px

เรื่อง : Crazy Leveling System
ตอนที่ 204 คฤหาสน์ยอดสวรรค์










หลังจากที่ยี่ เทียนหยุนซ่อมแซมอาเรย์ป้องกันขนาดใหญ่เกรด 5 เรียบร้อยแล้ว ทั่วทั้งซากปรักหักพังโบราณสถานสวรรค์ก็มีการปรับปรุงขนานใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประตูหน้าที่มีอาเรย์ป้องกันขนาดใหญ่ ความแข็งแกร่งของมันก็กลับมาสมบูรณ์แบบแล้ว



" นี่มันยอดเยี่ยมมาก ไม่คิดเลยว่าหลังจากที่ซ่อมแซมแล้ว คงจะมีก็แต่เพียงผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในขั้นเปลี่ยนกายาเพียงเท่านั้น หากมิฉะนั้นแล้วก็มิอาจที่จะทำลาย...... "



ผลที่ได้นี้ทำให้ยี่ เทียนหยุนถึงกับช็อค แม้แต่ผู้ที่อยู่ในขั้นเปลี่ยนกายาก็มิอาจที่จะทะลวงผ่านเข้ามาได้ อย่างน้อยๆก็จะต้องโจมตีอยู่หลายปี นี่ถือว่าเป็นเรื่องที่เลวร้ายมากสำหรับผู้บุกรุก หากคิดที่จะทำลายการป้องกันแห่งนี้ อย่างน้อยก็จะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในขั้นเปลี่ยนกายา และที่ยิ่งไปกว่านั้นยังต้องอาศัยระยะเวลาที่ยาวนานอีกต่างหาก จึงจะสามารถทะลวงอาเรย์ป้องกันขนาดใหญ่ของที่นี่ได้



ช่างสมกับที่เป็นอาเรย์ขนาดใหญ่ที่ซวน เทียน (ความลับสวรรค์) ขั้นกษัตริย์ได้เชื้อเชิญปรมาจารญ์อักษรรูนมาสร้างทิ้งไว้ซะจริงๆ หากว่าตัวอาเรย์ได้ถูกซ่อมแซมตั้งแต่แรกแล้วละก็ ต่อให้เป็นผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในขั้นเปลี่ยนกายาก็เถอะ ก็คงไม่สามารถที่จะทำลายป้อมปราการแห่งนี้ลงได้ !!



" ในที่สุดก็สามารถที่จะซ่อมแซมอาเรย์ป้องกันขนาดใหญ่นี้ได้ แม้กระทั่งตัวข้าเอง ก็จะต้องใช้ระยะเวลานานในการโจมตี แถมความเสียหายที่เกิดขึ้นมันก็มิได้มากมายอะไรด้วย ทีนี้พวกเราก็จะได้อาศัยอยู่รวมกัน ณ ที่แห่งนี้ ได้อย่างมีความสุข " ยี่ เทียนหยุนพยักหน้า เมื่อเป็นเช่นนี้ตัวเขาก็รู้สึกวางใจ



ใกล้กันนั่น ผู้เฒ่าซวนก็กลายเป็นมองดูอย่างโง่งม ณ ตอนนี้ อาเรย์ป้องกันขนาดใหญ่ทั่งทั้งซากปรักหักพังโบราณสถานสวรรค์ก็ได้ถูกซ่อมแซมฟื้นฟูขึ้นทั้งหมดแล้ว ความแตกต่างของมันก็อยู่ที่มา ณ ขณะนี้นอกจากมันจะสามารถป้องกันตัวเองได้แล้ว มันก็ยังสามารถที่จะบินได้อีกด้วย นี่ดูราวกับว่าปรมาจารย์อักษรรูนศักดิ์สิทธิ์มาเองเลย ในตอนนี้สถานที่แห่งนี้หาใช่ซากปรักหักพังโบราณสถานสวรรค์อีกต่อไปแล้ว แต่มันคือ ตำหนักโบราณสถานสวรรค์ !!



