px

เรื่อง : Castle of Black Iron
Chapter 325: โดนตาม


Chapter 325: โดนตาม

จางเทีย ยืนอยู่กำแพงส่วนนอกและมองไปยังรางรถที่ยกเครื่องจักรไอน้ำ รถเครนค่อยๆยกมันขึ้น

คนงานเริ่มเอาเคเบิลไปผูกเพื่อรักษาสมดุลของเครื่องจักรและตะโกนคุยกับคนที่บังคับรถเคน

“ ช้าหน่อย ช้าหน่อย ซ้ายนิด ขวา ซ้ายนิด โอเคละ ยกเลย ยก ขวา... “

ไซต์งานนั้นเสียงดังอย่างมาก ทุกคนกำลังยุ่งอยู่กับงานตัวเอง หลังจากที่ส่วนหลักของปราสาทเสร็จแล้วก็ยังมีงานอีกมากมายให้ต้องเคลียร์ ในบรรดางานพวกนั้นงานที่สำคัญที่สุดคือการติดตั้งเครื่องจักรไอน้ำและอุปกรณ์ป้องกันต่างๆที่กำแพง อีกทั้งยังการตกแต่งอีกด้วย

รูปร่างของปราสาทนั้นเริ่มชัดเจนขึ้นแต่มันก็น่าเกลียดจริงๆ มันเป็นแค่ก้อนปูนที่เผยให้เห็นโครงสร้างเหล็กซึ่งถ้ามองจากไกลๆอาจดูดีก็ได้

หลิวกง หัวหน้าทีมก่อสร้างและพนักงานของกลุ่มการค้าลองวินได้มากับ จางเทีย เพื่อตรวงจสอบโครงสร้างด้วย  จางเทีย มองไปที่ปราสาทและถามคำถามเขาต่างๆมากมาย

“ นี่คือเครื่องจักรหลักที่ใช้เป็นตัวหลักของปราสาทเหรอ ? “ – เมื่อมองไปยังเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่ถูกยกขึ้น เขาก็ได้ถามออกมา

“ ใช่ นี่คือเครื่องจักรหลักของปราสาท มันมีพลัง 9600 แรงม้า ปกติแล้วเครื่องนี้น่ะใช้ให้พลังงานกับอาวุธและปืนใหญ่หน้าไม้ มันเทียบเท่ากับเครื่องจักรไอน้ำธรรมดา 2 เครื่องที่ให้แรงออกน้อยกว่าเล็กน้อย แต่ละเครื่องให้แรงออกมา 3400 แรงม้า เครื่องธรรมดาน่ะเอาไว้ใช้กับพวกอาวุธที่แยกการทำงานกันอย่างพวกหน้าไม้เล็ก ระบบโจมตีย่อยซึ่งมันก็จะถูกเอามาติดตั้งที่ปราสาทด้วย ! “ – เมื่อตระหนักได้ว่าคำถามของ จางเทีย นั้นเกี่ยวกับอาชีพตัวเอง  หลิวกง ก็ตอบมันทันที

จางเทีย ชี้ไปที่แนวป้องกันที่สูงที่สุดและถามออกมา – “ เครื่องนี้จะถูกเอาไปติดตั้งไว้ที่นั่นรึเปล่า ?”
“ ใช่ เครื่องไอน้ำหลักนั้นจะถูกเอาไปติดตั้งไว้ในห้องของแนวป้องกันนั้น  อีกสองเครื่องจะถูกติดตั้งไว้ที่นี่และตรงนั้น.. “ - หลิวกง ชี้ไปที่สองที่ในส่วนนอกและส่วนในของปราสาท

เมื่อเขาจำได้ถึงเหตุการณ์ที่เครื่องจักรระเบิด  จางเทีย ก็กังวลขึ้นมาเล็กน้อย ในยุคนี้นอกจากระเบิดของนักเล่นแร่แปรธาตุแล้ว สิ่งเดียวที่สามารถระเบิดได้ก็คือเครื่องจักรพวกนี้แต่แม้ว่าพลังของเครื่องจักรจะสุดยอดแต่เอาจริงๆแล้วมันไม่ควรเรียกว่าระเบิด  มันก็แค่ผลลัพธ์ของการปล่อย,พลังงานที่ปล่อยออกมามากเกินไปในเวลาสั้นๆซึ่งแตกต่างกับระเบิดของนักเล่นแร่แปรธาตุ

