px

เรื่อง : Castle of Black Iron
Chapter 336: ออกจากเกาะมังกรลับ


Chapter 336: ออกจากเกาะมังกรลับ

ตอน 6 โมงเข้า วันที่ 23 กรกฎาคม  หลังจากเหตุการณ์ตึงเครียดเมื่อวาน เรือโดยสารลำแรกนั้นเต็มไปด้วยผู้โดยสารที่ออกจากเกาะ หลังจากที่เดินทางมาหลายชั่วโมง ในที่สุด จางเทีย ก็ได้มาถึงท่าเรือเมืองจินไห่

หลังจากมากกว่าครึ่งปีหลังจากที่เขามาถึงเมืองนี้ครั้งแรก ครั้งนี้ จางเทีย รู้สึกกลัวขึ้นมาในใจ

เขาไปถึงเกาะมังกรลับในวันที่ 5 ธันวาคม ปีที่แล้ว  หลังจากฝึกในวังมังกรลับมาครึ่งปี  จางเทีย ก็แตกต่างจากเดิมอย่างสิ้นเชิง

ก็อย่างที่ จางเทีย คาดไว้ หลังจากเหตุการณ์เมื่อวานแล้ว วังมังกรลับและกลุ่มลองวินไม่ได้อะไรกลับมาเลย ทุกคนที่พยายามจะฆ่า จางเทีย ดูฌหมือนว่าจะโดนชายชราฆ่าตายไป  แม้ว่าทุกคนจะรู้ว่าทุกคนที่ตายในชั้นใต้ดินนั้นมีพวกอยู่ด้านนอกถ้ำแต่ก็จับตัวใครไม่ได้

ในตอนที่นักฆ่าได้มาถึงที่เกาะ  พวกเขาได้กระจายตัวไปตามเกาะโดยแยกกันเป็นทีม แต่ละทีมนั้นมีแค่ไม่กี่คน  พวกเขาเป็นองค์กรที่เคร่งครัดที่เมื่อมีปัญหาใดๆ พวกนั้นจะออกจากการควบคุมขององค์กรทันที นี่มันก็คล้ายๆกับจิ้งจกที่สลัดหางไปในตอนที่ตกอยู่ในอันตราย

เพื่อที่จะจับพวกคนนอกบนเกาะนี้และสอบสวนพวกนั้น ที่วังมังกรลับและกลุ่มลองวินนั้นทำได้ก็แค่หาคนสมคบคิดได้เท่านั้น

แต่แม้ว่ากลุ่มลองวินจะมีอำนาจซะจนจับคนนอกทั้งหมดในเกาะได้แต่พวกเขาคงไม่ทำเรื่องโง่ๆแบบนั้น เพราะมีคนนอกกว่าหลายหมื่นคนบนเกาะที่มาจากทั่วทุกที่ มันยากมากที่จะจับทุกคน อีกอย่างแน่นอนว่ามันต้องทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้น

หลังจากเคอร์ฟิวในวันนั้นเกาะได้กลับไปสู่ปกติ ดังนั้นในที่สุด จางเทีย ก็ได้อิสระที่เขาคิดถึงมานาน  อิสระที่จะเข้าออกจากเกาะได้

หลังจากที่รักษาผลประโยชน์และการผลิตระหว่างการผลิตตยาและให้ จางเทีย เข้าออกเกาะได้อย่างอิสระ  พวกเขาก็เลือกอย่างแรก

แน่นอนว่าคนที่มีอำนาจจะต้องคิดเรื่องนี้มาอย่างดีแล้ว พวกเขาต้องคิดเรื่องที่จะต้องเผชิญในทุกด้าน พวกเขาไม่คิดจะข้ามเส้นโดยไม่คิดอย่างถี่ถ้วน ดังนั้นแล้วถ้าคุณลองดูเอกสารของนักเรียนของวังมังกรลับ่ คุณจะพบงานใหม่ของ จางเทีย ที่ด้านล่างสุดของเอกสารงานเหล่านั้น

ข้อมูลมีดังนี้ :

ชื่อ : จางเทีย !

