px

เรื่อง : Crazy Leveling System
ตอนที่ 77 เข้าข้างใน !!








ยี่ เทียนหยุนจากรถม้า เขามองเห็นผู้คนเป็นจำนวนมากในทันที เป็นบุคคลที่มาจากหลายกลุ่มอิทธิพล






ยี่ เทียนหยุนยกสายตาขึ้นมองดู กลุ่มอิทธิพลโดยมากแล้วจะเป็นเกรด 2 กลุ่มอิทธิพลเกรด 3 นั้นจะไม่เข้ามายุ่งกับสถานที่แห่งนี้ โดยหลักแล้วพวกเขาไม่มีความชอบในซากปรักหักพังโบราณแห่งสวรรค์นี้ ในสายตาของพวกเขาแล้วสถานที่แห่งนี้ธรรมดาสามัญเป็นอย่างมาก หากพวกเขาลงมือพวกเขาก็สามารถที่จะครอบครองซากปรักหักพังโบราณแห่งสวรรค์ได้เสียเป็นส่วนใหญ่






นี่ไม่ต้องพูดถึงกลุ่มอิทธิพลที่ต่ำกว่าเกรด 2 ที่นี่เปรียบเสมือนแกะอ้วนสำหรับพวกเขา






การปรากฏตัวขึ้นของพวกเขานำพามาซึ่งความสนใจของเหล่าผู้คนภายในทันที ต่างก็มองดูพวกเขาด้วยสายตาที่ผิดปกติ 3 กลุ่มอิทธิพลถูกกำจัดโดยตำหนักหยกสวรรค์ ด้วยพลังระดับนี้มันทำให้กลุ่มอิทธิพลที่เหลือค่อนข้างต่างพากันช็อคอย่างแท้จริง บางก็ประหลาดใจ บางก็คิดว่านี่มันช่างสุดยอดจริงๆ






ทั้งๆที่ตำหนักหยกสวรรค์เป็นกลุ่มอิทธิพลเกรด 1 แท้จริงแล้วจะมีพลังอำนาจที่น่ากลัวเป็นอย่างมากถึงเพียงนี้ นี่คือเหล่าบรรดาเหล่าหญิงชราที่กำลังคลานต้วมเตี้ยมมาเนี่ยน่ะ ??






ผู้คนภายนอกต่างก็ไม่รู้ว่า 3 กลุ่มอิทธิพลที่ยิ่งใหญ่นั้นถูกฆ่าตายด้วยฝีมือของยี่ เทียนหยุน ข่าวนี้ถูกปิดผนึกโดยสมบูรณ์ ฉี ซู่หยุนมีคำสั่ง รับรู้กันแค่คนไม่กี่คนเพียงเท่านั้น และที่ยิ่งไปกว่านั้นล้วนเป็นคนที่ไว้เนื้อเชื่อใจแทบทั้งสิ้น ดังนั้นแล้วผู้คนส่วนใหญ่จะต้องไม่รู้ถึงความแข็งแกร่งของยี่ เทียนหยุนที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมากชนิดที่คาดไม่ถึงกันเลยทีเดียว






ไม่มีใครรู้เรื่องราวของยี่ เทียนหยุน นี่จึงเป็นประโยชน์ต่อตำหนักหยกสวรรค์ หลังจากที่บรรดากลุ่มอิทธิพลเหล่านี้ทราบข่าวต่างก็พากันสั่นเทิ้ม ความกลัวที่มีต่อตำหนักหยกสวรรค์ก็ปรากฏขึ้นภายในจิตใจของพวกเขา บางก็รู้สึกสุดยอดในพลังของตำหนักที่มี






ตำหนักหยกสวรรค์ต่างก็เชื่อว่าพวกเขาจะอยู่กันอย่างสงบหลังจากที่ข่าวได้แพร่กระจายออกไป หากบรรดาเฒ่าหัวโบราณทั้งหลายคิดจะมารุมโจมตีพวกเขาก็คงจะต้องคิดหนักหลายตลบอยู่เป็นแน่ หากไม่ห่วงกลุ่มอิทธิพลของตัวเองแล้วล่ะก็






