px

เรื่อง : Crazy Leveling System
ตอนที่ 199 ฆ่า !!










ยี่ เทียนหยุนมองหลิน หลี่ที่จมอยู่ในดินอย่างเย็นชา ผลแห่งความเจ็บปวดของหลิน หลี่ ทำให้ทั่วทั้งร่างของเขาชุ่มไปด้วยเหงื่อเย็น ใบหน้ากลายเป็นบิดเบี้ยว แต่ยี่ เทียนหยุนก็มิได้รู้สึกสงสารเขาเลยแม้แต่นิดเดียว จะมีให้ก็แต่เพียงความโกรธเพียงอย่างเดียวเท่านั้น !!



ดีที่ว่าอาศัยพละกำลังความแข็งแกร่งของตัวเขา วันนี้จึงตามทันได้อย่างรวดเร็ว หาไม่แล้วยี่ ยูร์เวยและยี่ ยวีซวนคงจะต้องตกอยู่ในอันตรายอย่างแน่นอน



" ลุกขึ้นมาดวลเดี่ยวกับข้าสิ อย่าทำให้ข้ารอนาน !! " ยี่ เทียนหยุนตะโกน ความโกรธในหัวใจของเขามิได้ลดน้อยถอยลงแม้แต่นิดเดียวเลย !!



สภาพของหลิน หลี่ก็เปรียบเสมือนครึ่งเป็นครึ่งตาย ไหนเลยจะเคลื่อนไหวได้ตามอำเภอใจ หน้าก็ดูซีดขาว ความรู้สึกในตอนนี้ของเขาก็คือ ความอัปยศอดสู แต่ที่ยิ่งไปกว่านั้นนั่นก็คือ การตระหนกตกใจกลัว เขาไม่คิดเลยว่าพลังของยี่ เทียนหยุนจะอุกอาจถึงเพียงนี้ หากเขารู้ เขาก็คงจะไม่ตอแยกับยี่ เทียนหยุนอย่างเด็ดขาด



" พลังของเจ้า กลับที่จะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ได้อย่างไร..... " คอของเขาค่อนข้างแห้ง โทนเสียงที่ออกมาจึงฟังดูแห้งแหบจนเกินจะพรรณา



ยี่ เทียนหยุนมิได้ตอบเขา เขาก้าวเท้าไปข้างหน้า 2 ก้าว ดึงแขนอีกข้างหนึ่งของหลิน หลี่พร้อมกับพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงอันเย็นชาว่า " ต้องการที่จะตบหน้าคนของข้าด้วยมือข้างนั้นก่อนหน้านี้อย่างงั้นเรอะ เจ้าคงไม่ต้องการมันแล้วละซินะ !! "



ทันใดนั้นเอง ยี่ เทียนหยุนก็ฉีกแขนข้างนี้ของหลิน หลี่ แขนก็ขาดออกมาอย่างสมบูรณ์ หลิน หลี่ก็กลายเป็นร้องเสียงหลงอย่างน่าเวทนาขึ้นมาอีกคราหนึ่ง แขนอีกข้างของเขาถูกดึงขาด ณ ปัจจุบันเขาจึงมิได้แตกต่างอะไรไปจากขยะ



" ฆ่าข้า ฆ่าข้าเซ่ คอยดูคฤหาสน์อักษรรูนศักดิ์สิทธิ์จะต้องทำให้เจ้าสำนึกผิด !! " หลิน หลี่แผดเสียงดังลั่น เขารู้ว่าต่อให้ตัวเองร้องขอชีวิตไปก็เปล่าประโยชน์ ยังไงๆยี่ เทียนหยุนก็จะต้องฆ่าเขาอย่างแน่นอน



" วางใจเถอะ หากว่าเกิดคฤหาสน์อักษรรูนศักดิ์สิทธิ์ยั่วยุข้าขึ้นมาเมื่อไร ข้าก็จะบดขยี้มันซะ !! " ยี่ เทียนหยุนกล่าวอย่างเย็นชา



" คิดที่จะทำลายคฤหาสน์อักษรรูนศักดิ์สิทธิ์เนี่ยนะ ฮ่าๆฮ่าๆ..... อาศัยกำลังของเจ้าหรือผู้ช่วยคนนั้นละ ?? ฮ่าๆ ฮ่าๆ เจ้าไร้เดียงสาเกินไปแล้ว เจ้าคิดหรือว่าคฤหาสน์อักษรรูนศักดิ์สิทธิ์ของเราจะมีฝีมือแค่นี้อย่างงั้นนะเรอะ ?? " หลิน หลี่ตะเบ็ง สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยการดูถูก



" ไม่ลองแล้วจะไปรู้ได้ยังไง ต่อให้ข้ายังมิสามารถที่จะทำลายคฤหาสน์อักษรรูนศักดิ์สิทธิ์ลงได้จริง แต่นั่นมันก็แค่ชั่วคราว ข้าก็จะค่อยๆทำลายมันลงซะ จนกว่าจะถึงเวลาลงมือครั้งใหญ่ของข้า !! " ยี่ เทียนหยุนยกแขนของเขาขึ้นมา เปลวเพลิงก็ปรากฏขึ้นมาในทันใด ซึ่งแน่นอนว่ามันก็คือ เปลวเพลิงที่ไม่มีวันดับ พลังของเปลวเพลิงพุ่งสูงถึงขีดสุด ความหนาวเย็นที่อยู่ภายในถ้ำแห่งนี้ ถูกไล่ออกจนกระจัดกระจายหายไปอย่างสมบูรณ์ ด้วยอุณหภูมิที่ร้อนจนถึงขีดสุด



" จ..... เจ้า เจ้า " เมื่อต้องเผชิญหน้ากับความตายก็ย่อมที่จะเกิดความกลัว ร่างของหลิน หลี่ก็ถึงกับสั่นไม่ยอมหยุด



" ข้าจะทำให้เจ้าได้ตายภายใต้เปลวเพลิงนี้ หากว่าชาติหน้ามีจริง ก็อย่าได้มาซ่าส์กับข้าอีกละ..... เข้าใจไหม ไม่อย่างงั้นเจ้าจะได้ตายอย่างอนาถ !! " ยี่ เทียนหยุนสะบัดฝ่ามือของเขาออกไป เปลวไฟที่ไม่มีวันดับอันน่าสะพรึงกลัวก็ถูกปลดปล่อยออกมา เผาผลาญพื้นที่ตรงหน้าในทันที



" ต่อให้ข้ากลายเป็นวิญญาณร้าย ข้าก็จะไม่ปล่อยเจ้า !! " ท้ายที่สุดหลิน หลี่ก็ยังคงแผดเสียงร้องของเขาออกมา



" เปลี่ยนไปเป็นวิญญาณร้ายนะเรอะ ขอให้เจ้ามีฝีมือเถอะ ยังไงๆข้าก็ไม่กลัววิญญาณร้ายอยู่แล้ว !! " ยี่ เทียนหยุนพูดเยาะเย้ย



แต่ช่างน่าสงสารอะไรเช่นนี้ หลิน หลี่ถูกฆ่าตาย แต่เขาก็ไม่ได้กลับกลายเป็นวิญญาณร้ายอะไรนั่นแต่อย่างใด นั่นก็เพราะว่าเขาถูกทำลายอย่างสมบูรณ์ แม้แต่ซากก็ไม่เหลือ



หากว่าฆ่านักอักษรรูน ก็จะได้รับค่าความชำนาญอักษรรูนศักดิ์สิทธิ์ นี่ถ้าหากว่าฆ่าทั้งคฤหาสน์ ค่าความชำนาญก็คงจะสะสมได้อย่างง่ายดายจนเพียงพอ หากจะให้ว่ากันตามธรรมชาติแล้ว เขาคงได้แต่หวังว่า คฤหาสน์อักษรรูนศักด์สิทธิ์จะไม่มาหาเรื่องเขาก่อน หากมิฉะนั้นแล้ว เขาก็มิได้ใส่ใจที่จะลงมือปราบปรามฆ่าล้างทั้งคฤหาสน์อักษรรูนศักดิ์สิทธิ์ !!



ครุ่นคิดเรื่องเหล่านี้สายตาของยี่ เทียนหยุนนั้นดูเย็นชา เขาไม่เต็มใจที่จะหันไปมองศพเหล่านี้ซักเท่าใดนัก ว่าแล้วก็หมุนตัวหันหลังกลับ เดินออกสู่ภายนอกถ้ำ



" ผู้อาวุโสยี่ ต้องขอขอบคุณท่านมากที่ช่วยพวกเราเอาไว้ " ยี่ ยูร์เวยและยี่ ยวีซวนที่ออกมาจากถ้ำพร้อมๆกับยี่ เทียนหยุน ต่างก็รู้สึกซาบซึ้งใจ



" ไม่ ครั้งนี้เป็นข้าเองที่ดึงพวกเจ้าเข้ามามีส่วนร่วมเกี่ยวกับเรื่องบาดหมางในครั้งนี้ จนเกือบจะสร้างความผิดพลาดที่แก้ไขไม่ได้ขึ้นมาซะแล้ว !! " ความโกรธในหัวใจของยี่ เทียนหยุนก็ยังมิได้ลดน้อยถอยลงแต่อย่างใด เขาอนุญาตให้ศัตรูเล่นงานตัวเขาได้ แต่ว่านี่ มาทำกับเพื่อนของเขา นี่มันคืออะไร ??



