px

เรื่อง : เกมสังหารวันอวสานโลก 末世虐杀游戏最新章节
ตอนที่ 11 ตกตะลึง


ตอนที่11 ตกตะลึง


หลี่ต้าเปิดตู้ท้ายรถของรถขนเงิน ทันทีที่ประตูเปิด ก็มีเงาสีดำพุ่งเข้ามาพร้อมกับกลิ่นคาวเลือด

“โฮกก!”

พลังของหลี่ต้าสูงกว่าซอมบี้เท่าหนึ่ง ของแบบนี้ไม่จำเป็นต้องหลบ ไม่ทันรอให้ซอมบี้คำรามและพุ่งออกมาจากตู้รถ ก็ถูกเขาหนีบคอ

 

“ปังง!”


หัวของซอมบี้พนักงานขนเงินไปกองกับพื้นอย่างแนบชิด หมวกเหล็กใบนั้นก็ไม่สามารถเปลี่ยนชะตากรรมของเขาได้ หลี่ต้าที่พลังเป็นสามเท่าของคนธรรมดาทำให้หมวกเหล็กบนหัวของซอมบี้ยุบบี้แบน

เมื่อเห็นว่าภายในรถขนเงินไม่มีซอมบี้แล้ว หลี่ต้าก็เข้าไป กล่องเงินสีแดงสองสามกล่องถูกเขาโยนทิ้งราวกับขยะ

เมื่อมองดูธนบัตรที่กระจัดกระจาย ลิ้นของเฉินฉู่ก็พันกันไปหมด :“ระ..ระ..รุ่นพี่ เงินพวกนี้พี่ไม่ต้องการเลยเหรอ! นี่มันเกือบสิบล้านเลยนะ!”

กล่องเงินสดแบบนี้ อันหนึ่งก็หนักกว่าร้อยกิโล บรรจุเงิน3ล้าน6 เห็นหลี่ต้าโยนมันทิ้งราวกับขยะ เขาก็อดไม่ได้ที่จะปวดใจ

 

“เงิน? จะเอาของพวกนี้ไปทำอะไร”


เฉินฉู่เบะปากอย่างเห็นได้ชัดว่าเขาไม่เชื่อ เขาโกยเงินยัดใส่ในช่องกระเป๋าทุกช่อง ถ้าไม่ใช่เพราะพลังที่มีมันน้อยนิด เขาแทบอยากจะแบกกล่องเงินทั้งหมดไปด้วย

“รุ่นพี่ ใช้โอกาสตอนนี้ที่ไม่มีใครสนใจเรา เอาเงินไปได้แค่ไหนก็แค่นั้น พี่เช่าห้องพักอยู่ ดูแล้วฐานะก็คงไม่ได้ดีมาก ตอนนี้เอาเงินสิบล้านนี้ไว้ รอจนพวกทหารช่วยเราออกไปได้ พี่ก็ไปซื้อบ้านในตัวเมืองได้”

หลี่ต้าหัวเราะแล้วส่ายหัว ไม่ได้อธิบายอะไรต่อ กองทหารจะสามารถกำจัดร่างติดเชื้อได้? เห็นชัดๆว่าเป็นไปไม่ได้ ไวรัสแสงสีดำน่ากลัวยิ่งกว่าเกม มันแพร่กระจายไปทั่วโลกและไม่มีทีท่าว่าจะหยุดวิวัฒนาการ ซอมบี้ระดับ 0 มีพลังมากกว่าคนธรรมดาเป็นสองเท่า ระดับการกลายพันธุ์ของผู้ติดเชื้อที่แข็งแกร่งขนาดนี้แทบไม่อยากจะจินตนาการ

 

“ขึ้นรถ!”


หลี่ต้าเปิดประตูฝั่งคนขับและเข้าไป เฉินฉู่ตามไปด้านหลัง นั่งเป็นผู้ช่วยอยู่ข้างๆ


หลี่ต้าสตาร์ทรถ เข้าเกียร์ เหยียบคันเร่งอย่างคล่องแคล่ว และรถขนเงินก็เริ่มออกตัวอย่างช้าๆ

ซอมบี้ตัวหนึ่งกำลังหาอาหารบนถนนเงยหน้าขึ้นมา ไม่ทันรอให้มันส่งเสียง รถขนเงินก็เหมือนวัวบ้าชนเข้าที่ตัวมันอย่างแรง ร่างมันกระเด็นไปห้าเมตร เกิดเสียงตึ้งบนพื้น เลือดสาดเต็มถนน

“โฮกก!”

