px

เรื่อง : Castle of Black Iron
Chapter 376: ดาบคู่


Chapter 376: ดาบคู่
ทหารซอมบี้สามตัวได้พุ่งเข้าหา จางเทีย  พวกมันดูน่ารังเกียจอย่างมาก ผิวของพวกมันเหมือนโดนเผา นอกจากนั้นหนึ่งในนั้นก็ยังเสียตาไปและผมของตัวหนึ่งก็ได้ลอกออกหมด ตัวสุดท้ายมีลูกดอกเสียบที่อก เครื่องในได้ไหลออกมาจากแผล เพราะกลิ่นของพวกมันจึงมีแมลงวันตอม

แค่มองทีเดียว  จางเทีย ก็ยกเลิกแผนที่จะเอาพวกมันกลับไปให้ ไซมอน  พวกนี้มันน่ารังเกียจจริงๆ !

ด้วยหอกในมือ จางเทีย ได้ฟันหัวของพวกมันให้เร็วที่สุดเท่าที่เขาทำได้เหมือนกับปัดแมลงวัน  หลังจากนั้นเขาก็เริ่มทำการค้นหาต่อ เพราเขาไม่เห็น เชร็ก ด้านในแคมป์  จางเทีย คิดว่าชายคนนั้นคงหนีซอมบี้อยู่

นี่น่ะเป็นแคมป์ที่ใหญ่ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 500,000 ตร.ม. รวมไปถึงพื้นที่ฝึกด้วย  ตึกหลายตึกด้านในโดนเผาเหลือทิ้งไว้แค่คลังเก็บของ,พื้นที่ฝึกและคลัง,โรงอาหาร

ตามนิสัยของพวกซอมบี้แล้ว บางตัวชอบที่จะเดินไปมาตามส่วนที่เจ้าของร่างเคยอยู่  ดังนั้น จางเทีย ไม่เชื่อว่าจะมีซอมบี้แค่สามตัวข้างในกองทัพที่ใหญ่แบบนี้ได้ แม้ว่าจะไม่เห็นในพื้นที่ฝึกแต่เขาอาจเจอซอมบี้ในส่วนอื่นก็ได้

จางเทีย เดินตรงไปที่โรงทหารที่ใกล้ที่สุด

ประตูของโรงนั้นเปิดครึ่งหนึ่ง ในตอนที่เขาไปถึง จางเทีย ได้เตะมันออกทันที หลังจากที่ส่องไปข้างน เขาก็พบว่าไม่มีซอมบี้เลย  มันเหลือแค่เตียงกับฝุ่นเท่านั้น

จางเทีย ยังคงเปิดประตูไปเรื่อยๆและไม่พบซอมบี้ข้างในเลย จากนั้น จางเทีย ก็ไปที่ประตูของตึกที่มีสี่ชั้น

ตึกนี้น่ะสวยงามอย่างมาก ส่วนนอกเป็นอิฐที่สวยงาม ยังมีป้ายทองแดงที่กำแพงด้านนอกที่เขียนว่า ‘ กองทหารยาม III เมืองสวรรค์ ‘

มีร้านค้าสองร้านด้านนอกประตูตึก รถถูกจดไว้ที่ลานจอดข้างๆตึก รถพวกนี้จอดแบบกระจัดกระจายและดูไร้ชีวิตชีวา รถถังคันหนึ่งถึงกับวิ่งเข้าไปข้างๆตึก หลังจากที่ชนเข้า มันก็ได้ทำให้เกิดความเสียหายขึ้นอย่างมาก

ทุกอย่างดูเหมือนจะบอกให้รู้ถึงความวุ่นวายที่เกิดขึ้นตอนที่ยานของวังไฮหยวนได้ทำการโจมตีเมื่ออาทิตย์ก่อน

จางเทีย ไม่ได้ตั้งใจที่จะเข้าไปข้างในแต่อยู่ๆเขาก็ได้ยินเสียงจากชั้นบนและเปลี่ยนใจว่าจะเข้าไปค้นหาข้างใน

หลังจากที่เข้าไปในตึกแล้ว เสียงนั้นก็เริ่มดังขึ้น เสียง ปังๆๆดังขึ้นมาจากชั้นบนทุกวินที ด้วยหอกในมือ จางเทีย ได้เดินขึ้นไปชั้นๆบนเงียบๆ