" ที่นี่นั้นโดยพื้นฐานแล้วจะเป็นกลุ่มอิทธิพลเกรด 2 ที่มา ส่วนกลุ่มอิทธิพลเกรด 1 นั้นจะไม่มี..... " ยี่ เทียนหยุนกวาดสายตามองดู จำนวนผู้คนที่มาในครั้งนี้มิใช่น้อยๆ การตัดสินโควต้านั้นตัดสินกันตามกลุ่มอิทธิพล อิทธิพลที่ใหญ่กว่าก็จะได้รับโควต้าที่มากกว่า






ประชากรที่มาในครั้งนี้นั้นอย่างน้อยๆก็มีประมาณ 340 คนซึ่งนับเป็นจำนวนที่มากอยู่ แต่อย่างไรก็ตามตำหนักหยกสวรรค์ถือครองอยู่ถึง 8 โควต้า ภาษีที่เหนือกว่านี้มันช่างน่ากลัวยิ่งนัก มันสามารถที่จะพูดได้ว่าในกลุ่มอิทธิพลทั้งหมดนี่นับว่ายิ่งใหญ่ที่สุดแล้ว สิ่งนี่ล้วนทำให้บรรดากลุ่มอิทธิพลต่างก็พากันอิจฉาริษยาเป็นที่สุด






มองดูจากฐานพลังที่มา จะอยู่ในขั้นปรับแต่งวิญญาณระดับ 5 ซะเป็นส่วนใหญ่โดยประมาณ ระดับสูงก็จะเป็นระดับ 7 มาตรฐานขั้นปรับแต่งวิญญาณจนกระทั่งถึงระดับสูงสุดของขั้นปรับแต่งวิญญาณ นี่แน่นอนว่าเป็นการตะแบงระงับยับยั้งฐานบ่มเพาะพลังของตัวเองเอาไว้ไม่ให้เลื่อนระดับ ก็เพื่อที่จะรอคอยการเปิดของซากปรักหักพังโบราณสวรรค์แห่งนี้






ก่อนที่จะทะลวงเข้าสู่ขั้นแก่นการควบแน่น คงจะมาเก็บเกี่ยวประสบการณ์ภายในซากปรักหักพังโบราณแห่งนี้ มันช่างเป็นทางเลือกที่ดีซะนี่กระไร และสิ่งที่เป็นเมนหลักส่วนมากก็คือ การเข้ารับการทดสอบ ณ สถานที่แห่งนี้






" ใช่แล้วละ ตำหนักหยกสวรรค์ของพวกเราค่อนข้างที่จะพิเศษทีเดียว ในสภาวะการณ์ปกติแล้วที่แห่งนี้จะรายล้อมไปด้วยกลุ่มอิทธิพลเกรด 2 ถึงจะมีคุณสมบัติมายังสถานที่แห่งนี้ " ผู้อาวุโสใหญ่อธิบายอยู่ด้านข้าง " พวกเราถึงแม้ว่าจะเป็น กลุ่มอิทธิพลเกรด 1 แต่ถ้าหากเปรียบเทียบกับสถานการณ์ในปัจจุบันแล้ว เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มอิทธิพลเกรด 2 แล้วพวกเราในตอนนี้ก็ย่อมที่จะมีความแข็งแรงกว่า ถ้าหากไม่ใช่เหตุผลที่ว่าศิษย์ของเรามีเป็นจำนวนน้อยแล้วละก็ไม่เช่นนั้นบรรดา กลุ่มอิทธิพลเกรด 2 จะไม่ใช่ตัวปัญหาสำหรับพวกเราอย่างแน่นอน "






ยี่ เทียนหยุนพยักหน้าตอบรับ ตำหนักหยกสวรรค์หากเปรียบเทียบกับกลุ่มอิทธิพลอื่นแล้วย่อมมีความแตกต่างกันเป็นอย่างมากในเรื่องของจำนวนประชากร แถมเนื่องด้วยอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ตำหนักจะต้องจัดหานั้นล้วนต้องสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับอิสตรี






