px

เรื่อง : Castle of Black Iron
Chapter 410: กลยุทธเมืองที่ว่างเปล่า


Chapter 410: กลยุทธเมืองที่ว่างเปล่า
จางเทีย มองไปที่คนๆนั้นและหรี่ตาลง – “ เข้ามาสิ ที่นี่พอสำหรับสองคน .. “

เมื่อได้ยินแบบนั้นอีกฝ่ายก็ได้เดินเข้ามา หลังจากที่มองไปยังหน้าไม้ของ จางเทีย เข้าก็ตั้งใจจะเดินเข้ามาใกล้ๆ

จางเทีย ชี้ห่างออกไปจากหน้าไม้เขา 10 ม. – “ถ้าเจ้าเป็นนักสำรวจ เจ้าน่าจะรู้กฎของนักสำรวจ เจ้านอนตรงนั้นได้และก่อไฟของตัวเองกับอาหารแห้ง เพราะเราไม่รู้จักกันเผื่อว่ามีอะไรขัดแย้งกัน เจ้าน่าจะอยู่ห่างข้าจะดีกว่า ข้าน่ะขี้ตกใจด้วย นอกจากนี้แล้วข้ายังละเมอบ่อยๆ ข้ากลัวว่าจะทำให้เจ้าเจ็บถ้าเจ้าอยู่ใกล้ข้าเกินไป ! “

เมื่อได้ยินคำอธิบายของ จางเทีย รอยยิ้มของชายคนนั้นก็นิ่งไปที่ซึ่งหลังจากนั้นไม่นานเขาก็ยิ้มออกมาอีกครั้ง – “ เจ้าพูดถูก ! “ - หลังจากนั้นชายคนนั้นก็หยิบฟืนและหญ้าจากพื้นแล้วเริ่มก่อไฟของตัวเองโดยห่างจาก จางเทีย  ไป 10 ม.

หลังจากที่กอไฟเสร็จ เนื้อมอนเตอร์ทะเลก็เปลี่ยนเป็นสีทองและเริ่มมีน้ำมันหยดลงมา ผลก็คือไฟด้านล่างยิ่งลุกไหม้มากกว่าเดิม

กลิ่นหอมนั้นคลุ้งไปทั่วถ้ำ

ตอนนั้น จางเทีย และอีกคนมองหน้ากันซึ่งทำให้บรรยากาศมันแปลกนิดๆ

 หลังจากที่ปรุงเนื้อดีๆแล้ว จางเทีย ก็หยิบมันขึ้นมา เขาเป่ามันแล้วเริ่มกิน แม้ว่าเขาจะกินแต่เขาก็ไม่ได้ลดหน้าไม้ลง เขาวางมันไว้ที่ขาแล้วชี้ไปที่ที่ห่างไป 10 ม.

“ น้องชาย เจ้ากินอะไรน่ะ ? กลิ่นมันหอมดี ! “ – ชายคนนั้นเลียปาก

“ หืม นี่คือปลาที่ข้าได้มจากแม่น้ำด้านนอก มันดูไม่เลว  !” – จางเทีย แต่งเรื่อง ในเวลาเดียวกันน้ำมันก็ไหลออกมาจากมุมปากของเขา – “ เนื้อของมอนเตอร์ทะเลนี่มันอร่อยจริงๆ มันทำให้ท้องข้าอุ่นและสบายมากด้วย หลังจากที่กินมันแล้วความเหนื่อยล้าที่มีและความหิวก็ได้หายไป หัวหน้านั่นพูดถูกจริงๆ พลังฉีและเลือดในเนื้อนี่น่ะส่งผลดีต่อร่างกายคน “

“ ข้ายังไม่ได้กินอะไรมาเลยวันนี้ เจ้าแบ่งให้ข้าหน่อยได้มั้ย น้องชาย ? “ - ชายคนนั้นยิ้มและเผยให้เห็นฟันสีทอง

