Chapter 389: พิษรึชีส
เมื่อได้ยินว่าคนของบอลลาสได้มาถึง จางเทีย ก็ได้ตาม กิตต้า ออกไปพวกบัดซบที่ว่า ก่อนจะมาถึงประตูปราสาท จางเทีย ก็ได้ยินเสียงแหบๆดังขึ้นมาจากด้านนอก
“ บัดซบ รู้มั้ยว่าข้าเป็นใคร ? พวกนี้คือคนคุ้มกันของข้า ทำไมข้าต้องให้พวกเขาลดอาวุธลงก่อนที่จะเข้าปราสาทด้วย ใครเป็นคนให้สิทธิแก โอลิน่า อยู่ไหน ? เรียกเธอออกมา ! เราต้องการเหตุผล ทำไมคนของตระกูลถึงต้องมาเจอกับการปฏิบัติที่หยาบคายในอาณาเขตของกลุ่มบอลลาสด้วย ? “
ในตอนที่เขาพูดจบ คนด้านนอกคนอื่นๆก็เริ่มที่จะเรียงแถวกันมาหาเรื่อง
“ ใช่เลย ทำไมเราต้องลดาวุธลงและไม่ให้เราต้องเขาไปด้วย ? “
“ กลับไปที่ปราสาทหินเทา ! ข้าบอกแล้วว่าพวกเขาน่ะไม่ชอบเรา ... “
“ ข้าได้ยินมาว่าเธอเจอกับการลอบฆ่าเมื่อคืนนี้ เธอส่งคนมาแจ้งเรา ดังนั้นแล้วเราจึงมาหาเธอที่นี่ แต่เธอห้ามไม่ให้เราเข้าไป ! เธอหมายความว่าไงกันแน่ ? “
เมื่อได้ยินแบบนั้น เพอริป ก็ได้คำรามออกมา – “ นี่คือกฎของปราสาททะเลฟ้า พ่อคนนี้ไม่สนว่าพวกแกจะเป็นใคร ! พวกแกเคยเห็นปราสาทที่ไหนยอมให้ทหารพร้อมอาวุธเข้าไปบ้าง ? ถ้าแกอยากที่จะไป พวกแกต้องลดอาวุธลง อีกอย่างแล้วให้เข้าไปได้แค่ 10 คนมากสุด ! คนอื่นต้องรอด้านนอก ! “
ไม่นานหลังจากที่ เพอริป พูดจบ เขาก็ได้ยินเสียงกร่นด่าทันที
จางเทีย และ กิตต้า ไม่ได้เดินออกไปดูใกล้ๆ พวกเขากลับไปที่หอคอยและมองลงไปด้านล่างแทน
สะพานถูกลดลงแต่ตอนนี้มีทหารกว่า 200 คนก็แห่กันไปที่สะพานและประตูของปราสาท ในหมู่พวกนั้น 3 คนใส่ชุดหรูหราขี่ม้าหล่อเลาและมองไปยังทหารประจำการด้านนอกปราสาท พวกเขาไม่ได้ลงจากม้าก่อนที่จะเข้าไปในปราสาทด้วยซ้ำซึ่งแสดงให้เห็นถึงความหยิ่งยโสที่พวกนี้มี
จางเทีย ที่ยืนอยู่บนหอคอยเห็นว่า 3 คนนี้น่ะแก่แล้ว มีคนหนึ่งมีผมขาว พวกเขามีรูปร่างต่างกันไป อ้วน, ผอม, และอีกคนธรรมดาแต่หัวล้าน
...
