px

เรื่อง : Castle of Black Iron
Chapter 396: ตัวเลือกที่ถูกลืม


Chapter 396: ตัวเลือกที่ถูกลืม
“ ปีเตอร์.. “

ในตอนที่ จางเทีย เดินเข้าในพื้นที่วุ่นวายเพื่อเช็คบาดแผลของคนที่เขาได้ช่วยเอาไว้ เขาก็เห็น แซม และ เกอรี่ ในเวลาเดียวกันทั้งคู่ก็เห็น จางเทีย  แซม ได้กรีดร้องและได้เดินมาหาเขาพร้อมกับ เกอรี่

“ ดีที่รู้ว่าเจ้าปลอดภัย ! “ - แซม ยิ้มออกมาแต่เขาเองก็รู้สึกอายเล็กน้อยและได้เกาหัว – “ ตอนเราออกมา เราเห็นหนวดของมอนตเอร์ตรงหน้า เราเลย....เรา... “

จางเทีย ยิ้มออกมาและตบไหล่ของ แซม  - “ ข้ารู้ ไม่เป็นไร ข้าเองก็ออกไปเพื่อดูการต่อสู้ไม่ใช่ไปสู้ ดังนั้นข้าไม่ต้องให้เจ้าช่วยเหรอ เพราะข้าหลบการโจมตีพวกนั้นได้ “

เมื่อได้ยินคำตอบของ จางเทีย  แซม และ เกอรี่ ก็ถอนหายใจออกมา ไม่สำคัญว่า จางเทีย จะวิ่งออกไปเอง แต่มันไม่ใช่การกระทำที่ถูกต้องที่พวกเขาจะหันหลังกลับแล้วหนีมา

“ โอ้ มอนเตอร์ไปไหนแล้ว ? “ - เกอรี่ มองไปรอบๆด้วยความสงสัย...

จางเทีย ชี้ไปที่หัวเรือ  ข้างๆรั้วที่พัง เกอรี่ ได้ดึงของบางอย่างออกมาแล้วมองออกไปข้างนอกก่อนจะกรีดร้อง

ตอนนั้นมีผู้คนเริ่มทยอยออกมาจากห้องและเริ่มมองออกไปนอกเรือ เมื่อเห็นศพมอนเตอร์ที่ตาย พวกเขาต่างก็กรีดร้องกันทีละคนๆ บางคนถึงกับเก็บเศษหนวดของมันมาดูใกล้ๆ
เมื่อเห็น แซม และ เกอรี่ สงสัย  จางเทีย ก็ไม่ได้พูดอะไรมาก – “ พวกเจ้าตามสบาย ข้ามีบางอย่างต้องไปจัดการ เจอกันทีหลัง “

“ อ๊าก โอเค ! “ – เมื่อพูดจบ เกอรี่ ก็ได้วิ่งไปที่หัวเรือแล้วดึงแขน แซม

จางเทีย ไปที่ที่เขาช่วยคนไว้ก่อนหน้านี้ แม้ว่าที่นั่นจะโดนทำลายไปแล้วแต่ชายคนนั้นก็พอยืนขึ้นมาได้โดยมีลูกเรือกับหมอคอยดูแลแผลให้ เมื่อเห็น จางเทีย  ชายคนนั้นก็รีบมาจับแขน จางเทีย ด้วยความตื่นเต้นและตะโกนออกมา – “ เขานี่แหละ เขานี่แหละ ชายคนนี้ช่วยชีวิตข้าไว้ ถ้าไม่ใช่เพราะเขา ข้าคงโดนฟาดเป็นชิ้นๆไปแล้ว... “

เมื่อได้ยินเสียงนั้นผู้คนรอบๆต่างก็มองมาที่ จางเทีย  รวมถึงลูกเรือและหมอที่ดูแลแผลให้อยู่ แม้ว่าจะไม่ได้พูดอะไรแต่พวกนั้นต่างก็มองมาที่เขาด้วยท่าทีชื่นชม สิ่งที่ จางเทีย ได้ทำไปในตอนวิกฤตนั้นกล้าหาญอย่างมากจนทุกคนต้องชมเขาแม้ว่าจะไม่รู้จักกัน