เสียงการชนที่รุนแรงทำให้ซอมบี้ที่เร่ร่อนอยู่บริเวณรถจากเดิมที่สายตาเหม่อลอยกลับมีอาการคึกขึ้นมาเหมือนเลือดสูบฉีด พวกมันรวมตัวมาจากทั่วทุกทิศ ไม่กี่ตัวแรกมาถึงด้านหน้าของรถขนเงิน พยายามทุบตีกระจกหน้าต่างรถอย่างสุดกำลัง เฉินฉู่สามารถมองเห็นเขี้ยวกระหายเลือดที่คมชัด รวมถึงดวงตาที่ดุร้ายและบ้าคลั่งได้อย่างชัดเจน

 

“นั่งดีๆ!”


หลี่ต้าตะโกน และหมุนพวงมาลัยอย่างแรง ตัวรถขนเงินคันใหญ่เกิดจังหวะไถลของล้อหลังดังเอี๊ยด ล้อรถถูกับพื้นถนนที่ขรุขระจนเกิดประกายไฟ รถคันใหญ่หมุนติ้ว ซอมบี้หลายตัวกระแทกกับรถจนลอยกระเด็น มีบางตัวที่โชคร้ายถึงขนาดติดอยู่ใต้ท้องรถ พอล้อรถหมุนก็ได้ยินถึงเสียงกระดูกที่แตกหักอยู่ใต้วงล้อ

เฉินฉู่ไม่ทันระวัง เกือบจะชนกระจกด้านหน้ารถ จึงรีบคาดเข็มขัดนิรภัย
 

“ตึงง!”
 

ซอมบี้สองตัวพยายามจะกระโจนใส่กระจกหน้ารถและถูกกระแทกลงบนพื้นโดยหน้ารถขนเงิน ตามด้วยการบดขยี้ของล้อรถขนเงิน จากนั้นก็ได้ยินเสียงกระดูกที่แตกอยู่ภายใต้ล้อรถ


เฉินฉู่ฟังจนปวดหัว รู้สึกขนลุกขนพองไปหมด เขาแอบมองหลี่ต้า เห็นเพียงท่าทางที่นิ่งเฉย ราวกับว่ามันไม่ใช่กระดูก แต่เป็นกองไม้

โครงสร้างของรถขนเงินเป็นแบบกันกระสุน เนื่องจากผลิตมาจากวัสดุพิเศษ สำหรับพวกรถที่ขวางอยู่บนถนน ทันทีที่เครื่องยนต์ส่งเสียง ตัวรถที่ห่อหุ้มด้วยแรงม้ามหาศาลก็พุ่งชนเข้าไปเต็มแรงตลอดทาง พอเผชิญหน้ากับซอมบี้ที่มาขวางทาง ความแรงก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น หลังจากรถผ่านไปมีเพียงร่องรอยของเลือดและเนื้อเละๆเหลืออยู่บนพื้น


 

หลี่ต้าเปิดที่ปัดน้ำฝน ชะล้างเลือดและเศษเนื้อที่บดบังกระจกออก และเอื้อมมือไปเปิดเพลงบนรถ


เฉินฉู่ที่อยู่ด้านข้างมุมปากกระตุก เมื่อก่อนคำว่า“ใจกล้า”สำหรับเขายังไม่รู้จักดีนัก แต่วันนี้เขาได้รู้ซึ้งแล้ว ในเมืองที่แสนจะอันตราย มันเต็มไปด้วยฝูงซอมบี้ ผู้คนต่างระมัดระวัง เดินอย่างหลบๆซ่อนๆ เพราะกลัวจะทำให้เกิดเสียงดังจนกลายเป็นจุดสนใจของซอมบี้ แต่คนคนนี้มันไม่ใช่  เขาขับรถพุ่งชนซอมบี้โดยไม่รู้สึกรู้สาอะไร ทั้งยังนั่งฟังเพลงอย่างสบายใจ



“เอ่อ รุ่นพี่”หลังจากผ่านการต่อสู้ทางความคิดอันดุเดือด เฉินฉู่ก็รู้สึกว่าตัวเองควรเตือนรุ่นพี่ใจกล้าคนนี้สักหน่อย “เสียงเพลงมันจะทำให้เสียสมาธิ สภาพถนนแย่ ซอมบี้ก็เยอะแยะไปหมด พี่ควรจดจ่อกับการขับรถจะดีกว่า”

หลี่ต้าหัวเราะ“เฉินฉู่เอ้ย! นายรู้ไหมว่าอะไรสำคัญที่สุดในวันสิ้นโลก”
“เอ่อ”เฉินฉู่ไม่เข้าใจที่หลี่ต้าถามว่ามันหมายความว่าอะไร เขาคิดอยู่ครู่หนึ่ง “น้ำดื่ม? อาหาร? ยา?”
“nonono

 


