px

เรื่อง : Crazy Leveling System
ตอนที่ 203 ความรู้สึกที่อ่อนโยน










ภายใต้การนำของยี่ เทียนหยุน พวกเขาก็คืนกลับสู่นิกายหยกสวรรค์อย่างรวดเร็ว สปีดของปีกฟี่นิกซ์นี้ หากจะเทียบกับความเร็วของมังกรดำแล้วละก็ มันก็ไม่ได้ช้ากว่ากันมากนัก แต่อย่างไรก็ตาม สามารถที่จะพูดได้ว่า หากจะให้ปีกฟีนิกซ์ระเบิดพลังที่แท้จริงของมันออกมา ก็จะต้องอยู่ในขั้นเปลี่ยนกายาขึ้นไป



ถึงแม้ว่าในตอนนี้จะสามารถบินได้ แต่ความเร็วของสปีดก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นเลย หากว่าได้ใช้ตอนที่ถึงขั้นเปลี่ยนกายาแล้วละก็ สปีดก็จะเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า !! ความเร็วในการต่อสู้หากถึงเวลานั้นก็จะต้องน่าทึ่งเป็นอย่างมากอย่างแน่นอน



" มาถึงแล้ว "



ยี่ เทียนหยุนก็ได้ปล่อยพวกเธอลง ต่างคนก็ต่างเดินมุ่งหน้าเข้าสู่นิกายหยกสวรรค์ ณ เวลานี้ถึงแม้ว่ามองเผินๆนิกายหยกสวรรค์จะไม่มีอะไรแตกต่างไปจากอดีตที่ผ่านมา แต่ทว่าหากว่ามองไปที่ปริมาณของศิษย์ภายในนิกายแล้วละก็ หากเปรียบเทียบกับเมื่อก่อนแล้ว ตรงกันข้ามกันราวฟ้ากับเหว ดูเหมือนว่าศิษย์ภายในสำนักจะมีปริมาณที่เพิ่มขึ้นแล้วก็เพิ่มขึ้น



" นั่นผู้อาวุโสยี่ ผู้อาวุโสจูนี่..... " บรรดาศิษย์เมื่อเห็นยี่ เทียนหยุนและยี่ ยูร์เวย ต่างก็พากันร้องตะโกน



" ต่อไปพวกเจ้าจะต้องเรียกข้าว่าผู้อาวุโสยูร์นะ หากร้องเรียกว่าผู้อาวุโสยี่ นั่นอาจจะทำให้เกิดการยุ่งเหยิงขึ้นมาได้ " ยี่ ยูร์เวยหัวเราะเบาๆกับตัวเอง จู่ๆเธอก็พูดขึ้นมาแล้วก็กลับหันหลังไป ณ ปัจจุบันเธอใช้แซ่เดียวกับยี่ เทียนหยุน หากว่าเหล่าบรรดาศิษย์ร้องตะโกนเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา มันก็อาจจะทำให้ง่ายต่อการสับสนได้



" ถ้ายังงั้นก็ได้ ผู้อาวุโสยูร์ " บรรดาศิษย์ต่างก็มิได้ซักถามอะไรมากนัก เรียกตามที่เธอบอก



ยี่ เทียนหยุนส่ายหัว นี่คงจะต้องปล่อยให้เป็นไปตามใจของพวกเธอเท่านั้น ก็ตระกูลจูเลือกที่จะละทิ้งพวกเธอ พวกเธอจึงไม่ต้องการที่จะใช้แซ่จูอีกต่อไป เมื่อคิดเรื่องนี้ขึ้นมาทีไรก็รู้สึกอัปยศอดสูในทันที การที่พวกเธอหันมาใช้แซ่เดียวกับตัวเขาเอง มันก็ดูค่อนข้างที่จะลำบากอยู่เหมือนกัน สู้ใช้แซ่ม่วงซะยังดีกว่า



นี่ก็คงต้องปล่อยไปตามใจของพวกเธอ ยี่ เทียนหยุนไม่อยากที่จะไปก้าวก่ายแทรกแซงอะไรมากนัก



เมื่อพวกเขากำลังจะเดินเข้าไป ฉี ซู่หยุนก็เดินออกมาจากด้านใน เมื่อเธอเห็นกลุ่มของยี่ เทียนหยุนก็พลันยิ้มแย้ม " กลับมาแล้วเรอะ ?? "



" กลับมาแล้ว " ยี่ เทียนหยุนแนะนำผู้มาเยือนพร้อมๆกับรอยยิ้ม " นี่คือผู้อาวุโสจู..... ไม่ ไม่ ตอนนี้เธอใช้แซ่เดียวกับข้าแล้ว โดยย่อนี่คือ พี่สาวของยูร์เวย ยี่ ยวีซวน "