" เจ้าตำหนักฉีไม่ได้มากับพวกท่านด้วยหรอกหรือ ?? " ณ เวลานี้ฮัว คุนผู้นำแห่งนิกายสวรรค์ก็ได้เดินเข้ามา หลังจากที่บรรดาศิษย์ทั้งหลายได้พบเห็นบุรุษผู้นี้แล้ว ต่างก็อดรนทนไม่ได้ต้องแอบทอดถอนหายใจให้กับบุรุษผู้ซึ่งดูราวกับ บัณทิตและผู้ที่ดูเปี่ยมไปด้วยมารยาท ช่างเป็นคนที่น่าดึงดูดใจมิใช่น้อย






" ที่แท้ก็คือท่านฮัว คุนผู้นำนิกายสวรรค์นี่เอง เจ้าตำหนักฉีนั้นติดขัดปัญหาเล็กน้อยดังนั้นเธอจึงไม่มีเวลาว่างเป็นการชั่วคราว ข้าจึงได้รับมอบหมายให้มาทำธุระที่นี่ แทนท่านประมุขนะ " ถึงแม้ว่าการตัดสินใจจะด้อยกว่ายี่ เทียนหยุน แต่หน้าที่ในการต้อนรับแขกภายนอกก็ต้องมอบให้กับผู้อาวุโสใหญ่เป็นผู้รับผิดชอบ






ข้าได้ยินมาว่า 3 กลุ่มอิทธิพลได้บุกเข้าโจมตีและคิดที่จะยึดครองตำหนักหยกสวรรค์แต่..... ท้ายที่สุดแล้วต่างก็ถูกกำจัด บรรพบุรุษผู้ทรงเกียรติของพวกท่านนี่ ความแข็งแกร่งยังคงลึกล้ำยากแท้ที่จะหยั่งถึงเหมือนเช่นเคย !! " ผู้นำนิกายสวรรค์ผู้นี้พูดจาเป็นการชิมลางก็เพื่อที่จะหยั่งเชิงในการดูท่าที






" นั่นคือพลังของท่านบรรพบุรุษ ย่อมไม่เรียบง่ายเป็นธรรมดา " ผู้อาวุโสใหญ่พูดพร้อมกับรอยยิ้มน้อยๆบนใบหน้า " อิทธิพลของตำหนักหยกสวรรค์ถึงแม้ว่าจะอยู่เพียงแค่เกรด 1 แต่เรื่องราวของพวกเราที่ก่อตั้งมานานหลายปีก็ไม่ใช่ว่าจะดูถูกกันได้ "






คำพูดของผู้อาวุโสใหญ่นั้นจริงครึ่งไม่จริงครึ่ง เธอวางเปลือกควันเอาไว้ ทำให้พวกเขายิ่งเชื่อมั่นในเรื่องราวความเป็นมาของตำหนักหยกสวรรค์อันน่าทึ่งด้วยการอาศัยโอกาสนี้ เสียงของผู้อาวุโสใหญ่นั้นปราศจากการปกปิดใดๆ และห่างออกไปไม่ไกลนัก บรรดากลุ่มอิธิพลที่ตั้งใจฟังอยู่ต่างก็ได้ยินกันทั่ว พวกเขาต่างก็ตั้งใจในการพาตัวเองมาอยู่ที่นี่ก็เพื่อที่จะต้องการฟังคำตอบที่ชัดเจนจากปากคำของผู้อาวุโสใหญ่