เวลารับงาน : 22 กรกฎาคม ปี 890

คุณภาพงาน : คลาส S มอบหมายโดยตระกูลจาง

เนื้อหางาน : ในฐานะคู่ค้าของกลุ่มลองวิน จางเทีย ควรที่จะผลิตยารักษารอบด้านได้จำนวนมาก ..

รางวัล : คะแนนตระกูล 3000 คะแนนต่อปี

เวลาของงาน : ระยะยาว...

การการันตีงาน :  งานนี้มีความสำคัญสูง ระหว่างช่วงการทำงาน ผู้รับงานสามารถรับงานหรือปฏิเสธงานอื่นได้ตามใจ

เตือน : ระหว่างทำงาน ความรับผิดชอบในเรื่องฉุกเฉินและการยืนยันความปลอดภัยของผู้รับงาน  วังมังกรลับจะให้ จางเทีย มีสิทธิเข้าออกเกาะมังกรลับได้อย่างอิสระโดยเรือและยานได้ตามใจ

...

นอกจากคำของคะแนนตระกูลแล้วซึ่งได้แค่ 60% จากเดิม อย่างอื่นที่ จางเทีย ขอไปล้วนแต่น่าพอใจ อีกอย่างแล้วไม่มีใครสามารถหาช่องโหว่ของมันได้  จางเทีย เริ่มพอใจโดยสิทธิในวังมังกรลับยังคงอยู่

สำหรับเรื่องนี้ นอกจากทึ่งที่พวกมีอำนาจนั้นเจ้าเล่ห์แล้ว  จางเทีย ไม่รู้จริงๆว่าจะพูดถึงพวกนี้ยังไง ดี

ตอนนี้ จางเทีย เป็นสมาชิตระกูลคนแรกของวังมังกรลับที่สามารถเข้าออกเกาะได้อย่างอิสระก่อนที่จะลงเรียนทุกวิชาเสร็จ

จางเทีย ได้รับอิสระมา อิสระที่แท้จริง ! มันบ่งบอกได้ถึงการตัดสินใจของความสัมพันธ์ระหว่าง จางเทีย และวังไฮหยวนกับตระกูลจางและจากเรื่องนี้ จางเทีย ก็ได้สามารถตัดสินชะตาตัวเองได้

ระหว่างทางที่กลับไปเมืองจินไห่  จางเทีย ยังคเฝ้าคิดถึงตัวเองในตอนที่เขาไปที่เกาะมังกรลับเมืองครึ่งปีก่อน ระหว่างครึ่งปีที่ผ่านมา จางเทีย รู้สึกว่าเขาพัฒนาขึ้นมาอย่างรวดเร็ว จากนักรบระดับ 5 ไปเป็นนักสู้ระดับ 7 เขาตระหนักได้ถึงการพัฒนาของทักษะการโยนและยังสร้างพลังฉีต่อสู้เหล็กโลหิตขึ้นมาได้ นอกจากนี้เขายังพัฒนาการดำน้ำขึ้นมาอีกแต่เมื่อเทียบกับการพัฒนาพวกนี้แล้ว จางเทีย รู้สึกว่าการพัฒนาที่มากที่สุดที่เขาทำได้คือเขารู้เส้นทางที่เขาต้องเดินในอนาคตด้วยความช่วยเหลือจาก Castle of Black Iron และ Manjusaka Karma Fruit Tree

ทางลัดในการมีฐานะทางสังคมนั้นไม่ใช่เข้าหาพวกที่มีอำนาจ แต่เป็นการแสดงค่าและความสามารถของตัวเองจนเขาเปลี่ยนตัวเองให้เป็นต้นไม้ใหญ่ที่คนอื่นพึ่งพาได้