“ โอ้ โทษทีนะ เนื้อนี่น่ะมีพอแค่ข้าคนเดียว ถ้าเจ้าหิว เจ้าก็ไปหาอะไรจากด้านนอกเอา เพราะเป็นนักสำรวจ มันน่าจะไม่มีปัญหาที่จะหาอาหาร ! “ - จางเทีย ยังคงกินเนื้อของตัวเอต่อไปไม่ได้ไว้หน้าอีกฝ่ายเลยสักนิด  เขาไม่มองอีกฝ่ายด้วยซ้ำ

 เมื่อได้ยินแบบนั้นชายคนนั้นก็หางตากระตุกก่อนที่จะยิ้มออกมา หลังจากนั้นก็เอาเนื้อแห้งออกมาย่าง ในเวลาเดียวกันเขาก็ถอนหายใจออกมา – “ เฮ้อ ! ข้ากินได้แต่อาหารตัวเอง ! แต่อาหารข้าไม่อร่อยเท่าของเจ้า เนื้อของเจ้าน่ะกลิ่นหอมเหมือนปลาในทะเลลึกเลย ! ปลาแบบนั้นจะมาอยู่ในแม่น้ำได้ยังไง ! “

จางเทีย ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม หลังจากที่กินเนื้อชิ้นสุดท้าย จางเทีย ก็เช็ดปากแล้วลดหน้าไม้ลง – “ มันไม่ได้แปลกสักนิด บางทีข้าอาจจะเจอปลาโง่ๆว่ายมาจากทะเลก็ได้ ! จริงๆแล้วที่นี่ก็ไม่ไกลจากทะเล.. “

“ ปลาน่ะไม่ได้โง่หอรก พวกมันน่ะฉลาดที่สุดและเป็นนักล่าที่ดุดันในทะเล โดยเฉพาะพวกที่กลายพันธุ์ด้วยยิ่งแล้วใหญ่เลย  ถ้ามันว่ายทวนกระแสน้ำแล้วมาจากทะเลจริง พวกมันคงมาเพื่อล่าเหยื่อ .. “- ชายฟันทองอธิบายด้วยรอยยิ้มและมองมาที่ จางเทีย  ด้วยไฟที่ลุกไหม้ตรงหน้า ฟันสีทองได้ส่องประกายออกมาทำให้ จางเทีย รู้สึกขนลุก – “ เจ้ารู้มั้ยว่าปลาพวกนั้นทำยังไงหลังจากที่จับเหยื่อได้ ? ฮี่ฮี่ พวกมันจะไม่ฆ่าเหยื่อทันที พวกมันจะสนุกกับการค่อยๆฆ่าเหยื่อ ตอนแรกพวกมันจะมัดเหยื่อด้วยหนวด จากนั้นก็กัดแขนขาของเหยื่อด้วยกรด สุดท้ายแล้วก็จะเริ่มกินเหยื่อทีละนิดๆ ปลาพวกนี้น่ะรอดได้ 1 อาทิตย์ถ้าเหยื่อตัวใหญ่ ! ”

 “ ว๊าว จริงเหรอ..” - จางเทีย เองก็ยิ้ม – “ นอกจากรู้สึกรังเกียจปลาพวกนี้แล้ว ข้าไม่คิดว่าพวกมันเก่งหรอกนะ แม้ว่ามันจะตัวใหญ่และดุร้ายแต่ถ้าตัดหนวดมันทิ้ง พวกมันก็ขยับไม่ได้อีก มันก็เหมือนกับที่ข้าเห็นในเรือที่ข้านั่งมา ข้าเห็นปราชญ์ดาบตัดหนวดมันออกทีละหนวดๆและสุดท้ายมันก็ตาย ! “

