Chapter 384: ช่วยสาวงาม
ผู้หญิงคนนี้ดูคล้ายกับ มิสไดน่า เมื่อเห็นเธอ จางเทีย ถึงกับคิดว่า มิสไดน่า มายืนอยู่ตรงหน้าเขา
แต่ผู้หญิงคนนี้มีบางอย่างที่ต่างจาก มิสไดน่า มิสไดน่า นั้นมีผมสีน้ำตาลและตาสีฟ้าแต่ผู้หญิงคนนี้มีผมสีแดงและตามีฟ้าหม่น อีกอย่างแล้วปากของเธอดูหนากว่า มิสไดน่า นั้นสวยก็จริงแต่ปากเล็กกว่า
ตอนนั้น จางเทีย ไม่ได้เห็นท่าทีลนลานจากใบหน้าอันสวยงามของเธอ เขากลับเห็นความเศร้าเล็กน้อยของเธอ เมื่อเห็น จางเทีย สายตาของเธอก็เป็นประกายขึ้นมาทันที
จางเทีย ใจเย็นอย่างมาก แม้ว่าเขาจะฆ่าคนไปและยังต้องเผชิญหน้ากับนักฆ่านับสิบคนแต่ จางเทีย เหมือนกับไม่ได้สั่นไหวเลยสักนิด เขากลับนิ่งสงบอย่างกับคนดูแทน
ผู้หญิงคนนั้นรู้ว่าคนที่ยังเยือกเย็นได้ในสถานการณ์แบบนี้นั้นต้องเป็นคนที่มีพรสวรรค์และมีประสบการณ์เจอเรื่องอันตรายมามากมาย ยกเว้นจากลักษณะภายนอกที่เป็นนักสำรวจและอายุยังน้อย ภาพลักษณ์ที่เขาแสดงออกมาตอนนี้นั้นเกินกว่าที่เธอคาดเอาไว้หมด
ด้วยอาวุธในมือ ชายหน้ายาวไม่พูดอะไรแค่จ้องมาที่ จางเทีย ตาของเขาแสดงความต้องการฆ่าออกมา เขาโบกมือและนักฆ่า 4 คนก็ได้พุ่งเข้าไปหา จางเทีย
เมื่อเห็นแบบนั้น จางเทีย ที่ซึ่งไม่อยากจะเปิดเผยความลับที่ว่าเขาเชี่ยวชาญหมัดเหล็กโลหิตก็ได้ดึงดาบนักสำรวจที่เพิ่งซื้อออกมา
ดาบนี้น่ะยังไม่เคยเจอเลือดมาก่อนแต่ตอนนี้มันจะถูกใช้ไว้ฆ่าคน
ไม่มีใครอธิบายวิธีที่ จางเทีย โจมตีออกมาได้ ตรงหน้า จางเทีย นักฆ่า 4 คนนั้นเหมือนกับเด็กที่วิ่งไปมา เขาดูเหมือนว่าถือกิ่งไม้เล็กๆและแทงไปรอบๆเพื่อไล่ฝูงผีเสื้อให้ออกจากผืนหญ้า
จางเทีย ขยับแค่ 4 ครั้งในการต่อสู้ 2 ก้าวไปข้าวหน้าและ 2 ก้าวมาข้างหลัง ระหว่างนั้นเขาก็ได้แทงไปอย่างรวดเร็ว 4 ครั้งในการเคลื่อนที่แต่ละก้าว ในตอนที่กลับมายังตำแหน่งเดิม เขาก็ได้ทำตัวกับราวไม่ได้ทำอะไรเลยแต่นักฆ่าทั้งสี่ต่างก็ร่วงไปที่พื้นและตายไป
พวกนั้นถูกโจมตีที่หัวใจและตายทันที สำหรับ จางเทีย ห้าคนที่ตายไปนั้นไม่สมควรที่จะเป็นเป้าหมายของเขา
การต่อสู้ทั้งหมดกินเวลาไม่ถึง 2 วินาที
นักฆ่าทุกคนต่างก็กลืนน้ำลาย นักฆ่าที่เข้าไปใกล้ จางเทีย รู้สึกได้ถึงพลังฉีการฆ่าที่มาจากตาของ จางเทีย ในตอนที่ จางเทีย มองมาที่พวกเขา ผลก็คือพวกเขาต้องถอยกลับหนึ่งก้าวด้วยความกลัว
