px

เรื่อง : Crazy Leveling System
ตอนที่ 74 อาเรย์ด่านทดสอบจิตวิญญาณอันยิ่งใหญ่







ในวันรุ่งขึ้นก็เข้าสู่การตรวจสอบเพื่อคัดเลือกศิษย์หลักอย่างเป็นทางการของตำหนักหยกสวรรค์อย่างรวดเร็ว !!



การคัดเลือกทดสอบบุคคลที่จะเป็นศิษย์หลักอย่างเป็นทางการเป็นไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวล เพียงแต่สิ่งที่ตำหนักหยกสวรรค์กระวนกระวายใจในตอนนี้ก็คือเรื่องขยายอิทธิพล ดังนั้นพวกเขาจึงมีความจำเป็นที่จะต้องฝึกฝนกลุ่มศิษย์ที่มีพรสวรรค์เป็นจำนวนมากเพื่อที่จะผลักดันพวกเขานั้นให้อยู่ในแนวหน้า ถ้าหากพวกเขายังคงผลิตสายเลือดใหม่อย่างต่อเนื่อง นั่นก็จะเป็นกุญแจดอกสำคัญในการพัฒนาตำหนักหยกสวรรค์ในเชิงปฏิวัติ



" พี่ใหญ่ยี่ ข้าค่อนข้างที่จะรู้สึกกระวนกระวายใจ..... " จิ่ว หลิงหยุนรู้สึกกระสับกระส่ายเป็นกังวล



พวกเขาทั้งสองคนในตอนนี้ต่างก็อยู่บนถนนสายที่มุ่งไปสู่การคัดเลือก จิ่ว หลิงหยุนนั้นคิดว่าระดับของตัวเองนั้นยังไม่ดีพอ ตัวเธอจึงค่อนข้างที่จะขาดความมั่นใจ รู้สึกว่าตัวเองนั้นด้อยกว่า ไม่มีความสามารถอะไร ถึงแม้ว่าเธอจะทำการฝึกฝนบ่มเพาะพลังที่นี่มาเป็นระยะเวลานานแต่เธอก็ยังไม่มีความมั่นใจอะไร เธอไม่เชื่อว่าเธอจะสามารถที่จะเข้าร่วมสถานที่อย่างตำหนักหยกสวรรค์ได้


 

ยี่ เทียนหยุนให้กำลังใจโดยพูดว่า " ทำใจให้สบายเถอะ เมื่อเวลานั้นมาถึงตัวข้าจะเข้าไปด้านในกับเจ้า เจ้าขยันฝึกฝนมาดีแล้ว จงเชื่อมั่นในตัวเองซิ "



ยี่ เทียนหยุนยังไม่เคยเห็นสมรรถภาพของจิ่ว หลิงหยุน แต่ก็คิดว่าตัวเธอนั้นมีความรู้สึกที่บริสุทธิ์ เธอทุ่มเทให้กับการฝึกฝนอีกทั้งยังเอาใจใส่ในการเรียนเป็นอย่างมากอีกด้วย !! เขาเชื่อมั่นว่าจิ่ว หลิงหยุนจะสามารถแสดงศักยภาพที่ดีออกมาได้อย่างแน่นอน



จิ่ว หลิงหยุนเมื่อได้ยินดังนั้นแล้ว ภายในหัวใจของตัวเองก็บังเกิดความเด็ดเดี่ยวมั่นคงขึ้นเป็นอย่างมาก



ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงสถานที่ตั้งแห่งด่านทดสอบอย่างรวดเร็ว ที่นี่นั้นเต็มไปด้วยคลื่นแห่งฝูงชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งศิษย์นอกของตำหนักหยกสวรรค์ที่มีเป็นจำนวนมาก อีกทั้งผู้ที่มีพรสวรรค์ค่อนข้างดีนั้นก็ยังมีเป็นจำนวนมากอีกด้วย



" มองดูเร็วเข้า นั่นผู้อาวุโสยี่นำเด็กผู้หญิงคนนั้นเข้ามา ไม่รู้ว่าเธอนั้นทำได้ยังไง ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าจะสามารถสร้างความสัมพันธ์กับผู้อาวุโสยี่ได้ !! "