มันก็เหมือนกับตึกอื่นๆ บันไดอยู่ตรงกลาง ทั้งสองฝั่งในแต่ละชั้นคือทางเดินและมีห้องเรียงราย มองทีเดียวมันก็เหมือนกับการออกแบบของตึกทหาร

ไม่มีใครอยู่ในทางเดินบนชั้นสองและสาม ดังนั้นเสียงน่าจะมาจากชั้นสี่ ในตอนที่ จางเทีย ไปยังชั้นสี่ เขาได้เห็นชายใส่ชุดทหารคนหนึ่งที่ปลายทางเดินด้านซ้ายทึ่งกำลังทุบประตูที่ปิดอยู่ด้วยหมัด

เพราะชายคนนั้นหันหลังให้  จางเทีย เลยเห็นหน้าไม่ชัด ดังนั้น จางเทีย จึงตัดสินไม่ได้ว่านั่นคือคนรึซอมบี้

ห้องทุกห้องของชั้นนี้ถูกเปิดออก มีกระดาษปลิวว่อนไปทั่วนอกจากห้องที่ปลายทางเดินด้านซ้ายห้องเดียว

จางเทีย มองไปรอบๆและพบว่าไม่มีใครอื่นบนชั้นนี้ เขาเดินไปหาชายคนนั้นแล้วหยุดตอนห่าง 10 ม.

เขาไออออกมา

เสียงไอของ จางเทีย ดังมากในทางเดินที่ว่างเปล่านี้ ในตอนที่ชายคนนั้นได้ยินเขาก็ได้หันกลับมา

ตาชุ่มไปด้วยเลือดและหน้าที่บิดเบี้ยวและยังน้ำที่ไหลออกมาจากปาก นี่บ่งบอกได้ว่านี่คือซอมบี้ สิ่งที่ทำให้  จางเทีย ตื่นเต้นคือนี่เป็นร้อยโทขั้นสอง

จางเทีย ถอนหายใจออกมา – “ ขอบคุณที่คนนี้ไม่ได้ดูน่าเกลียดเท่าไหร่ “

ซอมบี้ได้พุ่งเข้าหา  จางเทีย ตั้งใจที่จะต่อยมาที่หน้าเขา มันเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็วเท่ากับนักสู้ระดับ 6  จางเทีย ยิ้มออกมาและรับการโจมตีเอาไว้ เขาจบการต่อสู้นี้ได้ในพริบตา

เขาจับไปที่ข้อมืออีกฝ่าย  จางเทีย ผลักหัวของซอมบี้ด้วยอีกมือ จากนั้นก็หักคออีกฝ่ายกลับ 360 องศา ผลก็คือคางชี้ฟ้าและหัวชี้ลงมาที่พื้น

ไม่มีเลือดไหลออกมาเลย

จางเทีย คลายมือปล่อยให้ซอมบี้ร่วงลงไปที่พื้นอย่างกับโคลน

แต่ จางเทีย ไม่คิดว่าหนอนนั้นจะไม่ตายทันที มันนอนลงที่พื้น แขนขายังคงขยับไปมาราวกับเครื่องจักรที่ไร้การควบคุม  ในขณะเดียวกันตานั้นก็ได้จ้องมาที่ตัวเองราวกับตั้งใจที่จะควบคุมร่างกายให้ได้อีกครั้ง

แม้ว่า จางเทีย จะรู้มานานแล้วว่าซอมบี้น่ะมีร่างกายที่อึดแต่เขาไม่คิดว่าหนอนมันจะยังทนได้ขนาดนี้

“ เหี้ยเอ้ย ! “ – จางเทีย ด่าออกมาในตอนที่ยกเท้ากระทืบไปที่แขนขาของมันเพื่อทำลาย หลังจากนั้นซอมบี้ก็ไม่ได้ขยับอีกต่อไปแต่ตาของมันยังคงจ้องมาที่ จางเทีย  ต้องขอบคุณที่จิตใจของ จางเทีย น่ะแข็งแกร่ง เขาไม่ได้สนใจสายตานั้นเลย

ก่อนนี้ จางเทีย ตั้งใจที่จะจับมันแต่เมื่อเห็นป้ายที่ประตูแล้ว จางเทีย ก็เปลี่ยนใจ

ป้ายนั้นบอกว่าห้องของหัวหน้ากองพล

เขาคิดที่จะเข้าไปดูข้างในเผื่อว่าอาจจะมีของดี ความคิดหนึ่งแว๊บขึ้นมาในหัว จางเทีย ‘ ไม่ว่ายังไง พวกมันก็เป็นของตระกูลเฉิน เอาไปเหอะ ‘
“ ปังๆๆ “  - จางเทีย เคาะประตูแล้วรู้ว่ามันเป็นประตูที่หนักมาก