" ถ้ายังงั้นนั่นก็เป็นความโชคร้ายของ 3 กลุ่มอิทธิพลแล้วที่กล้าไปยั่วยุตำหนักหยกสวรรค์เข้า คงจะคิดว่าตำหนักหยกสวรรค์เป็นขนมหวานที่ตัวเองสามารถที่จะเคี้ยวได้โดยที่ไม่ได้พิจารณาถึงประวัติอันยาวนาน ตัวเองจึงต้องถูกทำลายลงเช่นนี้ " ผู้นำนิกายฮัว คุนกล่าวอย่างยิ้มแย้ม เขาเยาะเย้ยถากถางพวกเขาในทันทีและเท่ากับว่าเป็นการสรรเสริญเยินยอตำหนักหยกสวรรค์ในเรื่องราวที่ถูกตบแต่งขึ้นมา






หลังจากที่ประมุขฮัวได้สอบถามเรื่องราวความเป็นมาต่างๆจากผู้อาวุโสใหญ่แล้ว ในที่สุดเวลาของซากปรักหักพังโบราณแห่งสวรรค์ก็เปิดออก






" แบง !! "






ทันใดนั้นทั่วทั้งหุบเขาก็เกิดอาการสั่นสะเทือนที่คล้ายกับจะเกิดแผ่นดินไหว ทั่วทั้งดินแดนแห่งนี้ต่างก็สั่นสะเทือนไปทั่ว ผู้คนที่มาในครั้งนี้ต่างก็ยังต้องการที่จะพูดคุยโอภาปราศัยกัน แต่ในตอนนี้ดูเหมือนว่ามันจะหมดเวลาแห่งการพูดคุยลงแล้ว






ด้วยแรงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ประตูใบไม้ที่อยู่ด้านหน้าก็ค่อยๆเปิดขึ้นอย่างช้าๆ มันเปิดเผยให้เห็นถึงแสงที่ส่องออกมาที่มาพร้อมกับอำนาจแห่งความอ้างว้างและโดดเดี่ยวจากภายใน มันมอบความรู้สึกอันสิ้นหวังกับเหล่าผู้คน






" ประตูเตรียมที่จะเปิดออกแล้ว !! "






ผู้คนต่างก็มารวมตัวกัน เพื่อรอคอยที่จะเข้าไปยังด้านในของซากปรักหักพังโบราณสวรรค์แห่งนี้






ซากปรักหักพังโบราณสวรรค์จะเปิดออก 1 ครั้งในทุกๆ 3 ปี สถานที่แห่งนี้มักจะตกอยู่ในช่วงเดือนกรกฏาคม หากพลาดโอกาสในครั้งนี้จะต้องรอคอยอีกถึง 3 ปีดังนั้นพวกเขาจึงต้องมารวมตัวกันล่วงหน้าอยู่ที่นี่






มองดูฉากในปัจจุบัน ยี่ เทียนหยุนรู้สึกสงสารตัวเองเป็นอย่างมาก เขานึกว่าจะสามารถผ่านเข้าไปด้านในได้ในลักษณะที่เหมือนๆกัน แต่ใครจะรู้ว่าฐานบ่มเพาะพลังสูงเกินไปไม่สามารถที่จะเข้าไปได้ !!






เมื่อประตูหน้าเปิดออกอย่างสมบูรณ์ แสงสว่างคล้ายม่านได้ปกคลุมอยู่ด้านบน มันดูคลับคล้ายคลับคลาราวกับว่ามีประตูใบไม้ล่องหนที่มองไม่เห็นมาขัดขวางพวกเขาอยู่ด้านหน้า






" สามารถเข้าไปได้แล้ว !! "






อย่างทันทีทันใด ใครบางคนก็นำตราสัญลักษณ์พุ่งตรงไปด้านหน้าเพื่อเข้าไปข้างในอย่างรวดเร็ว ในยามที่ผ่านทะลุประตูหน้าล่องหนนี้ก็จะปรากฏคลื่นแสงที่ทรงพลัง หากปราศจากป้ายสัญลักษณ์โดยพื้นฐานแล้วก็ไม่สามารถที่จะเข้าไปได้






เพียงพริบตาเหล่าผู้คนเป็นจำนวนมากก็เข้าสู่ด้านในเพื่อเตรียมตัวที่จะเริ่มต้นการทดสอบ ตำหนักหยกสวรรค์ก็เช่นเดียวกัน