" เป็นเกียรติของข้าอย่างยิ่งที่ได้พบกับท่านเจ้านิกาย " ยี่ ยวีซวนยกสายตาขึ้นเล็กน้อย เธอกล่าวแสดงความเคารพต่อฉี ซู่หยุน



" ไม่จำเป็นที่จะเข้มงวดให้มากนักหรอก ที่นี่แสดงความคิดเห็นได้ตามความเหมาะสม " ฉี ซู่หยุนยิ้มให้กับยี่ ยวีซวน และเธอก็หันมาพูดกับยี่ เทียนหยุนว่า " เจ้าคงจะไม่ได้ขอร้องข้าให้โอนอ่อนผ่อนผันตามเจ้าโดยที่ไม่ได้บอกเหตุผลใช่ไหม ?? "



ยี่ เทียนหยุนก็ได้อธิบายไปในทิศทางเดียวกับยี่ ยูร์เวย นี่จึงทำให้ฉี ซู่หยุนเข้าใจถึงที่มาที่ไปขึ้นมา ฉี ซู่หยุนจึงเข้าใจถึงสาเหตุว่าทำไมพวกเธอถึงพากันเปลี่ยนแซ่ แต่มันก็ค่อนข้างที่จะสับสนจริงๆนั่นแหละ แต่พอนึกถึงเหตุผลแล้วก็ย่อมที่จะเข้าใจได้



" เรื่องคร่าวๆก็เป็นแบบนี้ นี่ป้า ข้าวางแผนที่จะทำให้เธอกลายมาเป็นผู้อาวุโสของนิกายหยกสวรรค์เช่นเดียวกับยูร์เวย แต่ข้าก็กลัวว่าจะมีคำวิพากษ์วิจารณ์ตามมา ดังนั้นแล้วข้าจึงคิดที่จะให้เริ่มจากตำแหน่งผู้ดูแลก่อนเป็นลำดับแรก เมื่อได้สร้างชื่อเสียงจนเป็นที่ยอมรับแล้ว ก็ค่อยเลื่อนสถานะขึ้นเป็นผู้อาวุโสอีกครั้งหนึ่ง " แน่นอนว่าการที่ยี่ เทียนหยุนทำเช่นนี้ มิใช่ว่าเธอคือพี่สาวของยี่ ยูร์เวย จึงได้รับการปฏิบัติเช่นนี้



แต่เขารู้ถึงศักยภาพของยี่ ยวีซวนดีว่า มิใช่ว่าเธอจะอ่อนแอซะเมื่อไร แต่ทว่า หากว่าไร้ซึ่งอำนาจซะแล้ว ก็ไม่สามารถที่จะสั่งการให้มือและเท้าช่วยเหลือได้



" ผู้อาวุโสยี่ เรื่องนี้ข้าว่าไม่จำเป็นหรอก ขอเพียงตัวข้าได้ช่วยเหลืองานของน้องสาวข้า นี่ก็ดีถมไปแล้ว ข้ามิได้มาที่นี่ก็เพื่อที่จะต้องการตำแหน่งใดๆ แค่นิกายหยกสวรรค์ให้ที่พักพิงแก่ข้า เท่านี้ตัวข้าก็มีความสุขมากแล้ว " คำพูดเหล่านี้ล้วนกลั่นมาจากใจของยี่ ยวีซวน เธอไม่ต้องการที่จะมุ่งหวังต่อสถานะใดๆของที่นี่ แค่ให้ที่พำนักพักพิงแก่ตัวเธอ เท่านี้ก็ซึ้งใจมากแล้ว อย่างน้อยหากว่าเปรียบเทียบกับตระกูลจูแล้ว นี่ก็ย่อมที่จะดีกว่ามาก



" พูดอะไรไม่เข้าท่าแบบนั้น ตราบใดที่เจ้าเป็นบุคคลที่มีความสามารถ เราก็พร้อมที่จะมอบตำแหน่งที่เหมาะสมให้กับเจ้า " ฉี ซู่หยุนพูดด้วยรอยยิ้มว่า " ถ้าอย่างงั้นอันดับแรกก็ให้เริ่มจากผู้ดูแลไปก่อน ข้าตัดสินใจแล้ว "



" ขอบคุณท่านมากท่านเจ้านิกาย !! " ดวงตาคู่สวยของยี่ ยวีซวนดูเป็นประกายระยิบระยับ โดยธรรมชาติของเธอแล้ว เธอมิได้ที่จะใส่ใจต่อตำแหน่งของผู้ดูแลเลย แต่ก็พูดได้ว่าเธอรู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมาก ก็ในเมื่อได้รับตำแหน่งมาแล้ว เธอก็จะทำหน้าที่ของตัวเธอเองให้ดีที่สุดอย่างแน่นอน !!