หลี่ต้ามือหนึ่งจับพวงมาลับ อีกมือหนึ่งส่ายนิ้วชี้ไปมา “ดูเหมือนว่านายจะไม่เคยเล่นเกมเอาชีวิตรอดอะไรพวกนี้ โดยทั่วไปมีปัจจัยหลักห้าประการ คือ อาหาร น้ำ สุขภาพ การนอนหลับ และที่สำคัญที่สุดคืออารมณ์ การฟังเพลงเป็นการผ่อนคลายที่ดีที่สุด แต่เกรงว่าต่อไป โอกาสที่จะหาความสบายใจเช่นนี้ได้คงน้อยลง”

เมื่อเห็นหลี่ต้า
ถอนหายใจพร้อมคร่ำครวญ เฉินฉู่ยิ่งไม่เข้าใจเข้าไปใหญ่ ซอมบี้นั้นน่ากลัว แต่จะเทียบเท่าเครื่องบินหรือรถถังเหรอ? เป็นเพราะเขาเชื่อมั่นในความแข็งแกร่งของกองทหาร เขาถึงได้เก็บเงินมาเป็นจำนวนมากไว้ในกระเป๋าเป้

การขับรถเปิดทางของหลี่ต้า ไม่เพียงเป็นจุดสนใจของซอมบี้ แม้แต่ยังมีผู้รอดชีวิตจำนวนมากที่ติดอยู่ในบ้านก็ยังเกิดความตื่นตระหนก มีหลายคนเปิดหน้าต่างและออกมามองตรงระเบียง

“ช่วยฉันด้วย! ช่วยฉันด้วย!”

ชายหนุ่มคนหนึ่งมือถือราวไม้ไผ่โบกไปมา ด้านบนของราวไม้ไผ่ผูกด้วยผ้าปูเตียงสีแดงสด ตะโกนไม่หยุดอยู่ตรงระเบียง

“ข้างล่างๆ! คุณหยุดก่อนและพาพวกเราไปที่เขตทหารชานเมืองที ผมให้คุณห้าแสน!”

 

ชายวัยกลางคนในชุดสูทที่หน้าท้องใหญ่ ยืนอยู่หน้าหน้าต่างชั้นสองของโรงอาบน้ำและโบกธนบัตรในมือของเขา


มีบางคนที่หัวรุนแรง ไม่รู้ไปเอาโทรโข่งมากจากไหน ตะโกนขอความช่วยเหลือเสียงดังใส่หลี่ต้า จนคนอื่นสงสัยว่าพวกเขาจะขอความช่วยเหลือหรือจะเรียกซอมบี้มากันแน่ เสียงที่ดังขนาดนั้น ดึงดูดซอมบี้บนถนนสองข้างทางล้อมรอบเข้ามา

เมื่อเห็นว่าผู้รอดชีวิตตะโกนอย่างเอาจริงเอาจัง หลี่ต้าก็ทำเป็น
เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ แต่ในใจของเฉินฉู่ก็มีความละอายใจอยู่ลึกๆ

“รุ่นพี่ คนพวกนี้ต้องการความช่วยเหลือ หรือว่าพวกเราจะ......”

เฉินฉู่พูดอย่างลำบากใจ

“หุบปาก!”

หลี่ต้าอารมณ์เสียมากๆ แผนเดิมที่วางไว้ถูกทำลายโดยคนกลุ่มนี้อย่างสมบูรณ์ ซอมบี้หลายร้อยตัวล้อมเข้ามาในทุกทิศทุกทาง ทางเข้าทั้งหมดเต็มไปด้วยหัวคนดำทะมึน ถ้าหลี่ต้าเป็นโรคหวาดกลัว ในเวลานี้เขาคงจะตกใจอยู่บนที่นั่ง

หลี่ต้ารีบเข้าเกียร์อย่างรวดเร็ว เหยียบคันเร่งสุดเท้า มาตรวัดความเร็วของรถหมุนเร็วมากจนความเร็วถึงขีดจำกัด เครื่องยนต์ส่งเสียงอย่างดุเดือด

 

“พี่บ้าไปแล้วเหรอ!”


เฉินฉู่แค่เหลือบไปมอง ก็ตกใจจนวิญญาณแทบหลุดจากร่าง พระเจ้า นี่คือย่านที่อยู่อาศัยแคบๆ ถนนก็ไม่ได้กว้างขวาง รวมทั้งรถที่จอดข้างถนนอีก เขาขับเร็วมากจนใช้จังหวะการเลี้ยวรถในไม่กี่วินาที
 

“อย่าพูดมาก นายนั่งนิ่งๆก็พอ”

หลี่ต้าพูดเบาๆ ตัวรถขนเงินขนาดใหญ่ราวกับวัวที่วิ่งเพ่นพ่านอย่างบ้าคลั่ง

ความเร็วเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนทิวทัศน์สองข้างทางเบลอไปหมด เมื่อเฉินฉู่เห็นว่าไม่สามารถหยุดคนบ้านี้ได้ จึงทำได้เพียงหลับตาปี๋และภาวนาไม่ให้ตัวเองต้องตายอย่างอนาถ