“ พวกนี้คือพวกบัดซบของตระกูลบอลลาสเหรอ ? “ - จางเทีย หันกลับมาถาม กิตต้า
กิตต้า พยักหน้าและพูดออกมาด้วยความหงุดหงิด – “ ไอ้คนอ้วนชื่อ คิลิซิส คนผอมที่อยู่ทางซ้ายชื่อ เมสา ส่วนคนหัวล้านชื่อ เอทน่า พวกนี้คือลุงของ ไชน์ และพวกคนธรรมดาที่เกาะชาร์ทก่อนนี้ แต่หลังจากที่มายังเกาะเซนต์เฮอเนอร์ พวกมันก็ลืมว่าตัวเองเป็นใคร “
“ พวกนี้อยู่ที่ปราสาทหินเทาเหรอ ? ตระกูลบอลลาสมีใครบ้างบนเกาะ ? “
“ มาดามน่ะโดนบังคับให้สร้างปราสาทหินเทาให้พวกมันเมื่อสี่ปีก่อน ก่อนหน้านี้พวกมันน่ะอาศัยอยู่ในปราสาททะเลฟ้า พวกมันมีคนมากกว่า 10 คนรวมลูกและเมียด้วยแต่บางคนอยากได้ตำแหน่งของมาดาม ดังนั้นมาดามเลยต้องไล่ออกไป หลังจากนั้นคนพวกนั้นก็ทำตัวให้น่าสงสาร พวกนั้นใส่ร้ายมาดามด้วย ดังนั้นมาดามเลยต้องสร้างปราสารทหินเทาให้พวกมันไงล่ะ ! “
“ ปกติแล้วพวกนี้เอาคนมาด้วยมากขนาดนี้มั้ย ?”
“ ไม่ อย่างมากก็แค่ 10 คน ! “
เมื่อได้ยินแบบนั้น จางเทีย ก็เข้าใจขึ้นมาทันที ‘ 3 คนน่ะรู้ตัวว่าผิด ไม่งั้นแล้วคงไม่ต้องเอาคนมาเยอะแบบนี้แต่พวกนี้ต้องมีเหตุผลดีๆ ตอนนี้ โอลิน่า เจอกับการลอบฆ่า มันก็มีเหตุผลว่าพวกมันต้องระวังโดยการเอาคนไปกับตัวเองมากกว่าเดิมเพราะตัวเองก็เกี่ยวข้องกับ โอลิน่า ด้วย ‘
“ มันคงไม่สะดวกถ้าเราไปจัดการกับพวกด้านล่างโดยตรงเลย ! “ - จางเทีย ถอนหายใจออกมาและจับไปที่เครื่องป้องกันปราสาทข้างๆตัว
“ ข้าเองก็คิดแบบนั้นแต่ถ้าเราทำ ชื่อเสียงของมาดามโดนทำลายแน่ “ – กิตต้า ตอบกลับด้วยน้ำเสียงเห็นด้วย
หลังจากที่พวกนั้นเจอกับ เพอริป ได้ได้แสดงท่าทีออกมาและยังไม่มีใครส่งอุปกรณ์ไว้ที่กำแพงแต่ก็เห็นว่าข้างในนั้นสงบดีอย่างเคย ในที่สุดพวกนั้นก็ได้สติ หลังจากที่เจรจากันสั้นๆแล้ว ชายทั้งสามก็เอาคนไปกับตัวด้วย 7 คนเข้าไปข้างใน
...
โอลิน่า รอรับทั้งสามที่ห้องโถงของปราสาท ในฐานะคนคุ้มกันของเธอ จางเทีย ได้ไปยืนอยู่ข้างหลังเธอพร้อมกับ กิตต้า และมองไปยังสามคนที่เดินเข้ามาข้างใน
“ โอลิน่า เราได้ยินมาว่าเจ้าถูกโจมตีเมื่อคืนนี้ เจ้าเป็นอะไรมั้ย ?”