มันไม่ใช่เรื่องผิดสำหรับ จางเทีย ที่ตัดสินใจไปที่วังมังกรลับ ความผิดพลาดเดียวที่เขาได้ทำคือเขาขาดความเข้าใจเกี่ยวกับตัวเองและความสามารถที่แท้จริง เขาพลาดที่จะใช้ความสามารถของตัวเองออกมาอย่างเต็มที่ เขาไม่ได้ตระหนักถึงความช่วยเหลือจาก Castle of Black Iron และต้นไม้เล็กที่เขามีแตกต่างจากคนอื่น

เขาไม่ได้คิดถึงความต่างระหว่างเขากับคนอื่นในก่อนหน้านี้ หลังจากที่คิดสักพัก  จางเทีย ก็ได้คำตอบ  ความต่างของเขาจากคนอื่นนั้นเพราะความพิเศษของ Castle of Black Iron คือมีผลไม้ที่ Manjusaka Karma Fruit Tree กี่อันที่มันจะงอกออกมา

ยกตัวอย่างเช่นในตอนที่เขาโดนคนระดับ 10 ไล่ตาม ภัยอย่างเดียวที่เขาใช้ใส่อีกฝ่ายคือลูกดอก  เซ่าหยวน อาจารย์ของเขาได้บอกว่าแม้ว่าลูกดอกนั้นจะทำให้เกิดระเบิดอากาศขึ้นมาได้แต่ความเร็วของมันอยู่ที่ 1.2-1.3 มัคเท่านั้น  ถ้าเขาเพิ่มความเร็วให้เป็น 2 มัคได้ เขาจะฆ่านักสู้ระดับ 10 นี้ลงได้ด้วยลูกดอกแค่เพียงอันเดียว

มันก็เหมือนกับการพัฒนาอาวุธพลังงานที่ถูกสร้างขึ้นมาก่อนเกิดภัยพิบัติ  ความเร็วของมันนั้นน่ากลัว  แม้ว่าจะแค่ไม่กี่ทองแดงแต่ตราบใดที่มันบินได้ด้วยความเร็วมากกว่าเสียง 20 เท่า พลังทำลายล้างมันก็จะมหาศาล

มันเกือบจะเป็นไปไม่ได้สำหรับคนอื่นที่เพิ่มความเร็วในการโยนให้ได้หนึ่งเท่าในเวลาสั้นๆเพราะความแข็งแกร่งที่มีนั้นต้องเพิ่มขึ้นไปด้วยแต่สำหรับ จางเทีย แล้วมันมีทางลัดที่เขาจะทำได้แบบนั้นคือกิน Wolf Seven-Strength Fruit เข้าไป 9 ผล

จางเทีย นั่งอยู่บนเรือและคิดถึงการสร้างทักษะการสร้างเพราะมันจะเป็นไพ่ตายของเขาก่อนที่เขาจะขึ้นไปถึงระดับ 8  จากนั้นเขาก็จะสามารถระเบิดหัวของคนระดับ 10 ได้ด้วยการโยนลูกดอกสักสองสามครั้งในเสี้ยววินาที

...

“ ผู้โดยสาร เราได้มาถึงท่าเรือแล้ว โปรดเอาสัมภาระและลงไปยังบันไดตามลำดับ ! “

บนเรือพนักงานได้ประกาศซ้ำออกมาสามครั้ง หลังจากที่มาถึงท่าเรือแล้ว เรือได้สั่นเล็กน้อยก่อนที่เครื่องยนต์จะดับลงและส่งเสียงบ่งบอกผู้โดยสารว่าให้ลงจากเรือได้  ทุกคนต่างก็ลุกขึ้นยืนจากที่นั่งและเตรียมตัวที่จะลงจากเรือ

จางเทีย ยังคงหลับตาอยู่ตั้งแต่ที่เรือออกมา จนกระทั่งผู้โดยสารข้างๆสะกิดเขา จางเทีย เลยลืมตาและลุกขึ้นจากเก้าอี้  ที่ปลายแถว เขาก็ได้ตามพวกนั้นเดินออกไป

