px

เรื่อง : War Sovereign Soaring The Heavens
บทที่ 50 ข้าจะเอามันมาให้ได้


อัสดงโผล่พ้นบูรพา วิหกล่องเวหาเหนือเมฆินทร์

ต้วนหลิงเทียนยังคงนั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียงเพื่อโคจรพลังงานต้นกำเนิดตามเคล็ดวิชา 9 มังกรจักรพรรดิสงคราม อีกทั้งยังซึมซับ พลังงานจาก ผลจิตวิญญาณธาตุทมิฬ อย่างไม่หยุดหย่อน

แม้จะกินผลจิตวิญญาณธาตุทมิฬไปตั้งแต่ 2 วันก่อน แต่หลิงเทียนยังดูดซับพลังงานในผลไม้วิญญาณผลนี้ ได้เพียงแค่ 20% เท่านั้น..

แต่ทว่าร่างกายและสายเลือดของเขามีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นอย่างมาก ตอนนี้ความแข็งแกร่งในแต่ละวันของเขาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ...

ความรู้สึกนี้ทำให้หลิงเทียนสบายใจขึ้นมาก

ต้วนหลิงเทียนลุกออกจากห้องพร้อมกับบ่นออกมาเล็กน้อย "หวังว่าเราจะตัดผ่านไปยังระดับ การบ่มเพาะร่างกาย ขั้นที่ 9 ได้ทันเวลา ก่อนที่งานประลองกระชับมิตรจะเริ่มต้นขึ้น"

"ลูกเทียน ข้าได้ยินมาว่าตอนนี้ได้มีการเปิดให้ผู้ที่คิดจะเข้าร่วมประลองในงานประลองกระชับมิตร ได้ลงทะเบียนแล้ว และจะเปิดให้ผู้สมัครลงทะเบียนเพียง 3 วันเท่านั้น หากเจ้ากินอาหารเช้าเสร็จแล้ว ก็อย่าลืมพาเค่อเอ๋อไปลงทะเบียนด้วยล่ะ" ลี่หลัวกล่าวออกมาในขณะที่รับประทานอาหารเช้า

"เข้าใจแล้วท่านแม่"

เมื่อเสร็จจากอาหารเช้าหลิงเทียนก็นำเค่อเอ่อเดินทางไปลงทะเบียน

เด็กสาวกระพริบตาอยู่สองสามทีก่อนที่จะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเจื้อยแจ้ว "นายน้อย ข้าได้ยินพี่หญิงฉีฉีกล่าวว่า ของรางวัลนั้นเยอะแยะมากมายยิ่ง”

“แล้วนางได้บอกหรือไม่ว่ามีรางวัลอะไรบ้าง?”

ต้วนหลิงเทียนเริ่มอยากรู้อยากเห็นเล็กน้อย

"พี่หญิงกล่าวว่าผู้ชนะเลิศปีที่แล้วนั้น ได้รับ โลหิตหลิงซี่อายุ 300 ปี ...นายน้อย โลหิตหลิงซี่อายุ 300 ปีนี่มันมีมูลค่ามากกว่าโลหิตหลิงซี่อายุ 50 ปีมากหรือไม่? "เค่อเอ๋อกล่าวถามออกมา

โลหิตหลิงซี่ อายุ 300 ปี?

หลิงเทียนรู้สึกทึ่งเล็กน้อย

"เค่อเอ๋อ ข้าจะอธิบายให้เจ้าฟังนะ...โลหิตหลิงซี่ อายุ 50 ปี นั้น ในจำนวน 50 กรัมมันมีมูลค่า 1,000 เหรียญเงิน ส่วน โลหิตหลิงซี่อายุ 300 ปีนั้น หากมีจำนวน 50 กรัมแล้วล่ะก็ราคาย่อมไม่ต่ำกว่า 10,000 เหรียญเงิน และราคานี้ก็เป็นเพียงราคาเริ่มต้นเท่านั้น บางทีเจ้าอาจไม่สามารถใช้เงินจำนวนเท่านี้เพื่อหาซื้อได้ "