หลังจากที่แต่งตั้งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ฉี ซู่หยุนก็ถลึงตาใส่ยี่ เทียนหยุน พ่นลมหายใจพูดออกมาว่า " เจ้านี่ช่างมีฝีมือจริงๆ กลับมาแต่และครั้งก็ต้องนำผู้หญิงกลับมาด้วย แถมยังเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์อีกต่างหาก ดูเหมือนว่าเจ้าชอบที่จะฉุดคร่าผู้หญิงละซินะ ทำไมเมื่อก่อนข้าถึงดูเจ้าไม่ออกนะ ?? "



" เอ่อนี่..... ป้า ท่านพูดอย่างกับข้าเป็นคนเลวอย่างงั้นนะ ข้าจะไปลักพาตัวพวกเธอมาได้อย่างไรกัน " ยี่ เทียนหยุนพูดอย่างฝืนใจ



" เฮ้อ !! " ฉี ซู่หยุนใช้มือเคาะลงไปที่หัวของเขา แย้มยิ้มพูดว่า " กลับมาได้ก็ดีแล้ว ไม่ต้องพูดอะไรอีก เข้าใจไหม แค่เห็นเจ้ากลับมาปลอดภัยดี นี่ก็เพียงพอแล้ว "



ยี่ เทียนหยุนพยักหน้า แล้วเขาก็กล่าวขึ้นมาในทันใดด้วยความชื่นชมยินดีอย่างประหลาดใจว่า " ป้า ท่านยกระดับอย่างนั้นเรอะ ?? "



นี่ระยะเวลายังน้อยกว่าครั้งที่แล้วอีก ไม่คิดเลยว่าฉี ซู่หยุนจะเลื่อนระดับขึ้นสู่ขั้นแก่นวิญญาณได้แล้ว ความเร็วระดับนี้นี่ นี่มันระดับมารร้ายชัดๆเลย !!



" ไม่อย่างนั้นก็ไม่ได้รับการรับรองนะซี หากว่าข้าไม่รีบเลื่อนระดับ มันจะคู่ควรเหมาะสมกับฐานะของเจ้านิกายแห่งนี้อย่างงั้นนะเรอะ ?? " ฉี ซู่หยุนยิ้มนิดๆ



" ท่านไม่ต้องกดดันตัวเองให้มากนักหรอก ทำอย่างกับไม่มีข้าอยู่อย่างงั้นแหละ " ยี่ เทียนหยุนพูด อย่างเป็นกังวล



" ก็เพราะว่ามีเจ้า ข้าถึงต้องการที่จะแข็งแกร่งขึ้นนะซิ มิฉะนั้นแล้ว ข้าจะดูแลทั่วทั้งนิกายหยกสวรรค์ได้อย่างไร ?? " ฉี ซู่หยุนพูดยิ้มแย้ม " หากว่าหวังพึ่งพาแต่เจ้าเพียงลำพัง ทั่งทั้งนิกายหยกสวรรค์จะแข็งแกร่งขึ้นได้อย่างงั้นเรอะ ?? ก็ในเมื่อ ณ ตอนนี้ สถานการณ์ต่างๆมันก็ดีขึ้นมากแล้ว ศิษย์เป็นจำนวนมากต่างก็พากันยกระดับ ข้าคิดว่าพวกเราไม่จำเป็นที่จะต้องรอนาน พวกเราก็จะกลายเป็นกลุ่มอิทธิพลเกรด 2 ที่อยู่ในระดับท๊อป อย่างชัดเจน !! "



ยี่ เทียนหยุนพยักหน้า ทันใดนั้นเหมือนเขานึกอะไรขึ้นได้ เขาก็นำเอาแหวนเก็บของหลายต่อหลายวงออกมาแล้วก็พูดว่า " นี่คือสิ่งที่ข้ายึดมาได้จากภายนอก ป้าท่านรับเอาไปซิ จะได้นำไปจัดสรรแล้วก็แจกจ่าย ข้าไม่เข้าใจสิ่งเหล่านี้ "



เขายกแหวนเก็บของที่แต่เดิมทีเป็นของหลิน หลี่และก็ของที่ปล้นสดมภ์มาได้จากตระกูลหวังทั้งหมดมอบให้กับฉี ซู่หยุน ถึงแม้ว่าสิ่งของบางอย่างจะสามารถนำไปขายคืนกลับมาเป็นแต้มคลั่งได้เป็นจำนวนหลายแต้ม แต่ยี่ เทียนหยุนก็เลือกที่จะมอบให้ฉี ซู่หยุนทั้งหมด เพื่อให้นิกายหยกสวรรค์กลายเป็นกลุ่มอิทธิพลที่ทรงพลังขึ้นมา นี่เป็นเรื่องที่ใหญ่ที่สุดในปัจจุบัน



ฉี ซู่หยุนหลังจากที่รับแหวนมาแล้ว เธอก็มิได้มองดูถึงสิ่งของข้างในเลย แต่กลับจ้องมองยี่ เทียนหยุน ที่อยู่ตรงหน้า



