Chapter 400: โดนตาม
เมื่อเห็นเมืองเอสไชน์ จางเทีย ก็นึกถึงเมืองคารัวล์ เพราะนี่เป็นเมืองเดียวในป่าน้ำแข็งหิมะ เอสไชน์จึงถือได้ว่าเป็นเมืองที่พิเศษ
เอสไชน์เองก็เป็นเมืองใหญ่ที่สร้างอยู่ข้างภูเขา จางเทีย ที่ยืนอยู่ที่ท่าเรือเห็นตึกสูงสีเทาๆพร้อมกับฝนและความรู้สึกพิเศษจากป่าน้ำแข็งหิมะ
นอกจากช็อกกับขนาดของเมืองแล้ว จางเทีย ก็ยังรู้สึกได้ถึงความลำบากและป่าเถื่อน
พวกนักสำรวจได้แยกตัวกันที่ท่าเรืออย่างรวดเร็ว พวกเขาได้นั่งรถต่างๆในเมืองออกไป พวกรถสีดำนั้นถูกจอดไว้ข้างทาง ในตอนที่คนที่มีอำนาจโผล่มา พวกเขาก็รีบพากันขึ้นรถสีดำนั้น ด้วยการสั่นไหวแค่เล็กน้อย รถนั้นก็หายไปในสายฝน
จางเทีย หรี่ตาลงมองดูปราชญ์ดาบจันทราดวงดาวออกไปพร้อมกับรถ – “ ชิ้นส่วนของเทพแห่งดวงดาวงนั้นถูกพบที่ชั้นใต้ดินของรอยแตกไฮเดลาในทางใต้ของป่าจริงๆเหรอ ? ถ้าไม่ ทำไมพวกตำนานอย่าง ซาลาแมนซ์ ถึงได้มาไกลขนาดนี้ด้วย ? “
จุดประสงค์ของการมาที่นี่ของ ซาลาแมนซ์ พูดกันทั่วทั้งเรือ ทุกคนเชื่อว่า ซาลาแมนซ์ นั้นมาที่นี่ก็เพื่อชิ้นส่วนของเทพแห่งดวงดาว อีกอย่างแล้ว ซาลาแมนซ์ ไม่ได้ปฏิเสธมันด้วยซึ่งทำให้ทุกคนยืนยันได้มากกว่าเดิม
จางเทีย รู้สึกถึงกระแสลมที่พัดมาตามผมและคอของเขา ตอนนั้นเขาก็ยินเสียงเท้าอันคุ้นเคย ดังนั้น จางเทีย จึงไม่ได้หลบ เขายืนอยู่กับที่และรอให้มือมาวางที่ไหล่ของเขา
“ ปีเตอร์ เจ้าไปกับเรามั้ย ? “
แซม และ เกอรี่ แบกเป้นักสำรวจและใส่เสื้อกันฝนแล้วเดินมาจากด้านหลัง จางเทีย
“ เจ้าจะไปที่รอยแตกไฮเดลาเหรอ ? “ - จางเทีย ถาม
“ แน่นอน ไม่ใช่ว่านักสำรวจทุกคนที่มาที่นี่ก็เพื่อคัมภีร์และเศษชิ้นส่วนของเทพแห่งดวงดาวเหรอ ? “ - แซม ตอบอย่างมั่นใจ
“ ข้ากลัวว่าเราคงไม่ได้เศษนั่นแต่ถ้าเราเจอคัมภีร์ เราอาจจะได้อะไรกลับมานิดหน่อย ! “ - เกอรี่ พูดต่อ
“ ข้าต้องการพัฒนาทักษะต่อสู้ของข้าในที่อื่น ! เพราะรอยแตกไฮเดลาน่ะคนเยอะเกินไป ข้าอาจจะไม่ได้อะไรถ้าไปที่นั่น “ - จางเทีย ยิ้มออกมา เพราะเขาเป็นเป้าหมายของพวกเกาะงูเวทย์แล้ว เขาไม่ต้องการเอาอันตรายมาให้เพื่อนใหม่ของเขา