ยี่ เทียนหยุนมองดูไปที่ม่านแสงนี้ พลันสมองของเขาก็เคลื่อนผ่านไปมาอย่างนิ่มนวลและรวดเร็วผุดไอเดียความคิดขึ้นมา พริบตาเขาก็พูดกับผู้อาวุโสใหญ่ว่า " ส่งป้ายสัญลักษณ์มาให้กับข้า ข้าอยากจะลองดูว่าสามารถที่จะเข้าไปด้านในได้หรือไม่ ?? "






เป็นการกระทำอย่างสามัญทั่วๆไป ความคิดของยี่ เทียนหยุนที่ไม่ยอมลดราวาศอกมักจะสร้างปัญหาอยู่เป็นระยะๆ และในตอนนี้เขาก็เป็นถึงผู้อาวุโสแล้วด้วย






" ดูเหมือนว่าเจ้าจะยังไม่ถอดใจซินะ งั้นข้าจะให้เจ้าได้ลองดู " ผู้อาวุโสใหญ่บอกใบ้เป็นนัยกับลูกศิษย์ให้มอบตราสัญลักษณ์ออกมาเพื่อส่งให้กับยี่ เทียนหยุน






หลังจากที่ยี่ เทียนหยุนได้รับตราสัญลักษณ์แล้วก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า " ขอบคุณ ข้าจะลองดู "






แค่เพียงพริบตาเขาก็ถือป้ายสัญลักษณ์เดินตรงไปยังทางเข้าของซากปรักหักพังโบราณแห่งสวรรค์ ผู้อาวุโสใหญ่นั้นคิดว่ายี่ เทียนหยุนจะต้องถูกบล็อคอยู่ด้านนอกอย่างแน่นอน !! แต่ปรากฏว่าเขาสามารถที่จะเดินก้าวเข้าสู่ด้านในได้โดยที่ไม่มีข้อจำกัด !!






" น..... นี่ มันเป็นไปได้อย่างไร ?? " ผู้อาวุโสใหญ่เดินไปข้างหน้าด้วยความช็อคซะหลายก้าว เธอมองดูม่านแสงด้วยความประหลาดใจ






ฐานพลังของยี่ เทียนหยุนนั้นแน่นอนว่าถูกจำกัด แล้วเขาผ่านเข้าไปได้อย่างไร ??






ช่วงเวลาต่อมาผู้อาวุโสใหญ่ก็ยื่นมือของเธอออกไป แต่มือนั้นไม่สามารถที่จะยืดออกให้ตรงได้ นั่นก็เพราะม่านแสงที่บล็อคอยู่นั่นเอง หากจะให้พูดโดยพื้นฐานก็คือ มันไม่สามารถที่จะเข้าสู่ด้านในได้แม้เพียงแค่ครึ่งนาที






" แปลกจริง มันก็ยังคงทำงานอยู่นี่นา..... " ผู้อาวุโสใหญ่ขมวดคิ้ว ทันใดนั้นเธอก็พูดกับศิษย์ที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามว่า " ส่งป้ายสัญลักษณ์มาให้กับข้า ให้ข้าได้ลองดู "






ศิษย์คนนั้นไม่ได้พูดอะไรมาก เธอมอบป้ายสัญลักษณ์ให้ในทันที






หลังจากที่ผู้อาวุโสใหญ่ได้รับแล้ว เธอก็ทดลองเคลื่อนตัวไปข้างหน้าอีกครั้งหนึ่ง แต่ผลลัพธ์ปรากฏออกมาว่า..... เธอนั้นถูกบล็อค !!






" แปลกจริงๆ..... " ผู้อาวุโสใหญ่รู้สึกช็อค ยี่ เทียนหยุนที่อยู่ในขั้นแก่นการควบแน่นสามารถที่จะเข้าไปได้ !!

 




 






















 

 

รีวิวผู้อ่าน