" นี่นับเป็นความแตกต่างระหว่างบรรดาของเหล่าผู้คน ลักษณะภายนอกของเธอนั้นดูธรรมดาสามัญ ไม่ได้มีจุดเด่นอะไรเลย ถึงอยากจะมีพรสวรรค์ก็คงไม่มีพรสวรรค์ ภายในเขตพื้นที่สลัมอันอัตคัตขัดสน โดยปกติแล้วทุกๆวันจะต้องคอยใช้จ่ายอย่างฝืดเคือง เมื่อพิจารณาดูแล้วมันช่างดูไม่เจริญหูเจริญตาซะจริงๆ..... "



" ใช่ถูกต้องแล้ว ได้ยินมาว่าเธอพาตัวเองมากับน้องชายของเธอ..... ส่วนบรรดาพวกเรานั้นกว่าจะมาถึงที่นี่ได้ต้องใช้ความพยายามไปไม่รู้เท่าไรต่อเท่าไรแต่ตัวเธอกลับใช้เส้นใช้สาย มันช่างไม่ยุติธรรมเอาซะเลยจริงๆ !! "



เสียงแห่งความขัดแย้งดังออกมา เหล่านี้คือเสียงของบรรดาศิษย์ภายนอกจากต่างถิ่นที่เดินทางเข้ามารับการสรรหาบุคคลหน้าใหม่เข้าเป็นศิษย์ภายใน พรสวรรค์ของพวกเขานั้นเป็นอย่างไรไม่มีใครรู้ รู้แต่เพียงทักษะทางวาจาของพวกเขาที่ได้แสดงออกมาโดยเฉพาะอย่างยิ่งปากของพวกเขาที่แสดงทักษะปากดีเป็นครั้งคราว พวกเขาต่างก็พูดจาเหลวไหลไร้สาระไปได้ตลอดทาง



เรื่องราวที่ยี่ เทียนหยุนทำให้จิ่ว หลิงหยุนเข้าร่วมตำหนักหยกสวรรค์นั้น ถูกแพร่กระจายออกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พวกเขาต่างก็คิดว่านี่ช่างไม่ยุติธรรมเอาซะเลย ใครบางคนนั้นคิดว่ายี่ เทียนหยุนคิดยังไงถึงได้พาเด็กเร่ร่อนในเขตพื้นที่สลัมกลับมายังตำหนักหยกสวรรค์ ??






แน่นอนว่าจิ่ว หลิงหยุนได้ยินความคิดเห็นที่วิพากษ์วิจารณ์ตัวเธอเหล่านี้ ร่างกายที่บอบบางของเธอก็พลันสั่นสะท้าน นัยน์ตาแดงก่ำอย่างทันที ความน้อยเนื้อต่ำใจ ความรู้สึกที่ตัวเองนั้นด้อยกว่าผู้อื่นก็พุ่งขึ้นมาจากด้านในภายในส่วนลึกของจิตใจในทันที ตัวเธอนั้นรู้สึกเศร้าเสียใจ นี่คือความทุกข์ระทมใจ



" ไม่จำเป็นที่จะต้องไปสนใจพวกเขา จงใช้ความแข็งแกร่งทั้งหมดของตัวเองที่มี ดึงมันออกมาด้วยความพยายามทั้งหมดของตนเอง !! " ยี่ เทียนหยุน พูดด้วยรอยยิ้มอันสงบ เขาพูดคำพูดที่ปลอบประโลมต่อจิตใจของจิ่ว หลิงหยุน



" ข้าทราบแล้ว นายน้อยยี่..... " จิ่ว หลิงหยุนที่ยังรู้สึกไม่สบายใจ ได้แต่ก้มศีรษะไม่กล้าที่จะยกหัวขึ้นมา



แค่เพียงไม่กี่อึดใจยี่ เทียนหยุนก็นำจิ่ว หลิงหยุนมาถึงสถานที่ทดสอบที่ผู้คนต่างก็เข้าคิวต่อแถวกันอยู่ เหล่าบรรดาผู้ที่เข้ารับการทดสอบในครั้งนี้ต่างก็มากันอย่างเนื่องแน่น ที่นี่จะรับเพียงศิษย์ที่เป็นผู้หญิงเพียงเท่านั้น ดังนั้นจะต้องมีผู้คนที่ถูกคัดออกเป็นจำนวนมาก



แต่อย่างไรก็ตาม ยี่ เทียนหยุนก็นำจิ่ว หลิงหยุนตรงไปยังด้านข้างของด่านทดสอบ เสียงอันหลากหลายก็ถูกส่งมาจากด้านหลัง เป็นคนแล้วคนเล่าๆที่พูดจาหยาบๆคายๆเสียๆหายๆ