อีกอย่างแล้วเขาน่ะไม่ได้มาที่นี่เพื่อคัมภีร์รึเศษชิ้นส่วน แม้ว่ามันจะน่าสนใจ โดยเฉพาะเศษชิ้นส่วนซึ่งมีผลวิเศษหลายอย่างแต่ จางเทีย รู้ว่าเขาคงไม่ได้ส่วนแบ่งด้วยความสามารถจำกัดที่เขามี ในตอนที่เขาเห็นความแข็งแกร่งของ ซาลาแมนซ์ จางเทีย ก็รู้ว่ามันไม่ต่างอะไรกับการหาเรื่องไปตายถ้าหากไปสู้กับคนแบบนั้น
‘ ถ้า ซาลาแมนซ์ มาที่นี่ คนที่แข็งแกร่งคนอื่นก็ต้องมาที่นี่ด้วย ถ้าเป็นแบบนั้นมันคงไม่ใช่ธุระอย่างมือใหม่อย่างข้า ข้าน่าจะโฟกัสไปกับการสร้าง Seven-Strength Fruit แทน คนเราน่ะรอดไม่ได้เพราะโชค ‘ จางเทีย พึมพำในใจ
“ ได้ หวังว่าจะเจอเจ้าอีก เราจะไปที่รอยแตกไฮเดลากัน ตอนเราเสร็จงานแล้ว เราจะกลับมาที่เมืองเอสไชน์และอยู่ที่นี่อีกนาน แซม กับข้าคิดว่าจะขึ้นไปให้ถึงระดับ 6 ก่อนที่จะออกจากป่า ดังนั้นเราจะมุ่งหน้าไปยังทางเข้าของป่าไปยังโลกใต้ดินที่เราสามารถสร้างพลังฉีต่อสู้ได้ ! ถ้าเจ้าอยากเจอเรา ก็ไปที่บาร์นักสำรวจของเมือง ! “
“ หวังว่าเจ้าจะโชคดี โอ้ นี่ของขวัญให้พวกเจ้า ! “- เมื่อพูดจบ จางเทีย ได้เอายารักษารอบด้านออกมาสองขวดแล้วเอาให้พวกนั้นคนละขวด เมื่อคิดว่ายามีขายทั่วทั้งทวีปแล้ว จางเทีย ก็ไม่ได้กลัวว่าจะเปิดเผยสถานะที่แท้จริงของตัวเองโดยการเอายาสองขวดนี่ให้เพื่อน
“ นี่อะไร ? ” – แซม กับ เกอรี่ มองมันด้วยความสงสัย
“ ยารักษารอบด้าน เป็นของขวัญให้เพื่อนไงล่ะ ! “
“ ยารักษารอบด้าน ? “
หน้าของทั้งสองเต็มไปด้วยความสงสัย เมื่อเห็นสีหน้าพวกนั้น จางเทีย ก็รู้ว่าพวกนี้คงยังไม่ได้ยินเรื่องยานี่ สำหรับนักสำรวจส่วนมากแล้วยานี่น่ะยังคงห่างไกลกับชีวิตประจำวันเพราะเป็นยาใหม่ ถ้าไม่ใช่เพราะ จางเทีย พวกเขาอาจต้องรอกันอีกหลายเดือนก่อนจะรู้จักยาใหม่นี่
“ พวกเจ้าคิดว่ามันเป็นยาแก้พิษขั้นต้นก็ได้ ตอนที่มีแผลรึต้องเพิ่มแรงรึเป็นไข้ เจ้าใช้มันก็ได้ ! “
“ ฮี่ฮี่ ฟังดูดีนิ ขวดก็ไม่เลว ขอบคุณมากเพื่อน ! “
แซม และ เกอรี่ เก็บยาลงไป พวกเขายังคงสงสัยในคำพูดของ จางเทีย พวกเขารู้สึกว่า จางเทีย น่ะโม้ไปนิดแต่คิดจากความใจกว้างของ จางเทีย แล้วพวกเขาจึงขอบคุณ จางเทีย
