลังต่อสู้ก็คงเทียบเท่ากับเด็กคนครึ่ง

หลี่ต้าหลุดหัวเราะออกมา ไม่ได้อธิบายอะไร เขาพูดปลอบใจ :“ไอ้ข่ายแกไม่ต้องกังวล แกดูฉันตอนนี้เรี่ยวแรงเต็มร้อย เหมือนคนเพิ่งไปมีเรื่องมาเหรอ?”

“ช่างเถอะ” ถังหยงข่ายพูด “พี่ต้าเอ้ย! ในเมื่อพี่ไม่เป็นไรผมก็สบายใจละ อ่อ ยังมีอีกเรื่อง......”

ถังหยงข่ายพูดถึงตรงนี้ก็หยุดไป หลี่ต้าหัวเราะและด่าว่า “มีอะไรก็รีบพูดมาสิ”

“เมื่อไหร่พี่จะหาแฟนสักที”

“เอิ่มม.....”

 

หลี่ต้าลูบจมูกไปมา มองไปที่มือสองข้างของตัวเอง


“ผมกำลังจะแต่งงานกับเสียวเสวี่ยแล้ว แต่บ้านเธอต้องการสินสอดตั้งสามแสน”ถังหยงข่ายถอนหายใจ ถึงจะเป็นการพูดผ่านโทรศัพท์ แต่หลี่ต้าก็สัมผัสได้ถึงความจนปัญญาของหยงข่าย “ผมไม่มีบ้านไม่มีรถ กลางวันก็หางานตามงานแฟร์ต่างๆ กลางคืนก็ทำงานพิเศษ บางครั้งผมก็อิจฉาพี่นะ ไม่มีแฟนก็ไม่ต้องมีอะไรให้พะวง เฮ้ออ! ”

หลี่ต้าเงียบไม่พูดอะไร แฟนของถังหยงข่ายเขาเคยเจออยู่บางครั้ง เธอสูงและสวยมาก ถังหยงข่ายได้เป็นแฟนกับเธอก็นับว่าโชคดีมากแล้ว แต่หลี่ต้ากลับไม่ชอบเธอ ผู้หญิงคนนี้เป็นพวกชอบความหรูหรา หน้าไทม์ไลน์ในวีแชทมีแต่โพสต์ วันนี้จะกินอะไรดี พรุ่งนี้ซื้อกระเป๋าอะไรดี ถังหยงข่ายก็ยอมตามใจเธอทุกอย่าง ออกเงินแทนให้อย่างเต็มใจ

หลี่ต้าเคยบอกเป็นนัยๆกับถังหยงข่ายเรื่องนี้ แต่เขาก็ทำเป็นไม่สนใจ หลี่ต้าก็ไม่อยากเข้าไปก้าวก่ายมาก ยังไงซะเขาก็เป็นคนเลือกเอง

ตอนนี้พอได้ยินว่าถังหยงข่ายจะแต่งงาน ในใจของหลี่ต้ารู้สึกดีใจแทน เขาพูดจากใจจริง :“งั้นแกก็สู้ต่อไปละกัน ฉันจะเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวให้”

 

“มันก็ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว!”

ถังหยงข่ายหัวเราะ “โอเค แค่นี้แหละพี่ งานแฟร์จะเริ่มแล้ว ทั้งหมดที่พูดมา ยังไงก็ต้องหางานทำดีๆให้ได้ก่อน”

“ตู้ดตู้ดตู้ดด......”

ฟังเสียงวางสายของโทรศัพท์ หลี่ต้าก็ได้แต่ยิ้มแล้วส่ายหัว ความรักมันเปลี่ยนคนได้จริงๆ

การได้อาบน้ำอุ่นสักหน่อยทำให้หลี่ต้าสดชื่นขึ้น ตอนนี้ท้องฟ้าเริ่มเย็นแล้ว แสงของพระอาทิตย์ตกดินสะท้อนให้เห็นถึงเมืองเล็กๆในตอนค่ำ

“หืม? ฝนตกแล้ว?”

 

เมื่อเปิดผ้าม่านออก หลี่ต้าก็พบว่าตอนนี้ท้องฟ้ามืดสนิทแล้ว ฝนเริ่มตกลงมาจากเม็ดเล็กๆและไม่นานก็ตกลงมาอย่างหนัก
 

“ฝนนี้......”


ฝนหยดหนึ่งหยดลงมือบนฝ่ามือของหลี่ต้า หลี่ต้าอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วออกมา ฝนพวกนี้มันแปลกๆยังไงชอบกล

สายฝนพวกนี้เป็นสีเขียวเข้ม เมื่อดมดูก็มีกลิ่นเหม็นอยู่ลางๆ เพียงแค่ฝนหยดเล็กๆ แต่กลับทำให้มือของหลี่ต้านั้นรู้สึกแสบร้อน

“ฝนกรด?”

หลี่ต้าพึมพำกับตัวเอง มองไปที่คนที่กำลังเดินตามถนนต่างเอากระเป๋าเป้มาบังฝนกันอย่างวุ่นวาย

 

“อ๋อ!”