ถ้าเครื่องจักรมันระเบิดจริงๆ ปราสาทก็คงได้รับความเสียหายอย่างมาก  จางเทีย ยังคงจับตาดูโครงสร้างของปราสาทต่อไป แม้ว่าเขาจะรู้สึกมันเหมือนฝันในตอนที่จับไปที่กำแพงเย็นๆแต่ไม่ต้องเดาเลยว่า จางเทีย ได้ใช้เวลาและเงินไปมากในการสร้างปราสาทนี้

นอกจากหนี้ 400,000-500,000 ทองแล้วก็ยังมีอย่างอื่นที่เขาต้องใส่ไว้ที่ปราสาทด้วย

เพราะคำว่า หยุน ในชื่อของ หลานหยุนซี   จางเทีย จึงเลือกให้มาสร้างปราสาทที่ภูเขาหยุนจู อีกอย่างแล้วปราสาทก็เป็นความฝันของผู้ชายทุกคนตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว ปราสาทนี้น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นความยิ่งใหญ่ของเขาในอนาคต

“ เครื่องนั่นจะระเบิดมั้ย ?” - จางเทีย ถามออกมาด้วยท่าทีจริงจัง

“ ฮี่ฮี่ เครื่องจักรที่ระเบิดน่ะเป็นเครื่องแบบเก่า ปราสาทนี้ได้ติดตั้งท่อน้ำไว้ตามโครงสร้างไว้แล้ว มันจะลดแรงดันและการทำงานที่มากเกินไปของเครื่องจักร แน่นอนว่าเรารับประกันเรื่องความปลอดภัยและการบริการ ! “ – หลิวกง ตบอกด้วยความมั่นใจ

เมื่อได้ยินแบบนั้น จางเทีย ก็วางใจขึ้นมา

“ ตอนนี้ที่เราต้องคิดคือจำนวนของคนดูแลและคนที่อยู่ข้างใน  ! “ - อู ที่ซึ่งมากับ จางเทีย ด้วย ได้พูดขึ้น – “ ปราสาทนี้จะเสร็จช้าสุดก็ 20 วัน หลังจากนั้นเราก็จะสามารถทำยาขึ้นที่นี่ได้ ผลก็คือคนจำนวนมากจะแห่กันมาที่นี่ เพื่อสนับสนุนการป้องกันและระบบความปลอดภัยของปราสาทแล้วน่าจะมีคนดูแล 70 คนเป็นอย่างน้อย  บนเกาะนี้ข้าว่าน่าจะมีคนสนเยอะอยู่ ข้าสงสัยว่าเจ้าจะมีแผนยังไง ? “

จางเทีย คิดสักพักก่อนจะถามออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง – “ ข้าสงสัยเรื่องข้อเสนอของเจ้า ว่ามาสิ อู ? “

“ แน่นอนวิธีที่เร็วที่สุดในการจ้างยาม กลุ่มเราน่ะให้บริการจ้างยามได้ คิดจากการพัฒนาระยะยาวแล้ว เจ้าสามารถจ้างนักรบของตระกูลได้โดยตรง ! “

“ จ้างนักรบตระกูล ! “ – จางเทีย ช็อกกับข้อเสนอนี้เล็กน้อย

อู ยิ้มออกมา – “  เพราะเจ้ามีปราสาท เจ้าก็มีสิทธิที่จะจ้างนักรบตระกูลได้ ตราบใดที่ให้เงินดีๆจะมีพวกนักรบรับจ้างที่พร้อมจะมาทำงานให้เจ้า ดังนั้นมันจึงง่ายอย่างมากที่จะจ้างนักรบตระกูล ! “

“ ข้ากังวลเรื่องความภักดีนี่สิ  ! “ - จางเทีย พูดขึ้น

“ ความภักดีของเขาก็เป็นแค่ฉากหน้า ถ้าเจ้าซื้อทาสรึทาสพวกนั้นจะขายตัวเองให้กับเจ้า ตราบใดที่เจ้าให้ความหวังพวกเขา เจ้าก็จะรักษาความภักดีของพวกเขาเอาไว้ได้ “

ตั้งแต่ที่มายังวังไฮหยวน นี่เป็นครั้งแรกที่ จางเทีย ได้ยินเรื่องขายทาส  เรื่องการขายตัวเองให้เป็นทาสยิ่งเป็นเรื่องใหม่