พวกเขาลากันที่ท่าเรือ ไอเซิล ยังคงขายของและไม่สามารถออกมาได้ในตอนนี้ ในตอนที่ จางเทีย ได้บอกลาอีกฝ่าย เขาก็ไม่ได้รออีกฝ่ายอีกต่อไป
นักสำรวจส่วนมากนั้นเรียกรถใกล้ๆกับท่าเรือแล้วเดินทางออกไป
รอยแตกไฮเดลานั้นอยู่ทางใต้ของป่าบนแผนที่ มันห่างไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเอสไชน์ 2,000 กม. มีเมืองเล็กๆที่เรียกว่าสเคียต้าที่ห่างจากเอสไชน์ทางทิศตะวันตกประมาณ 300 กม. มันเป็นทีที่ไกลที่สุดที่พาหนะจากเอสไชน์จะไปถึงได้
นักสำรวจทุกคนที่ฝันว่าจะรวยที่นั่นเลือกเมืองสเคียต้าเป็นจุดหมายแรกหลังจากที่มาถึงป่าน้ำแข็งหิมะ จากสเคียต้า พวกเขาจะออกเดินทางไปที่รอยแตกนั่นด้วยความสามารถของตัวเอง สำหรับว่าพวกเขาจะรอดรึเปล่านั้นก็คงขึ้นอยู่กับตัวพวกเขาเอง
เพราะเมืองสเคียต้าห่างจากท่าเรือไป 300 กม. ถ้าทุกอย่างราบรื่น พวกเขาจะถึงสเคียต้าในตอนกลางคืน
จางเทีย มอง แซม และ เกอรี่ พร้อมทั้งนักสำรวจกว่า 10 คนที่ต่อรองกับคนขับและขึ้นรถบรรทุกเก่าๆก่อนจะหายไปในสายฝน
ไม่นานหลังจากที่ทั้งคู่ไปแล้ว ฝนก็เริ่มตกนักกว่าเดิม ฝนไหลลงมาตามคอของ จางเทีย ทำให้เขาขนลุก หลังจากที่มองไปยังกำแพงสูงของเมือง จางเทีย ก็กระชับเสื้อกันฝนและเดินออกไปจากท่าเรือ....
...
5 นาทีต่อมา จางเทีย ก็ได้ต่อแถวที่ประตูเมือง หลังจากที่เช็คของต่างๆแล้ว เขาก็ได้จ่ายธรรมเนียมค่าเข้า
แม้ว่าฝนจะตกหนักแต่ทุกคนก็ยังคงต่อแถวด้านนอกประตูเพราะทั้งสองข้างทางมีทหารใส่เกราะยืนประจำนอกเมืองซึ่งทุกคนล้วนแต่สูงกว่า 2.2 ม
ทหารพวกนี้น่ะใส่หมวกที่เหมือนกับหัวหมีซึ่งทำให้พวกนี้น่ากลัวกว่าเดิม
นักสู้ตัวสูงคนหนึ่งตรงหน้า จางเทีย ที่ซึ่งถือซองหอกที่มีหอกข้างในกว่า 6 อัน
ทหารทั้งสองแถวนั้นสนใจคนนี้เป็นพิเศษ จางเทีย เห็นว่ามีหลายคนในบรรดาทหารที่สนใจนักสู้คนนี้ตั้งแต่ที่พวกเขามาต่อแถวกัน
เมื่อรู้สึกแบบนั้น นักสู้คนนั้นกังวลขึ้นเล็กน้อย เขามองตัวเองอยู่หลายครั้งเพื่อดูว่าเขาผิดปกติอะไรรึเปล่า