ชายหน้ายาวเองก็รู้สึกได้ถึงพลังฉีการฆ่าจาก จางเทีย ซึ่งสร้างขึ้นมาหลังจากที่ฆ่าคนมากมาย หน้าของเขาจึงเปลี่ยนไปเล็กน้อย
ในทางกลับกันตาของผู้หญิงนั้นได้เป็นประกายขึ้นมาทันที
“ ดูเหมือนว่าแกคงโกรธ ที่ข้าไปฆ่าคนของแกมากสินะ ! “ - จางเทีย เผยรอยยิ้มออกมา
“ เจ้าเป็นใครวะ ? “ – ชายหน้ายาวอ้าปากพูดออกมา
“ แน่นอนว่านักสำรวจ ! “ - จางเทีย ยักไหล่และยิ้มออกมา เขาเผยให้เห็นอุปกรณ์ตามตัว – “ ไม่เห็นรึไง ?”
“ ตอนนี้เจ้าเป็นนักสำรวจ มันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเจ้า ข้าไม่เห็นว่าเจ้าทำอะไร ไปสนใจเรื่องตัวเองดีกว่า ฟังดูเป็นไง ? ” - ชายหน้ายาวหันไปมอง จางเทีย กับผู้หญิงคนนั้นก่อนที่จะพูดออกมาและกัดฟันแน่น
สิ่งที่ จางเทีย ได้แสดงออกมาตะกี้นั้นทำให้ชายหน้ายาวระวังอย่างมาก ยิ่งกว่านั้นชายหน้ายาวไม่อาจทำการตัดสินใจได้ เพราะเขาไม่รู้ความแข็งแกร่งและภูมิหลังที่แท้จริงของ จางเทีย ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะเจรจากับ จางเทีย จากที่ จางเทีย แสดงออกมาตะกี้ ชายหน้ายาวตระหนักว่ามันยากที่เขาจะฆ่า จางเทีย มากกว่าการฆ่าคนคุ้มกันของผู้หญิงคนนั้น
อีกอย่างแล้วถ้า จางเทีย ต้องการที่จะหนี ชายหน้ายาวเดาว่าพวกเขาคงไม่สามารถกันอีกฝ่ายได้เลยเพราะการเคลื่อนที่ของ จางเทีย นั้นน่าตกใจจริงๆ แน่นอนว่ามันอยู่ในระดับชำนาญแล้ว
“ ข้าแค่ผ่านมาและต้องการจะกลับไปในเมือง ข้าไม่สนเรื่องพวกเจ้าเลยสักนิดแต่เจ้าขวางทางข้าและถึงกับจะฆ่าข้าด้วย ! “ - จางเทีย พูดถึงด้วยท่าทีใสซื่อ – “ ถ้าเจ้าหลีกทาง ข้าก็จะไปตอนนี้ ! “
ชายหน้ายาวมองมาที่ จางเทีย สักพักและได้โบกมือ – “ ให้เขาไป ! “
เมื่อได้รับคำสั่ง นักฆ่าหลายสิบคนก็ได้หลีกทางให้กับ จางเทีย เมื่อเห็น จางเทีย เก็บดาบและเดินไปหาพวกเขา หลายคนได้ถอนหายใจออกมา
ในตอนที่ทุกคนคิดว่า จางเทีย คงแค่ผ่าน เขาก็ได้แว๊บผ่านไปราวกับสายฟ้าและตัดหัวของนักฆ่า 3 คนลงมาทันทีและทำให้เลือดนั้นพุ่งสูงกว่า 1 ม. ก่อนที่หัวของทั้งสามจะตกถึงพื้น เขาก็ได้แทงเข้าที่หัวใจของนักฆ่าอีกสองคน ทำให้พวกนั้นกระเด็นกลับออกไป..