" นายท่าน นี่ท่านสามารถที่จะซ่อมแซมอาเรย์ขนาดใหญ่เหล่านี้ได้จริงๆหรือนี่ ทำไมเมื่อก่อนไม่เห็นท่านทำได้เลย " ถึงแม้ว่าผู้เฒ่าซวนจะถูกสร้างขึ้นมา แต่เขาก็มีความคิด มันเป็นบันทึกความทรงจำเล็กๆที่เขามี อายุของยี่ เทียนหยุนเพียงเท่านี้แต่สามารถที่จะฟื้นฟูอาเรย์ขนาดใหญ่เหล่านี้ได้ แน่นอนว่านี่เป็นพฤติกรรมที่เหลือเชื่อเป็นอย่างมาก



นายท่านคนก่อนไม่มีความสามารถทางด้านนี้ ตัวเขาไม่ได้มีพรสวรรค์ทางด้านการจารอักขระอักษรรูนมากนัก จึงได้ขอร้องปรามาจารย์อักษรรูนมาทำการติดตั้งอาเรย์ขึ้นที่นี่



" นี่ก็ไม่มีอะไรมากหรอก ข้าก็แค่เพียงฝึกฝนออกกำลังกายยืดเส้นยืดสายเล็กน้อย ก็ประสบความสำเร็จแล้ว " ยี่ เทียนหยุนพูดไปยิ้มไป



" !!! "



" อ้อ อย่างงั้นเองเรอะ..... "



ผู้เฒ่าซวนไม่มีอะไรที่จะไปต่อ เขากลายเป็นไร้ซึ่งคำพูดในทันที ได้แต่คิดว่า นี่มันช่างเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อซะจริงๆ



หลังจากที่ฟื้นฟูอาเรย์ขนาดใหญ่เรียบร้อยแล้ว ยี่ เทียนหยุนยังคงพำนักอยู่ภายในนิกายตำหนักหยกสวรรค์เป็นเวลาอีกหลายวัน นั่นทำให้เขาค้นพบว่า ที่นี่นั้นมีการบริหารจัดการที่ดี บรรดาศิษย์ทั้งหลายต่างก็พากันก้าวหน้ากันอย่างรวดเร็ว ขั้นปรับแต่งวิญญาณมีเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็วเป็นจำนวนมาก หรือแม้กระทั่งศิษย์ที่อยู่ในขั้นแก่นการควบแน่น ก็มีอยู่มากกว่าแต่ก่อน



อัตราการเจริญเติบโตของพวกเขาทั้งหมดก็จัดว่าอยู่ในเกณฑ์ดี หากยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ก็คงจะพัฒนาขึ้นเป็นกลุ่มอิทธิพลเกรด 2 ระดับท๊อป



แต่มันก็ยังแตกต่างเหลื่อมล้ำกับกลุ่มอิทธิพลเกรด 3 อยู่อีกไกล ผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในขั้นแก่นวิญญาณยังต้องการอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งปัจจุบันภายในนิกายก็มีเพียงแค่ 2 คนเท่านั้น นอกจากยี่ เทียนหยุนแล้วก็มีฉี ซู่หยุน



" ดูเหมือนว่าที่นี่จะไม่มีอะไรให้น่าเป็นห่วงอีกต่อไปแล้ว ภายใต้การบริหารจัดการของพวกเขา ที่นี่จึงไม่มีปัญหาอะไรอีกต่อไป " ยี่ เทียนหยุนย่อมมิใช่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้ ดังนั้นแล้ว ตัวเขาจึงทำได้แต่เพียง เป็นกำลังใจอยู่ข้างๆก็เท่านั้นเอง



ขณะที่ยี่ เทียนหยุนกำลังเดินสำรวจอยู่นั้น ก็เผอิญโชคดี เข้าไปเห็นห้องเรียนที่ จิ่ว หลิงหยุนกำลังนั่งวาดอักขระอักษรรูนอยู่ด้านบน ปากก็พร่ำสอนนักเรียนที่อยู่ต่อหน้าว่า " การจะวาดอักขระอักษรรูนศักดิ์สิทธิ์ใดๆก็แล้วแต่ จำเป็นที่จะต้องใช้ความอดทน จำเป็นที่จะต้องตระหนักถึงพลังวิญญาณ..... "