เมื่อได้ยินคำชม จางเทีย รู้สึกอายนิดๆ แม้ว่ามันจะวิกฤตในตอนก่อนที่จะลงมือแต่ จางเทีย ได้คำนวณความเร็วของตัวเองและของหนวดนั่น หลังจากที่รู้ว่าเขาจะไม่เจออันตราย เขาจึงพุ่งไปช่วยชายคนนั้น แม้ว่ามันจะดูเสี่ยงในสายตาของคนอื่นแต่ จางเทีย น่ะรู้สึกว่าเขาปลอดภัย

แต่มันไม่จำเป็นที่ จางเทีย จะต้องประกาศเรื่องนี้ แม้ว่าเขาจะไม่ใช่นักดาบผู้รักความถูกต้องที่ซึ่งยอมทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์กับคนทั่วไปแต่เขาก็ไม่ได้โง่ อีกอย่างแล้วเขาได้ช่วยชีวิตของชายคนนี้ไว้จริงๆ

“ อ๊าก ข้าแค่มาดูเฉยๆ ดีแล้วที่รู้ว่าเจ้าปลอดภัย “

“ ไอ้หนุ่ม เจ้ารู้มั้ยว่าเจ้าเพิ่งช่วยชีวิต เจโลมอฟ ข้าถามชื่อเจ้าได้มั้ย ? “ - ชายคนที่ จางเทีย ช่วยถามออกมา

“ เจ้าเรียกข้าว่า ปีเตอร์ ก็ได้ “

เมื่อได้ยินคำตอบของ จางเทีย  เจโลมอฟ ก็ได้เปิดเสื้อออก หลังจากนั้นเขาก็ได้ถอดสร้อยทองหนักๆและมอบให้กับ จางเทีย

“ ถ้าเจ้าเจอเรื่องยากลำบากในป่าน้ำแข็งหิมะ จำไว้ว่าไปหาข้าได้ที่โรงแรมคนหมีของเมืองเอสไชน์ ถ้าข้าตาย เจ้าไปหาลูกชายข้าได้ ถ้าลูกชายข้าตาย เจ้าไปหาหลานข้า  ข้าจะบอกพวกนั้นว่าใครที่มีสร้อยคอนี้คือผู้ที่ช่วยครอบครัวของข้า ข้ามั่นใจว่าพวกนั้นต้องทุ่มสุดตัวเพื่อช่วยเจ้า ! “

ชายคนนั้นจริงใจอย่างมากซะจน จางเทีย ยังรู้สึกแย่ที่จะปฏิเสธความหวังดี หลังจากที่มองไปยังสร้อยคอกับจี้หมีที่หนักเกือบ 0.5 กก. จางเทีย ก็รับมันไว้

“ ข้าจะจำไว้ โรงแรมคนหมีของเมืองเอสไชน์ ถ้าข้ามีเรื่อง ข้าจะไปให้เจ้าช่วย ! “

เมื่อได้ยินคำพูดของ จางเทีย  ชายคนนั้นก็ได้หัวเราะออกมา
...
เพราะการโจมตีของมอนเตอร์ใต้ทะเล เรือจึงต้องจอดก่อน ตอนนั้นลูกเรือต่างก็ยุ่งอยู่กับการซ่อมแซมส่วนทีเสียหายของเรือและรักษาคนเจ็บ

เพราะมอนตเอร์โจมตีพวกเขาไม่นานจึงมีแค่ส่วนนอกของโครงสร้างและด้านบนซึ่งใกล้กับดาดฟ้าเรือที่ได้รับความเสียดาย ดังนั้นหลังจากที่ซ่อมแซมหลายชั่วโมง ผู้โดยสารทุกคนก็ได้รับแจ้งว่าพวกเขาต้องรอไปอีกหนึ่งคืนก่อนจะเดินทางต่อได้