“ เจ้าหมายความว่ามีทาสอยู่ในวังไฮหยวนด้วยเหรอ?   ข้าเองก็อยากรู้เรื่องขายตัวเองด้วย ? “ - จางเทีย เริ่มสนใจขึ้นมา

“ มันไม่มีทาสในจินหยวนรึไม่มีกลไกอะไรที่บังคับให้สร้างทาสขึ้นมาแต่จินหยวนและวังไฮหยวนน่ะไม่ได้ห้ามเรื่องทาสและการแลกเปลี่ยน  หลายประเทศในทวีปไว่ยอมรับการมีอยู่ของทาสได้ มีหลายประเทศในประเทศอื่นที่ยอมรับการมีอยู่ของทาสและประชากรทาสนั้นก็เริ่มไหลเข้ามาในประเทศอื่นๆ พวกขายตัวเองนั้นก็หมายถึงพวกที่ยอมแพ้และขายตัวเองให้เป็นทาส ปกติแล้วพวกนั้นก็มีให้เห็นในวังไฮหยวนและจินหยุน ยังไงซะก็ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถใช้ชีวิตดีๆได้ มักจะมีคนที่ไม่มีกิน ถ้าพวกเขาขายตัวเองให้กับอาหารและชีวิตที่พอใช้ได้ แน่นอนว่าพวกเขาต้องยินดีที่จะรับมัน ! “

เมื่อได้ยินแบบนั้น จางเทีย ก็เงียบ เขาจำได้ถึงเนื้อหาในหนังสือประวัติศาสตร์มนุษย์ที่เขาอ่านมาหลายวันมานี้ ตามหนังสือบอกแล้วทาสมีตัวตนมาก่อนภัยพิบัติอีก ตอนนั้นผู้คนคิดว่าเรื่องวิทยาศาสตร์,เทคโนโลยี,และสังคมนั้นพัฒนามากที่สุด

พวกทาสต้องถูกบังคับให้ไปทำงานและโดนเอาเปรียบในสถานการณ์ต่างๆโดยเอาชีวิตตัวเองไปเสี่ยง บางครั้งเมื่อต่อหน้าเครื่องจักรสังหารแล้ว เกียรติที่พวกเขามีไม่ได้ดีกว่าหมาเลยด้วยซ้ำ ในยุคนั้นทุกอย่างน่ะถูกคำนวณเป็นราคาหมด หลังจากที่ทาสถูกผู้คนฆ่า ครอบครัวของพวกทาสจะได้เงิน 20-30 ทองเป็นค่าตอบแทนแต่ในยุคนั้นราคาของหมาน่ะสูงถึง 1000 ทอง หมาที่มีราคามากกว่า 100 ทองน่ะมีให้เห็นอยู่ทั่วทุกที่

ในตอนที่ จางเทีย คิดถึงการมีอยู่ของทาสก่อนภัยพิบัติ  เขาก็ไม่ได้รู้สึกสงสัยอะไรกับเรื่องทาสในยุคนี้

จางเทีย รู้สึกว่าเมื่ออ่านหนังสือพวกนั้นแล้วมันได้ช่วยเปิดมุมมองเขาอย่างมาก

“ อืม ...แล้วพวกนี้มีอยู่ในวังไฮหยวนด้วยรึเปล่า ? “

“ เจ้าล้อเล่นป่ะเนี้ย ? ถ้าคนในวังไฮหยวนขายตัวเองเป็นทาส ทำไมเราจะต้องสร้างตระกูลเรามาด้วย ?เพราะความเจริญของวังไฮหยวน ไม่ว่าจะมีชีวิตที่แย่แค่ไหนแต่ตระกูลของเราอย่างน้อยก็ต้องยื่นมือเข้ามาช่วยอยู่แล้ว คนในวังน่ะหางานในวังทำได้ง่ายๆ  พวกทาสที่ขายตัวเองอยู่ภายใต้การจัดการที่เคร่งครัดในประเทศจีนทุกแห่ง แน่นอนว่าไม่มีทาสที่ขายตัวเองมาจากตระกูลใหญ่ๆ แม้ว่าจะมีแต่ก็ไม่มีใครกล้าซื้อพวกนั้น ! “