“ เหี้ย แกทำอะไรวะ ?” - ชายหน้ายาวคลั่งและโจมตีออกมาใส่หัวของ จางเทีย
จางเทีย เอียงตัวเล็กน้อยและอาวุธนั่นก็ได้ผ่านไหล่เขาไป ในเวลาเดียวกันก็ได้มีนักฆ่าอีกคนได้พุ่งเข้ามาหาเขา จางเทีย ได้ปล่อยการโจมตีอีกครั้งก็ได้ทำให้นักฆ่าอีกคนกระเด็นออกไป
“ ข้าไม่อยากต้องเป็นฝ่ายเสียเปรียบ คนห้าคนต้องการฆ่าข้าตะกี้ แม้ว่าข้าจะฆ่าพวกเขาไปแล้วแต่ข้าต้องฆ่ากลับคืน 5 เท่าเหมือนที่พวกนั้นทำกับข้า เจ้าเลือกฆ่าข้าก็ได้ถ้าทำได้น่ะนะ ฟังนะ ข้าน่ะปกป้องตัวเอง ข้าไม่ได้เริ่มก่อนเลย ! “ - จางเทีย ยังคงฆ่าพวกนั้นต่อพร้อมกับอธิบาย เขาเหมือนกับเสือในบรรดาหมู่แกะ แต่ละก้าวเขาต้องฆ่านักฆ่าชุดดำด้วยดาบของเขา
หลังจากที่พูดจบ เขาก็ได้ชนเข้ากับชายที่สูง 2 ม.ซึ่งทำให้อีกฝ่ายกระอักเลือด ชายกำยำนั้นกระเด็นออกไปกว่า 20 ม.และชนกับอีกสองคนล้มลงไป ด้วยการสะบัดหลังมืออีกที จางเทีย ได้เปิดท้องของนักฆ่าอีกคนออก....
ตอนนั้น จางเทีย ห่างจากผู้หญิงคนนั้นไม่ถึง 5 ม. อีกอย่างแล้วไม่มีใครอยู่ใกล้เขา ชายหน้ายาวเองก็รู้ในสิ่งที่ จางเทีย สนใจในตอนนั้น จางเทีย ไม่ได้ตั้งใจจะกลับไปตั้งแต่ต้น เขาต้องการช่วยผู้หญิงคนนี้ เขาโดน จางเทีย หลอกเอา
“ ฆ่าพวกมันซะ ! “ – ชายหน้ายาวคำรามออกมาพร้อมกับเหวี่ยงอาวุธเข้าใส่ผู้หญิงแทน จางเทีย
ตอนวิกฤตนั้นชายหน้ายาวนั้นดุดันอย่างมาก ตอนนี้เขาไม่สามารถฆ่า จางเทีย ได้ เขาก็ต้องฆ่าผู้หญิงคนนี้ซึ่งเป็นงานหลักของเขาก่อน
แน่นอนว่า จางเทีย น่ะไม่ได้เร็วเท่ากับอาวุธของคนระดับ 9 ผู้หญิงธรรมดาคงหนีการโจมตีของคนระดับ 9 ไม่ได้
เมื่อเห็นรอยยิ้มบนหน้าของชายคนนั้นและอาวุธที่น่ากลัว ผู้หญิงคนนั้นก็ได้คิด ‘ นี่ข้าจะตายที่นี่วันนี้เหรอ ? ด้วยอาวุธที่น่ากลัวแบบนั้น ศพคงต้องดูน่าเกลียดมากแน่ๆ....พวกบอลลาสเฮงซวย...’