“ เจ้าหมายถึง ซาลาแมนซ์ ใช่มั้ย ? “

“ ใช่ ! ข้าสู้กับมอนเตอร์นั่นกับเขา ตอนวิกฤต ข้าช่วยเขานิดหน่อยโดยการยิงหน้าไม้บนเรือ จากนั้นเราก็รู้จักกัน ! คุณซาลาแมนซ์ รู้สึกว่าข้ากล้าหาญ แต่เอาจริงๆข้าน่ะกล้าหาญจริงๆ...”  - จางเทีย พูดออกมาทำท่ามีเกียรติ
“ เจ้ารู้จัก ซาลาแมนซ์ ด้วยเหรอ ? “ - เมื่อพูดจบอีกฝ่ายก็ไม่ได้ยิ้มอีกต่อไป เขาจ้องมาที่ จางเทีย ราวกับจะตัดสินว่า จางเทีย โกหกรึเปล่า
จางเทีย มองอีกฝ่ายโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า ในเวลาเดียวกันเขาก็ได้หักเขากิ่งเล็กจากบัคทอร์นที่อยู่อีกด้านและเริ่มแคะฟันด้วยท่าที่สบายๆ ในขณะเดียวกันเขาก็มองไปที่อีกฝ่ายด้วยท่าทีภูมิใจ – “ แปลกเหรอ ?  เจ้าจะเจอเขาอยู่แล้วนิ ถ้าเจ้าเจอก็พูดเรื่องนั้นกับเขาก็ได้  ซาลาแมนซ์ เกลียดปลานั่นที่สุด ข้าคิดว่าเขาต้องสนใจเรื่องนี้แน่ ! “

เมื่อได้ยินแบบนั้นชายคนนั้นก็กรอกตาและมองไปที่ทางเข้า – “ ฮี่ฮี่ เรื่องเจ้านี่สนุกดีจริงๆแต่ทุกคนรู้ว่า ซาลาแมนซ์ น่ะมุ่งหน้าไปที่ทางใต้ป่าน้ำแข็งหิมะเพื่อหาชิ้นส่วนเทพแห่งดวงดาว ! “

“ เจ้ากล้าพนันมั้ยล่ะ ? “ - จางเทีย ยังคงทำสีหน้าเดิมและมองอีกฝ่ายด้วยท่าทียั่วยุ – “ ถ้าร่องรอยปราชญ์ดาบเป็นที่รู้กันทั่วทุกคน เขาจะมีสิทธิที่จะเป็นปราชญ์ดาบด้วยเหรอ ? ซาลาแมนซ์ น่ะกำลังจะไปที่รอยแตกไฮเดลา ก่อนที่จะไปที่นั่นเขาต้องเตรียมบางอย่างที่เนินเขาเทาก่อน บางทีเขาเชื่อในตัวข้า ดังนั้นเขาจึงต้องการให้ข้าช่วยเขาเล็กน้อย “

“ ช่วยอะไร ? “ – อีกฝ่ายถาม

“ เจ้าไม่ต้องรู้หรอก  ! บางทีถ้าเจ้าคิดว่า ซาลาแมนซ์ จะปฏิบัติกับเจ้าดีๆ  เจ้าถามเขาเองก็ได้ ! “ - เมื่อพูดจบ จางเทีย ก็ล้วงดูนาฬิกาในกระเป๋าแล้วมองดู – “ ซาลาแมนซ์ อาจมาตอนไหนก็ได้ เจ้ารอที่นี่สักพักก็ได้นะ ! “

เมื่อได้ยินแบบนั้นชายฟันทองก็ได้เปลี่ยนสีหน้า  เขาเสียความเยือกเย็นไป เขามองไปที่ทางเข้าก่อนจะมองไปที่ จางเทีย ด้วยตามที่เป็นประกายแต่เขาเริ่มกังวลมานิดๆในตอนนั้น เขาเริ่มหงุดหงิดขึ้นมาในใจ

ชายฟันทองลุกขึ้นยืนจากพื้นและจ้องมาที่ จางเทีย ด้วยสายตาอาฆาต – “ เจ้ารู้ได้ยังไงว่าข้ามาจากเกาะงูเวทย์ ? “

“ ไร้สาระ เจ้าคิดด้วยสมองปลาของเจ้าเถอะ ตอนนี้เวลาเท่าไหร่แล้ว ? นักสำรวจจะมาอยู่บนเนินเขาได้ยังไง ? “ - จางเทีย มองไปที่ชายฟันทองด้วยสีหน้าผิดหวัง –“  ถ้าไม่ใช่มาช่วย ซาลาแมนซ์ ที่นี่และสัญญาว่าจะพาไปที่รอยแตกไฮเดลา ข้าคงไม่อยู่ในที่แบบนี้หรอก ในฐานะนักสำรวจแล้ว ข้ามาที่นี่เพื่อเกาะแข้งเกาะขาปราชญ์ดาบ เจ้ามาที่นี่ทำห่าอะไร ?  เจ้าอยากให้เขาช่วยด้วยงั้นเหรอ ? “