พบเจอกับเหตุการณ์เช่นนี้เข้า มันทำให้ความโกรธของเขาแล่นขึ้นจนถึงขีดสุด ขีดจำกัดความอดทน อดกลั้นของเขา ล้วนพังทลายสิ้น ราคาที่พวกมันจะต้องชดใช้นั้น ลำพังเพียงแค่บดขยี้โดยปกติธรรมดาทั่วไป มันคงยังไม่พอที่จะสาแก่ใจ



" ไม่เป็นไร ตราบใดที่พวกเราสบายดี อยู่รอดปลอดภัย มันก็โอเคแล้ว..... ความรู้สึกภายในของพวกเขากำลังรู้สึกดี " พวกเธอต่างก็รู้สึกชื่นชอบในตัวของยี่ เทียนหยุน แต่อีกใจนึงก็ยังคงเป็นกังวลอยู่



ยี่ ยูร์เวยนั้นรู้ว่าพละกำลังของยี่ เทียนหยุนนั้นแข็งแกร่งมาก แต่ตัวเธอก็มิวายเป็นกังวล ว่าเขาจะทำอะไรไม่สะดวก หากถูกเหนี่ยวรั้งตัวเอาไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการข่มขู่โดยใช้ตัวประกันให้เชื่อฟังคำสั่งของฝ่ายศัตรู หากว่าให้ยอมจำนนโดยไม่มีการต่อสู้ นั้นก็จะต้องเป็นจุดจบของชีวิตอย่างแน่นอน



" ข้าจะต้องมาอย่างแน่นอน นี่เป็นหน้าที่ความรับผิดชอบที่ข้าได้ก่อขึ้นมา แน่นอนว่ายังไงๆข้าก็ย่อมที่จะต้องออกมาช่วยพวกเจ้า " ยี่ เทียนหยุนกล่าวอย่างเคร่งขรึม " ณ ตอนนี้พวกเจ้ากลับไปกันก่อน ใครบางคนมันจะต้องไม่สร้างปัญหาให้กับพวกเจ้าอีก ข้าวางแผนที่จะไปเยี่ยมพวกมันเป็นลำดับแรกในตอนนี้ !! "



ยี่ ยูร์เวยสัมผัสได้ถึงความอำมหิตในสายตาของยี่ เทียนหยุนในตอนนี้ นี่มันทำให้ร่างอันอ่อนนุ่มของเธอถึงกับสั่น แต่ก็ยังพยักหน้าพูดว่า " อย่างนั้นก็ดี พวกเราขอตัวนายน้อยกลับโรงแรมก่อน..... "



" อืม มิสเหริน เจ้าก็กลับไปด้วยกันกับพวกเธอด้วย รอฟังข่าวจากข้าทางนั้นก็แล้วกัน " ยี่ เทียนหยุนพูดด้วยสายตาที่เย็นชา ณ ช่วงเวลานี้ เขาต้องการที่จะเพียงลำพัง



" ข้าทราบแล้ว ท่านพี่ " เหริน จื้อโยว่พยักหน้าเป็นการตอบรับอย่างว่านอนสอนง่าย



และแล้วพวกเขาก็จากไปอย่างรวดเร็ว หลังจากที่พวกเขาจากไป ยี่ เทียนหยุนก็ซัมม่อนมังกรดำออกมา จากนั้นก็บินมุ่งหน้าไปทางตระกูลหวังอย่างรวดเร็ว สปีดนั้นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนแทบจะแตะลิมิตสปีดสูงสุดแทบจะในทันที !!



ตระกูลหวังอยู่ที่ไหนยี่ เทียนหยุนก้ไม่รู้ แต่เขาก็พอรู้ตำแหน่งที่ตั้งคร่าวๆโดยประมาณ หากว่ามิได้ทำลายตระกูลหวังจนพังพินาศ ยี่ เทียนหยุนก็จะไม่สามารถที่จะบรรเทาอาการโกรธที่อยู่ภายในใจของเขาให้มันทุเลาเบาบางลงได้