อาศัยความทรงจำของจักรพรรดิกลับชาติมาเกิดถึง 2 ชาติภพ หลิงเทียนย่อมรู้มูลค่าโลหิตหลิงซี่ 300 ปีดี

โลหิตหลิงซี่ ที่ร้านโอสถขายทั่วไปนั้นส่วนมากจะมีอายุในช่วง 50 ปี และ ไม่เกิน 100 ปี

โลหิตหลิงซี่ 300 ปี เพียง 50 กรัมก็มีราคาเทียบเท่า ราคาของโลหิตหลิงซี่อายุ 50 ปี ถึง 10 ชั่ง

แต่โลหิตหลิงซี่อายุ 300 ปีนั้นส่วนมากจะมีน้ำหนักสูงถึง 100 กรัม นั่นหมายความว่าอย่างต่ำๆ ก็ต้องใช้เหรียญเงินถึง 20,000 เหรียญอย่างแน่นอน

หากนำมาดูดซับโดยตรงแล้ว โลหิตหลิงซี่อายุ 300 ปี ก็ไม่ได้แตกต่างอะไรกับ โลหิตหลิงซี่ อายุ 50 ปีมากนักในแง่ของผลกระทบ

อย่างไรก็ตาม โลหิตหลิงซี่ อายุ 50 ปี จำนวน 5 ชั่งนั้น หากคนธรรมดาจะดูดซับมันนั้น ต้องใช้เวลาถึง 1 ปีเต็มๆ

แต่โลหิตหลิงซี่อายุ 300 ปีนั้นไม่ใช่

ผลของมันอาจจะถูกดูดซับได้จนหมดในเวลาเพียงแค่ 1 เดือน

หากเทียบกันแล้วช่างแตกต่างกันราวกับรถไถและจรวด!

"ราคาแพงถึงเพียงนั้น?"

ริมฝีปากบางสีเชอรี่ถึงกับอ้าออกมาด้วยความตกใจ

"หากรางวัลในการประลองครั้งนี้เป็นโลหิตหลิงซี่อายุถึง 300 ปี ... "

ตอนนี้หลิงเทียนเริ่มใจเต้นรัวขึ้นนิดหน่อย แววตาของเขาเต็มไปด้วยความกระหาย

หากรางวัลมีค่าขนาดนี้ เขาจะเอามันมาให้ได้!

ถ้าเขามีโลหิตหลี่งซี่อายุ 300 ปี เขาจะนำมันไปเป็นตัวเร่งปฏิกิริยา สร้างโอสถน้ำที่มีคุณภาพสูง ทีนี้วิชาป้องกันของเขาจะแข็งแกร่งขึ้นอย่างมากในเวลาอันสั้น

ในที่สุดหลิงเทียนและเค่อเอ๋อก็มาถึง สถานที่ลงทะเบียน

ข้อมูล บางอย่าง จากการพูดคุยของผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาถูกหลิงเทียนคัดกรองและทำความเข้าใจในการประลองครั้งนี้ได้อย่างดี

"มาๆ ข้าจะบอกอะไรให้พวกเจ้าฟังสักเล็กน้อย รู้หรือไม่หากสาวกที่สามารถติดอันดับ 1 ใน 10 ของปีนี้ได้ จะไม่เพียงแต่ได้รับสิทธิ์ในการเข้าไปยัง หอตำรายุทธ์ชั้นที่ 3 เพื่อเลือกวิชาระดับห้วงมหรรณพขั้นสูงได้เท่านั้นนะ พวกมันจะได้รับโอสถหลิงซี่อายุ 300 ปี อีกทั้งยังได้เหรียญเงินเป็นรางวัล ถึง 10,000 เหรียญอีกด้วย" สาวกสายนอกคนหนึ่งกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงกระซิบ

"ยังไม่มีการแจ้งข่าวใดๆออกมา แล้วเจ้ารู้ได้อย่างไรกัน?"

