px

เรื่อง : Crazy Leveling System
ตอนที่ 172 การกลับมาพร้อมกับบุคคลที่สาม !!!









หลังจากที่ยี่ เทียนหยุนเข้าใจถึงความหมายแล้ว ตัวเขาก็มิได้ฝืนทำเควสหลักอีกต่อไป ความยากที่มีมันยากเกินไป สู้ก้าวไปทีละก้าวมันจะดีกว่า ตัวเขาก็ใช่ว่าจะติดคอขวดอะไร ตราบใดที่ได้จารอักขระอักษรรูนอย่างบ้าคลั่ง การจะไปถึงปรมาจารย์อักษรรูนศักดิ์สิทธิ์มันก็มิใช่เรื่องยากเย็นอะไร



ใช้เวลาหลายวันต่อมาอีกเล็กน้อย ปัญหายุ่งๆของตัวเขาก็เสร็จลงทั้งหมด อุปกรณ์จิตวิญญาณต่างก็ได้รับการจารอักขระทั้งหมดรวมไปถึงเม็ดยาโอสถอีกเป็นจำนวนมาก พิจารณาว่าของคงจะขาดแค่ช่วงสั้นๆเป็นการชั่วคราว ตอนนี้ตัวเขาต้องการจะไปที่ทวีปพรมแดนสวรรค์เพื่อค้นหาวัสดุ โปรโมทความชำนาญด้านอักษรรูนของตัวเอง มิฉะนั้นแล้วคงจะไม่มีทางที่จะสำเร็จภารกิจหลักนี้ ลงได้อย่างแน่นอน



หากสามารถรับภารกิจจากผู้อื่นได้แล้วละก็ ปรมาจารย์อักษรรูนศักดิ์สิทธิ์เกรด 5 ก็คงจะมาเยือน แต่การจะเป็นปรมาจารย์อักษรรูนนั้นยากยิ่ง จำเป็นที่จะต้องได้รับเควสในระดับสูง ผู้เฒ่าซวนก็พูดเอาไว้แล้วว่า หากเป็นปรมาจารย์อักษรรูนธรรมดาๆ ทั่วๆไปคงไม่ดีแน่ จำเป็นที่จะต้องใช้ปรมาจารย์อักษรรูนที่ทรงพลังเป็นอย่างมาก ถึงจะดี !!



ความสำคัญนี้ หากจะเปรียบเทียบหาความจริงถึงความแตกต่าง ก็คงจะเทียบได้กับนักสู้ขั้นแก่นการควบแน่นระดับ 1 เปรียบเทียบกับนักสู้แก่นการควบแน่นระดับสูงสุด.....



" ดูเหมือนว่าข้าจะต้องสำเร็จปรมาจารย์อักษรรูนศักดิ์สิทธิ์เกรด 5 ให้ได้ซะก่อน ถึงจะไปยังคฤหาสน์ยอดสวรรค์ได้อย่างสบายใจ " หลังจากที่ยี่ เทียนหยุนวางแผนทั้งหมด เขาก็เดินออกจากห้อง แค่ไม่กี่ก้าว ใครบางคนก็ร้องเรียกเขาไว้



" ผู้อาวุโสยี่..... " โดยผู้ที่ร้องเรียกก็มิใช่ใครที่ไหน เธอก็คือ จู ยูร์เวยนั่นเอง



" คิดได้หรือยัง ว่าเจ้าจะไปกับข้าหรือเปล่า ?? " ยี่ เทียนหยุนหันศีรษะถาม



" ข้า ข้าจะไปด้วยกันกับท่าน..... ณ ตอนนี้ อาวุโสจากคฤหาสน์ปราณฟ้า ผู้มั่นหมายข้ากับลูกชายของเขา พวกเขาอาจจะมิได้รู้สึกโกรธแค้นข้าแล้วก็เป็นได้ ข้าคิดถึงคนในครอบครัวเป็นอย่างมาก..... " นัยน์ตาคู่สวยของจู ยูร์เวยหลากหลายไปด้วยอารมณ์ความคิด นานมากแล้วที่เธอหนีออกมา เธอย่อมจะคิดถึงพี่สาวของเธออย่างแน่นอน



" ถ้าอย่างงั้น เจ้าก็เตรียมตัวได้เลย " ยี่ เทียนหยุนกล่าว



" อืม ขอเวลาข้าซักครู่ " จู ยูร์เวยพยักหน้าหงึกๆ จากนั้นก็วิ่งออกไปในทันที



ฝ่ายของยี่ เทียนหยุนก็ไปหาฉี ซู่หยุน เขาสารภาพบอกกล่าวข้อเท็จจริงให้กับเธอได้รับรู้อย่างคร่าวๆ