“ แล้วข้าจะซื้อทาสได้จากไหนในเขตไฮหยวน ? “

“ ตลาดที่ใหญ่ที่สุดในเขตไฮหยวนคือเมืองสตาร์วิว เมืองนั้นอยู่ภายใต้การจัดการของตระกูลจาง ทาสทั่วไปและทาสที่ขายตัวเองน่ะมีค่าคนละ 50 ทอง เด็กจะถูกกว่าหน่อย ส่วนผู้หญิงสวยๆและพวกช่างจะแพงกว่านิดหน่อย ราคาของทาสนักรบระดับ 6 ขึ้นไปก็สูงกว่า 600 ทอง “ - อู อธิบาย

“ การขายทาสนี่เป็นเรื่องปกติของวังไฮหยวนเหรอ ? “

“ ฮี่ฮี่ คนรวยน่ะมักจะมีทาส “

หลังจากที่คิดสักพัก จางเทีย ก็ตัดสินใจ เขาได้ยิ้มออกมา – “ เมื่อกลุ่มลองวินให้ยามมา ข้าจะจ้างยาม 80 คนจากวังไฮหยวนก่อนเพื่อดูแลปราสาทนี่ จากนั้นก็จะลองไปดูที่เมืองหยุนซูแทน ! “

อู เองก็ยิ้มออกมา – “ เจ้าต้องการจ้างยามจากเรา ข้าจะเอาข้อตกลงมาให้เจ้าพรุ่งนี้ ! “

“ แพงมั้ย ? “

“ มันอาจจะแพงสำหรับคนอื่นแต่สำหรับเจ้า มันถูกเกินไปด้วยซ้ำ ! “ - อู พูดขึ้นมา

จางเทีย หัวเราะออกมา เขาชอบคำชมแบบนี้ เขาพบว่าตราบใดที่เขามีเงิน คนอื่นๆก็จะเคารพ

‘ มันรู้สึกดีจริงๆที่มีเงิน ! ‘ จางเทีย พึมพำ

ในครึ่งชั่วโมงต่อมา จางเทีย ก็เดินวนรอบปราสาทด้วยความสงสัย เขาตรวจสอบการดำเนินงานต่างๆโดยเฉพาะท่อที่ถูกใช้ต่อไว้กับส่วนของเครื่องจักร สุดท้ายเขาก็ได้ไปที่เมืองมังกรดำด้วยความพอใจและเตรียมที่จะเข้าไปในถ้ำมังกรเพื่อสร้างสัญลักษณ์ระดับ 7 ตะขาบยักษ์

วันนี้มันอากาศดี หลังจากที่รู้ว่าของขวัญของเขาน่ะไม่โดน หลานหยุนซี โยนทิ้ง  จางเทีย ก็ดีใจอย่างมาก เขารู้สึกได้ว่าทั้งความรักและความก้าวหน้าของเขากำลังดำเนินไปในทิศทางที่ดี หลังจากที่ตรวจสอบปราสาท  เขาก็เริ่มตื่นเต้นมากกว่าเดิม...

ในเมืองนี้มันคึกคักมากกว่าเดิม อันดับแรก จางเทีย ไปที่ร้านยาที่ หยางหยวนคัง เปิดและพบว่าร้านยาปิดในตอนบ่ายโดยมีป้ายแขวนไว้ว่า --- ยารักษารอบด้านวันนี้ขายหมดแล้ว เราจะเปิดในวันพรุ่งนี้ 9 โมงเช้าและขายยา 6 ขวด คนละขวดเท่านั้น อย่าลัดคิว !

แม้ว่าป้ายจะบอกถึงจำนวนยาที่จะขายแต่ก็ยังมีคนหลายสิบคนต่อคิวอยู่ด้านนอกร้านและพูดคุยกัน

เมื่อเห็น จางเทีย ส่องเข้าไปข้างใน บางคนก็ได้ตะโกนขึ้นมา – “ ไอ้หนู ถ้าอยากซื้อยา ไปต่อคิวเลย เจ้าไม่เห็นรึไงว่าคนเขารอกัน .. “

“ ข้าอยากรู้ว่าพวกเจ้ามารอกันทำไม ?  ไม่ใช่มีบอกแล้วเหรอว่ามีขายแค่ 6 ขวด ? “ - จางเทีย มองไปที่แถวด้วยสีหน้าสงสัย