เมื่อเธอคิดแบบนั้น เธอก็ได้หลับตาลง
แต่เธอกลับไม่ได้โดนฟาดเพราะ จางเทีย ได้เหวี่ยงดาบของเขาเข้ารับการโจมตีเอาไว้ได้ทัน แม้ว่ามันจะหยุดการโจมตีไม่ได้แต่มันก็ได้เปลี่ยนทิศทางได้ให้มันกระเด็นไปด้านข้าง
ด้วยลมแรงๆที่พัดย้อนกลับมา อาวุธนั้นได้เข้าโจมตีรถข้างๆเธอ ทำให้เกิดรูน่ากลัวที่ประตูรถ
ชายหน้ายาวยังคงฟาดอาวุธลงไปที่พื้นซึ่งผู้หญิงคนนั้นกับ จางเทีย ได้กลิ้งไปมาอย่างกับเงา ด้วยการโดน จางเทีย กอดเอาไว้ เธอรู้สึกได้ถึงพลังอันน่ากลัวที่ไล่โจมตีจนพื้นดินสั่นในแต่ละครั้งที่มันฟาดลมาที่พื้น..
ตอนนั้นเธอไม่ได้รู้สึกลนลานอีกต่อป เธอแค่มองไปที่ใบหน้าอันหล่อเหลาและสนใจลมหายใจของ จางเทีย จางเทีย กอดเธอไว้เหมือนกับกอดผู้หญิงล้ำค่า มือหนึ่งอยูที่เอวของเธอ อีกมืออยู่ที่คอให้เธอได้ซบไหล่ของเขา ด้วยวิธีนี้ไม่ว่าพวกเขาจะกลิ้งกันยังไง เธอก็ไม่ได้แผลจากการกลิ้งเลย
แม้ว่ามันจะยังอันตรายแต่เธอก็รวบรวมสติได้ เธอรู้สึกได้ถึงความปลอดภัยและความอบอุ่น
ตอนนั้น กิตต้า คนคุ้มกันของเธอก็ได้คำรามออกมา หลังจากที่ได้พักสักหน่อย ชายกำยำคนนั้นก็โดดขึ้นมาจากพื้นอีกครั้ง ด้วยการที่ไม่สนแผลตัวเอง เขาได้ตรงเข้าไปหยิบอาวุธและวิ่งเข้าไปหา จางเทีย และผู้หญิงคนนั้น
“ ปกป้องเธอซะ ข้าต้องการ 1 นาที.. “ – หลังจากที่พูดจบ จางเทีย ก็ได้โยนผู้หญิงคนนั้นให้กับ กิตต้า ก่อนจะจับโซ่เหล็กข้างๆตัวแล้วพุ่งเข้าหาชายหน้ายาว ด้วยความช่วยเหลือจากแรงที่มีในตอนที่ชายคนนั้นดึงโซ่ตัวเองกลับ ในเสี้ยววินาทีเขาก็อยู่ห่างจากอีกฝ่ายไม่ถึง 4 ม.ซึ่งทำให้ระยะโจมตีของโซ่นี้ไม่ได้ผล
กิตต้า รับผู้หญิงคนนั้นมาแล้วยืนอยู่ตรงหน้าเธอและผ่านักฆ่าออกเป็นสองส่วน
ตอนนั้น จางเทีย พบจุดได้เปรียบของคนที่อยู่ระดับ 9 เมื่อเห็น จางเทีย อยู่ใกล้กับโซ่ของตัวเอง ชายหน้ายาวได้เผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา เขาได้คลายมือที่โซ่ ในขณะเดียวกันโซ่ที่อาวุธอีกมือก็ได้ฟาดเข้าใส่ จางเทีย ราวกับแส้
ด้วยโซ่นั้นเขาสามารถโจมตีศัตรูได้ไม่ว่าจะอยู่ไกลหรือไม่
ในเวลาเดียวกันพวกนักฆ่าก็ได้ไปเก็บขวานจากพื้นและรถ
“ จัดการเขาก่อน... “ – ชายหน้ายาวตะโกนออกมาดังๆ
เมื่อได้ยินแบบนั้น พวกนั้นก็ได้โยนขวานเข้าใส่ จางเทีย ทันที
หลังจากที่วาดเส้นโค้งในอากาศแล้ว ขวานสี่เล่มก็ได้บินเข้าใส่ จางเทีย และกันทางถอยของเขา
เมื่อเห็นอาวุธมากมายที่เข้าโจมตี จางเทีย ผู้หญิงคนนั้นก็กลัวและเอามือปิดปากทันที
ในสายตาคนอื่นแล้ว จางเทีย ไม่มีทางให้ถอย อีกอย่างแล้วเขาไม่ได้มีอาวุธ เขาจะจัดการกับการโจมตียังไง ?