เทียบกับนักสู้ที่มีซองหอกแล้ว จางเทีย น่ะแย่กว่า ในตอนที่เขาลงจากเรือ จางเทีย พบว่าเขาถูกบางคนจับตามองอยู่ อีกฝ่ายยังคงแอบตามเขาตั้งแต่เรือจนมาถึงที่นี่ แม้ว่าจะซ่อนตัวในฝูงชนแต่อีกฝ่ายน่ะไม่ได้ถอนสายตาจาก จางเทีย เลย
แหวนที่ โอลิน่า ได้ให้มาตอนเขาออกจากเกาะ มันเป็นอุปกรณ์รูนหายากซึ่งถูกเรียกว่า Ring of Awareness
2 เอฟเฟ็คถูกเพิ่มในแหวนนี่ --- เพิ่มความสามารถในการรับรู้ 8% , ตื่นตัวต่อการจับตามอง ตราบใดที่มีใครมอง จางเทีย ด้วยจุดประสงค์แย่ๆกว่า 20 วินาทีด้านหลัง แหวนนี้จะเตือน จางเทีย
มีไม่กี่คนที่จะมองคนด้านหลังกว่า 20 วินาที อีกอย่างแล้วสายตาของคนน่ะก็มีพลังวิญญาณพิเศษซึ่งมีอารมณ์และจิตใจขอคนๆนั้นด้วย ด้วยความสามารถนี้แหวนก็จะได้รับและรู้สึกได้ถึงพลังวิญญาณที่ถูกส่งมาจากอีกฝ่ายยก่อนที่จะเตือน
นี่คือเอฟเฟ็คที่หายากซึ่งถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นเหมือนเครื่องเตือนภัยให้ จางเทีย ด้วยเอฟเฟ็คนี้ จางเทีย รู้ว่าแหวนนี้คงต้องมีค่ามากแน่ อุปกรณ์รูนแบบนี้น่ะที่ทำให้ผู้ใช้ได้ความสามารถพิเศษมามักจะหายากอยู่แล้วซึ่งยากที่จะได้เห็นในการประมูล
ในตอนที่เขาออกจากท่าเรือมา นิ้วของ จางเทีย ที่ใส่แหวนนั้นรู้สึกชาขึ้นมา จากนั้นเขาก็รู้ตัวว่าโดนตาม คนที่ตามนั้นมีทักษะอย่างมากและรู้จักซ่อนตัวในสถานการณ์ต่างๆ ถ้าไม่ใช่เพราะแหวนนี่แล้ว จางเทีย คงไม่รู้ตัวว่าเขาโดนตามอยู่
แต่หลังจากที่แหวนเตือนแล้ว จางเทีย ก็เร่งความเร็วขึ้น ในตอนที่เขามาถึงประตูเมือง ในที่สุดเขาก็รู้ว่าใครที่ตามเขา
เขายิ้มออกมาที่มุมปาก จางเทีย รู้ว่าสายลับนั้นต้องมาจากเกาะงูเวทย์ ถ้าไม่งั้นแล้วคนแบบนี้จะมาตามเขาในตอนที่เขามาถึงที่ป่าน้ำแข็งหิมะได้ไง ?
‘ จากพลังของเกาะงูเวทย์ มันเป็นธรรมดาที่พวกนั้นจะส่งคนมาที่ป่านี่ ในตอนที่อยู่บนเรือ พวกเกาะงูเวทย์ต้องติดต่อมายังคนที่ป่าน้ำแข็งหิมะก่อน มันคงไม่ใช่เรื่องยากที่จะหาคนหน้าตาแบบข้าในหมู่ผู้โดยสาร ‘
พวกบัดซบนั่น !
ในตอนที่ถึงตานักสู้คนนั้นได้รับการตรวจ ชายที่เหมือนหัวหน้าก็เดินเข้ามาแล้วมองไปที่ชายคนนั้นด้วยท่าทีระมัดระวัง