ท่าเรือที่เมืองตินไห่นั้นทอดออกมาหลายไมล์เพื่อให้เรือต่างๆมาเทียบ  ในที่แห่งนี้ก็ยังมีจุดตรวจสองแห่ง แม้ว่าจินไห่จะไม่ได้เจริญเท่ายีแยงแต่มันก็ถือว่าเป็นเมืองใหญ่

ตอนนี้มันบ่ายแล้ว ภายใต้แสงอาทิตย์ที่สาดส่อง คนงานและลูกเรือหลายคนบนท่านั้นสวมแค่กางเกงขาสั้นและเหงื่อชุ่มไปทั่วตัว

การประมงมากมายได้พัฒนาขึ้นอย่างมากในเมืองนี้ มีโรงงานน้ำแข็งมากมาย ตอนฤดูร้อน หลายคนจะมาซื้อน้ำแข็งจากโรงงานน้ำแข็งเหล่านี้เพื่อไปทำธุรกิจของตน ที่ถนนด้านนอกของช่องตั๋วของท่าเรือ  จางเทีย ได้เห็นร้านค้าเล็กๆที่ขายน้ำปั่นและของอื่นๆให้ผู้โดยสารที่รออยู่

ผู้โดยสารส่วนมาก็จะซื้อน้ำปั่นเพื่อผ่อนคลายความร้อนในฤดูร้อน

จางเทีย หรี่ตาลงและมองคนที่เดินออกไปจากช่องตรวจตั๋ว  พวกนักฆ่าอาจอยู่ในหมู่พวกนี้ก็ได้ มันเป็นไปไม่ได้ที่เคอร์ฟิวที่เกาะเมื่อวานนี้จะไม่ส่งผลต่อพวกนั้น หลังจากที่ยกเลิกเคอร์ฟิวแล้ว นักฆ่าบางคนคงต้องออกจากเกาะในวันนี้แต่ จางเทีย ไม่รู้ว่ามีปะปนมาในเรือผู้โดยสารรึเปล่า

ถ้าไม่ใช่ว่าชีวิตเขามีค่ากว่าคนพวกนั้น  จางเทีย คงถอดหน้ากากแล้วไปไล่ดูทีละคนเพื่อดูสายตาพวกนั้น

‘ ตามที่ ดอนเดอร์ บอกมา ไม่ว่าพวกนั้นจะดูเป็นยังไงแต่ตราบใดที่นัยน์ตาน่ะขยับตอนเห็นข้า พวกนั้นต้องรู้ว่าข้าเป็นใคร อีกอย่างแล้วสำหรับพวกคนที่มีเรื่องกับข้า นัยน์ตาของพวกนั้นจะขยายและขยับไปมาหลายครั้งและจากนั้นก็จะแสดงอารมณ์และความรู้สึกจริงๆของตัวเอง ‘

“ อยากได้น้ำมะม่วงเย็นๆหน่อยมั้ย ? 6 ทองแดงไม่มีน้ำแข็ง เพิ่มน้ำแข็งอีก 1 ทองแดง ... “ - เมื่อเห็น จางเทีย  ชายชราที่ขายน้ำเย็นกับเมียที่ข้างถนนก็ได้ตะโกนขึ้นมา

“ 2 แก้ว เอาน้ำแข็งด้วยครับ ! “  - จางเทีย เดินไปหาพวกนั้นแล้วพูดด้วยน้ำเสียงแหบเล็กน้อย

จากนั้นเมียก็ได้ส่งแก้วให้ จางเทีย สองแก้วอย่างรวดเร็ว

จางเทีย กระดกมันจนหมดในทีเดียวก่อนที่จะเคี้ยวน้ำแข็งแล้วกลืนมันลง

หลังจากนั้น จางเทีย ก็รู้สึกเย็นขึ้นมานิดหน่อย จากนั้นเขาก็ได้เอามือล้วงลงไปในกระเป๋า ในเสี้ยวพริบตาเงิน 1 เงินก็ได้ถูกเอาออกมาจาก Castle of Black Iron  จางเทีย โยนเหรียญเงินให้กับกล่องซึ่งชายชราเอาไว้ใช้เป็นที่เก็บเงิน – “ ไม่ต้องทอน.. “