ในตอนที่พวกนั้นเดินเข้ามา คิลิซิส ก็ได้ตะโกนออกมาดังๆด้วยท่าทีเจ้าเล่ห์และกลัวว่าคนอื่นจะไม่ได้ยิน
ตอนอยู่เขตไฮหยวน จางเทีย น่ะเห็นคนมากมายที่ใส่เสื้อผ้าแพงๆแต่เขาไม่เห็นคนไร้รสนิยมในการแต่งตัวแบบนี้มาก่อน ในตอนที่พวกนั้นเข้ามาในห้อง จางเทีย คิดว่าสามคนนี้เป็นตัวตลก
“ ข้าไม่เป็นไร หลังจากสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ ข้าก็เริ่มเข้าใจดีและคิดได้หลายอย่าง ! “ - โอลิน่า พูดและยิ้มออกมาเหมือนกับไม่ได้รู้สึกอะไรเลยกับสิงที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้
“ อ๊าก เจ้าเข้าใจอะไร ? “ – เมื่อได้ยินคำพูดของเธอ ชายหัวล้านก็ได้ถามออกมาอย่างกังวล ไม่นานหลังจากที่เขาถาม เมสา ชายร่างผอมก็ถึงแขนเสื้อขึ้น เมื่อตระหนักได้แบบนั้น เอทนา ก็รีบกระแอมออกมาเพื่อผ่อนคลายความเครียด – “ โอ้ ข้าหมายถึงเจ้าคิดอะไรได้บ้าง ? เจ้ารู้เรื่องอื่นไหม ! “
เมื่อเห็นท่าทีแบบนั้นซึ่งเกือบจะเผยให้เห็นเป้าหมายที่แท้จริง จางเทีย ก็อดไม่ได้ที่จะกรอกตาใส่ ‘ พวกโง่ที่อยากปกครองคน ? เหี้ย ล้อเล่นป่ะเนี่ย ? ไม่แปลกใจเลยว่าทำไม โอลิน่า ถึงเลี้ยงพวกมันไว้ พวกมันโง่ซะจนทำให้คนสงสารได้ อีกอย่างแล้วข้าคิดว่า โอลิน่า คงไม่คิดว่าพวกมันจะชั่วแบบนี้ได้ ‘
โอลิน่า ถอนหายใจออกมา - “ ข้าคิดว่าถ้าข้าโดนฆ่าเมื่อคืน ทั้งกลุ่มจะตกอยู่ในอันตราย ข้าไม่มีญาติยกเว้นแค่พวกเจ้า ข้าคิดว่าจริงๆแล้วพวกเจ้าช่วยข้าได้ดีเลย หลายปีมานี้ข้าได้ใช้เวลาไปมากกับเรื่องของกลุ่ม ข้าคิดว่าข้าน่าจะมีเวลาใช้ชีวิตสักหน่อย ด้วยเงินที่มากมายถ้าข้าไม่ใช้ มันคงน่าเสียดาย ! “
เมื่อได้ยินแบบนั้นทั้งสามคนก็อึ้ง จากสีหน้าพวกนั้น จางเทีย บอกได้เลยว่าพวกมันแปลกใจเพราะพวกนั้นไม่ได้เจอกับอันตรายแต่เป็นเรื่องดี
เอทนา นั้นดีใจจนเกือบจะกระโดดตัวลอย – “ มันน่าจะเป็นแบบนั้นนานแล้ว ไม่ว่า ยังไงกลุ่มก็น่าจะปันผลให้กับคนของบอลลาสหน่อย ! “
“ แค่กๆๆๆ. “ - เมสา ไอออกมาและมองไปที่ คิลิซิส ก่อนจะถาม โอลิน่า - “ เจ้าหมายความว่าไง ? “
“ ใช่ ข้าวางแผนให้พวกเจ้าสามคนเป็นประธานกลุ่มเพื่อดูแลการจัดการต่างๆ ด้วยประสบการณ์มากมายที่มี พวกเจ้าต้องให้ความเห็นที่จำเป็นสำหรับการบริหารได้แน่ มันมีตำแหน่งหลายที่ด้วยสิ คิลิซิส ข้าอยากให้ลูกชายเจ้ารับตำแหน่งตัวแทนของการค้าระดับทวีปที่เจ้าเคยเสนอมา “
สีหน้าสงสัยของ คิลิซิส หายไปทันทีหลังจากได้ยินคำพูดของ โอลิน่า ในเวลาเดียวกันเขาก็ทำท่าลังเล – “ นั่น นั่นมันคงไม่เหมาะ..”
“ ข้าได้ตัดสินใจไปแล้ว ข้าเรียกเจ้ามาที่นี่เพื่อประกาศเรื่องนี้ เพราะข้าคิดมาอย่างถี่ถ้วนแล้ว ดังนั้นข้าจะให้เป็นไปตามนั้น “ – ท่าทีของเธอมีแค่ จางเทีย และ กิตต้า เท่านั้นที่รู้ แม้ว่า กิตต้า จะยังไม่เข้าใจอะไรมากแต่ จางเทีย เข้าใจอย่างดีเพราะเขาเองก็ช็อกในใจ ในเวลาเดียวกันเขาก็เข้าใจได้ถึงสิ่งที่ โอลิน่า พูดเมื่อคืนนี้ เธอน่ะจะฆ่าคนโดยไม่ให้เลือดเปื้อนเลยสักหยด
“อะไรอีก ?”
