" ที่นี่มันจะต้องมีสมบัติอยู่ที่ไหนซักแห่งอย่างแน่นอน มันคล้ายจะพูดได้ว่าไม่อนุญาตให้เผ่าวิญญาณเข้ามาเกี่ยวข้องกับของสิ่งนี้ยังไงอย่างงั้น หาไม่มิฉะนั้นแล้วบรรดาเหล่าสัตว์อสูรคงจะไม่เดินเพ่นพ่านกันไปมาอย่างสับสนไปหมดอยู่ที่นี่เป็นแน่..... "
ยี่ เทียนหยุนขมวดคิ้ว เขายังคงเดินสำรวจเกาะๆนี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะค้นหาทุกซอกทุกมุม
ครั้นที่นี่ก่อสร้างแผ่นหินจารึกหน้าหลุมฝังศพเอาไว้ จึงอาจที่จะสันนิษฐานขั้นต้นได้ว่าที่นี่ในตอนแรกจะต้องมีสงครามเกิดขึ้น ส่วนใครที่ตายลง ณ ที่แห่งนี้ ก็อาจที่จะสร้างหลุมฝังศพขึ้นที่นี่ ซึ่งตามปกติวิสัยแล้วก็อาจจะเป็นการสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นอนุสรณ์ทำให้ระลึกถึง จึงก่อสร้างแผ่นหินจารึกหน้าหลุมศพนี้ขึ้นมาด้วยเหตุนั้น
จากการที่ยึดมั่นในข้อสันนิษฐานอยู่หลายส่วน ยี่ เทียนหยุนจึงมีความหวัง แต่หลังจากที่เขาเดินวนอยู่พักใหญ่ ก็ไม่ได้ค้นพบประตูทางเข้าแต่อย่างใด มันมีแต่ป่า
" แปลกจริง ไม่เจออะไรเลย หรือมันจะไม่อยู่บนเกาะแห่งนี้..... "
ยี่ เทียนหยุนขมวดคิ้ว นี่ทำให้เขารู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมาก เขารู้สึกท้อแท้คล้ายกับจะยอมจำนนยกธงขาว
แต่อย่างไรก็ตามที ยี่ เทียนหยุนก็ยังไม่ยอมแพ้ เขายังคงเดินสำรวจอย่างต่อเนื่องต่อไป จนในที่สุดเขาก็เจอเข้ากับวลีที่อยู่บนต้นไม้หลายต่อหลายต้นด้วยกัน มันถูกแกะสลักอยู่บนต้นไม้อย่างไม่คาดฝัน ภาษาที่แกะสลักก็คือ ภาษาของเผ่าวิญญาณนี่เอง !!
" บนต้นไม้มีภาษาเผ่าวิญญาณแกะสลักอยู่ นี่มันทำให้ยี่ เทียนหยุนพอที่จะหาเบาะแสได้บ้าง..... "
หลังจากที่เขามองดูตัวอักษรที่ถูกแกะสลักอยู่ด้านบนของต้นไม้เหล่านี้ มันถูกแปลออกมาได้ว่า
" ประตูแห่งการปกครองเข้าถึงองค์กรที่สูงที่สุด ?? "
ปากของยี่ เทียนหยุนในตอนนี้อ่านออกเสียงประโยคที่ยากจะเข้าใจออกมา เขาหวังที่จะหาเบาะแสจากข้อความที่ซ่อนอยู่ แต่หลังจากที่อ่านจนจบดีแล้ว
" ไร้ประโยชน์ ?? "
ยี่ เทียนหยุนพินิจพิเคราะห์บรรดาต้นไม้เหล่านี้ ชัดเจนว่าที่นี่จะต้องมีอาเรย์ขนาดใหญ่อยู่แน่ๆ อาจจะคล้ายกับอาเรย์เคลื่อนย้าย แต่เขาในตอนนี้ไม่มีทางที่จะเปิดมันออกได้แน่
เอาไว้ก่อนค่อยศึกษา แต่ท้ายที่สุดเขาก็ค้นพบภาษาของเผ่าวิญญาณที่เอาไว้ใช้สตาร์ทอาเรย์ขนาดใหญ่นี้ !! แต่อย่างไรก็ดี ความพยายามของเขาก็ยังคงไร้ผล
" รึว่ามันจะต้องใช้พลังวิญญาณ ?? "
