px

เรื่อง : Crazy Leveling System
ตอนที่ 91 ก่อกบฏ









อำนาจแห่งพลังมาจากตำแหน่งที่สูง แรงกดอันมหาศาลพุ่งตรงมายังที่นี่จากสถานที่ห่างไกล บรรดาศิษย์ชั้นนำของตำหนักหยกสวรรค์ต่างก็พากันออกมา ในตอนนี้พลังของที่นี่นั้นต่างก็ถูกสูบออกไปอย่างช้าๆแต่รวดเร็ว พวกเขาต่างก็ตระหนักได้ถึงสิ่งที่ไม่ชอบมาพากลอันนี้ ต่อมาพวกเขาก็ค้นพบในทันทีว่า มันมีความผิดปกติมาจากด้านข้างหลังภูเขา พวกเขาจะต้องถูกสูบจนหมดตัวแน่หากว่ายอมจำนน






ไม่ต้องรอให้พลังถูกสูบเป็นเวลานาน ใครบางคนก็กลับมารายงานให้ทราบในทันทีว่า






" ท่านเจ้าตำหนัก..... มีผู้เชี่ยวชาญการ์ดเฝ้าระวังอยู่บริเวณด้านข้างหลังภูเขา พวกมันไม่ยอมให้พวกเราได้ผ่านออกไป !! " Deacon (ผู้ดูแล) รีบกลับมารายงานอย่างรีบเร่ง






" ดูเหมือนว่าพวกมันมีการเตรียมพร้อมที่จะเสียสละ..... "






ฉี ซู่หยุนขมวดคิ้ว ปัญหาได้มาเยือนแล้ว กลุ่มอิทธิพลที่มาแน่นอนว่าพวกมันไม่ได้มาเพียงลำพังเป็นแน่ แต่พวกมันต่างก็ยกโขยงกันมา กลุ่มของบรรดาชายชรา เหล่าบุคคลที่อยู่แต่ในโลงศพ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะปลดปล่อยกลิ่นอายที่รุนแรงออกมาจากร่างกายของพวกเขา ณ ขณะนี้

 






และไม่ใช่มาแค่คนเดียว แต่มากันถึง 6 คน ใบหน้าของคนทั้งหกนั้นเป็นล้วนเป็นไปตามกาลเวลา รอยย่นเป็นท่อนๆปรากฏอยู่บนใบหน้าของพวกเขา รอยตีนกาที่โค้งลึก แต่แสงที่อยู่ภายในตาของพวกเขาทั้งสองข้างนั้นไม่ได้เป็นประกายระยิบระยับเฉกเช่นในวัยหนุ่ม แต่อยู่ในสภาพที่ลมหายใจแขวนอยู่บนเส้นด้าย






บุคคลทั้งหกนี้ ต่างก็เป็นบรรพบุรุษของกลุ่มอิทธิพลทั้งสาม ฐานพลังนั้นอยู่ในขั้นแก่นการควบแน่นระดับสูงสุด ห่างจากขั้นแก่นวิญญาณเพียงแค่ระดับเดียวเท่านั้น แต่เดินทางมาถึงอายุปูนนี้แล้ว แน่นอนว่าย่อมเป็นไปไม่ได้ที่จะเลื่อนระดับ สภาพของพวกเขาในตอนนี้พูดได้ว่าคลานออกมาจากโลงศพ






ผู้นำของตนเองทั้งหมดถูกฆ่าตาย ทั้งๆที่พวกเขาแท้ที่จริงแล้วต่างก็เก็บตนตัดขาดตัวเองออกจากโลกภายนอก จึงต้องออกมาพร้อมกับพกพาความโกรธอย่างถึงที่สุดมาด้วย ภายใต้สถานการณ์ที่เร่งด่วนเช่นนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่จะเป็นการบั่นทอนอายุของพวกเขาให้สั้นลง แต่พวกเขาก็ไม่มีทางเลือก