" ป้า ข้าจะต้องไปที่ทวีปพรมแดนสวรรค์ เพื่อนำจู ยูร์เวยไปพบกับคนในครอบครัวของเธอ และข้าก็จะต้องไปพบกับคนของคฤหาสน์ยอดสวรรค์ด้วย ไปดูพวกเขาเป็นอย่างไรกันบ้างในตอนนี้ ซากปรักหักพังโบราณสถานสวรรค์แห่งนี้เป็นสถานที่ที่บรรพบุรุษของพวกเขาทิ้งเอาไว้ ข้าต้องการที่จะติดต่อกับพวกเขา ถ้าหากว่าพวกเขาตกลงที่จะเข้าร่วมกับพวกเราแล้วละก็ ข้าก็จะรวมทั้งสองฝ่ายให้เป็นหนึ่งเดียวกัน " ยี่ เทียนหยุนเปิดเผย



" นี่ถือเป็นเรื่องที่ดี เรื่องราวของคฤหาสน์ยอดสวรรค์ครั้งเก่าก่อนย่อมที่จะไม่ธรรมดา หากสามารถที่จะเข้าร่วมกับพวกเราได้ละก็ มันย่อมจะเป็นเรื่องที่ดี " ฉี ซู่หยุนกล่าวอย่างนิ่มนวล " เจ้าจะต้องจัดการเรื่องราวภายนอกอย่างรอบคอบระมัดระวัง ข้าจะรอเจ้ากลับมาอยู่ที่นี่ตลอดไป ถึงแม้ว่าข้าจะเป็นคนดูแลจัดการปัญหาของที่นี่ แต่ข้าก็คิดว่า เจ้าคือเจ้านายที่แท้จริงของที่นี่..... "



" เจ้านายที่แท้จริง ถ้าจะให้ว่ากันตามสัตย์แล้ว เป็นป้าต่างหากที่เอาใจใส่ดูแลนิกายหยกสวรรค์แห่งนี้นะ จริงๆแล้วข้าก็มิได้สนใจมันซักเท่าใดนัก " ที่ยี่ เทียนหยุนทำไปทั้งหมดก่อนหน้านี้ นั่นก็เพราะฉี ซู่หยุน ดังนั้นแล้วตัวเขาจึงได้ปกป้องนิกายหยกสวรรค์



หากมิฉะนั้นแล้วเขาจะไม่แยแสใส่ใจต่อนิกายหยกสวรรค์เลย ก็เพราะว่าตัวเขามิได้มีความรู้สึกอะไรข้างใน แต่ด้วยสถานการณ์ในปัจจุบัน มันเป็นอะไรที่ต่างออกไป มันมิได้มีการเปลี่ยนแปลงเล็กๆเฉกเช่นครั้งก่อน บวกกับเมนเควส นี่จึงทำให้เขารู้สึกว่า จะต้องรับผิดชอบอย่างเต็มที่



" แท้จริงแล้วข้าเต็มใจที่จะปกป้องที่นี่ เหตุผลหลักนั้นก็คือ คอยปกป้องเจ้า เพื่อที่จะรองรับเจ้าเติบใหญ่ในอนาคต..... " ฉี ซู่หยุนยิ้มบาง " ในตอนนั้น ข้าคิดแต่เพียงว่า จากนี้เป็นต้นไป ไม่ว่าเจ้าจะกลายเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์หรือขยะ ที่นี่จะเป็นสิ่งที่ช่วยเจ้าได้มาก หากเจ้ากลายเป็นคนที่มีพรสวรรค์ เจ้าคิดที่จะก่อตั้งพรรค ข้าก็จะช่วยเจ้า หากเจ้ากลายเป็นขยะ ข้าก็จะสร้างที่นี่ให้แข็งแรง ไว้คอยปกป้องเจ้า "



ยี่ เทียนหยุนมองดูฉี ซู่หยุนเป็นระยะเวลานาน คนทั้งสองต่างก็มองหน้าของอีกฝ่ายซึ่งกันและกันเป็นเวลานาน ยี่ เทียนหยุนกุมมือฉี ซู่หยุนแล้วพูดขึ้นว่า " ก็เพราะมีป้า ข้าจึงต้องขอบคุณท่านเป็นอย่างมากที่คอยปกป้องข้ามาตลอด ข้าเข้าใจแล้ว..... "