รถตู้ขนส่งที่จอดอยู่ถูกชนอย่างรุนแรงจนลอยจากพื้น ด้านหน้าของรถขนเงินได้เปลี่ยนรูปไปนิดหน่อย ล้อรถเป๋ไปอีกทาง แต่สำหรับการควบคุมพวงมาลัยของหลี่ต้าดูเหมือนจะมาถึงระดับสุดยอดแล้ว รถขนเงินวิ่งตรงไปตามถนนโดยไม่เปลี่ยนทิศทางแม้แต่น้อย

 

ใครก็ตามที่คุ้นเคยกับรถจะรู้ว่า เมื่อพวงมาลัยรถเอียงด้วยความเร็วสูงทิศทางก็จะเอนเอียง แต่รถขนเงินภายในการควบคุมของหลี่ต้านี้ราวกับเป็นหนึ่งเดียวกับเขา เกาะถนนอย่างดีไม่มีกินเลน


ด้านข้างของเฉินฉู่มองเห็นแล้วตกตะลึง มุมมองความคิดของเขาไม่รู้ว่าถูกชายตรงหน้ารีเฟรชข้อจำกัดไปแล้วกี่ครั้ง หรือว่าตำรวจสมัยนี้พลังไม่สิ้นสุด การฆ่าซอมบี้ที่ราวกับหั่นผัก เทคนิคการขับรถก็ยอดเยี่ยม

ไม่ว่าเฉินฉู่จะคิดฟุ้งซ่านอะไรอยู่ หลี่ต้าก็ยังคงจดจ่ออยู่กับพวงมาลัย  เครื่องยนต์ของรถขนเงินส่งเสียงคำราม พุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว

เมื่อเห็นหลี่ต้าขับออกไป ผู้รอดชีวิตเหล่านั้นต่างตะโกนด่ากันอย่างเกรียวกราวไม่ขาดสาย

“ไหนที่ว่าจะช่วยเหลือกันไง?”

“สัส! เห็นแก่ตัวเอง ไม่มีจิตสาธารณะ!”

“ไอ้คนระยำ ฉันขอให้แกตายไวไว  ถ้าฉันยังติดอยู่ในนี้แกก็ไม่มีทางได้ตายดี”

 

คุณธรรมหดหาย ยุคสมัยแห่งความสันติ ข่าวจำพวกนี้มีนับไม่ถ้วน ยังมีคนอีกจำนวนมากที่ไม่สามารถมองเห็นคนอื่นที่ดีกว่าตัวเองได้ ตัวเองลำบากก็ไม่คิดที่จะแสวงหาความก้าวหน้า ทั้งยังอยากให้คนอื่นดูแย่ไปด้วย


แต่ว่าคงใช้ชีวิตได้อีกไม่นาน กฎการมีชีวิตรอดในจุดจบของโลกนั้นจะทำให้พวกเขาได้รับการโจมตีอย่างหนัก


รถขนเงินวิ่งออกจากย่านที่อยู่อาศัยด้วยความรวดเร็ว ขับมาถึงถนนแหล่งการค้าและเข้าไปในถนนคนเดิน

สภาพถนนของถนนคนเดินดีกว่าย่านที่อยู่อาศัยอย่างมาก ความกะทันหันของไวรัสที่ระบาดทำให้คนไม่สามารถป้องกันได้ทัน มีเพียงรถยนต์เบาบางไม่กี่คันพลิกตะแคงอยู่ข้างทาง หลี่ต้าชะลอรถลงอย่างช้าๆและถอนหายใจยาว

“รุ่นพี่ เทคนิคการขับรถของพี่มันสุดยอดมาก ตอนแรกผมนึกว่าเราจะชนข้างทางเข้าซะแล้ว พี่ทำผมตกใจไม่น้อย”

เฉินฉู่ปาดเหงื่อบนหน้าผาก พูดด้วยความหวาดกลัวแม้เหตุการณ์จะผ่านไปแล้ว

“ฮ่าๆ ถ้าไม่ใช่เพราะกลุ่มคนขยะพวกนั้นร้องตะโกนโวยวาย พวกเราก็คงไม่ต้องวุ่นวายขนาดนี้”

 

หลี่ต้าจุดบุหรี่ : “คนเหล่านี้ที่จริงแล้วไม่ได้ต้องการที่จะติดรถหรอก พวกเขาก็แค่เห็นคนอื่นดีกว่าไม่ได้ อยากลากมาซวยด้วยกันเท่านั้นเอง”

รีวิวผู้อ่าน