“ แค่นี้ ? “

“ ก็อย่างที่ข้าบอกว่าเจ้าโง่เหมือนปลาไง .. “ - จางเทีย ฮึดฮัด – “ ตอนเห็นคนแปลกหน้าเดินเข้ามาหาหน้าไม้นี้ มีนักสำรวจต่ำกว่าระดับ 7 กี่คนที่กล้าเดินเข้ามาในถ้ำเพื่อขอพักหรอก  เหตุผลก็เพราะเจ้าคิดว่าเจ้าแข็งแกร่งกว่าข้า  และหน้าไม้นี่ไม่ได้เป็นภัยกับเจ้าแต่มันเป็นไปไม่ได้ที่นักสำรวจที่จะมีระดับสูงขนาดนี้ที่จะไม่ไปยังรอยแตกไฮเดลา ! “

“ คำอธิบายนี้ไม่ใช่คำโน้มน้าว บางทีข้าเป็นแค่นักสำรวจที่ไม่ยากไปที่นั่น และข้าแค่อยากอยู่ที่นี่เพราะเหตุผลอื่น ! “ – ชายฟันทองแสดงสีหน้ามั่นใจออกมา

“ แม้ว่าเจ้าคิดว่าเอาชนะข้าได้แล้วถ้าเจ้าหลับล่ะ ?  หลังจากที่เจ้าหลับถ้าข้าต้องการจัดการเจ้า ข้าแค่ลั่นไกลในระยะสั้นๆ เจ้าน่ะตอบโต้ไม่ทันหรอก  ดังนั้นข้าจึงรู้ว่าเจ้าโกหกในตอนที่เจ้าบอกว่าจะมาอยู่ที่นี่หนึ่งคืนกับคนที่ถือหน้าไม้ “

จางเทีย ฮึดฮัดออกมา – “ ไม่มีหรอกถ้าปกติน่ะคงไม่หลับในสภาพแวดล้อมแบบนี้ บางทีเจ้าอาจจะมาพักจริงๆแต่มันจะเกิดขึ้นหลังจากที่เจ้าฆ่า  รึมั่นใจว่าข้าต้านทานไม่ได้ แทนที่จะมาถูกชี้ด้วยหน้าไม้ของข้า ดังนั้นข้าจึงรู้สองอย่างในตอนที่เจ้าเข้ามาและบอกข้าถึงจุดประสงค์ของเจ้า เจ้ามั่นใจว่าข้าไม่เป็นภัยสำหรับเจ้าในคืนนี้ เจ้าน่ะรู้ความแข็งแกร่งของข้าและมาที่นี่เพื่อฆ่าข้า เจ้าไม่คิดจะให้ข้ารอดในคืนนี้ นอกจากไอ้พวกบัดซบที่เกาะงูเวทย์ ข้าไม่ได้มีศัตรูที่อื่น การเจอกับคนที่รู้จักข้าดีกว่าคนอื่นๆและต้องการจัดการข้าโดยไม่กลัวว่าจะโกนแก้แค้นน่ะข้าไม่เห็นคนอื่นเลยนอกจากพวกเกาะงูเวทย์  เจ้าแค่ต้องการฆ่าข้าแต่ทำไมต้องแต่งเรื่องไร้สาระด้วย ! “

ชายฟันทองกัดฟันแน่นและมองไปที่ จางเทีย  เขาไม่คิดว่าแผนที่เตรียมการมาอย่างดีของเขานั้นมีช่องโหว่ต่อหน้า จางเทีย ตั้งแต่แรกแบบนี้  แม้แต่ฐานะและแรงจูงใจทั้งหมดก็โดน จางเทีย มองเห็นทันที เอาจริงๆแล้วมันทำให้เขาละอาย ผลก็คือเขาเกลียด จางเทีย มากกว่าเดิม