จางเทีย หรี่ตาลง ‘ พวกนี้ร่วมมือกันดีนิ ดูเหมือนว่าข้าต้องใช้ดาบปลาคู่แล้ว ... ‘
จางเทีย เอื้อมมือไปที่เอวของเขา
แต่ตอนนั้น จางเทีย ได้รู้สึกได้ถึงบรรยากาศแปลกๆ ที่คนรอบๆข้างแสดงออกมา
เวลาดูเหมือนจะช้าลงและความรู้สึกแปลกๆก็ได้โผล่ออกมา ในขณะเดียวกันพวกขวานที่พุ่งเข้ามาหาเขาก็เริ่มช้าลงทันที
มันจริงที่ว่าพวกมันช้าลง จางเทีย บอกได้ถึงวิถีการบินของมันจากศูนย์กลาง,แรงและมุม เขามั่นใจว่าเขาจะไม่โดนพวกมันโจมตี เขาเองก็รู้สึกว่าเขาสามารถใช้มือของเขาทำการควบคุมขวานพวกนี้ได้โดยการเปลี่ยนทิศทางการบินและแรงของมัน
ความรู้สึกนี้มันคล้ายกับในตอนที่เขาได้ปลุกสายเลือดการโยนออกมาได้ ความต่างคือครั้งนี้เขาสามารถบังคับเอาของที่บินเข้าหาเขาอาศัยแรงของมันและใช้มันออกไปได้
จางเทีย รู้ว่าเขาได้ปลุกสายเลือดอีกอันขึ้นมา นี่คืออันที่แข็งแกร่งกว่าการโยนและดูยืดหยุ่นในการใช้งานมากกว่า
สำหรับ จางเทีย แล้ว เวลาดูเหมือนจะช้าลงอย่างมาก ก่อนที่โซ่เหล็กของชายหน้ายาวจะฟาดมาใส่เขา ขวานสี่อันก็ได้มาอยู่ข้างตัวเขาแล้ว
แม้ว่าในสายตาคนอื่น ขวานทั้งสี่เล่มจะถูกโยนออกมาพร้อมกันแต่ในสายตาของ จางเทีย พวกมันไม่ได้พุ่งมาใส่เขาโดยใช้ส่วนหัวเข้าโจมตีตลอด ระยะห่างระหว่างแต่ละอันมากกว่า 1 ม.