บางคนสงสัยเขา

"เฮอะ พวกเจ้าอาจจะไม่รู้ แต่หลานชายของเพื่อนบ้านที่เป็นพี่น้องร่วมสาบานกับลูกสะใภ้ของลูกพี่ลูกน้องข้านั้นเป็นถึง สาวกสายใน เขาไปบังเอิญได้ยินผู้อาวุโสของสายในกล่าวประชุมกันมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ "

สาวกชั้นนอกคนนั้นกล่าวจบก็หัวเราะออกมาด้วยความภูมิใจ

"เช่นนั้นรางวัลของ 3 อันดับแรก คือสิ่งใดกัน?" เสียงกล่าวถามดังออกมาจากคนอีกคนหนึ่ง

"รางวัลของ 3 อันดับแรกนั้นยังคงใกล้เคียงกับปีที่แล้ว ก็จะมีได้รับสิทธิ์ในการขึ้นไปยังชั้นที่ 3 ของหอตำรายุทธ์ และสามารถเลือกวิชาระดับห้วงมหรรณพขั้นสูงได้ 2 วิชา ได้รับโลหิตหลิงซี่อายุ 300 ปี แล้วก็เงินรางวัลอีก 30,000 เหรียญเงิน "

"แล้วผู้ชนะเลิศล่ะ?"

"ผู้ชนะเลิศจะได้ เลือกวิชาระดับห้วงมหรรณพขั้นสูง ในหอตำรายุทธ์ชั้นที่ 3 ถึง 3 วิชา โลหิตหลิงซี่อายุ 350ปี และก็เหรียญเงินอีก 100,000 เหรียญ"

"สวรรค์ช่วย โลหิตหลิงซี่อายุถึง 350ปี?"

"ปีที่แล้วรางวัลของผู้ชนะเลิศยังเป็นเพียงโลหิตหลิงซี่อายุ 300 ปี เท่านั้นเองคาดไม่ถึงจริงๆว่า ของรางวัลปีนี้กลับสูงนัก"

"ข้าได้ยินมาว่าผู้ชนะเลิศของปีที่แล้ว นามว่า ลี่เฟิง ได้ใช้โลหิตหลิงซี่อายุ 300 ปี เพื่อฝึกฝนบ่มเพาะวิชาป้องกันระดับห้วงมหรรณพขั้นสูงวิชาหนึ่ง จนมีความสำเร็จถึงขั้นตอน ผู้เชี่ยวชาญ ทำให้ภายในหมู่สาวกที่มีอายุ 20 ปีลงมา ไม่สามารถสร้างบาดแผลหรือตีฝ่าทะลุการป้องกันของเขาได้เลยแม้แต่น้อยหากไม่ได้ใช้อาวุธ ! "

"ถูกแล้ว ลี่เฟิงนั้นเป็นอัจฉริยะที่หาได้ยากอย่างยิ่งในตระกูลลี่ของเรา อีกทั้งเขายังมีอายุเพียง 19 ปีเท่านั้น"

......

เมื่อหลิงเทียนได้รับฟังบทสนทนา มันก็หรี่ตาลงเล็กน้อย

โลหิตหลิงซี่อายุ 350 ปี?

หากเขาได้รับมันแล้วล่ะก็ เขาจะใช้มันในการผสมโอสถโลหิตหลอมกายาคุณภาพสูง เพื่อให้เขา,มารดา และเค่อเอ๋อ สามารถฝึกฝนบ่มเพาะวิชาป้องกันระดับสูงของพวกเขาได้จนถึงขั้นตอนความสำเร็จระดับ ผู้เชี่ยวชาญ!

"หากข้าไม่สามารถตัดผ่านไปยังระดับการบ่มเพาะร่างกายขั้นที่ 9 ก่อนงานประลองแข่งขันจะเริ่มขึ้น การเป็นผู้ชนะเลิศคงได้แค่ฝัน!"

หลิงเทียนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ตอนนี้มันตัดสินใจอย่างเด็ดขาดแล้ว มันจะเอาของรางวัลนี้ให้ได้!

จะอย่างไรมันต้องตัดผ่านให้จงได้!

การประลองกระชับมิตรของสามตระกูลนั้น ผู้มีสิทธิ์เข้าร่วมจะมีอายุระหว่างช่วง 16 – 18 ปีเท่านั้น

หากอายุไปถึง 19 ปี พวกมันจะไม่ถูกเรียกว่า "เด็กหนุ่ม,เด็กสาว" อีกต่อไป พวกมันจะถูกเรียกว่า "ชายหนุ่ม,หญิงสาวแทน"

และพวกนี้จะถูกจำกัดไม่ให้เข้าร่วมงานประลอง

ตามข้อมูลที่หลิงเทียนรับรู้มานั้น แม้จะเป็นสาวกสายใน แต่ทว่าคนที่มีอายุ ไม่เกิน 18 ปีส่วนมากจะอยู่ในระดับการบ่มเพาะร่างกายขั้นที่ 9 เท่านั้น มีอัจฉริยะบางคนที่แข็งแกร่งอย่างมากเท่านั้นที่จะอยู่ในระดับก่อกำเนิดขั้นที่ 1

หากหลิงเทียนไม่สามารถตัดผ่านไปยังระดับการบ่มเพาะร่างกายขั้นที่ 9 เกรงว่าจะไม่สามารถประมือกับคนจำพวกนั้นได้

ในที่สุด แถวก็ร่นมาถึง หลิงเทียนและเค่อเอ๋อ

ที่โต๊ะลงทะเบียนทั้งคู่ต่างลงทะเบียนและนำป้ายชื่อออกมาตรวจสอบ เมื่อเสร็จสิ้นทั้งคู่ก็ได้รับป้ายหมายเลขมา

ต้วนหลิงเทียนได้หมายเลข 77

ส่วนเค่อเอ๋อได่ 78

คนในตระกูลตระกูลหลักนี้มีทั้งหมดกว่า 10,000 คน และเยาวชนที่มีอายุระหว่าง 16 – 18 ปีนั้นก็มีมากถึง 300 คนเลยทีเดียว

และนอกจากเยาวชนตระกูลหลักแล้ว ยังมีเยาวชนจากตระกูลสาขาที่มีสิทธิ์ในการเข้าร่วมอีก 200 กว่าคน

ในรอบแรกนั้นสาวกสายในของตระกูลหลักไม่ต้องทำการแข่งขันใดๆพวกมันสามารถผ่านเข้าสู่รอบที่ สองได้ทันที แต่สาวกสายนอกจะต้องทำการแข่งขันกันจนเหลือเพียง 30 คน และ30คนนี้ยังได้รับสิทธิ์ในการเข้าเป็นสาวกสายในอีกด้วย

การต่อสู้รอบที่ 2 จะเริ่มดุเดือดอย่างมาก

จะแสวงหาผู้ชนะ 10 อันดับแรก 3 อันดับแรก และก็ผู้ชนะเลิศ!

ของรางวัลและเกียรติยศนั้นย่อมสูงส่งอย่างมาก

งานประลองรอบแรกจะเริ่มขึ้นในอีก 10วัน

ภายในระยะเวลา 10 วันนี้นอกจาก กินและนอนแล้ว หลิงเทียนตั้งใจบ่มเพาะวิชา 9 มังกรจักรพรรดิสงครามอย่างเต็มที่โดยไม่คิดเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์

มันเร่งดูดซับผลของโอสถน้ำบ่มเพาะร่างกาย 7 กระบวน และ พลังงานของ ผลจิตวิญญาณธาตุทมิฬ อย่างเต็มที่โดยไม่คิดจะทำอะไรอีก

เพื่อรางวัล โลหิตหลิงซี่ 350 ปี หลิงเทียนมันตั้งใจและจริงจังอย่างมาก มันต้องได้รับสิ่งที่มันต้องการทุกอย่าง!