“ นี่ครั้งแรกรึเปล่าที่มาที่นี่ ? “ – เสียงของชายคนนั้นดูแข็งแกร่งแต่ใจดีซึ่งตัดกันกับบุคลิก ในความเห็นของ จางเทีย แล้ว ชายคนนี้น่าจะคำรามมากกว่า
“ ใช่ ! “ – นักสู้คนนั้นตอบกลับ
“ มาที่นี่ทำไม ? “
“ ข้าได้ยินมาว่าฝูงสัตว์น่ะมีในป่า ดังนั้นข้าเลยมาที่นี่เพื่อพัฒนาทักษะต่อสู้และหาเงิน ! “
“ อืม เจ้าเข้าได้ฟรี ! “- หลังจากที่มองไปที่นักสู้คนนั้นสักพัก หัวหน้าก็ได้โบกมือของเขา
นักสู้คนนั้นอึ้งไปสักพัก เขากำเหรียญเงินในมือ เขาไม่รู้ว่าเขาควรที่จะใส่ในกล่องตรงหน้าเขารึเปล่า – “ เจ้าหมายถึง...ข้าไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเหรอ ? “
“ ใช่ นักรบทุกคนที่มีหอกน่ะเข้าเมืองเอสไชน์ได้ฟรีๆนับจากนี้ นี่คือกฎที่มีมาหลายวันแล้ว ! “
เมื่อได้ข้อมูลนั้น นักสู้ก็ได้ยิ้มออกมาและพูดขึ้น – “ ขอบคุณ ! “ – ใครก็ตามที่ได้รับการดูแลพิเศษแบบนี้ก็ต้องดีใจเป็นธรรมดา
“ ถ้าเจ้ามั่นใจเกี่ยวกับทักษะการโยนแล้ว เจ้าเข้าร่วมการล่าเหยี่ยวที่แม่น้ำอูรัลในอีกไม่กี่วันก็ได้ คนชนะจะได้หอกรูนที่ทำมาจากอุกกาบาต ! “ – ก่อนที่นักสู้คนนั้นจะเดินออกไป หัวหน้าก็ได้พูดต่อ
เมื่อได้ยินแบบนั้นนักสู้ก็ได้หันกลับมาพร้อมกับตาเบิกกว้างแล้วกลืนน้ำลาย – “ อะไรนะ ? เจ้าบอกว่าหอกรูนที่ทำจากอุกกาบาตเหรอ ? “
“ ใช่ “
“ ใครก็เข้าร่วมได้เหรอ ? “
“ ใช่ ใครก็ได้ อายุเผ่าไหนก็ไม่สำคัญ ถ้าคิดว่าสามารถทำได้ ก็เข้าร่วมได้ อีกอย่างแล้วข้าได้ยินมาว่าผู้ชนะอาจจะได้ความชื่นชอบจากผู้บริสุทธิ์ของเผ่าในป่าด้วย ! “
เมื่อได้ยินแบบนั้นแม้แต่ จางเทีย ก็ตระหนักว่าเขาเองก็อยากเข้าร่วมแต่นักสู้นั้นสูดลมหายใจแค่สองครั้งก่อนจะพยักหน้าแล้วเดินจากไป เขาดูเหมือนว่าจะอยากเข้าร่วมมากๆ
หอกรูนที่ทำจากอุกกาบาตและการได้รับความชื่นชอบจากผู้บริสุทธิ์ ! รางวัลน่ะมันน่าสนใจจริงๆ ชายคนไหนก็ต้องชอบเงิน,ผู้หญิงและอาวุธล้วนแต่ตื่นเต้นเมื่อได้ยินข่าว
แม้แต่ใจของ จางเทีย ก็ยังเต้นรัว เขาคิดว่าจะลองไปดูทักษะการโยนของพวกแข็งแกร่ง
‘ เขาบอกว่าการดูแลแบบนี้มีเมื่อไม่กี่วันก่อน แต่ทำไมล่ะ ? ป่านี้น่ะคึกคักจริงๆเมื่อไม่กี่วันก่อนนิ !’