เธออบรมสั่งสอนศิษย์ผู้มาใหม่ทีละคนๆ จะสอนสั่งยังไงให้แต่ละคนข้ามไปถึงฝั่งได้ ณ ปัจจุบันนี้จิ่ว หลิงหยุนเป็นผู้เดียวที่มีบทบาทหน้าที่รับผิดชอบในงานสำคัญๆ เธอประสบความสำเร็จในการเลื่อนขึ้นสู่นักอักษรรูนเกรด 2 โดยศิษย์แต่ละคนจะต้องผ่านการคัดสรรจากตัวเธอ ตามความแข็งแกร่งของแต่ละบุคคล ซึ่งปริมาณที่ออกมาก็ค่อนข้างที่จะสอดคล้องกันในแต่ละสาขาวิชา บางคนก็เป็นช่างตีเหล็กบ้าง บ้างก็เอาดีทางด้านการวาดอักขระอักษรรูนศักดิ์สิทธิ์



ยี่ เทียนหยุนมองดูแล้วก็พยักหน้า มิได้เข้าไปรบกวนพวกเขา ห้องการเรียนการสอนอื่นๆก็เป็นดังนี้ เช่นเดียวกัน ล้วนมุ่งฝึกฝนบรรดาศิษย์ไปในทางที่คล้ายกัน พวกเขาต่างก็มุ่งมั่นพัฒนาไปข้างหน้ากันอย่างเต็มที่



" คงจะถึงเวลาแล้วที่ข้าจะต้องจากไป..... "



ยี่ เทียนหยุนจะต้องไปที่คฤหาสน์ยอดสวรรค์แล้วในตอนนี้ ตามแผนกำหนดการเดิม เขาอยู่ดูสถานการณ์ของที่นี่เป็นระยะเวลานานแล้ว และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเชื้อเชิญของหัวหน้าหอแห่งดวงดาว ณ งานเลี้ยงรับรองที่จัดขึ้นในตอนหัวค่ำที่คัดสรรเชิญแต่บรรดาแขกผู้มีเกียรติ เวลาที่ใกล้เข้ามาทำให้เขารู้สึกกระวนกระวาย ทุกข์ร้อนใจเป็นกังวล



หลังจากที่บอกอำลาฉี ซู่หยุนแล้ว ยี่ เทียนหยุนก็ใช้ปีกฟีนิกซ์ บินออกจากที่นี่อย่างรวดเร็ว ทิศทางนั้นมุ่งหน้าสู่คฤหาสน์ยอดสวรรค์



โดยที่ตั้งของคฤหาสน์ยอดสวรรค์ก็มิได้อยู่ไกลมากนัก ภายใต้การสอบถามเพียงเล็กน้อย หลังจากนั้นก็บินตรงไปอย่างรวดเร็ว



หลังจากที่เดินทางอย่างเร่งรีบเป็นระยะเวลาเกือบ 2 วัน ในที่สุดเขาก็มาถึงยังตำหนักใหญ่ของคฤหาสน์ยอดสวรรค์



" ในที่สุดก็มาถึงคฤหาสน์ยอดสวรรค์ซักที..... " เขามองดูสิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ ณ ที่แห่งนี้ พลันพยักหน้า



เรื่องราวประวัติความเป็นมาของคฤหาสน์ยอดสวรรค์นั้นนับได้ว่าเยี่ยมยอดมาก ลำพังเพียงแค่ออร่าของประตูหน้านี่ก็ดูน่าเกรงขามเป็นอย่างมากแล้ว จะดีหรือร้ายยังไง พวกเขาก็ยังคงเป็นกลุ่มอิทธิพลเกรด 3 ทำไมพวกเขาถึงไม่มีใครยอมรับนะเรอะ ได้ยินมาว่าทรัพยากรภายในของพวกเขากลายเป็นว่างเปล่า นี่จึงทำให้ศิษย์ไม่สามารถจะยกระดับขึ้นมาได้ จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมความนิยมของพวกเขาถึงได้ตกต่ำลดลง



หากยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป เกรงว่านอกเหนือจากก้อนสำลีหรือปุยนุ่นแล้ว คงจะมิอาจเอาชนะใครได้อีก ภายในนั้นเกรงว่าจะกลวง



" ผู้มาเยือน เจ้าเป็นใคร !! "



ยี่ เทียนหยุนต้องการที่จะเข้าไป แต่ศิษย์นอกต่างก็กรูกันเข้ามา ขวางทางของเขาเอาไว้ในทันที มิให้เขาเข้ามา



" ข้ามาหามิสเหอ เชียนหาน " ยี่ เทียนหยุนบอกกล่าว



" มีป้ายแนะนำตัวมาด้วยหรือเปล่า ?? " เหล่าศิษย์ต่างก็สอบถาม



" มี " ยี่ เทียนหยุนนำป้ายสัญลักษณ์ออกมา เมื่อฝั่งตรงข้ามเห็นดังนั้น จึงพลันพยักหน้า



" อืม ถ้าอย่างงั้นเจ้าก็เข้ามาได้ ไปที่หน่วยลงทะเบียนของตำหนักอักษรรูนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์ หลังจากที่เดินเข้าไปถึงทางแยก ก็ให้เลี้ยวซ้ายแล้วเจ้าก็จะเห็นเอง " เหล่าศิษย์นอกก็ต่างพากันอนุญาตให้ยี่ เทียนหยุนผ่านเข้าไปได้ในทันที



เมื่อเขาเดินเข้ามา เหล่าบรรดาศิษย์นอกต่างก็ส่ายหัว " นี่ผู้ดูแลเหอแนะนำคนใหม่เข้ามาอีกอย่างงั้นเรอะ ?? ครั้งนี้ไม่รู้ว่าจะดีหรือจะร้ายยังไง หากว่าเป็นเหมือนครั้งก่อน นี่ก็นับว่าเป็นโชคร้ายซะจริงๆ..... "



" เอาน่า ยังไงๆผู้ดูแลเหอก็หวังดีกับคฤหาสน์ยอดสวรรค์ แต่ก็กลัวว่าเธอจะแนะนำพวกขยะเข้ามานะซิ..... "



ในขณะที่พวกเขากำลังพูดคุยกันอยู่นั้น หูของยี่ เทียนหยุนพลันก็กระดิก ถ้าอย่างงั้นก็แสดงว่าบรรดาคนนอกหลายต่อหลายคนที่เหอ เชียนหานแนะนำมา ต่างก็ไม่ดีพออย่างงั้นเรอะ ??



หลังจากที่เดินผ่านไปตามช่องทางเดิน ยี่ เทียนหยุนก็เข้าสู่ตำหนักภายใน เพิ่งจะเข้ามาก็พบว่า ที่นี่มีศิษย์เดินเข้าออกอยู่ไปมา โดยยี่ เทียนหยุนสังเกตว่า ผู้ที่เดินออกไปนั้น พลังของแต่ละคนล้วนไม่ต่ำกว่าขั้นปรับแต่งวิญญาณระดับที่ 6 เลย นี่ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีของระดับมาตรฐานสากล



เมื่อเหล่าศิษย์พบเห็นยี่ เทียนหยุน พวกเขาก็ได้แต่เพียงชำเลืองมองเพียงเล็กน้อยเท่านั้น มิได้ให้ความสนใจต่อตัวของยี่ เทียนหยุนไม่ แต่ฝ่ายของยี่ เทียนหยุนเองก็มิได้เต็มใจที่จะให้ความสนใจต่อพวกเขาเช่นเดียวกัน หากมองจากระยะไกลก็สามารถที่จะพูดได้ว่าตำหนักอักษรรูนศักดิ์สิทธิ์สวรรค์ มีศิษย์ผ่านเข้าออกเป็นจำนวนมาก