เมื่อเห็นขวานอันแรกที่พุ่งเข้าใส่เขากับความรู้สึกแปลกๆนี้ จางเทีย ก็ได้เอามือไปจับที่ขอบขวานและจับมันวาดเส้นโค้งตรงหน้าก่อนจะปล่อยเข้าไปโจมตีโซ่ของชายหน้ายาว
ในตอนที่ขวานเล่มที่สองมาถึง จางเทีย เองก็จับมันแล้วส่งออกไปใส่หัวของชายหน้ายาวด้วย
ในตอนที่ควบคุมขวานอันที่สอง จางเทีย เริ่มกระจ่างมากกว่าเดิม เขาไม่ต้องทำการจับวาดเส้นโค้งเลย เขาแค่บังคับให้มันบินเข้าใส่เป้าหมายในวิธีโค้งรึรูปแบบที่บิดเบี้ยวได้
จากนั้นเขาก็ได้ใช้แรงของขวานอันที่สามและบังคับให้มันพุ่งกลับไปยังคนที่ปาขวานมาและตัดคอของชายทั้งสี่คนทิ้ง
ขวานเล่มที่สี่นั้นพุ่งไปหาผู้หญิงและคนคุ้มกันซึ่งถูกล้อมไปด้วยนักฆ่าชุดดำ
สำหรับขวานเล่มที่สี่ จางเทีย ยากที่จะควบคุมมันได้ เขาตามความเร็วของมันไม่ทัน ต้องขอบคุณที่มีขวานแค่ 4 เล่ม ถ้ามีอีกอันเขาคงต้องหลบ
จริงๆแล้วเขาได้ทำทุกอย่างเสร็จสิ้นในเวลาไม่ถึง 1 วินาที
ด้วยการที่โดน จางเทีย บังคับ ขวานที่สี่ได้บินไปยังทิศทางทั้งสี่ด้วยแรงที่มหาศาล
ไม่มีใครคิดว่าผลลัพธ์จะกลับกันแบบนี้ในเสี้ยววินาที แม้แต่ชายหน้ายาวเองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจนกระทั่งเขาได้ตายไป ถ้า จางเทีย โยนขวานตรงเข้าใส่เขาในตอนที่สู้แบบต่อหน้า ชายคนนั้นอาจจะไม่โดนฆ่า ยังไงซะเขาก็อยู่ถึงระดับ 9 ที่ซึ่งอาจจะหนีไปได้แม้ว่าการโจมตีจะเร็วเท่ากับเสียง
ขวานอันแรกได้ทำลายโซ่ของชายหน้ายาวไป
ขวานเล่มที่สองได้ทำให้หัวของชายหน้ายาวกระเด็นออกจากตัว
ขวานเล่มที่สามได้ฆ่านักฆ่าสี่คนที่โยนขวานเข้าใส่ จางเทีย ทำให้พวกนั้นมีเลือดไหลออกมาจากคอและล้มลงไปกับพื้นทันที
ขวานเล่มที่นี่ได้กำจัดนักฆ่าที่ล้อม กิตต้า กับผู้หญิงคนนั้น
หลังจากที่โจมตี 4 เป้าหมาย จางเทีย ก็ได้ยินเสียงระเบิดเสียงสี่อันดังขึ้นมาในครั้งเดียวอย่างที่เขาได้คาดเอาไว้
ผลก็คือนักฆ่า 1/3 ถูกฆ่าไปหมด
เสียงระเบิดนั้นทำให้พวกคนที่สู้อยู่ถึงกับตะลึง นักฆ่าหลายคนถึงกับหยุด ในตอนที่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขาก็พบว่าคนจำนวนมากได้ล้มลงไปกับพื้นรวมไปถึงชายหน้ายาวด้วย จางเทีย ที่ซึ่งควรที่จะล้มลงไปกองกับพื้นยังคงยืนอยู่ได้อย่างเคยเกือบจะไม่ได้ขยับไปไหนเลยด้วย บางคนมอง จางเทีย ราวกับมองเห็นผี
ในสายตาพวกเขาแล้ว จางเทีย เหมือนกับน้ำพุที่ขวานทุกอันที่พุ่งเข้าหาเขาจะกระเด็นกลับด้วยแรงที่มากกว่าเดิม
จางเทีย เร็วซะจนคนส่วนมากไม่เห็นว่า จางเทีย ได้เปลี่ยนทิศทางของขวานด้วยมือของเขา พวกนั้นรู้สึกแค่ว่าขวานนั้นได้เด้งกลับมาในตอนที่แตะโดน จางเทีย
ผู้หญิงคนนั้นตาเบิกกว้าง ‘ นี่มันสุดยอดไปเลย ! เป็นแบบนี้ได้ไง ! พวกขวานที่ทำลายแผ่นเหล็กรถได้แล้วพวกมันเด้งกลับได้ไง ? ‘
ในบรรดาพวกนั้นมีแค่ กิตต้า ที่รู้สึกได้ถึงการเคลื่อนไหวของ จางเทีย ถ้าขวานพวกนั้นพุ่งเข้าใส่เขา กิตต้า รู้สึกว่าเขาสามารถกันขวานได้ 2-3 อันด้วยโล่รึอาวุธแต่เขายากที่จะกันขวานเล่มที่สี่ได้ เขาไม่มีทางทำให้ขวานเด้งกลับไปได้ นี่มันสุดยอดเกินไปแล้ว ! เขาไม่เคยได้ยินเรื่องแบบนี้มาก่อน....