เมื่อได้ยินแบบนั้นผู้โดยสารทุกคนก็ได้สติ โดยเฉพาะเมื่อทุกคนได้ยินมาว่า ซามาแลนซ์ ปราชญ์ดาบจันทราดวงดาวอยู่บนเรือด้วย ในที่สุดพวกเขาก็เริ่มวางใจ

นอกจากส่วนที่ได้รับความเสียหาย มอนเตอร์ได้ทำให้คนเสียชีวิตไปมาก คนกว่า 70 คนโดนฆ่ารึได้รับบาดเจ็บ อีกอย่างแล้วมีคนกว่า 20 คนที่หายไป ทุกคนรู้ว่าคำว่าหายไปน่ะเป็นแค่คำพูด ด้วยการโจมตีของมอนเตอร์แบบนั้น พวกเขาคงต้องตกลงไปในท้องของมันไม่ก็ตกลงไปในทะเลและไม่ได้กลับมาอีก

พวกคนทีเสียเพื่อนรึญาติไปต่างก็โศกเศร้า ในทางกลับกันพวกคนที่รอดจจาการโจมตีมาได้ก็เปลี่ยนเรื่องน่ากลัวนี้เป็นเรื่องตลก หลังจากที่ได้ยินมาว่า ซามาแลนซ์ ปราชญ์ดาบจันทราดวงดาวอยู่บนเรือนี้ด้วย ผู้โดยสารบางคนที่คิดว่าตัวเองได้รับผลกระทบเรื่องนี้ได้ไปต่อคิวในเขต VIP พวกเขาอยากจะไปขอบคุณตำนานและอยากที่จะเป็นเพื่อนกับอีกฝ่าย
ในทางกลับกันคนธรรมดาโดยเฉพาะพวกคนที่อยู่ในชั้นประหยัดและห้องธรรมดานั้นไปต่อคิวกันที่หัวเรือ พวกเขาไปถ่ายรูปกับศพมอนเตอร์ที่ตายไป ผลก็คือราคาของรูปนั้นสูงขึ้นไปถึง 30 เงินจาก 15 เงิน แม้จะเป็นแบบนั้นก็มีหลายคนที่ตื่นเต้นที่จะได้ถ่ายรูป

ช่างภาพบนเรือได้กำไรจากเรื่องนี้ไปมาก

แซม และ เกอรี่  เองก็ได้ไปโพสท่าที่หัวเรือด้วยเช่นกัน
จนกระทั่ง จางเทีย ,แซม และ เกอรี่ ได้เอารูปไปให้ ไอเซิล ดู คนหลังได้กลับมาจากบ่อนของเรือ สิ่งที่ทำให้พวกเขาหมดคำพูดคือ ไอเซิล ไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นเลยจนกระทั่งตอนนี้

ในตอนที่ถามว่าทำไมเรือถึงจอด แซม ได้ตาเบิกกว้างขึ้นมาทันที – “ เจ้าไม่รู้เหรอว่าเกิดอะไรขึ้น ? “
“ ข้าได้ยินเสียงเตือนในบ่อนแต่ไม่มีใครสน อีกอย่างแล้วคนในบ่อนบอกว่าห้ามออกไปจนกว่าชิปจะหมด อะไร ? ไปชนภูเขาน้ำแข็งรึไง ? “ – เขาถามออกมาด้วยความสงสัย

เกอรี่ บอกสิ่งที่เกิดขึ้นสั้นๆให้ ไอเซิล ฟัง  เมื่อได้ยินแบบนั้น ไอเซิล อ้าปากค้างก่อนจะวิ่งออกไปดู หลังจากนั้นเขาก็วิ่งกลับมาด้วยสีหน้าเสียดาย – “ น่าเสียดายจริงๆ ! ร่างขนาดใหญ่นั้นมีเนื้อเป็นหมื่นตัน ด้วยการที่มันคล้ายกับปลาหมึก เนื้อมันต้องเป็นอาหารที่ดีแน่ๆ อีกอย่างแล้วราคาของอาหารในทุกวันนี้ก็เพิ่มขึ้นอีก ถ้าเราเอาเนื้อมันมาอัดกระป๋องได้รึเก็บมันได้ เราจะทำเงินได้เยอะเลย ตอนที่อาหารไม่พอ เราก็จะช่วยคนจำนวนมากได้ด้วยเนื้อมัน ! “