ผู้นำนิกายของพวกเขาต่างก็ถูกฆ่าตาย หากพวกเขาเอาแต่หลบซ่อนอยู่ในนิกาย นี่จะไม่เป็นถูกคนทั้งโลกหัวเราะเยาะเอาอย่างนั้นหรือ และที่ยิ่งไปกว่านั้นฝั่งตรงกันข้ามเองก็เป็นเพียงกลุ่มอิสตรี การทำตัวเยี่ยงนี้ก็เท่ากับว่าด้อยกว่าอิสตรี แล้วพวกเขาจะกล้ำกลืนฝืนทนอยู่ได้ยังไง






ฐานพลังที่มานั้นอยู่ในขั้นแก่นการควบแน่นระดับสูงสุด ที่เหลือก็อยู่ในขั้นแก่นการควบแน่นเป็นลำดับชั้น ไม่ใช่คนทุกคนจะสามารถบรรลุถึงระดับขั้นแก่นการควบแน่นระดับสูงสุดได้ทุกคน






เมื่อบรรลุถึงขั้นแก่นการควบแน่น ช่วงชีวิตจะอยู่ที่ 400-500 ปี หากมองดูจากสภาพของพวกเขาแล้ว นี่เป็นกลุ่มของสัตว์ประหลาดอายุยืน หากต้องการที่จะมีชีวิตที่ยืนยาวขึ้นกว่านี้ แน่นอนว่าพวกเขาจะต้องทำการเลื่อนระดับเพียงเท่านั้น จึงจะสามารถมีชีวิตที่ยืนยาวขึ้นมาได้






ฐานพลังที่อยู่ในขั้นแก่นวิญญาณ อย่างน้อยจะสามารถอาศัยอยู่ได้ราวๆ 1,000 ปี การจะทะลวงผ่านเข้าสู่ขั้นนี้ จะกระทำโดยไม่มีการเปิดเผยโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากอยู่ในวัยชรา






" ท่านเจ้าตำหนัก ในตอนนี้พวกเราจะทำอย่างไรกันดี ?? " ผู้อาวุโสใหญ่ที่กลับมา สีหน้าในยามนี้ยังคงแลดูสง่างาม ตำหนักหยกสวรรค์ของพวกเขาในตอนนี้นั้นเป็นรองอย่างเห็นได้ชัด เมื่อขาดยี่ เทียนหยุนไป พลังของพวกเขาก็ตกลง






" ข้านั้นต้องการที่จะออกไปดู ว่าจะหาทางช่วยเทียนหยุนออกมาได้อย่างไร ไม่คิดเลยว่าพวกเขาจะก่อปัญหาขึ้นมาอย่างกระทันหันแบบนี้..... " เมื่อยามรู้ข่าวว่ายี่ เทียนหยุนติดอยู่ด้านในนั้น หัวใจของฉี ซู่หยุนก็วิตกกังวลเป็นอย่างมาก เธอเตรียมตัวที่จะไปยังซากปรักหักพังโบราณสถานแห่งสวรรค์ แต่ก็ไม่คิดเลยว่าเธอจะไม่มีเวลาได้ไปซะแล้ว






บรรดาเฒ่าประหลาดเหล่านี้เมื่อมาถึงต่างก็พากันโอบล้อมในทันที ราวกับได้รับข่าวสารอะไรบางอย่าง พวกเขาจึงรีบฉกฉวยโอกาสลงมืออย่างรวดเร็วในทันที






เมื่อขาดพลังของยี่ เทียนหยุนไป การจะต่อกรกับบรรดาเฒ่าประหลาดเหล่านี้ก็ย่อมที่จะเป็นไปได้ยาก ถึงแม้ว่าฐานพลังของบรรดาเฒ่าประหลาดเหล่านี้จะต่ำกว่ามาตรฐานในช่วงพีคของตัวเอง แต่ก็ยังถือว่ามีพลังที่แข็งแกร่งอยู่ จึงไม่สามารถที่จะประมาทพวกเขาเหล่านี้ได้






" ท่านเจ้าตำหนัก ในเวลานี้พวกเราไม่มี..... " ผู้อาวุโสใหญ่หม้อ ยู้รู้สึกว่าตนเองนั้นมีความผิด






" ไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับท่าน เด็กคนนี้มักจะสร้างปัญหาอยู่เป็นประจำ มิฉะนั้นย่อมเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดเหตุเช่นนั้นขึ้น..... " ฉี ซู่หยุนพูดอย่างเคร่งขรึม นั่นจึงทำให้เขาไม่ได้ออกมา " ในตอนนี้ พวกเราต้องเพ่งสมาธิไปที่กลุ่มของเฒ่าประหลาดเหล่านี้ !! "