แต่ จางเทีย ก็คิดไม่ถึงว่ามันเกี่ยวข้องกับเขา
ในตอนที่ถึงตา จางเทีย หัวหน้าก็ได้มองมาที่ จางเทีย ด้วยคิ้วที่ขมวดเพราะหน้าหล่อๆของ จางเทีย และการแต่งตัวแบบนักสำรวจทำให้หัวหน้านั้นไม่พอใจ
“ เจ้าเป็นนักสำรวจเหรอ ? “
“ ใช่ ! “
“ 4 เงิน ! “ – หัวหน้าตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
“ อะไรนะ ? ทำไมคนอื่นแค่ 2 เงิน บางคนฟรีแต่ข้า 4 เงิน ? “ - จางเทีย เถียงออกมาดังๆ
“ นักสำรวจทุกคนมาที่นี่เพื่อหาเงิน เจ้าต้องการเอาของดีๆออกไปจากที่นี่โดยไม่แบ่งเรา จะเป็นแบบนั้นได้ไง ! ดังนั้นแล้วนักสำรวจต้องจ่ายค่าเข้าสองเท่า ! “ – หลังจากที่พูดจบ หัวหน้าก็ได้ส่ายหน้าอย่างหมดความอดทนและทหารรอบๆก็มองมาที่ จางเทีย ดูเหมือนว่าถ้า จางเทีย กล้าลงมือ พวกนั้นก็จะอัดเขา
จางเทีย โยนเงิน 4 เงินลงในกล่องแล้วรีบเข้าไปในเมืองโดยไม่หันหลังกลับไปมอง
ในตอนที่ จางเทีย ออกจากประตูเมืองมา เขาก็ได้ยินบางคนพึมพำ - “ ทำไมคนหนุ่มแบบนี้อยากเป็นนักสำรวจ ? พวกเขาที่จะหาเงินที่หล่นมาจากฟ้ารึไง ฮึ่ม ! “
“ นักสำรวจน่ะไม่ต่างจากพวกหมา ตอนที่พบเนื้อเน่า พวกนั้นก็จะแห่กันไปแต่เมื่อเจอปัญหา พวกเขาก็จะหนีให้เร็วที่สุด ข้าน่าจะเสนอลอร์ดว่าเขาควรห้ามพวกนักสำรวจนับจากนี้ พวกนี้น่ะแค่ขยะ ! “
“ ข้าไม่เห็นด้วยกับเจ้า พวกนี้น่ะมีส่วนร่วมในการพัฒนาแผนที่ ที่ห่างไกลมากมายรอให้พวกเขาทำการสำรวจอยู่ พวกเขาน่ะไม่ได้ไร้ประโยชน์หรอก !”
“ ถ้าไม่ ข้าคิดว่าเราไม่น่าจะอนุญาตให้นักสำรวจเข้ามาในป่าน้ำแข็งหิมะ.... “
“ สนใจเรื่องตัวเองเหอะน่า ! “
จางเทีย เริ่มที่จะวิ่ง เขาดูเหมือนจะหาที่หลบ ดังนั้นแล้วเขาจึงรีบหนีจากพวกที่พูดแบบนั้นให้เร็วที่สุด หลังจากที่ออกจากประตูเมืองมาได้ 50 ม. เขาก็เห็นอีกคนนั้นรีบพุ่งเข้ามาจากหางตาของเขา
จางเทีย หรี่ตาลง เมื่อเห็นซอยที่ไม่ไกลจากเขา จางเทีย ก็พุ่งเข้าไปในซอย...
ครึ่งนาทีต่อมาอีกคนก็ได้มากถึงและพุ่งเข้าไปในซอยโดยไม่ลังเล...
ฝนมันตกนักมากและทำให้บรรยากาศดูแย่ !
ฝนตกลงมาจากหลังคาและชายคาของตึกทั้งสองฝั่งก่อเป็นน้ำตกสองแถว พื้นในซอยนั้นมีน้ำขังสูงถึง 1 ซม.
จางเทีย ยืนพิงกำแพงที่มุมหนึ่ง เขาหรี่ตาลงแล้วมองดูน้ำตกที่ไหลลงมาบนหัวเขา
ด้วยฟ้าแลบที่เกิดขึ้นบนฟ้า มันได้เปลี่ยนทุกอย่างเป็นสีขาวในเสี้ยววินาที หลังจากนั้นไม่กี่วินาที ก็ได้มีเสียงระเบิดดังมาจากไกลๆ ในเวลาเดียวกันก็ได้มีเสียงเท้าและได้มีชายคนหนึ่งพุ่งเข้ามาในซอยนี้...
ในตอนที่ชายคนนั้นโผล่มา เขาก็เห็น จางเทีย ส่วนฝ่ายหลังนั้นมองมาที่เขาด้วยรอยยิ้ม หน้าของชายคนนั้นเปลี่ยนไปทันทีและ จางเทีย ก็ได้เปิดฉากโจมตี...
พร้อมกับเสียงสายฝน จางเทีย ได้เคลื่อนที่อย่างกับสายฟ้า..