ก่อนที่พวกนักฆ่าจะเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น จางเทีย ที่ใช้เท้าโยนดาบยาวขึ้นมาก็ได้พุ่งเข้าใส่พวกนั้นแล้วตัดหัวพวกนั้นออก
หลังจากนั้นไม่กี่นาทีตอนที่ จางเทีย ฆ่านักฆ่าคนสุดท้ายเสร็จ เขาก็ได้โยนดาบทิ้งแล้วเดินไปหาผู้หญิงคนนั้นและคนคุมกันของเธอ
หลังจากที่สู้เสร็จ คนคุ้มกันได้รับบาดเจ็บมากมาย ต้องของคุณที่พวกมันไม่ได้ร้ายแรง จางเทีย พบว่าคนคุ้มกันคนนี้มีประสบการณ์ในการต่อสู้จริงๆมากมาย
“ เป็นอะไรมั้ย ? “
เขาถามทั้งคู่ แม้ว่าตาเขาจะมองไปยังผู้หญิงแต่เขาก็รู้สึกได้ถึงความจริงใจที่เธอได้แสดงออกมา
“ แค่แผลถลอก ไม่เป็นไร ... “ - เมื่อพูดจบ กิตต้า ก็ได้กระอักเลือดอกมา เขาได้เอายาออกมาแล้วดื่มมัน จางเทีย มองไปที่ขวดยาและพบว่ามันเป็นยารักษาระดับกลาง ดังนั้นเขาจึงแค่พยักหน้าแล้วไม่ได้พูดอะไร
หลังจากที่หนีจากการลอบฆ่ามาได้ หน้าของเธอดูซีดขึ้นมา นอกจากคราบเลือดตามกระโปรงตอนที่ จางเทีย กอดเธอกลิ้งไปมาที่พื้น เธอไม่เป็นไร
ฉากนี้มันน่ากลัวซึ่งเหมือนกับสนามรบจริงๆแต่เมื่อเห็นศพกว่า 80-90 ศพนอนอยู่ที่พื้นในระยะ 100 ม. ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้รู้สึกอึดอัดเลยสักนิด นี่ทำให้ จางเทีย รู้สึกเคารพเธอมากกว่าเดิม
“ ขอบคุณที่ช่วยข้าและคนคุ้มกันแต่ปัญหาของเราไม่ใช่แค่นี้ ! อีกอย่างแล้วเราป้องกันตัวเองไม่ได้จากอันตรายในอนาคต ! “ – ผู้หญิงคนนั้นมองมาที่ จางเทีย และพูดด้วยเสียงที่ดึงดูด ตาของเธอจ้องมาที่ จางเทีย ด้วยความคาดหวัง – “ ข้า โอลินา ประธานของกลุ่มการค้าบอลลาสของเกาะเซนต์เฮอเนอร์ ข้ารู้ว่ามันมากไปหน่อยแต่เจ้าช่วยข้าอีกรอบได้มั้ยรึถ้าเจ้าหวังจะให้ข้าจ้าง ข้าสามารถจ่ายตามที่เจ้าต้องการได้ ! “