“ อ๊าก ขอบคุณ อยากได้อีกสองแก้วมั้ย ? “ - ชายชราถามออกมาทันที เพราะหลายคนที่กลับมาจากเกาะมังกรลับนั้นรวย คู่รักนี้จึงเลือกที่จะมาขายน้ำที่นี่

จางเทีย โบกมือและเดินไปหาแท็กซี่  เมื่อเห็น จางเทีย จ่ายหนึ่งเงินให้กับน้ำสองแก้ว คนขับรถก็ได้รีบจดรถและได้มีชายหัวล้านวัย 40 โผล่หัวออกมาจากหน้าต่าง – “ เพื่อน เจ้าอยากไปไหนล่ะ ?”

หลังจากที่มองอีกฝ่ายเล็กน้อย จางเทีย ก็เปิดประตูและนั่งที่เบาะหลังโดยไม่พูดอะไร

คนขับมองมาที่ใบหน้าประมาณ 20 ของ จางเทีย และถามออกมาพร้อมรอยยิ้มผ่านกระจกมองหลัง – “ เจ้าจะไปไหนล่ะเพื่อน ?”

“ เจ้าคุ้นกับเมืองนี้รึเปล่า ?”

“ ข้าอยู่ที่นี่มากว่า 40 ปี แน่นอนว่าข้ารู้จักดีเลย ข้าไม่ได้อวดหรอกนะ ข้ารู้จักทุกที่ในเมือง กิน, ดื่ม, เที่ยว เจ้าอยากไปไหนได้หมด ! “ – คนขับโม้ออกมาและค่อยขับออกไปช้าๆ

“ ข้าทำบัตรยืนยันหายในถ้ำมังกรหายเมื่อวาน มีคนบอกว่ามันจะไม่สะดวกในเขตไฮหยวนถ้าไม่มีบัตร  ดังนั้นแล้วข้าอยากได้บัตรใหม่ เจ้ารู้มั้ยว่าข้าจะไปหาได้จากไหน ?” - จางเทีย ถามออกมาอย่างใจเย็น

หลังจากที่ได้ยินแบบนั้นคนขับก็ได้หดคอเล็กน้อย มือของเขาสั่นไปมาที่พวงมาลัย – “ ข้าอาจจะเข้าคุกได้รึไม่ก็โดนตัดมือถ้าข้าช่วยให้เจ้าหาบัตรในเขตไฮหยวน ข้าไม่รู้จักที่แบบนั้นหรอก เจ้าไปหาคนอื่นดีกว่า ! “

“ ข้าไม่ได้มาจากเขตไฮหยวน ข้าไม่ต้องการบัตรปลอม ข้าแค่ต้องการบัตรที่ให้ข้าอยู่ที่โรงแรมได้ ! “

เมื่อได้ยินแบบนั้นคนขับก็ดูดีกว่าเดิม เขากรอกตาอยู่สองรอบ – “ ถ้างั้นข้าก็รู้จักที่ที่เจ้าจะหาบัตรได้แต่มันแพงนิดหน่อยคิดจากระยะทางและค่าเสียเวลาแล้วอย่างน้อยก็....1 ทอง ! “

จางเทีย บ่นในใจ ‘ เขาปล้นข้าอย่างกับข้าโง่ มันเป็นแค่บัตรปลอม โฆษณามีอยู่ทุกที่ตามสถานีของเมืองแบล็คฮ้อต  เรื่องแบบนี้มีมานานแล้ว ตามที่ ดอนเดอร์ บอกแล้ว โสเภณีแก่ๆทำให้เราสองรอบด้วยเงินแค่เงินเดียวซึ่งจะบอกให้เรารู้ทุกอย่างด้วยซ้ำ ‘

“ นี่ 10 เงิน อย่ามาไร้สาระ ไม่งั้นเจ้าจะได้แค่ 5 เงิน “ - จางเทีย มองไปที่เขาและด่าออกมาด้วยเสียงแหบๆ – “ เหี้ย เจ้าคิดจริงๆเหรอว่าข้าหาเงินได้ง่ายขนาดนั้น ? ข้าบอกเจ้าเลยว่ามันใช้แค่ 2 เงินก็หาผู้หญิงพาข้าไปที่นั่นได้แล้ว  1 ทอง ?  ด้วยเงิน 1 ทองนี้ข้าได้บัตรปลอมมาตั้ง 10 ใบ !