“ ฮ่ะ ถ้าเราไม่ได้พรุ่งนี้ เราก็จะได้ในวันมะรืนรึในอีกสองวัน  ถ้าเรารอที่นี่ 3-5 วันแน่นอนว่าเราต้องได้มาสักขวด ตราบใดที่เราได้ยามาในราคา 8 ทอง เราสามารถขายมันได้ 10 ทองได้ง่ายๆ เพราะเราน่ะเป็นคนธรรมดาบนเกาะ เราน่ะไม่ได้หาเงินได้ง่ายๆหรอกนะ ! “ - ชายคนที่ห้าม จางเทีย อธิบาย

“ ใช่ ข้าได้ยินมาว่ายานี้น่ะผลิตโดยนักเล่นแร่แปรธาตุผู้เชี่ยวชาญ ใช้เวลาไม่นานเขาก็ทำยามาจำนวนมากในวันเดียวที่อาจช่วยให้เรารอดไปได้เป็นปีๆเลย  !”- อีกคนพูดต่อ

‘ นักเล่นแร่แปรธาตุผู้เชี่ยวชาญ  ข้าเป็นแบบนั้นตอนไหวะ ข้ายังไม่ได้เรียนทำยาเลยด้วยซ้ำ ‘  จางเทีย อึ้งนิดๆ ข้อความที่พูดต่อกันนี้มันมาจากวังมังกรลับ

“ ข้ามีอีกคำถาม พวกเจ้าจะไปขายยาให้ใคร ? “

“ แน่นอนว่าผู้หญิงบนเกาะ ! “ - พวกนั้นจ้องมาที่ จางเทีย อย่างกับมองคนโง่ – “ เจ้าไม่รู้รึไง ? แม้ว่าผู้หญิงบนเกาะน่ะจะสู้เก่งแต่เมื่อพูดถึงเรื่องผลของยาแล้ว พวกเธอน่ะจะใช้มันเพื่อความสวยและชะลอรอยเหี่ยวย่นซึ่งมันไม่เกี่ยวอะไรกับผู้หญิงทั่วไป วันนั้นข้าเจอกับผู้หญิงคนหนึ่ง ข้าเลยขายให้เธอไป 11 ทอง เธอซื้อมันโดยไม่ลังเลเลย เธอน่ะรู้สึกว่ามันถูกไปด้วยซ้ำ ! “

“ ทำไมข้าไม่ขายให้แพงกว่านี้นะ ! “ – ชายอีกคนเริ่มรู้สึกเสียดาย

“  แต่ข้ารู้นิว่าสาวๆน่ะรวย....”

ในตอนที่คุยเองนี้ จางเทีย ก็ได้ออกจากส่วนนั้นมา ‘ ผู้หญิง ผู้หญิงอีกแล้ว ผู้หญิงนี่ทำตัวเหมือนแมลงวันเลยเมื่อได้ยินเรื่องที่เพิ่มความสวยและเด็กลงได้  ‘  จางเทีย ไม่คิดว่าข้างนอกแผนกนี้สาวๆในเมืองก็เป็นเหมือนกัน ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป เขากลัวว่ายาที่เขาทำจะถูกเอาไปใช้เป็นเครื่องสำอางแทน

จางเทีย คิดออกเลยว่ายาที่ หม่าไอหยุน ขายจะเป็นยังไง  เขาได้ยินมาว่ายาของเขาขายหมดก่อนที่ หม่าไอหยุน จะเอาไปขายที่ร้านในเมืองมังกรฟ้าอีก

จางเทีย เดาว่ามันน่าจะเป็นแบบนี้ไปอีกอย่างน้อย 1 เดือน จนกว่ายาจะหมักเสร็จ สถานการณ์มันคงดีกว่านี้เล็กน้อย

แต่เมื่อรู้ว่ายาเขาเป็นที่นิยมในหมู่สาวๆ   จางเทีย ก็คึกและคิดว่าเขามีโอกาสมากกว่าเดิมที่จะได้ติดต่อกับ หลานหยุนซี

หลังจากที่ออกจากร้านยาแล้ว จางเทีย ได้เดินไปรอบๆเมือง  ด้วยจิตใจที่คึกและประสาทสัมผัสที่เฉียบคม จางเทีย ก็พบสิ่งผิดปกติ

เขารู้สึกว่าเขาโดนตาม...

รีวิวผู้อ่าน