.......

10 วันได้ผ่านพ้นไป

"พรุ่งนี้การประลองก็เริ่มขึ้นแล้วแต่ข้ายังไม่สามารถตัดผ่านได้อีก ... ยังโชคดีที่การประลองรอบที่ 2 ตะเริ่มขึ้นหลังจบการประลองรอบแรก 3 วัน ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของข้า การเข้าเป็น 1 ใน 30 คนเพื่อได้รับสิทธิ์ในการเป็นสาวกสายใน คงไม่ใช่ปัญหา "

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้หลิงเทียนก็ถอนหายใจออกมา

ในช่วง 10 วันที่ผ่านมานี้ นอกจากบ่มเพาะและดูดซับโอสถแล้ว หลิงเทียนยังได้ฟังข่าวคราวในเมืองจากเค่อเอ๋ออีกด้วย

ตอนนี้โอสถน้ำบ่มเพาะร่างกาย 6 กระบวนได้ถูกร่ำลือกันอย่างหนาหู ถึงผลลัพธ์ที่น่าสะพรึง!

ตอนนี้ทั้งเมืองออโรร่ากำลังคลั่ง!

ตอนนี้เรื่องที่สาวกชั้นนอกของแต่ละตระกูลล้วนกล่าวถึงและต้องการมากที่สุด คือโอสถน้ำบ่มเพาะร่างกาย 6 กระบวน

หากบิดาและมารดาของผู้ใด สามารถหาซื้อโอสถน้ำบ่มเพาะร่างกาย 6 กระบวนให้บุตรของมันได้ บุตรของมันจะเป็นที่อิจฉาของสาวกทั้งหลาย

อีกทั้งด้วยความต้องการของทั้งสามตระกูลใหญ่แห่งเมืองออโรร่า จำนวนรวมของเยาวนชนที่มีอายุไม่เกิน 18 ปีนั้นย่อมไม่ใช่น้อย ที่สำคัญการแข่งขันของตระกูลก็กำลังใกล้เข้ามาแล้ว ทุกคนต่างร้อนรนที่จะเร่งการบ่มเพาะให้รวดเร็วที่สุด เพื่อให้มีสิทธิ์ในการเป็นสาวกสายในของตระกูล...

คนที่ไม่มีเงินเก็บ พวกมันถึงกับนำบ้านไปจำนองหรือกู้ยืมเงินเป็นจำนวนมาก เพื่อหาซื้อโอสถน้ำบ่มเพาะร่างกาย 6 กระบวน เพื่อให้ลูกหลานของพวกมันตัดผ่านระดับได้ทันเวลา ทั้งนี้ก็เพื่อได้รับโอกาสที่ดีกว่าในอนาคต

กระประลองคัดเลือกในตระกูลนั้น สำคัญสำหรับชิวิตของสาวกสายนอกอย่างมาก

หากใครที่ไม่สามารถเข้าเป็นสาวกสายในได้ก่อนที่จะอายุ 19 ปี พวกมันย่อมไม่เหลือหนทางความสำเร็จและโอกาสได้รับสิ่งดีๆ อีกต่อไป พวกมันจะเป็นแค่คนธรรมดาไม่ได้มีค่าอะไรให้ตระกูลเลี้ยงดู...