จางเทีย สูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วถอยหลังหนึ่งก้าว หลังจากนั้นเขาก็เตะประตูออกด้วยท่าช้างกระทืบ

ประตูทั้งบานเปลี่ยนรูปร่างทันทีจนเกิดรอยแตกระหว่างประตูกับกรอบจนกว้างได้ 2 ฟุต
หลังจากที่กระทืบไปอีกครั้ง ประตูได้ร่วงลงไปพร้อมกับกรอบ

ไม่นานหลังจากนั้นเศษปูนก็ได้ร่วงลงมาที่พื้นกระจายไปทั่วหัว จางเทีย

“ แค่กๆ.. “ - จางเทีย ถุยเอาเศษปูนที่เข้าไปในปากและปัดตามผมตัวเองก่อนจะเดินเข้าไปในห้อง

‘ มันคงขาดทุนถ้าข้าหาอะไรไม่ได้ ‘

เขาเข้าไปในห้องด้านนอกออฟฟิศซึ่งมีพื้นที่กว่า 30 ตร.ม. มีตู้เอกสารและโซฟาและโต๊ะใกล้ๆกับประตู แผนที่ถูกห้อยอยูที่กำแพง ดูเหมือนว่าจะเป็นห้องของเลขา หลังจากที่มองรอบๆ จางเทีย ก็ไม่เห็นอะไรมีค่า ดังนั้นแล้วเขาจึงไม่ได้ทำการหาอีก

มันมีประตูสีแดงที่กำแพงด้านขวาซึ่งครึ่งหนึ่งถูกปิดไว้ เขาเดินไปตามพรมแล้วเข้าไปผลักประตู

เทียบกับห้องด้านนอก ห้องด้านในนั้นเหมือนกับออฟฟิศหัวหน้าจริงๆ มันมีพื้นที่กว่า 100 ตร.ม. ในตอนที่เขาเดินไปข้างใน เขาก็เห็นแบบเมืองขนาดใหญ่โต๊ะกลางห้องและดาบที่ห้อยอยู่กับกำแพงตรงข้ามประตู

“ สะ..สะ..ตระกูลเฉินนี่รวยจริงๆ ! “ - จางเทีย ถอนหายใจออกมาเมื่อจับไปที่คริสตัลยาวกว่าสองเมตรสองอัน แต่ละอันหนักหว่า 100 กก.

คริสตัลสองแถวข้างๆประตูนี้ดูดีอย่างมาก มันโปร่งใส อีกอย่างมีเงาของพีระมิดอยู่ที่แก่นด้วย ในตอนที่ จางเทีย เข้าไปใกล้ เขารู้สึกได้ถึงพลังงานของคริสตัลสองแถวนี่

พีระมิดน่าน่ะจะอยู่ระดับ 6 ได้   จางเทีย ไม่เคยเห็นคริสตัลที่ใหญ่แบบนี้มาก่อน ค่าของคริสตัลสองก้อนนี้ต้องมากว่า 10,00 ทองแน่

หลังจากที่ยืนยันแล้วว่าไม่มีใครในห้อง  จางเทีย ก็ได้เก็บคริสตัลทั้งสองก้อนเข้าไปใน Castle of Black Iron โดยไม่ลังเล

นี่ถือว่าเป็นการเดินทางที่คุ้มค่าสำหรับ จางเทีย

ห้องนี้ถูกจัดไว้อย่างสวยงาม นอกจากคริสตัลสองอันแล้วก็ยังมีชั้นหนังสือที่เต็มไปด้วยหนังสือมากมาย เมื่อเห็นหนังสือพวกนั้นตาของ จางเทียเป็นประกายขึ้นมาทันที  เขารีบเก็บหนังสือพวกนั้นเข้าไปในห้องหนังสือของ Castle of Black Iron ทันที

เพราะห้องหนังสือใน Castle of Black Iron ยังว่างเปล่าอยู่ เขาจะไม่ทิ้งหนังสือล้ำค่าพวกนี้ไว้ จนกระทั่งตอนนี้ จางเทีย ยังคงจำได้ถึงประสบการณ์ที่เขาเข้าไปในห้องสมุดส่วนตัวของคนอื่น ในวันแบบนี้ยุคนี้หนังสือน่ะคือสมบัติที่มีค่าอย่างมาก