ในขณะเดียวกัน ตระกูลหวังก็ยังไม่มีใครรู้ถึงสถานการณ์ที่กำลังเปลี่ยนไปเลย



" ไม่รู้ว่าสถานการณ์ทางหลิน หลี่เป็นยังไงบ้าง เขาได้ลงมือฆ่าเจ้าเด็กคนนั้นไปแล้วรึยัง ?? เกิดเขาทิ้งร่องรอยเอาไว้ นั่นอาจจะเป็นการก่อให้เกิดปัญหาอันใหญ่หลวงในอนาคต " ผู้นำตระกูลหวังขมวดคิ้วแน่น " เขาหวังว่าการกระทำของหลิน หลี่จะไร้ซึ่งข้อผิดพลาดใดๆ



" ครั้งนี้มีผู้อาวุโสหวัง ฉิ่งไปด้วย ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าเด็กคนนั้นจะสามารถรอดพ้นเงื้อมือของเราไปได้ " ผู้อาวุโสหวัง เส้าฮัวที่ยืนอยู่ใกล้กันนั้น พูดเยาะเย้ย



" นั่นก็ย่อมจะแน่นอนอยู่แล้ว อุตสาห์ส่งผู้อาวุโสหวัง ฉิ่งออกไป ฆ่าลูกไก่ในครั้งนี้ถึงกับต้องใช้มีดฆ่าวัว !! " ผู้นำหวังพูดด้วยสายตาที่เย็นชา " ใครก็ตามที่มันมาขวางทางข้า ไม่สามารถที่จะทำให้ข้าก้าวไปข้างหน้าได้ ข้าจะกำจัดพวกมันทิ้งทั้งหมด รวมไปถึงตระกูลจูด้วย !! "



เมื่อพวกเขากำลังระบายอารมณ์กันอยู่นั้น เสียงอันดังก็กระหึ่มมาจากด้านนอก " ตู้มม !! " เสียงร้องอันโหยหวนดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง นี่ทำให้พวกเขาทั้ง 2 ต่างก็ลุกขึ้นยืนอย่างรีบเร่งในทันที พวกเขาพูดด้วยความสงสัยว่า " ด้านนอกเกิดเรื่องอะไรขึ้น พวกเรารีบไปดูกันเถอะ !! "



จู่ๆผู้นำหวังก็พลันรู้สึกถึงลางร้ายที่ก่อตัวขึ้นมา เขานำผู้อาวุโสใหญ่รีบวิ่งออกสู่ด้านนอก เมื่อพวกเขาออกจากประตู ก็ค้นพบว่าด้านนอกในปัจจุบันนั้น ได้กลายเป็นทะเลเพลิงไปหมดแล้ว ปกคลุมรวมไปถึงท้องฟ้า ปกคลุมตระกูลทั้งตระกูล เสียงร้องอันน่าทุกขเวทนาถูกส่งออกมาอย่างระงมทั่วไปหมดโดยมิได้ขาดสาย



บรรดาลูกเหล่าศิษย์ตระกูลเฟิงเป็นจำนวนมาก ต่างก็วิ่งหนีตายออกสู่ด้านนอกกันอย่างรวดเร็ว พวกเขาพบเห็นใครบางคนที่กำลังชุ่มไปด้วยเปลวเพลิง กลายเป็นขี้เถ้าต่อหน้าต่อตาในทันที มิสามารถที่จะต้านทานความน่าสะพรึงกลัวของเปลวเพลิงที่ไม่มีวันดับนี้เอาไว้ได้



" น..... นี่ นี่มันเกี่ยวกับอะไร ?? " พวกเขาต่างก็จ้องมองตาค้าง สถานที่ตั้งตระกูลหวังของตัวเองพลันต้องมากลับกลายเป็นทะเลเพลิงไปได้ยังไงในบันดล นี่จึงทำให้พวกเขาต่างก็พากันช็อค และที่ยิ่งไปกว่านั้น เปลวเพลิงนี้ยังดูเหมือนมิใช่เปลวเพลิงธรรมดาอีกด้วย แต่มันเป็นเปลวเพลิงอันทรงพลังที่น่าสะพรึงกลัวอย่างขีดสุด



ครู่ต่อมา การ์ดก็วิ่งเข้ามาจากด้านนอกอย่างเร่งรีบ เขาลอบปาดเหงื่อเย็นภายในกายพลางรายงานว่า " เรียนท่านผู้นำตระกูล มีบุคคลที่นำมังกรดำมาล้างผลาญพวกเรา "



" มังกรดำ !? " พวกเขาต่างก็พากันช็อคเป็นครั้งที่ 2 โดยทั่วไปแล้วหากสามารถที่จะครอบครองสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับนี้ได้แล้วละก็ ย่อมจะต้องเป็นกลุ่มอิทธิพลอันยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน พวกเราไปล่วงเกินกลุ่มอิทธิพลใหญ่ขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไรกัน ??



























 

 

 

 

 

รีวิวผู้อ่าน