ยี่ เทียนหยุนลองพยายามอ่านทบทวนอีกครั้งหนึ่งแต่ในครั้งนี้เขาโคจรพลังวิญญาณไปด้วย ผสมผสานเข้ากับเสียงพูด ขณะที่ท่องยี่ เทียนหยุนรู้สึกเหมือนกับว่าถูกปีศาจเข้าสิง เสมือนตัวเองมิใช่คน เขารู้สึกแตกต่างกันราวฟ้ากับเหวจากเมื่อก่อน ราวกับว่าเขากำลังใช้ภาษาแม่อยู่จริงๆ มันดูมีพลังมีจิตวิญญาณเป็นอย่างมาก
หลังจากที่อ่านจบ ต้นไม้ที่รายล้อมอยู่เป็นจำนวนมากก็ส่องแสงออกมา ปกคลุมตัวเขาทั้งหมด จากนั้นยี่ เทียนหยุนก็หายวับไปจากจุดที่เขายืนอยู่ โดยสถานที่แห่งนี้ไม่ได้มีความเปลี่ยนแปลงอะไรเกิดขึ้นเลย ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ยี่ เทียนหยุนรู้สึกเหมือนตัวเองวูบผ่านไปอย่างรวดเร็ว ตัวเขาในตอนนี้มาโผล่อยู่ภายในถ้ำอันใหญ่โตมโหฬาร เขายกสายตาขึ้นมองดู ในนี้นั้นรายล้อมไปด้วยไข่มุกส่องสว่างที่ถูกติดตั้งเอาไว้ ใช้ไข่มุกส่องสว่าง 1 เม็ดนำทางภายในถ้ำที่มืดสนิทแห่งนี้ มีเพียงผู้ที่มีทักษะความสามารถเพียงเท่านั้นถึงจะทำเช่นนี้ได้ นี่พิสูจน์ได้เลยว่ามันย่อมจะมิใช่เรื่องง่ายอย่างแน่นอน ไข่มุกที่ส่องสว่างแต่ละเม็ดนี้ล้วนเป็นของที่ล้ำค่า หากขุดมันขึ้นมาแล้วนำไปขายข้างนอกแล้วละก็ สามารถที่จะแลกเปลี่ยนกลับมาเป็นเงินจำนวนมากได้อย่างแน่นอน
" ในที่สุดก็เข้ามา !! "
นัยน์ตาของยี่ เทียนหยุนเจิดจรัส จริงๆแล้วมันจำเป็นที่จะต้องปล่อยพลังวิญญาณเข้าไปในเสียงพูดจึงจะสามารถเปิดอาเรย์ขนาดใหญ่นี้ได้ มิฉะนั้นแล้วการอ่านก็ไร้ประโยชน์นะสิ โชคดีที่เขาพูดภาษาของเผ่าวิญญาณได้ หากไม่เช่นนั้นแล้ว งานนี้ได้เสียเปล่าเป็นแน่
" นี่มันช่างลึกล้ำจริงๆ ถ้าจะให้ไปถึงจุดที่ป้าพูดภาษาของเผ่าวิญญาณได้ละก็ ข้าก็คงหมดหนทาง " ยี่ เทียนหยุนส่ายหัว ไม่รู้ว่าฉี ซู่หยุนไปเข้าใจภาษาของเผ่าวิญญาณได้อย่างไร แน่นอนว่ายี่ เทียนหยุนไม่มีความสันทัดในด้านนี้เฉกเช่นฉี ซู่หยุนเลย
แรกเริ่มเดิมทีก็เป็นฉี ซู่หยุนนี่แหละที่สอนเขาให้อ่าน หาไม่แล้วตัวเขาก็คงจะไม่เข้าใจ
" ไม่รู้ว่าที่นี่แท้จริงที่จริงแล้วมีอะไรแอบซ่อนอยู่กันแน่ รึจะเกี่ยวกับสุสานนั่นจริงๆ..... ยี่ เทียนหยุนหรี่ตาใคร่ครวญใช้สมาธิคิดทบทวน " นี่ถือได้ว่าคุ้มค่าในการมองจริงๆ จากเนื้อหาของแผ่นศิลาจาริกหินหน้าหลุมฝังศพอันนั้น นี่คงจะถูกเรียกว่า - หลุมฝังศพของฮวน ฉิน -
ฮวน ฉินคนนี้เป็นใครกัน ยี่ เทียนหยุนยังคงคลุมเครืออยู่เป็นอย่างมาก
จะยังไงก็แล้วแต่ เขาจะต้องมุ่งไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง คราแรกเมื่อเขาเข้าสู่พระราชวังมังกรเทวะ เขาได้พบกับธรรมเนียมข้อปฏิบัติบางอย่างที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน ถ้าหากว่ายี่ เทียนหยุนเกิดถูกฆ่าตายด้วยธรรมเนียมข้อปฏิบัติภายในสถานที่แห่งนี้ เขาก็คงจะกลายเป็นคนที่ติดหนี้ก้อนโตก็เป็นได้
จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ความจริงก็แสดงให้เห็นว่า เขากลายเป็นคนที่มีความรู้สึกไวเกินกว่าเหตุต่อสถานการณ์ที่ตัวเขาก็ยังไม่ทราบแน่ชัด หากไม่มีขนบธรรมเนียมประเพณีอะไรเทือกนี้แล้ว มันนำมาเปรียบเทียบกันมิได้เลยกับการเดินโดยไม่มีข้อจำกัดใดๆ
ยี่ เทียนหยุนยังคงเดินตรงไปอย่างต่อเนื่อง ยิ่งเดินลึกเข้าไปเท่าไร ด้านในก็จะยิ่งร้อนเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น เสมือนหนึ่งว่าคลื่นความร้อนที่ได้รับนั้นระเบิดออกมาจากด้านใน ปรากฏการณ์เช่นนี้แปลกเป็นอย่างมาก แต่ทว่ามันก็มิได้มีอิทธิพลใดๆต่อยี่ เทียนหยุน ด้วยฐานพลัง ณ ปัจจุบันของเขาที่บรรลุจนถึงขั้นแก่นวิญญาณนั้น ไม่ว่าคลื่นความร้อนจะมีปริมาณมากซักเพียงใด มันก็มิใช่ปัญหาแต่ประการใด
ยี่ เทียนหยุนเดินไปตามทางในอุโมงค์ เขาก้าวเดินอย่างรวดเร็วตรงไปยังพื้นที่ว่างด้านหน้า และแล้วทันใดนั้นตัวเขาก็พบกับแสงสว่าง สายตาของเขาก็เจอเข้ากับหินมังกรไฟ มันถูกสร้างขึ้นล้อมรอบสถานที่แห่งนี้เต็มไปหมด พวกมันล้วนปลดปล่อยรัศมีของคลื่นแห่งความร้อนอย่างต่อเนื่อง พวกมันล้วนปกคลุมพื้นที่ว่างแห่งนี้เอาไว้ หากว่าเป็นบุคคลเฉลี่ยโดยทั่วไปเข้ามาที่นี่แล้วละก็ เขาจะต้องถูกเผาไหม้อย่างแน่นอน
" นี่คือหินมังกรไฟ..... "
ยี่ เทียนหยุนหรี่ตาเพ่งสมาธิพินิจพิจารณา เจ้าสิ่งนี้หากมองรวมๆแล้ว มันเป็นสถานที่ที่ค่อนข้างจะอันตรายมากทีเดียว มันดูคล้ายกับหินเรืองแสงสีแดง มองเผินๆก็คล้ายกับมังกร มันเป็นแผ่นเหล็กที่ติดอยู่รายรอบผนังกำแพงของที่นี่ มันดูมีชีวิตชีวาเสมือนของจริง ไอ้เจ้าหินมังกรไฟนี้ยังคงบรรจุพลังวิญญาณของธาตุไฟที่มากเป็นพิเศษ คลับคล้ายคลับคลากับแผ่นเหล็กหนาที่แผ่ความร้อน ราคาของมันนั้นดีมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งมันเหมาะสำหรับบรรดาเหล่านักสู้ที่ใช้ธาตุไฟ
ไม่คิดเลยว่าที่นี่จะมีหินมังกรไฟเป็นจำนวนมากขนาดนี้ มันช่างดูลึกลับซะจริงๆ
" ใครนะ !! " มีเสียงที่ส่งออกมาจากด้านหน้าอย่างรวดเร็ว แม้มันจะฟังดูดุร้ายแต่ก็เจือปนไปด้วยความอ่อนโยนละมุนละไม
ยี่ เทียนหยุนมองไปตามเสียง ก็ค้นพบเข้ากับจุดกึ่งกลางของสถานที่แห่งนี้เข้า มีเครื่องพันธนาการที่แน่นหนา เครื่องพันธนาการนี้หล่อติดอยู่กับหินมังกรไฟ มันพันธนาการหญิงสาวที่แลดูบอบบางที่นั่งอยู่ในคอก ณ ตอนนี้เธอเต็มไปด้วยการตื่นตัวระมัดระวังพร้อมกับสายตาอันโกรธเคืองที่กำลังจ้องมองมาที่ยี่ เทียนหยุน !!