ในเวลานี้ ชายชราทั้งหกก็ได้เดินเข้ามา ทุกๆย่างก้าวนั้นดูจริงจัง กลิ่นอายของคนทั้งหกนั้นดูห้าวหาญ พละกำลังที่นิกายพวกเขามีเท่าไหร่ ต่างก็นำออกมาใช้จนหมด รวมไปถึงบรรดาชนชั้นนำและผู้ดูแลทั้งหลาย ที่ต่างก็ปิดล้อมเป็นวงกลมอย่างกระชับรัดกุมอยู่ที่นี่






ด้วยสถานการณ์ของตำหนักหยกสวรรค์ในตอนนี้ ไม่มีทางที่พวกเขาจะสามารถฝ่าออกไปได้ มีแต่จะถูกสังหารอย่างเหี้ยมโหดก็เท่านั้น






" เจ้าพวกเด็กน้อยทั้งหลายเอ๋ย คงเห็นว่าหมดสมัยของพวกเราแล้วซินะ ที่ตั้งนานแล้วพวกเราไม่ออกมา คงจะคิดว่านี่เป็นโลกของพวกเจ้าอย่างงั้นเหรอ ?? " นั่นคือบรรพบุรุษของนิกายหลอมโลหะเทวะผู้ที่มีฐานพลังอยู่ในขั้นแก่นการควบแน่นระดับสูงสุด เหวิน เถียน !!






" ฆ่าคนของเราไปตั้งหลายคน บัญชีนี้พวกเจ้าจะต้องชดใช้ !! " ใกล้กันนั้น ฐานพลังอ่อนกว่าเล็กน้อยแต่ก็ยังอยู่ในขั้นแก่นการควบแน่นระดับที่ 9 คนผู้นี้ก็คือ บรรพบุรุษของนิกายวิญญาณสวรรค์ เทียน เฟิง !!






" เห็นว่าพวกเรากลุ่มอิทธิพลเป็นเวลานานแล้วไม่ได้ออกมา คงจะคิดว่าพวกเราคงจะไม่ปรากฏตัวออกมาแล้วละซิท่า ?? ในยุคแรกที่พวกเราต่างก็มีวีระกรรมสะท้านแผ่นดิน พวกเจ้ามันยังไม่เกิดเลยด้วยซ้ำ !! " บรรพบุรุษตึกกระแสลมแห่งสวรรค์ เฟิง หยุนผู้มีฐานพลังอยู่ในขั้นแก่นการควบแน่นระดับที่ 9






ฐานพลังที่ต่ำที่สุดของพวกเขาก็คือ ขั้นแก่นการควบแน่นระดับที่ 9 ไม่มีต่ำกว่านี้ ไม่เช่นนั้นก็คงจะไม่เรียกกลุ่มนี้ว่า เหล่าสัตว์ประหลาดเฒ่า 3 คนนี้คือตัวแทนที่เป็นที่เคารพนับถือภายในนิกายของพวกเขา เป็นเหล่าบรรพบุรุษชราผู้มีประสบการณ์มากที่สุด






คำพูดที่พวกเขาเปล่งออกมานั้นมันแฝงไปด้วยกลิ่นอายที่ทรงพลังอย่างมหาศาล มันกดดันเหล่าวิญญาณของผู้คนเป็นจำนวนมาก ทำให้พวกเขาต่างก็รู้สึกแน่นหน้าอก หายใจได้อย่างยากลำบาก






" เลิกพล่ามได้แล้ว เจ้าพวกบรรดาเฒ่าประหลาดทั้งหลาย พวกเราตำหนักหยกสวรรค์ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงกลุ่มอิทธิพลเกรด 1 แต่ก็ไม่ได้ความว่าพวกเรานั้นจะอ่อนแอ !! "