“ หืม อีกอย่าง ข้าคิดจะไปเยี่ยมหัวหน้าตระกูลเบลวันนี้และส่งของขวัญให้กับเขาเพื่อที่จะได้เจรจากับการตั้งศูนย์กลางที่ใหม่ของเกาะแต่หลังจากเหตุกาณณ์ที่เกิดเมื่อคืนนี้ ข้าต้องการพักผ่อน ตอนพวกเจ้ากลับไปที่ปราสาทหินเทา พวกเจ้าก็ไปเยี่ยมเขาแทนข้าที “
“ ไม่มีปัญหา ! “- ตอนนั้นทั้งสามคนดีใจอย่างมาก เมื่อได้ยินหน้าที่อันยิ่งใหญ่ที่เธอมอบให้มา พวกนั้นต่างก็รีบพยักหน้ากันทันที
“ อเล็กซานเดอร์ ! “ - โอลิน่า ตะโกนก่อนที่ อเล็กซานเดอร์ จะเดินเข้ามาพร้อมกับกล่องที่ยาวกว่า 33.3 ซม.แล้วไปยืนอยู่ข้างเธอ
โอลิน่า ยิ้มออกมมาแต่ จางเทีย รู้สึกได้ถึงความไร้ปราณีที่แผ่ออกมาจากตัวของเธอ - “ ข้าอยากให้ อเล็กซานเดอร์ ไปกับพวกเจ้าพร้อมกับของขวัญ ข้าเตรียมของขวัญนี้ไว้ให้หัวหน้าตระกูลเบล เขาจะชอบมัน มันมีจดหมายข้างในด้วย พวกเจ้าไปก่อนเลยถ้าไม่มีอะไรต้องไปจัดการ “
หลังจากที่ อเล็กซานเดอร์ และสามคนออกไป โอลิน่า ก็ได้โบกมือให้ กิตต้า ออกไปด้วย เหลือแค่ จางเทีย และเธออยู่ในห้อง เมื่อเหนแบบนั้น จางเทีย รู้สึกว่าเธอน่ะหมดแรงและรู้สึกโล่งอก
“ ของในกล่องนั้นคือหัวที่เธอให้ กิตต้า ตัดมาเมื่อคืนนี้สินะ ? “ - จางเทีย ถาม
“ หืม ลูกชายสองคนของไอ้เบลน่ะโดนคนพวกนี้ฆ่า สำรหับผู้จัดการระดับสูงของเกาะงูเวทย์ เขาได้ทำการลงทุนไปมาก อีกอย่างแล้วเขาน่ะเสนอรางวัลให้กับหัวของคนพวกนั้น ไอ้แก่เบลแน่นอนว่าต้องรู้ว่าหัวนั่นน่ะเป็นใคร ! “
จางเทีย เงียบไปสักพัก เขามองดูผู้หญิงตรงหน้าเขา เขาตระหนักได้ว่าเธอคิดมาอย่างดีแล้ว ความสามารถของเธอน่ะมากกว่าที่เขาคิดไว้ ถ้านักฆ่าบนเกาะงูเวทย์น่ะถูกคนสามคนนั้นจ้างมาจริงๆ เธอก็แค่ทำให้พวกนั้นตกหลุมด้วยตัวของตัวเอง
เธอให้ กิตต้า จัดฉากการต่อสู้ใหม่และเก็บเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนเป็นความลับ หลังจากนั้นเธอก็ได้ให้รางวัลกับคนของตระกูลบอลลาสและได้ให้พวกนั้นไปส่งหัวของนักฆ่าให้กับตระกูลเบล หลังจากที่รวมข้อมูลสามส่วนด้านบนแล้ว พวกคนที่เกาะงูเวทย์ต้องสรุปได้ว่าสามคนนี้กำลังปั่นหัวพวกนั้น ในอีกด้านพวกคนของบอลลาสได้แกล้งที่จะฆ่า โอลิน่า ด้วยการจ้างนักฆ่าจากเกาะงูเวทย์มากแล้วก็แจ้งเรื่องนี้ให้ โอลิน่า ไว้ก่อนเพื่อช่วยเธอเอาไว้ พวกเขาได้ให้ โอลิน่า สร้างกับดักมาเพื่อฆ่านักฆ่าทิ้งซะและได้เอาหัวของคนสำคัญไปหาทางร่วมมือกับตระกูลเบล..