ในตอนที่เขาอยู่ในแมนชั่นของตระกูลเฉิน  จางเทีย ได้มีโอกาสที่จะเอาหนังสือที่นั่นทั้งหมดไปแต่เพราะไม่มีเวลาในการเก็บหนังสือทุกเล่ม อีกอย่างเขาก็กลัววว่ามันจะเผยตัวตนให้ตระกูลจางรู้ ในทางกลับกันตอนนี้เขาก็ไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น

นอกจากชั้นหนังสือแล้วก็ยังมีตู้ไวน์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล้าแบบต่างๆแต่ จางเทีย ไม่ได้สนใจที่จะกินพวกมันเพราะเขาไม่แน่ใจว่ามีอะไรในขวด

อาวุธระดับสูงหลายอันถูกห้อยไว้ที่กำแพง มีเกราะที่ดูดีสองอันแต่ จางเทีย ไม่ได้ไปแตะต้องมัน

ที่อีกด้านของโต๊ะ จางเทีย พบกับตู้เซฟซึ่งเปิดไว้อยู่ไม่เหลือสิ่งใดไว้ด้านใน ดูเหมือนว่าจะมีคนเอาของด้านในไปแล้ว มีแต่พระเจ้าที่รู้ว่าใครจะเอาของด้านในไป

หลังจากนั้น จางเทีย ก็ได้เช็คของอันสุดท้ายในห้อง โต๊ะ

จางเทีย ไปที่โต๊ะแล้วดึงลิ้นชักด้านล่างออก เพราะมีเอกสารเหลืออยู่ด้านใน จางเทีย เลยเปิดดูผ่านๆก่อนจะปิดลิ้นชัก

มีกล่องซิการ์และกล่องยาวางไว้ในลิ้นชักชั้นสอง  จางเทีย หยิบกล่องขึ้นมาและพบกับรูปผู้หญิงบนกลองซึ่งดูเซ็กซี่อย่างมาก มีตัวหนังสือภาษาจีนเขียนเอาไว้

‘ สาวครางทุกคืน ‘

‘บำรุงไตและให้สารอาหารร่างกาย ชิ้นเดียวก็จะเป็นชายชาตรีทั้งคืน ‘

‘ ยาจากศาลาเฉียงลู่ของไทเซียทวีปตะวันออก ‘

“ เหี้ย ! “ - จางเทีย ด่าออกมาแล้วปิดลิ้นชัก

ในตอนที่เขาเปิดลิ้นชักชั้นสาม เขาก็พบกับเหรียญและกล่องที่ทำด้วยเงินและทองซึ่งกว้างประมาณ 30 ตร.ซมและสูง 10 ซม.

จางเทีย หยิบเอากล่องออกมาและเปิดมันออก

เข็มขัดที่ทำด้วยทองและเหรียญเงินที่รูปร่างเหมือนเพชรวางไว้อยู่ด้านใน เมื่อเห็นเข็มขัดนี้  จางเทีย ก็ตาโตด้วยความแปลกใจ ไม่มีทาง !

จางเทีย กรีดร้องในใจซ้ำๆ การออกแบบที่หรูหรานี้ทำให้เขาตื่นเต้น

มันดูคุ้นๆสำรหับ จางเทีย  ชัดแล้วว่ามันคือดาบอสรพิษแดงอีกอัน อีกอย่างแล้วเทียบกับอันเก่าแล้ว อันนี้น่ะดูดีกว่าและระดับสูงกว่า

จางเทีย กดลงไปที่ใจกลางหัวเข็มขัด เสียงนั้นดังออกมาเบาๆและได้มีปลาสองตัวที่ยิงออกมาพร้อมกัน

จางเทีย จับปลาหนึ่งตัวขึ้นมาดู เขารู้สึกได้ถึงความเรียบลื่นและผิวอันหยาบของมัน  จางเทีย นึกถึงความรู้สึกที่เขาถือดาบอสรพิษเงินทันที

 
เขาจับด้ามจับสีทองและเห็นตัวหนังสือจีนด้างหลัง ‘ปลาคาร์พทองคู่สองคม’