ในเวลานี้ บรรพบุรุษจำนวน 3 คนได้เดินออกมาจากตำหนักหยกสวรรค์ อายุก็ประมาณหญิงชรา พวกเธอเดินมาด้วยท่าทีอันสงบนิ่ง พวกเธอนั้นเป็นเหล่าบรรพบุรุษที่เก็บตัวด้วยความสันโดษอย่างต่อเนื่อง ในตอนนี้เกิดเหตุการณ์คับขันขึ้น พวกเธอจึงต้องออกมาพร้อมกันถึง 3 คน






ฐานบ่มเพาะพลังของพวกเธอต่างก็ไม่ได้สูงมากนัก แค่เพียงขั้นแก่นการควบแน่นระดับที่ 8 เพียงเท่านั้น หากนำมาเปรียบเทียบกับบรรพบุรุษของนิกายหลอมโลหะเทวะแล้ว ก็จะพบว่าห่างกันถึง 2 ระดับเลยทีเดียว พูดแล้วก็อาจจะหาว่าเป็นการกล่าวเกินจริง ด้วยฐานพลังในขั้นแก่นการควบแน่นระดับที่ 8 นี้ ก็เพียงพอที่จะสั่นสะเทือนแผ่นดินใหญ่ในยุคแรกๆได้แล้ว






" ที่แท้เจ้าก็ยังไม่ตายนี่เอง ดูเหมือนว่าเจ้าในตอนนี้คงยากที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อีก " บรรพบุรุษเหวิน เถียนพูดเยาะเย้ย " พวกเจ้าได้ฆ่าคนของพวกเราตายไปเป็นจำนวนมาก ในตอนนี้ข้าจะให้เจ้าได้เลือก ยอมจำนนต่อพวกเรา รวมเข้ากับนิกายของพวกเรา กลายมาเป็นคู่ฝึกเต๋ากับบรรดาศิษย์ของพวกเรา หรือไม่ก็ถูกพวกเราปราบปรามโดยการฆ่าล้างบางตำหนักหยกแห่งสวรรค์ของพวกเจ้า !! "






ไม่ว่าจะเลือกอันไหน ล้วนแล้วแต่ก็ต้องจบลงด้วยโศกนาฏกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทางเลือกแรก นั้นเป็นหลักการที่น่าอายเป็นอย่างยิ่ง






ดูจะเป็นการดัดแปลงคำพูดที่ฟังดูแล้วน่ารัก เรียกว่าคู่ฝึกเต๋า หากดูตามสภาพการณ์ในปัจจุบันแล้ว คงจะเรียกได้ว่า ไปเป็นทาสซะมากกว่า !!






" ให้พวกเราไปเป็นทาสของพวกเจ้า อย่าฝันหวานไปหน่อยเลย !! เรายอมที่จะเสี่ยงชีวิตดั่งเช่นทหารหาญจนถึงที่สุด คนเช่นพวกเจ้าอย่าได้คิดหวังเลย !! " บรรพบุรุษบิง ซินสายตาเย็นชา เธอไม่ยินยอมพร้อมใจอย่างแน่นอน






" ยอดเยี่ยม งั้นพิชิตตำหนักหยกสวรรค์ของพวกเจ้าด้วยการฆ่าล้างบางซะให้หมด นี่คือหนี้ที่พวกเจ้าจะต้องจ่าย !! " บรรพบุรุษเหวิน เถียนพูดเยาะเย้ย " ลงมือ !! "






ในขณะที่เขาตะโกนออกมา พวกเขาไม่ใช่เป็นฝ่ายเริ่ม แต่เป็นตำหนักหยกสวรรค์ที่เริ่ม มีใครบางคนที่เริ่มลงมือฆ่าฟันพวกเดียวกันเองอย่างกระทันหัน






" พัฟ..... " เลือดพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า 2 คน 3 คน.....