หลังจากที่ยี่ เทียนหยุนเข้ามา ภายในตำหนักอักษรรูนศักดิ์สิทธิ์สวรรค์ก็มีเหล่าศิษย์อยู่เป็นจำนวนมาก พวกเขาต่างก็เข้ามารับภารกิจ จริงๆแล้วที่นี่ก็คือ ห้องโถงใหญ่สำหรับรับทำภารกิจ และถ้าหากว่ารับทำภารกิจพิเศษ ก็จะได้รับแต้มเป็นคะแนนจากภารกิจ ระดับความยากของภารกิจก็จะสูงกว่าปกติอยู่ 1 ระดับ รวมไปถึงรางวัลที่ได้ก็แน่นอนว่า ย่อมจะต้องสูงกว่า แน่นอนว่าคฤหาสน์ยอดสวรรค์จะไม่อุ้มชูเหล่าบรรดาศิษย์ที่เอาแต่กินกับนอน



ในทุกๆเดือนก็อาจจำเป็นที่จะต้องเข้ารับทำภารกิจบ้าง หากว่าไม่ถึงเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้ ก็อาจที่จะถูกลงโทษได้ นี่เป็นวัฏจักรของเส้นทางที่จะนำไปสู่การพัฒนา



แต่ว่ายี่ เทียนหยุนไม่ได้มาเพื่อจะรับเควส แต่เขามาตามหาคน เขากวาดสายตาตรงไปยังด้านหน้า ก็พบเห็นสถานที่ลงทะเบียน เขาจึงได้ถือป้ายเดินไป ณ ที่แห่งนั้น เมื่อมาถึงก็เกิดอาการช็อคในทันที นั่นก็เพราะว่าผู้หญิงที่เขาเห็นมิใช่ใครอื่น แต่ว่าเป็นผู้หญิงเมื่อครั้งนั้น หยาง ซิซูคนที่เมื่อก่อนเขาเคยช่วยชีวิตของเธอเอาไว้ ซึ่งก็นับได้ว่าเธอเป็นผู้หญิงที่มีจิตวิญญาณกล้าแข็งคนหนึ่ง



แต่ทว่าอย่างไรก็ตามที ยี่ เทียนหยุนก็ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว มอบป้ายแนะนำตัวแสดงต่อหยาง ซิซู



" นี่คือป้ายแนะนำตัวที่ผู้ดูแลเหอได้มอบให้กับข้าเอาไว้ ข้ามาที่นี่ก็เพื่อถามหาเธอ " ยี่ เทียนหยุนมอบป้ายให้กับหยาง ซิซู



" ผู้ดูแลเหอแนะนำมาอย่างงั้นเรอะ ?? " หยาง ซิซูเงยหน้าของเธอขึ้นมองดู เพราะตั้งแต่ทีแรกเธอเองก็มิได้ตั้งใจดู แต่เมื่อพิจารณามองดู เธอก็พูดขึ้นว่าด้วยความทึ่งว่า " ยังดูเด็กอยู่เลยนี่ ?? "



" มีปัญหาอะไรอย่างนั้นหรือ ?? " ยี่ เทียนหยุนร้องถาม



" จริงๆแล้วก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรหรอก ข้าคิดว่าเจ้ายังดูเด็กอยู่เลย แล้วผู้ดูแลเหอใยถึงได้แนะนำเจ้ามา..... " เธอพูดขึ้นมาในขณะที่กำลังยืนขึ้น เสียงที่ออกมาจึงดูเล็กๆอย่างน่าสงสาร แต่ยี่ เทียนหยุนก็ยังได้ยิน " มาซิ ข้าจะนำท่านไปทำการทดสอบเอง "



" ทดสอบอะไร ?? " ยี่ เทียนหยุนรู้สึกประหลาดใจ ตัวเองนั้นมาถามหาคน ไหนเลยจะมาทดสอบ



ณ ตอนนี้ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้ว ที่บุคคลเหล่านี้ปฏิบัติต่อเขาราวกับบุคคลที่จะมาเข้ารับการทดสอบ หากว่าผ่านการทดสอบก็จะกลายเป็นศิษย์ของคฤหาสน์ยอดสวรรค์ !! นี่ช่างเป็นเรื่องที่น่าตำหนิซะจริงๆ ฐานพลังของตัวเองหากว่าจะกลายเป็นผู้อาวุโสโดยตรง ก็ย่อมไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ไหนเลยจะต้องมาเข้ารับการตรวจสอบ






















 


 

รีวิวผู้อ่าน