จางเทีย ปล่อยพลังฉีต่อสู้เหล็กโลหิตออกมาเล็กน้อย

รังสีของดาบได้แผ่ออกมาจากปากของปลาและเหยียดยาวออกมากว่า 6 ม.  ในดาบนั้น จางเทีย ดูเหมือนจะเห็นสีทองที่แหวกว่ายไปมา ในตอนที่เขาใช้ดาบอสรพิษแดงก่อนหน้านี้ ตอนเขาใช้พลังฉีฉีดไป ใบมีดจะแหวกว่ายเป็นรูปแบบต่างๆ

จางเทีย เอาปลาอีกตัวขึ้นมาจับในมือซาย ในเวลาเดียวกันเขาก็ได้ใช้พลังฉีต่อสู้เหล็กโลหิตใส่เข้าไปในดาบ ดาบเล่มบางๆเองก็ยาวถึง 6 ม. ความต่างอย่างเดียวคือดาบเล่มนี้คือปลาคาร์พเงิน

จางเทีย สะบัดดาบในมือพร้อมกัน ในเสี้ยววินาทีห้องนี้ก็เต็มไปด้วยดาบแสงที่ว่ายไปมา มันเหมือนกับกล จางเทีย ได้ปล่อยปลาสีเงินและทองในมือออกมา ทำให้มันแหวกว่ายไปกว่า 6 ม.ข้างหน้า
เพราะเขายังไม่ชินกับอาวุธสองชิ้นนี้และระยะการโจมตีของมันนั้นยาวไปนิด อาวุธสองชิ้นนี้จึงจนกันและเกิดการกระเด็นออกมา เพราะการสะบัดที่ไม่มั่นคงจากมือซ้าย ปลาสีเงินจึงว่ายไปยังใจกลางตู้เหล้าและตัดขวดเหล้าข้างใน ผลก็คือของด้านในแตกกระจายทันที

“ ฮาฮา “ - จางเทีย หัวเราะออกมา ดาบปลาคู่นี้แน่นอนว่าระดับสูงกว่าดาบเก่าอยู่หนึ่งระดับ ดาบสองอันนี้น่ะมีการใช้งานที่หลากหลายรวมถึงระยะทาง,ความคมและการสร้างของมันด้วย

จางเทีย เดาว่าอาวุธนี่น่าจะเป็นของขวัญที่เจ้าของห้องนี้ได้มา  จางเทีย ถอนหายใจออกมา ‘ ของขวัญนี่น่ะดีกว่าอาวุธในคลังของแคมป์เหล็กโลหิตอีก ‘

จางเทีย ช็อกในตอนที่เขาได้ดาบอสรพิษแดงมาแต่เขาไม่คิดว่าเขาจะได้อาวุธที่เหมือนกันในอีกแค่หนึ่งปีหลัง

นี่มันโชคชะตาของเขาเหรอ ?

นักฆ่าของตระกูลเฉินทำให้เขาเสียดาบอสรพิษแดงไปในถ้ำมังกรแต่ตอนนี้เขาได้ดาบที่ดีกว่ามาจากตระกูลเฉิน นี่ต้องเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึง
จางเทีย รัดดาบคู่นั้นเข้าที่เอวของเขา ด้วยการที่มีเสื้อผ้าของเขาปิดจึงไม่มีใครรู้ว่า จางเทีย ได้เปลี่ยนเข็มขัดของเขา

ตอนนั้น จางเทีย พอใจอย่างมาก

หลังจากที่มองไปรอบๆอีกครั้ง มุมปากของ จางเทีย ก็ได้ยิ้มออกมาก่อนจะเดินออกจากห้อง

ในตอนที่เขาออกไปที่ด้านนอก  จางเทีย ก็คว้าเอาซอมบี้ที่ตาถลนและยกขึ้น  จางเทีย วิ่งลงไปที่ชั้นล่างและพุ่งออกจากตึกนี้ไป
...
10 นาทีต่อมาหลังจากที่สลัดซอมบี้ที่ไล่ตาม  จางเทีย ก็ได้กลับไปที่โรงแรมที่ซึ่ง ไซมอน และอีกสองคนอยู่

ไม่ถึง 2 นาทีหลังจากที่ จางเทีย กลับมา เชร็ก ก็ได้กลับมาพร้อมกับซอมบี้ในมือ

“ ดี พวกมันเป็นของข้าแล้ว ให้เวลาข้าสักสองชั่วโมง พวกเจ้าออกไปก่อน ! “ - ไซมอน พูดขึ้น