ในฐานะบิดา มารดา ผู้ใดเล่าจะยินยอมให้บุตรประสบชะตากรรมเช่นนี้

และแน่นอนว่าด้วยความรวดเร็วในการบ่มเพาะที่มากกว่าถึงเท่าตัว นั่นทำให้ โอสถน้ำบ่มเพาะร่างกาย 6 กระบวน เป็นสิ่งที่ทุกคนล้วนต้องการ เพื่อเร่งการบ่มเพาะให้ตัดผ่านได้ทัน เพื่อความสำเร็จในการะประลองครั้งนี้

ด้วยความต้องการขนาดนี้เป็นธรรมดาที่ราคาของโอสถน้ำบ่มเพาะร่างกาย 6 กระบวน จะถีบตัวสูงขึ้นไปอย่างน่าเหลือเชื่อ ...ตอนนี้ ราคาต่อชุดของมันนั้น มีมูลค่าถึง 3,000 เหรียญเงินแล้ว

"พวกนี้ช่างบ้าคลั่งกันเสียจริง"

หลังจากได้รับทราบคร่าวนี้หลิงเทียนก็รู้สึกทึ่งเล็กน้อย ที่โอสถของเขากลับกลายเป็นสิ่งของที่ถูกแย่งชิงกันอย่างหนักหน่วงเช่นนี้

โชคดีที่เขาให้ผู้ดูแลรับปากเอาไว้แล้ว ว่าจะไม่แพร่งพรายความลับว่าเขาเป็นผู้หลอมสร้างให้หลุดออกไป

หากใครได้ลวงรู้ว่าเขาเป็นผู้เดียวในเมืองนี้ ที่สามารถผสมสร้างโอสถน้ำบ่มเพาะร่างกาย 6 กระบวนแล้วล่ะก็ ชีวิตของเขาคงไม่มีวันสงบสุขอีกต่อไป

ภายในลานกว้างของตระกูลลี่

ฟุ่บบบ!

ร่างเงาร่างหนึ่งพุ่งวูบไปวูบมาด้วยแง่มุมที่คาดเดาไม่ได้ การเคลื่อนร่างนั้นช่างว่องไวราวกับหลอมรวมกับสายลม บังเกิดเป็นเงาเลือนราง ยากแก่การสัมผัส

เงาร่างนั้นหยุดลง และ ปรากฏร่างของชายผู้หนึ่งอย่างชัดเจน

มันเป็นเยาวชน อายุประมาณ 17 ปี

หากกล่าวให้ชัดมันคือ ลี่หยวน

"ฮ่า ๆ ...ยอดเยี่ยม! ลูกหยวน ก้าวย่างล่องลอยของเจ้ามีความสำเร็จในขั้นตอนของผู้เชี่ยวชาญแล้ว เช่นนี้ในบรรดาสาวกสายนอก ที่นอกเหนือจากลี่ควงแล้ว คงไม่มีผู้ใดที่สามารถสัมผัสตัวเจ้าได้ ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยความสามารถระดับนี้การที่เจ้าจะติด 1 ใน 10 อันดับ นั้นไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ "

ชายวัยกลางคนกล่าวออกมาพร้อมเสียงหัวเราะ

"ข้าจะต้องติด 1 ใน 10 ของการประลองกระชับมิตรให้ได้! หากข้าสามารถได้รับ โลหิตหลิงซี่อายุ 300 ปี แล้วล่ะก็ วิชาระฆังทองคลุมกายของข้า คงมีความสำเร็จขั้นตอนผู้เชี่ยวชาญได้อย่างแน่นอน "

ดวงตาของลี่หยวนวูบขึ้นมาฉายแววความปรารถนาอันแรงกล้า!

ทว่าเงาร่างหนึ่งพลันปรากฏขึ้นในใจของมันอย่างรวดเร็ว

ต้วนหลิงเทียน!

“ครั้งสุดท้ายเป็นเพราะวิชาท่าร่างของข้าอ่อนด้อยกว่าเจ้า ทำให้ข้าเสียเปรียบเรื่องการเคลื่อนไหวจนข้าต้องพ่ายแพ้”

"แต่ยามนี้ก้าวย่างล่องลอยของข้ามีความสำเร็จในขั้นตอนผู้เชี่ยวชาญแล้ว ข้าจะเอาชนะเจ้า และมอบความอัปยศอดสูคืนแก่เจ้า! "

ก้าวย่างล่องลอยที่เป็นวิชาระดับห้วงมหรรณพขั้นกลางหากมีความสำเร็จถึงขั้นผู้เชี่ยวชาญนั้น ย่อมมีความคล่องตัวระดับสูง เทียบได้กับวิชาระดับห้วงมหรรณพขั้นสูงที่มีความสำเร็จในขั้นตอนเริ่มต้นเลยทีเดียว

ในลานเล็กๆลานหนึ่ง

ฟึ่บบบ!