นานแค่ไหนแล้วที่เขาเกิดใหม่ยังต่างโลก แล้วใช้เวลาคลุกคลีอยู่กับฉี ซู่หยุน ความรู้สึกนี้ลึกซึ้งกินใจยิ่งนัก เขารู้ว่าทั้งหมดที่ฉี ซู่หยุนทำลงไป นั่นก็เพื่อตัวเขาเอง



" ไม่เป็นไร ออกเดินทางแต่เนิ่นๆเถอะ หากทำให้อาวุโสจูต้องคอยนาน มันจะไม่ดีเอา " ฉี ซู่หยุนตบไหล่ของยี่ เทียนหยุนเบาๆ



" อืม แล้วข้าจะกลับมา !! " ยี่ เทียนหยุนยิ้มบาง จากนั้นเขาก็ก้าวเท้ามุ่งสู่ด้านนอก



เมื่อเขาเดินออกมา จู ยูร์เวยกำลังรอเขาอยู่บริเวณด้านนอกแล้ว ต่างคนต่างก็พยักหน้าให้แก่กัน ขี่มังกรดำเหินฟ้ามุ่งสู่หอแห่งดวงดาว



เธอมองดูไปยังทิศทางที่พวกเขานั้นบินจากไป จากนั้นก็หันหลังกลับสู่ซากปรักหักพังโบราณสถานสวรรค์



.....



ภายใต้การขี่มังกรดำ พวกเขาก็มาถึงเมืองใหม่แห่งสรวงสวรรค์อย่างรวดเร็ว



" เมืองใหม่แห่งสรวงสวรรค์..... " จู ยูร์เวยมองดูไปที่เมืองใหม่แห่งสรวงสวรรค์ ภายในก่อเกิดความรู้สึกมากมาย จากมาหลายปี ในที่สุดวันนี้ก็กลับมา



เธออยากที่จะมากลับมาที่นี่ในฐานะของบุคคลที่มีกลุ่มอิทธิหนุนหลัง ถึงแม้ว่า ณ ตอนนี้ แม้ว่าตัวเองจะมิได้มีอำนาจควบคุมส่วนหนึ่งส่วนใดภายในกลุ่มอิทธิพล แต่กลับใกล้ชิดอิงแอบพายี่ เทียนหยุนกลับมา ตัวเธอนั้นเพิ่งจะได้เข้าร่วมนิกายหยกสวรรค์โดยความช่วยเหลือของยี่ เทียนหยุน นี่ทำให้ข้างในของจู ยูร์เวยรู้สึกขัดเขินละอายใจ



ตัวเธอไม่มีความยุ่งยากอะไรเลย ด้วยการช่วยเหลือของยี่ เทียนหยุน คิดแล้วก็น่าละอายใจ



" ไป พวกเราเข้าไปด้านในกันเถอะ "



ยี่ เทียนหยุนนำจู ยูร์เวยออกเดิน เขาย้อนกลับเข้าสู่เมืองใหม่แห่งสรวงสวรรค์ ก็มุ่งตรงไปที่หอแห่งดวงดาวในทันที เพิ่งจะเดินเข้าเมืองไม่ทันไร สายลับที่มีอยู่รอบเมือง ต่างก็พบเห็นเธอได้ในทันที สีหน้าแสดงออกอย่างซับซ้อน รีบวิ่งกลับไปรายงานหอแห่งดวงดาวอย่างรวดเร็ว



ทั่วทั้งเมืองใหม่แห่งสรวงสวรรค์ มีสายลับของหอแห่งดวงดาวอยู่เป็นจำนวนมาก ด้วยเหตุนี้เมื่อจู ยูร์เวยกลับมา พวกเขาต่างก็รู้ได้ในทันที



ไม่นาน ในขณะที่พวกเขายังเดินไม่ถึงหอแห่งดวงดาว แต่กลับมีคนกลุ่มหนึ่ง เดินออกมาจากด้านในของหอ โดยหัวขบวนที่นำมานั้นมิใช่ใครอื่น เป็นแดงสด ยวีซวนนั่นเอง !!



" น้องพี่ !! " แดงสด ยวีซวนไม่อยากที่จะเชื่อว่าจะได้พบกับน้องสาวของตัวเองอีก เธอไม่คิดเลยว่า น้องสาวของตัวเองที่หลายปีแล้วไม่ได้พบหน้าคร่าตากัน จะกลับมาจริงๆ !!