มีเสียงกรีดร้องอยู่บนถนน บางทีถนนอาจลื่นเกินไป หญิงชราถือกำลังไม้เท้าลื่นและล้มลงกับพื้น ร่างกายชักกระตุกไม่หยุดเหมือนกับคนเป็นโรค

แต่คนที่เดินผ่านไปมาบนถนนกลับทำเป็นมองไม่เห็นเดินข้ามเธอไปเหมือนไม่มีอะไร ต้นปีที่ผ่านมา มีข่าวออกอย่างไม่ขาดสายเรื่องคนแก่สิบแปดมงกุฎ ไม่มีใครที่จะอยากไปหาเรื่องใส่ตัว แต่ก็ยังมีพลเมืองดีที่ชอบช่วยเหลือคนอยู่บ้าง เด็กหนุ่มสองคนที่มาหลบฝนอยู่ที่ป้ายรถเมล์รีบวิ่งออกไปช่วย เด็กตัวสูงคนนั้นจึงรีบประคองหญิงงชราให้ลุกขึ้นมา

“คุณยาย เป็นยังไงบ้าง! ให้ผมช่วยเรียกรถพยาบาลไหม?”

 

เด็กหนุ่มสองคนสวมปลอกแขนที่มีคำว่า "เยาวชนอาสาสมัคร" บนแขนของพวกเขารวมทั้งใบหน้าที่ดูไร้เดียงสา ซึ่งดูเหมือนจะเป็นอาสาสมัครนักศึกษาวิทยาลัยที่ออกมาทำสาธารณประโยชน์
 

จู่ๆใบหน้าของหญิงชราที่ล้มอยู่บนพื้นก็ซีดเผือด ไม่เพียงแต่ขอบปาก แม้แต่จมูกและดวงตาก็มีเลือดไหลออกมา  ร่างกายสั่นเหมือนกับคนเป็นลมชัก ปากพยายามจะส่งเสียงออกมาโดยไม่มีสติ


“แย่แล้ว! รีบเรียกรถพยาบาลเร็ว!”

พอเห็นสถานการณ์ของหญิงชราที่กำลังตกอยู่ในอันตราย เด็กหนุ่มที่อุ้มหญิงชราอยู่ก็พูดอย่างรีบเร่ง

ยังไม่ทันรอให้เพื่อนของเขาควักโทรศัพท์ออกมา ดวงตาของหญิงชราที่กำลังจะหมดลมจู่ๆก็เบิกโพลงขึ้น ทันใดนั้น ดวงตาของเธอกลับเปลี่ยนเป็นเลือดสีแดง

รูม่านตาสีเลือด เข้าคู่กับเลือดสดบนใบหน้า แปลกประหลาดเกินจะบรรยาย

 

ไม่ทันรอให้เด็กหนุ่มได้ส่งเสียงร้องตกใจ หญิงชราที่สลบก่อนหน้านี้ก็กระโดดขึ้นด้วยความเร็วที่ขัดกับรูปร่างของเธอ ร่างซูบผอมของเธอกลับทำให้เด็กหนุ่มที่หนักเกือบแปดสิบล้มลงไปที่พื้น


“โอ้ย! คุณยายจะทำอะไร!”

“ฮึ่มม......”

“เอ่อ... เอ่อ...”

หญิงชราที่ผอมแห้งกดเด็กชายร่างสูงไว้ใต้ร่างของเธอและเอาปากกัดไปที่คอของเด็กหนุ่ม และเริ่มต่อสู้กันอย่างดุเดือด จนในที่สุดเขาก็ไม่ขยับ...

 

“ฆะ... ฆ่าคนน”


โทรศัพท์มือถือของเพื่อนที่มาด้วยกันกระแทกกลางสายฝนและตกลงไปที่พื้น เขามองไปที่ร่างที่คอถูกแทะจนขาดครึ่ง เขาตกใจจนใบหน้าซีดเผือด


หญิงชราที่กำลังคุ้มคลั่งเงยหน้าขึ้นมา ใบหน้าเต็มไปด้วยเลือดสดอุ่นๆ ส่งเสียงกรีดร้องอย่างบ้าคลั่งและเริ่มขยับลุกขึ้นมา

“ช่วยด้วยยยย!”

เด็กหนุ่มคนนั้นวิ่งหนีไปอย่างล้มลุกคลุกคลานตามถนน หญิงชราปล่อยร่างไปบนพื้น แล้ววิ่งไล่ตามความเร็วของเขา หลี่ต้าจินตนาการไม่ออกจริงๆว่า มันเป็นไปได้ยังไงสำหรับคนแก่ที่ปกติไม่สามารถเดินได้หากไม่มีไม้เท้า

อีกทั้งเด็กหนุ่มที่พึ่งหมดลมหายใจไปแล้ว ศพกลับขยับขึ้นมาอีกครั้ง ไม่นาน เขาก็ส่งเสียงคำราม ก้มคอที่เกือบขาดและโผเข้าหาผู้คนที่กำลังเดินไปมาอย่างหวาดกลัว

 

เรื่องแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นแค่สองกรณีนี้เท่านั้น ทั่วท้องถนนตอนนี้กลายเป็นขุมนรก ทุกที่ล้วนมีแต่คนกัดคน คนกินคน  บางคนถูกแหวกหน้าอกกัดกระเพาะ ลำไส้ถูกฉีกเป็นชิ้นๆ แต่ก็ยังลุกดิ้นรนขึ้นมา โผเข้าหามนุษย์คนอื่นๆอย่างบ้าคลั่ง

รีวิวผู้อ่าน