" คนเป็น ?? " ยี่ เทียนหยุนสั่น ไม่คิดมาก่อนเลยว่า ณ สถานที่แห่งนี้ยังจะมีคนที่มีชีวิตอยู่อีก เขาคิดว่าที่นี่จะเป็นหลุมฝังศพซะอีก ข้างในนี้ไม่มีอะไรเลย เขาคิดว่าที่นี่จะมีศพอยู่เป็นจำนวนมากแต่ดูเหมือนว่าตัวเขาเองจะคิดผิดซะแล้ว
หญิงสาวคนนี้ดูไปอายุนั้นอยู่ราวๆ 16-17 ปี เธอมองดูสละสวย ผมสีเงินของเธอนั้นทอดยาวโรยตกลงบนพื้น ร่างกายที่บอบบางนี้จริงๆแล้วติดอยู่ในกุญแจมือ ดูๆไปก็อนาถใจ เธอจ้องมองยี่ เทียนหยุนด้วยนัยน์ตาคู่สวยสีเงินโดยที่นัยน์ตาทั้งสองข้างของเธอนั้นเต็มไปด้วยความโกรธ ตรงกันข้ามกับภาพลักษณ์ภายนอกของเธอ เธอมีเพียงแต่สายตาของความดื้อรั้นและหยิ่งทรนงเท่านั้น นี่ดูไม่เหมาะสมกับร่างอันบอบบางของเธอเลย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งออร่าของเธอที่ส่งออกมานั้น มันดูไม่ธรรมดาเลยจริงๆ มันเป็นออร่าของผู้เชี่ยวชาญอย่างแน่นอน !! ยี่ เทียนหยุนคาดคะเนฐานพลังของตัวเธออย่างน้อยๆเขาคิดว่าจะต้องอยู่ในขั้นแก่นการควบแน่นขึ้นไป เขาคาดว่าการที่เธอถูกพันธนาการอยู่ที่นี่ ฐานพลังของเธอที่ปรากฏอยู่ ณ ตอนนี้จะต้องเป็นพลังที่ถดถอยด้อยลงไป เป็นไปได้ว่าพละกำลังที่แท้จริงของเธอจะต้องแข็งแกร่งกว่า ณ ตอนนี้ที่เป็นอยู่
ไอเย็นที่ถูกส่งออกมาจากร่างกายของเธอนั้น ยี่ เทียนหยุนสามารถที่จะสัมผัสมันได้ ภายในรัศมีเล็กๆโดยมีเธอเป็นศูนย์กลางนั้น มันได้ถูกแช่แข็งกลายเป็นก้อนน้ำแข็งที่หนา แต่..... พวกมันก็ถูกหลอมละลายลงอย่างรวดเร็วโดยหินมังกรไฟที่รายล้อมในสัดส่วนที่ผกผันกัน
ไอเย็นทั้งหมดดูเหมือนว่าจะถูกปราบปราม กุญแจมืออันนี้ใช้หินมังกรไฟก้อนเล็กฝังอยู่ มันทำให้พลังของเธอนั้นถูกสะกดข่ม คนที่ทำอย่างนี้ต้องการจะให้เธอเพียงเคลื่อนไหวอยู่ในสถานที่เล็กๆแห่งนี้เพียงเท่านั้น
ภายนอกนั้นก่อสร้างศิลาจารึกหน้าหลุมฝังศพขึ้นมา ด้านในแท้จริงแล้วกลับกักขังบุคคลที่มีชีวิต !! สิ่งนี้ทำให้ยี่ เทียนหยุนรู้สึกสะดุ้งตกใจกลัวเป็นอย่างมาก เนื้อหาแกะสลักที่บันทึกไว้ด้านนอก ที่เรียกว่า ฮวน ฉินนั้น อาจจะไม่ใช่
ไม่ว่าเรื่องราวจะเป็นเช่นไร แต่คนที่ยังมีชีวิตอยู่ถูกกักขังอยู่ที่นี่ นั่นคือความจริง และที่ยิ่งไปกว่านั้นบุคคลผู้นี้ย่อมมิใช่บุคคลธรรมดาสามัญ เมื่อมองดูรูปลักษณ์ภายนอกของเธอแล้ว ย่อมที่จะแตกต่างไปจากผู้คนเฉลี่ยโดยทั่วไป ใบหน้าของเธอนั้นมีหลายอักษรรูนศักดิ์สิทธิ์ที่มองเห็นได้เป็นบางส่วน ยี่ เทียนหยุนได้ยินมาว่า เผ่าวิญญาณนั้นจะมีอักษรรูนศักดิ์สิทธิ์นาบอยู่บนร่างกาย
เผ่าวิญญาณสามารถที่จะทำอย่างนั้นได้โดยทำการตัดต่อสุดยอดอักษรรูนศักดิ์สิทธิ์ที่โปรดปราน นี่คือความเหนือกว่าที่พิเศษ สิ่งนี้จะทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จอย่างมหาศาลของความสามารถทางด้านนี้ตั้งแต่เกิด ยี่ เทียนหยุนไม่คิดมาก่อนเลยว่า จะมีหญิงสาวเผ่าวิญญาณถูกพันธนาการอยู่ที่นี่ !!
รีวิวของคุณ
คุณจะให้ดาวนิยายเรื่องนี้หรือไม่