เมื่อได้ยินแบบนั้น แซม และ เกอรี่ ต่างก็รู้สึกเสียดาย ส่วน จางเทีย มีความคิดขึ้นมาในหัว
...
แม้ว่ามันจะมืดแล้วแต่ความวุ่นวายที่มอนเตอร์ได้ทำขึ้นมานั้นยังไม่หายไป หลังจากที่มั่นใจแล้วว่าเขาจะไม่โดนคนอื่นมาสนใจ   จางเทีย ก็กลับไปที่ทางเดินแคบของห้อง จากนั้นเขาก็ได้ปิดประตูห้องตัวเองก่อนจะเข้าไปยัง Castle of Black Iron

เพราะข้างนอกมันมืดแล้ว Castle of Black Iron ก็มืดแล้วเช่นกัน

คบไฟบางอันถูกจุดรอบๆต้นไม้เล็กและบ้าน คบไฟนี้ไม่ได้สว่างมากแต่ก็พอให้แสงสว่างรอบๆได้

เฮลเลอร์ รอ จางเทีย มานานแล้ว ก็อย่างเช่นเคย สามสหายไปนอนแล้วและจะลุกขึ้นมาทำงานกันในตอนเช้า

“ เจ้าของปราสาท ยินดีต้อนรับสู่ Castle of Black Iron “  - เฮลเลอร์ โค้งให้ด้วยท่าทีสง่า

“ ทำได้ดี “ – จางเทีย พยักหน้า

“ ข้ารู้ว่าเจ้าของปราสาทมีคำถามมากมายที่จะถาม มาคุยกันในบ้านเถอะ “ - เฮลเลอร์ ผายมือเชิญ จางเทีย เข้าไป

“ ได้ “

จางเทีย ตาม เฮลเลอร์ เข้าไปในบ้านสองชั้น

ห้องนั่งเล่นข้างในตกแต่งไว้อย่างดีแต่เมื่อเทียบกับปราสาทจินวูแล้ว ที่นี่น่ะสะอาดซึ่งเหมาะกับการมานั่งคุยกัน

จานสตอเบอร์รี่และจานของผลไม้อื่นวางไว้บนโต๊ะ เมื่อเห็นพวกมันแล้ว จางเทีย ก็ตระหันได้ว่า Castle of Black Iron สามารถให้วัตถุดิบได้มากกว่าเดิม

“ บอกข้าถึงการทำงานของเนื้อมอนเตอร์นั่นที “-   เขานั่งลงไปที่เก้าอี้  จางเทีย จับสตอเบอร์รี่สีแดงสองอันแล้วโยนเข้าใส่ปาก เมื่อรับรู้ความสดชื่นและหวน จางเทีย ก็รู้สึกดีไปทั่วตัว
เมื่อได้ยินคำถามนั้น เฮลเลอร์ ตอบกลับเพียงแค่รอยยิ้มและได้เอาขึ้นมาในอากาศก่อนจะแยกมือออกด้วยท่าทางที่เท่ จากนั้น จางเทีย ก็เห็นเมนู
——สเตตัสพื้นฐานของ Castle of Black Iron
------ การเปลี่ยนแปลของมิติและภูมิประเทศ

------ การจัดการสิ่งมีชีวิตและสายพันธุ์

------ การสร้างเมล็ดและผลไม้พิเศษของ Manjusaka Karma Fruit Tree

นี่คือเมนูหลักของ Castle of Black Iron

“ คุณจำไม่ได้เหรอ ? “ – เฮลเลอร์ ยิ้มและมองไปที่ จางเทีย   จกานั้นเขาก็ได้โบกมือข้างหนึ่งในอากาศทำให้สามอันแรกนั้นหายไป เหลือเพียงตัวเลือกสุดท้ายที่ จางเทีย ไม่เคยใช้มาก่อน

------ การสร้างเมล็ดและผลไม้พิเศษของ Manjusaka Karma Fruit Tree

รีวิวผู้อ่าน