" ช่างน่าอิจฉาซะจริ๊งจริง มารับการทดสอบกับผู้อาวุโสยี่ ไอ้ที่กล่าวว่าจะไม่มีการละเมิดกฏกติกาน่ะ ท้ายที่สุดแล้วมันก็จะต้องผ่านการทดสอบอยู่ดีนั่นแหละ "



" ไม่อยากจะอิจฉาก็ต้องอิจฉา ถ้าข้าเป็นผู้อาวุโสยี่ ข้าจะพาแม่ของข้ามาต่อแถวเข้าคิวเพื่อเข้ารับการทดสอบอย่างงั้นหรือ ?? แม่ของข้าเป็นชาวไร่ชาวนา ไม่ ประสีประสาในเรื่องของทักษะยุทธ์ใดๆ "



" ผู้อาวุโสยี่ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ ชอบเธออย่างงั้นเรอะ ?? เธอมองดูสกปรกจะตายไป เสื้อผ้าก็ดูซอมซ่อเป็นอย่างมาก คนระดับนี้ยังคิดที่จะเข้าร่วมตำหนักหยกสวรรค์อยู่อีกอย่างงั้นเรอะ ?? "



.........



ศิษย์นอกเป็นจำนวนมากต่างก็ซุบซิบนินทากันด้วยเสียงต่ำเนื่องด้วยเกรงในสถานะของยี่ เทียนหยุน มิฉะนั้นพวกเขาก็คงจะพูดจาโวกเวกโวยวายเสียงดังเพื่อที่จะขับไล่ไสส่งจิ่ว หลิงหยุนออกไปให้พ้นทางนานแล้วล่ะ



ถึงแม้ว่าเสียงที่ซุบซิบนินทานั้นจะเบาเป็นอย่างมากก็ตามทีแต่ยี่ เทียนหยุนก็ได้ยินมันอย่างชัดเจน เมื่อฐานบ่มเพาะพลังของเขามาถึงระดับนี้แล้ว ต่อให้เสียงนั้นมันจะเป็นเสียงเล็กๆเขาก็ยังจะสามารถได้ยินเสียงอันนั้นได้



ยี่ เทียนหยุนหรี่ตาของเขาลงเล็กน้อย ความอิจฉาริษยาของบุคคลเหล่านี้มันช่างแข็งแรงซะจริงๆ คิดว่าจิ่ว หลิงหยุนที่มาถึงที่นี่ได้ก็เพราะว่าเกี่ยวข้องกับตัวเขา พวกเขาต่างก็คิดว่าถึงแม้ผลแห่งการทดสอบจะออกมาเน่าเฟะซักเพียงไร แต่คณะกรรมการก็คงจะให้ผ่านอยู่ดี



แต่ในความเป็นจริงแล้ว ยี่ เทียนหยุนจะไม่ทำเช่นนั้นอย่างแน่นอน ถึงแม้ว่าจิ่ว หลิงหยุนจะไปไม่ถึงเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดเอาไว้เป็นได้เพียงแค่ศิษย์ภายนอกเพียงเท่านั้นและไม่ได้กลายมาเป็นศิษย์หลักอย่างเป็นทางการ เขาก็จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว ผู้อาวุโสเป็นตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับส่วนรวม ส่วนตัวก็คือส่วนตัวซึ่งทั้งสองนั้นล้วนแตกต่างกัน



" พวกเจ้าสามารถที่จะพูดถึงตัวข้าได้ แต่ไม่สามารถที่จะพูดถึงพี่ใหญ่ยี่ !! " ทันใดนั้นจิ่ว หลิงหยุนก็ยืนขึ้น เธอพูดอย่างโมโหว่า " ข้าจะแสดงให้พวกเจ้าได้เห็นว่า ตัวข้านั้นจะไม่พ่ายแพ้ให้กับผู้ใด !! ข้าจะเข้ารับการทดสอบอย่างเปิดเผยตรงไปตรงมา ไม่ใช่เพราะว่าข้านั้นใช้เส้นสาย ข้าถึงจะเข้าไปได้ !! "



ยี่ เทียนหยุนไม่คิดมาก่อนว่า จิ่ว หลิงหยุนจะแสดงกริยาท่าทางเช่นนี้ออกมา ดังนั้นเขาจึงแสดงรอยยิ้มหลายส่วนบนใบหน้าของเขาออกมา จะต้องมีกริยาท่าทางเช่นนี้ ไม่ควรที่จะเหนียมอาย คนที่สมควรจะอายควรที่จะเป็นพวกเขา พวกเขาควรจะได้รับในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับความปรารถนาของพวกเขา



เมื่อพวกเขาต่างก็เห็นว่ายี่ เทียนหยุนนั้นยังคงมองดูพวกเขาอยู่จึงได้แต่เชื่อฟังและก็สงบเสงี่ยมเจียมตัวไม่ได้พูดจาสิ่งหนึ่งใดออกมา แต่สีหน้าของพวกเขานั้นได้แสดงออกถึงความรังเกียจ ความไม่พอใจและดูหมิ่นเหยียดหยามผู้อื่น เห็นได้ชัดว่าได้รับผลกระทบจากคำพูดของจิ่ว หลิงหยุนอย่างชัดเจน



ส่วนตัวของจิ่ว หลิงหยุนนั้นกลับคิดว่ามันไม่ใช่คำพูดที่ร้ายแรงอะไร คิดแต่เพียงว่ามันคงจะไม่มีผล กระทบอะไรมาก



" ไม่จำเป็นที่จะต้องใส่ใจต่อคำพูดของพวกเขา หากเจ้าแสดงกริยาท่าทางเช่นนี้ สู้มองดูพวกเขาด้วยความแข็งแกร่งของตัวเจ้าเองมันจะดีกว่า " ยี่ เทียนหยุนนั้นยิ้มอย่างสงบ เขาใช้คำพูดในการปลอบประโลมจิ่ว หลิงหยุน



" อืม !! " จิ่ว หลิงหยุนกำหมัดแน่น ไม่จำเป็นที่จะต้องพูดมาก ควรที่จะพิสูจน์ทุกสิ่งทุกอย่างด้วยพละกำลังความแข็งแกร่งจึงจะสามารถหุบปากของพวกเขาลงได้ !!



เพียงอึดใจเดียวพวกเขาก็เดินเข้าใกล้ยังสถานที่ด่านทดสอบ Deacon เหลียงคนที่ทำหน้าที่การจัดการพิเศษในครั้งนี้ก็เดินตรงเข้ามาหาพวกเขา



เธอก้มศีรษะแสดงการโค้งคำนับต่อตัวของยี่ เทียนหยุนอย่างเคารพนับถือ สถานะของยี่ เทียนหยุนนั้นสูงเป็นอย่างมากหากเปรียบเทียบกับตัวเธอ



ทันใดนั้นเธอก็มองไปที่จิ่ว หลิงหยุน เธอต้องการที่จะกล่าวคำพูดบางสิ่งบางอย่างออกมา



" เอาล่ะ ทำตามขั้นตอนของท่านไปเถอะ รักษาความเข้มงวด ประเมินผลการทดสอบไปตามเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดตามปกติ !! " ยี่ เทียนหยุนกล่าวคำพูดแสดงออกพร้อมกับสีหน้าที่จริงจัง



Deacon เหลียงแย้มยิ้ม เธอพยักหน้าตอบรับอย่างสุภาพ ตัวเธอนั้นให้ความรังเกียจชิงชังต่อบรรดาเหล่าผู้คนจำพวกที่มักใช้เส้นใช้สายจนกลายมาเป็นศิษย์หลัก เมื่อพิจารณามองดูอย่างเผินๆ นี่เป็นการแสดงการขาดความรับผิดชอบต่อตำหนักหยกสวรรค์



ทันใดนั้น Deacon (ผู้ดูแล) เหลียงก็แนะนำต่อผู้ทำการทดสอบในครั้งนี้ว่า " สิ่งนี้เรียกว่าด่านทดสอบจิตใจ พวกเธอทั้งหลายจะถูกโจมตีทางจิตวิญญาณอย่างต่อเนื่อง พวกเธอเพียงแค่ต้องทนให้ได้เท่านั้น พวกเธอก็จะกลายมาเป็นศิษย์ของตำหนักหยกสวรรค์อย่างเป็นทางการ เพียงแค่ทนแรงปะทะให้ได้จำนวน 9 ครั้ง แต่ถ้าพวกเธอต้องการที่จะกลายมาเป็นศิษย์ภายในแล้วล่ะก็ ก็จะต้องทนแรงกระแทกให้ได้จำนวน 11 ครั้ง !! "