คนขับพูดตลกออกมาทันที – “ เจ้านี่รู้ดีจริงๆ ข้าผิดเอง แค่ 10 เงิน ใจเย็นๆน่าเพื่อน... “

...

ครึ่งชั่วโมงต่อมาในตอนที่ จางเทีย คิดว่าคนขับพาเขาไปที่มุมมืดๆแห่งหนึ่ง  รถก็ได้ไปจอดที่ตึกสี่ชั้นซึ่งดูเก่านิดๆ

ด้านล่างตึกนั้นเป็นโรงแรงมธรรมดาซึ่งมีร้านก๋วยเตี๋ยวขาย  นอกจากนี้ก็ยังมีป้ายซึ่งดูไปแล้วน่ากลัวอย่างมาก

----- สถานทูตของจักรพรรดิกล้วยไม้ทองในจินหยวน

จางเทีย มองไปที่ป้ายนั้นซึ่งมันเริ่มจางงหายไปแล้วและป้ายร้านอาหารถูกเอามาแขวนทับ  จางเทีย เริ่มสงสัยว่าใครมันมาล้อเล่นที่นี่กัน

‘ นี่ใช่สถานทูตมั้ยเนี่ย ? เหี้ย ! แม้แต่ห้องน้ำในแผนกทำลายสวรรค์ยังดูดีกว่านี้เลย ‘

จางเทีย เอามือถูกคางเล็กน้อย ‘ คนขับมันกวนตีนเหรอ ?  มันเล่นแบบนี้กับข้าได้ไง ? รึหน้าข้าโง่ขนาดนั้น ?’

หลังจากที่เห็นสีหน้า จางเทีย ผ่านทางกระจกแล้ว คนขับก็รีบอธิบายทันที – “ เจ้าได้บัตรจากที่นี่แหละ  ข้าสาบานเลยว่าจริงๆ ! นี่คือสถานทูตของจักรพรรดิกล้วยไม้ทองในจินหยวน  ข้าจำได้ตอนที่ข้ามาที่นี่ครั้งที่แล้ว  มียามสองคนที่ประตู พวกเขาไปไหนแล้ว ?  พวกเขาต้องอู้แน่ๆ ! “

ในตอนที่ จางเทีย กำลังจะหมดความอดทนก็ได้มีอีกคนโผล่หน้าออกมาจากร้านก๋วยเตี๋ยว  หลังจากที่ดูดเส้นเข้าไปในปากแล้วเขาก็เริ่มมองรอบๆ  - “ ใครอยากได้บัตร ?  ใครอยากได้บัตร ? “

ตอนนั้นเองเขาก็เห็นแท็กซี่ที่จอดอยู่ด้านนอกประตู เขารีบวิ่งมาทันที หลังจากที่เช็ดน้ำซุปที่ปากแล้ว เขาก็เปิดประตูด้วยท่าทีสุภาพ – “ เจ้าอยากได้บัตรงั้นเหรอ ?  ฟิลิป ผู้ให้คำปรึกษาระดับสูงของสถานทูตของจักรพรรดิกล้วยไม้ทองในจินหยวนยินดีที่ได้รับใช้ ! “

นี่เป็นครั้งแรกที่ จางเทีย ได้รับการดูแลอย่างสุภาพจากคนที่ไม่ใช่คนจีนตั้งแต่ที่เขาเกิดมา

รีวิวผู้อ่าน