หลังจากที่วางซอมบี้ทั้งสองตัวบนโต๊ะ พลังฉีก็ได้แผ่ออกมาจากตัว ไซมอน  เขาได้ไล่คนอื่นๆออกมาเหมือนกับกุ๊กที่ไล่คนอื่นออกตอนจะทำอาหาร

จางเทีย, เชร็ก, เซรอม และ จอร์แดน ต่างก็ถูกไล่ออกมา

ที่ทางเข้าของห้องประชุม เชร็ก ได้เอามือไปกอดคอ จอร์แดน และได้พึมพำออกมา ชอร์แดน กลืนน้ำลายและพยักหน้า

“ เซรอม ถ้าเจ้าอยู่นี่ก็น่าจะพอ จอร์แดน กับข้าจะไปดูรอบๆหน่อยเพื่อฆ่าซอมบี้ !  “ – เชร็ก พูดพร้อมกับขยิบตาให้

เพราะเขาน่ะฉลาด แน่นอนว่า เซรอม รู้ว่าพวกนี้จะไปทำอะไรแต่เขาก็ทำได้แค่ด่ากลับ – “ ระวังด้วยล่ะ อย่าเอาซอมบี้เข้ามาในโรงแรม ! “

“ ไม่มีปัญหา ! “ – เชร็ก ตอบกลับพร้อมกับรอยยิ้ม จากนั้นพวกเขาก็มองไปที่ จางเทีย   - “ เจ้าไปกับเราด้วยมั้ย ? “

“ ไม่จำเป็น พวกเจ้าไปเถอะ นอกจากเงินและของมีค่า อย่าเอาของที่มันเด่นเกินไปมา ไม่งั้นแล้วพวกเจ้ามีปัญหาแน่ ! “ - จางเทีย เตือน

เมื่อคิดถึงระดับโรงแรมที่ไม่ได้ต่ำ ที่นี่น่าจะมีเงินและของมีค่าอยู่ในโรงแรมเหลือไว้ ไม่ว่าพวกเขาจะหาเจอมั้ยมันก็ขึ้นอยู่กับโชค

เชร็ก และ จอร์แดน เดินออกไปด้วยความดีใจ

“ เจ้าไม่ไปเหรอ ?” -  เซรอม ถาม จางเทีย พร้อมกับยิ้ม

“ ข้ามีโอกาสมากมายในการหาเงิน ข้าไม่ได้รีบ ! “ - จางเทีย พูดราวกับว่าเพิ่งได้ของดีมา

“ ข้าเกือบลืมแน่ะ เจ้าได้ข้อความจาก เคอร์ลิน รึเปล่า ? เขาออกจากเมืองแบล็คฮ็อตด้วยรึเปล่า ?”

เซรอม ส่ายหน้า – “ ข้าติดต่อเขาเมื่อเดือนก่อน เขาน่ะยังอยู่ที่โรงเรียน เจ้าอาจจะยังไม่รู้แต่ชายคนนั้นซื้อบ้านใกล้ๆกับไบต์อเวนิว ! “

“ ซื้อบ้าน ?”

“ เพราะชายคนนั้นต้องการปกป้องและรับผิดชอบผู้หญิงคนหนึ่ง แน่นอนว่าเขาต้องหาที่เป็นหลักแหล่งในเมือง ! “ - เซรอม ล้อเลียน – “ ชายคนนั้นน่ะหยาบคายและยากที่จะตกหลุมรักใคร แต่เพราะเขาตกหลุมรัก ไดน่า  เขาคงไม่ยอมออกจากเมืองนอกซะจากว่าเขาเห็นว่าไม่มีโอกาสรอด ! เพื่อที่จะซื้อบ้านที่นั่น ชายคนนั้นเกือบปล้นตลอดหลายปีมานี้ .. “

‘ มิสไดน่า ‘ หลังจากที่ได้ยินชื่อที่คุ้นเคย จางเทีย ก็เหม่อเล็กน้อย

สองชั่วโมงต่อมา เชร็ก และ จอร์แดน ก็ได้กลับมาพร้อมกับของที่เหน็บไว้เต็มเอว ในเวลาเดียวกัน ไซมอน ก็ได้เดินออกมาจากห้องและเช็ดเลือดจากมือ

เมื่อเห็น ไซมอน หน้าซีดและดูกลัว  จางเทีย ก็ช็อกในใจ

ไซมอน ตัวสั่นและพูดออกมา – “ ข้า..ข้าต้องกลับไปที่อาเมส...ตอนนี้เลย ! “

รีวิวผู้อ่าน