" พี่สาว !! " จู ยูร์เวยเมื่อเห็นพี่สาวของตัวเอง นัยน์ตาของเธอก็แดงก่ำขึ้นมาในทันที



พวกเขาไม่ได้พูดอะไร ต่างก็โผเข้ากอดกันในทันที พี่สาว-น้องสาว หลายปีแล้วที่มิได้เห็นหน้าคร่าตากัน ก็ย่อมที่จะคิดถึงกัน ไม่อยากที่จะแยกจากกันอีกครั้งหนึ่ง ถึงจะมีถ้อยคำมากมายนับไม่ถ้วนซักเพียงใด ค่อยพูดกันก็ยังได้ เปลี่ยนจากพูดเป็นกอด หลอมละลายเข้าด้วยกัน



" เจ้ามิใช่ผู้อาวุโสของนิกายหยกสวรรค์คนนั้นหรอกหรือ ?? " ณ เวลานี้ ผู้ดูแลหวงแสดงรอยยิ้มเล็กน้อย นัยน์ตาดูค่อนข้างประหลาดใจ



อันที่จริงก่อนที่พวกเขาจะไปเจอกับยี่ เทียนหยุนนั้น พวกเขาก็ได้นำภาพวาดของจู ยูร์เวย ไปตะลอนๆถามละแวกนั้นมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พวกเขาจึงได้มุ่งตรงไปที่นิกายหยกสวรรค์ในทันที แต่ชื่อของเธอนั้นมิได้เรียกว่าจู ยูร์เวย แต่เป็นจือ ยูร์เวย เจ้าของตึกกระแสลมแห่งสวรรค์ !! ที่เบื้องหลังนั้นได้รับการสนับสนุนช่วยเหลือจากนิกายหยกสวรรค์ แต่ก่อนหน้านั้นพวกเขากลับไม่มีร่องรอยอะไรเลย



ซึ่งจริงๆแล้วข้อมูลทั้งหลายเหล่านี้มันก็ง่ายมากที่จะทำการสืบสวน อันที่จริงแล้วเหตุที่ว่าหลายต่อหลายปีแล้ว ที่ไม่ได้ข้อมูลอะไรเลย เหตุผลนั้นก็ง่ายมาก พวกเขาล้วนถูกขัดขวางโดยแดงสด ยวีซวน แต่ผู้ดูแลหวงก็ไม่คิดที่จะตำหนิเธอแต่อย่างใด และก็ไม่คิดที่จะใช้กำลังบีบบังคับจู ยูร์เวยให้กลับไป กลับเลือกที่จะแยกจากมา



เหตุผลนั้นก็ง่ายมาก นิกายหยกสวรรค์สามารถที่จะทำลายคฤหาสน์ปราณฟ้าลงได้อย่างสิ้นซาก มันจึงคุ้มค่าเป็นอย่างมาก ที่ควรจะสร้างสานสัมพันธ์อันดีกับพวกเขาเอาไว้ มันก็เท่านั้นเอง



" ใช่แล้ว ตอนนี้ข้าได้นำผู้อาวุโสจูกลับมา ณ เวลานี้เธออยู่ภายใต้การดูแลของนิกายหยกสวรรค์ เธออยากที่จะกลับมาพบกับพี่สาวของเธอ " ยี่ เทียนหยุนกล่าวอย่างตรงไปตรงมา เขารู้ว่าปัญหาของจู ยูร์เวยจะต้องได้รับการตรวจสอบมาแล้วอย่างแน่นอน



จู ยูร์เวยมิอาจที่จะเปลี่ยนแปลงใบหน้าได้เช่นเดียวกับยี่ เทียนหยุน ดังนั้นแล้วหากนำภาพวาดของเธอ เร่สอบถามผู้คนที่อยู่รอบข้างแล้วละก็ สามารถที่จะรู้ได้อย่างง่ายดายในทันที



เหตุผลที่ยี่ เทียนหยุนพูดอย่างนั้นออกไป นั้นก็ง่ายมาก ก็เพื่อที่จะอธิบายให้เห็นว่าจู ยูร์เวยในปัจจุบันนั้นมีนิกายหยกสวรรค์คอยปกป้องอยู่ หากคิดที่จะต้องการตัวเธอแล้วละก็ ก็จะต้องดูสีหน้าท่าทางของนิกายหยกสวรรค์ก่อน !! อันที่จริงก็ควรจะพูดว่า จะต้องดูสีหน้าของยี่ เทียนหยุนก่อนเป็นลำดับแรก มีแต่เขาเพียงคนเดียวเท่านั้น ที่สามารถทำลายคฤหาสน์ปราณฟ้าทั้งหมดลงได้อย่างราบคาบ


















 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

รีวิวผู้อ่าน