เหล่าศิษย์ต่างก็ถูกแทง สถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันแบบนี้ ต่างก็ทำให้ผู้คนนั้นตกอยู่ในความตะลึง






" เจ้าพวกทรยศ พวกเจ้าก่อกบฏอย่างงั้นเรอะ !! " ฉี ซู่หยุนสายตาพลันเย็นชา ร่างของเธอหายไปอย่างรวดเร็ว เธอต้องการที่จะขัดขวางบรรดาคนทรยศเหล่านี้ แต่..... เหล่าเฒ่าบรรพบุรุษก็ล้อมรอบตัวเธอเอาไว้อย่างรวดเร็ว เธอใช้ฝ่ามือขวาเข้าปะทะ






" แปง " ฉี ซู่หยุนเซถอยหลัง ไม่มีความได้เปรียบเลยแม้แต่นิดเดียว






กบฏเหล่านี้ถึงแม้ว่าจะมีปริมาณที่ไม่มาก เพียง 45 คนเท่านั้น แต่พวกเธอก็อยู่ภายใน !! ฐานพลังก็มิใช่น้อย บางคนก็ถึงกับอยู่ในขั้นปรับแต่งวิญญาณ และบางคนก็เป็นคนที่เข้าสู่ด่านทดสอบซากปรักหักพังโบราณสถานแห่งสวรรค์ !!






ถึงแม้ว่าจะเป็นลูกศิษย์ในกลุ่มหัวกระทิเพียงเล็กน้อย แต่ก็ไม่นึกไม่ฝันว่าจะกลายเป็นกบฏ เหตุผลอันนี้มันยากที่จะทำใจให้ยอมรับได้






" ฮ่าๆฮ่าๆ ไม่ต้องคิดเลย !! ขาดเจ้าเด็กคนนั้นไป พวกเจ้าจะมีปัญญาสร้างปัญหาอะไรได้ ได้ยินมาว่าฐานพลังของเจ้าเด็กคนนั้นบรรลุถึงขั้นแก่นการควบแน่น นี่มันตัวมารร้ายชัดๆ " บรรพบุรุษเหวิน เถียนพูดจาเยาะเย้ยว่า " ถูกขังอยู่ด้านในซากปรักหักพังโบราณสถานสวรรค์แห่งนั้น ข้าคิดว่าเขาคงจะไม่ได้ออกมาแล้วละ หากเขาตายอยู่ข้างใน ดังนั้นแล้ว พวกเจ้ายังจะมีการ์ดอะไรอยู่ในมืออีก !! "






พวกเขาถึงได้ฉกฉวยโอกาสได้อย่างรวดเร็ว ที่แท้ก็มีไส้ศึกอยู่ภายใน !! เมื่อรู้ว่ายี่ เทียนหยุนไม่สามารถที่จะออกมาจากซากปรักหักพังโบราณสถานแห่งสวรรค์ได้แล้ว พวกเขาก็ลงมือกันอย่างรวดเร็ว






กำแพงที่ไม่มีรูระบาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานการณ์ในปัจจุบันที่มีไส้ศึกอยู่ภายใน มันจึงดูร้ายแรงยิ่งขึ้นไปอีก พวกเขารู้ถึงความแข็งแกร่งที่แท้จริงของยี่ เทียนหยุน ดังนั้นแล้วต่อให้โกหกผู้อื่นได้ แต่ก็ไม่สามารถโกหกพวกเขาได้ เนื่องจากยี่ เทียนหยุน พวกเขาจึงไม่กล้าที่จะลงมือตามอำเภอใจ






แต่ตอนนี้ในเมื่อคนไม่อยู่แล้ว ก็ต้องรีบฉกฉวยโอกาส คงจะมีแต่พระเจ้ากระมังที่รู้ว่ายี่ เทียนหยุนนั้นมีการ์ดอะไรอยู่ในมือ ดังนั้นแล้วเลี่ยงได้พวกเขาจึงหลีกเลี่ยงไว้ก่อน






ในขณะเดียวกัน ยี่ เทียนหยุนก็เร่งรีบเดินทางอย่างรวดเร็ว เขารู้สึกแปลกๆไม่ค่อยดี ร่างกายพลันเย็นเฉียบขึ้นมา






" รู้สึกแปลกๆ ทำไมข้ารู้สึกสังหรณ์ใจไม่ค่อยดี..... คงต้องรีบแล้ว !! " ยี่ เทียนหยุนสายตาพลันเย็นชา เขารีบเร่งความเร็วในการวิ่งยิ่งขึ้นไปอีก






เขาไม่ได้ขี่หมาป่าหิมะที่จะได้เร่งความเร็วถึงขีดสุดได้ เขาทำได้เพียงแค่วิ่งกลับไปเท่านั้น !!

 


 

















 

รีวิวผู้อ่าน