ชายคนนั้นเองก็เก่งเรื่องต่อสู้ จางเทีย เดาว่าน่าจะอยู่ระดับ 6 แต่เทียบกับ จางเทีย ก็เป็นได้แค่ขยะ
จางเทีย ลงมือทั้งรวดเร็วและรุนแรง สองวินาทีต่อมาด้วยเสียงพึมพำ จางเทีย ได้กำคออีกฝ่ายเอาไว้แล้วโยนอัดกำแพงหิน
ด้วยเท้าที่ลอยอยู่ ชายคนนั้นได้กระอักเลือดออกมา ในตอนที่เขาอัดกับกำแพง เลือดที่ไหลลงมานั้นหายไปกับสายฝนและไหลลงไปในระบบน้ำทิ้งของเมือง
จนกระทั่งสายฟ้าได้หายไป....
“ อย่า...อย่าฆ่าข้า..ข้า ..ข้าจะเอาเงินทั้งหมดให้ ! “ - ก่อนที่ จางเทีย จะถาม ชายคนนั้นก็เริ่มอธิบายเหมือนกับคนธรรมดามาเจอโจร
จางเทีย ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม ‘ ฉลาดดีนิ ! เขาคิดเรื่องคำโกหกมาก่อนแล้ว ! ‘
“ ใครอีกที่อยู่ในเอสไชน์นอกจากเจ้าที่มาจากเกาะงูเวทย์ ? “ - จางเทีย ถามออกมา
“ ข้า..ข้าไม่รู้ว่าเจ้าพูดถึงเรื่องอะไร ! “ – ชายคนนั้นดูจริงใจจนกระทั่งได้ยินชื่อเกาะซึ่งทำให้นัยน์ตาของเขาหรี่ลงอย่างควบคุมไม่ได้
แม้ว่าคนอื่นจะพูดเรื่องโกหกผ่านปากได้แต่พวกเขาไม่สามารถปกปิดมันผ่านดวงตาได้ นี่คือสิ่งที่ ดอนเดอร์ สอนเขามา ถ้าชายคนนี้ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวกับเกาะงูเวทย์ ในตอนที่ได้ยิน นัยน์ตาก็ต้องไม่เปลี่ยนรึขยายแต่นัยน์ตาของชายคนนี้กลับหรี่ลงซึ่งหมายความว่าชายคนนี้กังวลอย่างมาก
“ ข้าจะถามเป็นครั้งสุดท้าย ข้าไม่อยากเสียเวลา ใครอีกที่เกาะนั่นส่งมา ? บอกชื่อมา จากนั้นข้าจะไว้ชีวิตเจ้า หลังจากนั้นเจ้าก็หนีจากเอสไชน์ไปโดยไม่ต้องกังวลเรื่องใครจะมาแก้แค้น .. “ - จางเทีย พูดอย่างใจเย็น
“ ข้าไม่เข้าใจจริงๆว่าเจ้าพูดถึงเรื่องอะไร เงินข้า... “ - ก่อนที่จะพูดจบ ชายคนนั้นก็ดูเจ็บปวด เขามองลงไปและพบว่า จางเทีย ได้ใช้มีดจิ้มมาที่รักแร้ซ้ายของเขา เขาอยากจะร้องแต่ก็ทำไม่ได้เพราะคอโดน จางเทีย กำไว้อยู่ ก่อนที่เขาจะหลับตา เขาได้มองไปที่ จางเทีย ด้วยความรู้สึกผิดและทึ่ง เขาเหมือนจะไม่เชื่อว่า จางเทีย จะมองผ่านการหลอกลวงของเขาได้ซึ่งทำให้เขาต้องมีสภาพแบบนี้
“ ข้าบอกเจ้าแล้วว่าข้าไม่อยากเสียเวลากับเจ้า ! “ - จางเทีย ปล่อยมือ ชายคนนั้นไหลลงมาอย่างกับโคลน ในเวลาเดียวกันเลือดจำนวนมากก็ไหลออกมาอาบไปทั่วพื้น
จางเทีย รีบหายไปจากซอยนั่นทันที
หลายนาทีต่อมาก็ได้มีอีกคนโผล่มาในซอย ตอนที่ชายคนนั้นเข้ามา เขาก็เห็นว่าชายคนก่อนหน้าโดนฆ่าไปแล้ว
“ บ้าเอ้ย ! “ – ชายคนนั้นด่าออกมาดังๆ...