" เป็นอะไร ไม่ดูเรอะว่าของข้างในมีอะไรบ้างนะ?? " ยี่ เทียนหยุนบอกใบ้ฉี ซู่หยุนเป็นนัยๆ ว่าข้างในนั้นมีของดีอยู่มากมาย



" โง่น่า..... " ฉี ซู่หยุนกุมมือเขาเอาไว้อย่างอ่อนโยน เหมือนอย่างที่เด็กๆชอบทำกัน หากจะว่าไปอันที่จริงแล้ว การสร้างสรรของยี่ เทียนหยุนนั้น ใหญ่โตกว่าของตัวเธอมากนัก ฉี ซู่หยุนจึงดูเหมือนเด็กผู้หญิงที่เหนียมอาย หรือผู้ซึ่งถูกจุดประกายความโอนโยนขึ้นมา " นี่เจ้าคงจะเปลืองแรงไปเยอะละซิท่า..... "



" ที่ข้าทำไปทั้งหมด ตราบใดที่ทำเพื่อนิกายหยกสวรรค์ ทำเพื่อป้าแล้วละก็ ข้าก็คิดว่ามันคุ้ม " ยี่ เทียนหยุนดึงฉี ซู่หยุนเข้ามากอดอย่างนิ่มนวล ดวงตาของเขาดูเป็นประกายเจิดจรัส ถึงแม้ว่าภายนอกในปัจจุบัน ตัวเธอจะไม่ใช่เด็กผู้หญิงแล้ว แต่สำหรับเขา สิ่งที่มีค่าสำหรับเขามากที่สุด นั่นก็คือ ฉี ซู่หยุน



" ดูเหมือนว่าเจ้าจะเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแล้วซินะ มิใช่เทียนหยุนคนก่อนที่จะต้องให้ข้าคอยปกป้อง " ฉี ซู่หยุนออกมาจากวงแขนของยี่ เทียนหยุน โชว์ให้เห็นถึงรอยยิ้มจางๆบนใบหน้าของเธอ



" นั่นเป็นสิ่งที่ผิดปกติ ไม่ได้เป็นไปตามหลักธรรมชาติ ข้ายืนยันได้เลยว่าจะให้ท่านได้เป็นประธานขององค์กรที่ใหญ่โต ต่อไปข้านี่แหละที่จะคอยปกป้องตัวท่านเอง " ยี่ เทียนหยุนพูดพร้อมกับรอยยิ้ม



" พวกเขาทั้ง 2 ต่างก็แลกเปลี่ยนทัศนคติกันอย่างเรียบง่าย จากนั้นต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันไปทำภารกิจอันยุ่งเหยิงของตัวเอง ยังมีงานอีกเป็นจำนวนมากที่ต้องทำ ดังนั้นแล้วเวลาที่พวกเขาจะได้อยู่ด้วยกัน จะได้พูดคุยกัน มันช่างมีจำกัดนัก



ก่อนที่ยี่ เทียนหยุนจะเดินมาที่ประตูใหญ่ทางด้านหน้า เขาก็ได้เตรียมตัวมาก่อนหน้านี้แล้ว ที่จะมาซ่อมแซมฟื้นฟูอาเรย์ป้องกันขนาดใหญ่เกรด 5 ชิ้นนี้



" นายท่าน ท่านวางแผนที่จะฟื้นฟูอาเรย์ป้องกันขนาดใหญ่ชิ้นนี้อย่างนั้นนะเรอะ ?? " ณ เวลานี้ผู้เฒ่าซวนถามออกมา



" มีปัญหาอะไรอย่างนั้นหรือ ?? " ยี่ เทียนหยุนพูดยิ้มแย้ม



" นี่..... หากว่าการซ่อมแซมล้มเหลว มันจะก่อให้เกิดปัญหาที่ตามมาโดยง่ายน่า ดังนั้นแล้วข้าเห็นว่า..... "



เมื่อผู้เฒ่าซวนพูดจบ ยี่ เทียนหยุนก็ฟื้นฟูเสร็จทันที หลังจากที่เขารอคอยที่จะซ่อมแซมมันอย่างสมบูรณ์ วันนี้ก็มาถึง เขายกหัวขึ้นมาแล้วก้พูดว่า " หากซ่อมแซมแล้วล้มเหลว มันจะง่ายต่อการเกิดปัญหา มันจะมีปัญหาอะไรอย่างนั้นนะเรอะ ?? "



" ...... "



ผู้เฒ่าซวนกลายเป็นพูดไม่ออก ไปไม่เป็น นี่มันเกินกว่าประสบการณ์ของเขาที่จะสามารถจินตนาการได้





















 

 

 


 

รีวิวผู้อ่าน