ในเวลานี้เป็นโอกาสดีของพวกเธอ หากอดทนเพิ่มอีกซักนิดเพียงแค่ 2 ครั้งเท่านั้น พวกเธอก็จะสามารถกลายมาเป็นศิษย์ภายในได้ หรือต่อให้ผู้ใดที่คิดว่าตัวเองนั้นหมดหวังที่ไม่ได้เข้ามามีส่วนร่วมกลายมาเป็นศิษย์ภายในของพวกเราเหล่าตำหนักหยกสวรรค์ในครั้งนี้ หากสามารถกลายมาเป็นศิษย์ทางการของพวกเราได้ก็นับว่าดีเพียงพอแล้ว หากไม่นับผู้ที่สามารถทนต่อแรงกระแทกได้จำนวน 11 ครั้งโดยสมบรูณ์



การทดสอบถูกจัดแบ่งออกเป็นศิษย์อย่างเป็นทางการกับศิษย์ภายในของตำหนักหยกสวรรค์ แน่นอนว่าศิษย์ภายในนั้นย่อมที่จะโดดเด่นกว่าและถือเป็นวัตถุประสงค์ของการนำไปฝึกฝนต่อยอดอย่างแท้จริง



" 9 ครั้งนี่เรียกว่าพรสวรรค์อย่างงั้นเรอะ ?? ข้าคิดว่าจะต้องทนรับให้ได้ซัก 13-14 ครั้งซะอีก !! "



" รับแรงกระแทก 13-14 ครั้ง ?? เจ้าอย่าโง่ไปหน่อยเลย ผู้ที่สามารถทนรับได้ 10 ครั้งนี่ก็ถือว่ามีน้อยมากแล้ว !! "



" ใช่แล้วล่ะ การบ่มเพาะพลังแห่งจิตวิญญาณนั้นยากซะกว่าการบ่มเพาะพลังทางกายภาพภายนอก "



" เมื่อก่อนนานมาแล้ว ข้าจำได้ว่าภายในตำหนักหยกสวรรค์แห่งนี้มีใครบางคนที่สามารถทนรับแรงกระแทกได้ถึง 13-14 ครั้ง ?? "



.........



เหล่าผู้คนที่อยู่โดยรอบบริเวณต่างก็พากันโห่ร้องด้วยความตื่นเต้น แต่ก็มีผู้คนเพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่เคยได้ยินได้ฟังเกี่ยวกับข่าวลือนี้



" ใช่แล้วล่ะ เมื่อก่อนได้มีศิษย์ที่มีพรสวรรค์ค่อนข้างสูงที่สามารถทนรับคลื่นกระแทกได้ถึง 13 ครั้ง เขาจึงสามารถที่จะเข้าร่วมห้องโถงหลักของเราได้และขั้นของเขาก็ไม่ได้ต่ำแต่อย่างใด " Deacon เหลียงกล่าวอย่างอดทนว่า " ถึงแม้ว่ามาตรฐานของห้องโถงหลัก คือ 13 ครั้ง แต่ถ้ามีใครบางคน ณ ที่นี้สามารถที่จะทนได้ถึง 14 ครั้ง เจ้าก็จะกลายเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงอย่างรวดเร็วเพียงพอที่จะได้รับความสนใจจากบรรดาของเหล่าผู้อาวุโส !! "



คำพูดนี้ต่างก็ทำให้บรรดาเหล่าผู้ฟังตกอยู่ในความสับสนอลหม่าน นี่จะทนรับได้ยังงั้นเรอะ ?? หากสามารถทนรับได้ 14 ครั้งก็จะได้รับความสนใจจากผู้อาวุโส นี่นับว่าเป็นเรื่องที่ปกติเป็นอย่างมาก



ยี่ เทียนหยุนยังคงยิ้มอย่างสงบอยู่ด้านล่างของเวทีทดสอบ นี่เป็นการทดสอบของศิษย์นอก สำหรับการทดสอบพลังของจิตวิญญาณนี้ก็เพื่อที่จะทดสอบความเข็มแข็งของจิตวิญญาณของแต่ละบุคคล สิ่งนี้มันจะตัดสินพรสวรรค์ของเหล่าบุคคลทั้งหมดได้อย่างไร จิตวิญญาณที่แข็งแกร่งกว่าก็ย่อมที่จะบรรลุผลสำเร็จในด้านที่หลากหลายกว่า !!



ไม่รู้ว่ามาตรฐานของจิ่ว หลิงหยุนจะอยู่ที่ระดับใด ??





 




 









































 

รีวิวผู้อ่าน