ในตอนที่องค์กรนักฆ่ารู้เรื่อง พวกนั้นจะไม่เกลียด โอลิน่า พวกนั้นจะเกลีดพวกบอลลาสที่มาจ้างคนของพวกเขา ผลก็คือคนบนเกาะนั้นต้องไล่ฆ่าพวกสามคนนั้นอย่างแน่นอน
นี่ยังไม่รวมพวกโง่ในตระกูลบอลลาสที่ไม่เข้าใจแผนของ โอลิน่า แม้ว่าจะรู้แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เพราะการจัดแจงของผู้หญิงคนนี้มีเหตุผลพอ
จนกระทั่งตอนนี้ จางเทีย ก็เพิ่งรู้ว่าผู้หญิงที่ดูอ่อนแอคนนี้น่ะมีความสุดยอดในการคุมคนบนเกาะมากแค่ไหน
โอลิน่า หันกลับมามองที่ จางเทีย จากสีหน้าของ จางเทีย แล้วเธอตระหนักได้ว่า จางเทีย น่ะเข้าใจสิ่งที่เธอคิด เธอจึงถามเขาออกมา – “ ข้าเลวมั้ย ?”
จางเทีย ส่ายหน้า – “ ท่านคิดว่าพวกนั้นวางแผนไว้แบบนี้จริงๆเหรอ ? “
“ ถ้างั้นทุกอย่างที่ข้าสัญญาไว้ในวันนี้ก็จะเป็นรางวัลสำหรับพวกนั้น ข้าจะถือว่าเป็นค่าชดใช้ พวกนั้นก็ไม่ได้เสียอะไร อีกอย่างถ้าไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย พวกคนบนเกาะงูเวทย์ก็จะไม่แก้แค้นพวกนั้น “
จางเทีย อึ้งทันที สำหรับพวกคนตระกูลบอลลาส ถ้าพวกเขาทำมัน รางวัลในวันนี้ก็เหมือนน้ำผึ้งอาบยาพิษ ถ้าไม่รางวัลในวันนี้คือชีสจุ่มน้ำผึ้ง มันขึ้นกับว่าพวกเขาจะคิดดีรึคิดร้ายต่อผู้หญิงคนนี้ต่างหาก
‘ ผู้หญิงแบบนี้ต้องการการปกป้องจากข้าด้วยเหรอ ? ‘ จางเทีย เริ่มสงสัย เมื่อคิดแบบนั้นเขาก็ผ่อนคลายทันที การปกปิดความอ่อนแออาจเป็นเรื่องที่ผู้หญิงเก่งที่สุด
“ ก่อนหน้านี้ ข้าคิดว่าข้าจะอยู่ที่เกาะนี้สักพัก แต่ดูจากสถานการณ์ตอนนี้แล้วข้าคงจะต้องออกจากที่นี่ในไม่ช้าเพราะข้าเห็นว่าท่านเก่งกว่าข้าอีก “
“ ข้าน่ะปลอมขนาดนั้นรึผู้ชายไม่ชอบผู้หญิงที่คิดได้แบบนี้ “ - โอลิน่า ถอนหายใจแสดงสีหน้าเศร้าออกมา
“ ข้าต้องไปที่ป่าน้ำแข็งหิมะ อีกอย่างแล้วข้าเห็นว่าถ้าอยู่ที่นี่นานเกินไป ข้าอาจโดนท่านกินทั้งผิวและกระดูกเลยก็ได้ “
เมื่อได้ยินแบบนั้น โอลิน่า ก็ได้หัวเราะออกมาทันที