ประกายยะเยือกของกระบี่นับสิบๆสายแผ่พุ่งล่องลอยอยู่ไปทั่วอากาศ ราวกับว่าประกายกระบี่เหล่านี้ถูกสร้างขึ้นมาจากอากาศที่ว่างเปล่า แต่ทว่ามันกลับทรงพลังอย่างน่าเหลือเชื่อ เงากระบี่วูบไหวสวยงามราวกับกระบี่ไร้สภาพกำลังเริงระบำ

กริ๊ก!

กระบี่ยาว 3 ฟุตถูกเก็บเข้าไปในฝัก

"ในที่สุดข้าก็มีความสำเร็จขั้นตอนเริ่มต้น ได้ทันเวลา ก่อนที่งานประลองจะเริ่มขึ้น"

เด็กสาวใส่ชุดสีเขียวอ่อนห้าตางดงาม เอ่ยออกมาพร้อมรอยยิ้ม

สตรีวัยกลางคนที่แต่งงานแล้วคนหนึ่งเอ่ยออกมาจากหน้าประตู "ฉีฉี เจ้าต้องขอบคุณ ผู้ที่มอบวิชากระบี่นี้แก่เจ้าให้มาก"

"ท่านแม่เหตุใดจึงออกมาเล่า? ร่างร่างกายท่านไม่ค่อยแข็งแรง ท่านควรพักผ่อนเยอะๆอย่าได้ออกมาอีกเข้าใจหรือไม่ ช่วงนี้อากาศเริ่มเย็นนัก"

ใบหน้าของลี่ฉีฉีฉายแววตำหนิ ที่แฝงไว้ด้วยความเป็นห่วงอย่างถึงที่สุด ก่อนที่นางจะพยายามดันสตรีวัยกลางคนให้กลับเข้าไปในห้อง

ลานฝึกลานหนึ่ง

"บัดซบ เจ้านี่มันไม่ต่างอะไรกับขยะเสียจริง ข้ามอบวิชาหมัดพยัคฆ์คำรนให้เจ้ามาเนิ่นนานแล้ว แต่จนถึงวันนี้เจ้ายังไม่แม้แต่จะสำเร็จขั้นตอนเริ่มต้น! "

ลี่ซ่งมองไปยังลี่เซียวด้วยสายตาผิดหวัง

"ท่านพี่ ข้าขอโทษ"

ลี่เซียวได้แต่ก้มหน้า มันไม่กล้าสู้หน้าพี่ชายของมัน

"เจ้าก็อย่าได้ตำหนิน้องชายของเจ้านักเลย นี่เป็นเพราะพรสวรรค์แต่กำเนิดมันไม่ได้เหนือล้ำเช่นเจ้า นี่เป็นขีดจำกัดของมันแล้ว อย่างไปเร่งรัดอันใดมันเลย"

ชายวัยกลางคนที่ไม่อาจทนเห็นภาพดังกล่าวได้อีกต่อไป เขาเลยก้าวเข้ามาพร้อมพูดแทรกขัดจังหวะ

"ท่านพ่อ ก็เพราะท่านคอยโอ๋และให้ท้ายมันเช่นนี้ไงเล่า มันถึงไม่ก้าวหน้าเสียที"

ลี่ซ่งกล่าวออกมาด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อย ก่อนที่จะทิ้งน้องชายและพ่อเอาไว้ กลับเข้าห้องไปพักผ่อน

รีวิวผู้อ่าน