“ ข้าเสนอว่าอย่าคิดอะไรมาด้วยสมองแย่ๆนั่นเลย โจรและนักฆ่าอย่างเจ้ามันขยะ หลังจากที่เห็นเป้าหมาย เจ้าน่าจะฆ่าเลย ! อย่าฝันเรื่องการแต่งเรื่อง ข้าขอร้องล่ะ ! “ - คำพูดคมๆของ จางเทีย น่ะทำลายความมั่นใจในตัวเองของชายฟันทอง ดูเหมือนว่า จางเทีย จะเหนือกว่า

“ ข้า ดอร์สัน นักรบโต๊ะกลมจากเกาะงูเวทย์  เจ้าคิดว่าข้าไม่กล้าฆ่าเจ้ารึไง ? “ – ดอรัน มองมาที่ จางเทีย พร้อมกับเดินหน้าเข้ามาหนึ่งก้าว

“ ถ้าเจ้าอยากตายมาลองดูก็ได้ ! “ - จางเทีย ยังคงดูใจเย็น

“ ยังไง หน้าไม้ของเจ้ารึพลังต่อสู้ที่เท่ากับนักสู้ระดับ 9 ? “ - ดอร์สัน เดินเข้ามาอีกสองก้าวตั้งใจที่จะโจมตีทันที

“ ข้าบอกเจ้าแล้วเจ้าน่ะอย่าคิดให้มา ถ้ายังขืนทำแบบนั้น เจ้าน่ะจะมีผลลัพธ์อยู่สองอย่า หนึ่งคือถ้าเจ้าฆ่าข้าได้ ซาลาแมนซ์ ก็จะฆ่าเจ้า นอกซะจากว่าเจ้าคิดว่าเจ้าหนีจากปราชญ์ดาบได้ในป่าน้ำแข็งหิมะ  อย่างที่สองก็ ซาลาแมนซ์ จะฆ่าเจ้าในตอนที่เราสู้กัน ! “

“ ซาลาแมนซ์ จะทำตามคำสั่งเจ้าได้ไง ? “

“ แน่นอนว่าเขาคงไม่ทำตามคำสั่งคนแบบข้าหรอก  ข้าน่ะควบคุมความคิดเขาไม่ได้แต่ถ้าเขารู้สึกว่าเกียรติของเขาโดนลบหลู่รึแผนพังเพราะบางคนล่ะ ?  อีกอย่างแล้วเจ้าคิดว่าปราชญ์ดาบจะชอบคนบัดซบจากเกาะงูเวทย์เหรอ ? “ - จางเทีย พูดต่อ – “ ข้าเดาว่าเจ้าคงคิดว่าข้ายื้อเวลาเพื่อผลลัพธ์ที่สองสินะ ! ? “
เมื่อได้ยินแบบนั้น ดอร์สัน ก็อึ้งไปทันที เขาเข้าใจถึงบางอย่าง ในเสี้ยววินาทีเขาก็ถอยกลับไปที่ทางเข้า หลังจากที่เขามองมาที่ จางเทีย  เขาก็ได้หันหลังกลับตั้งใจที่จะหนี  ตอนนั้น จางเทีย ก็กดลั่นไก เมื่อเห็นแบบนั้น ดอร์สัน ก็บิดตัวด้วยท่าทีแปลกๆเพื่อหลบลูกดอกอันแรก

จางเทีย ยิงตามไปอีกเพื่อไม่ให้ ดอร์สัน หนี

เพราะความเร็วของลูกดอกนั้นยากที่จะตามทันความเร็วของเสียง พวกมันจึงยากที่จะเป็นภัยกับนักสู้ระดับ 10  ในเสี้ยวพริบตา ดอร์สัน ก็อยู่ห่างออกไปกว่าหลายสิบเมตร จากนั้นก็ได้ตะโกนออกมา – “ เดี๋ยว ไอ้หนู...”

หลังจากที่ไล่อีกฝ่ายออกไปจากถ้ำได้  จางเทีย ก็พุ่งเข้าไล่หลังอีกฝ่ายเขาตะโกนแล้วด่าออกมา – “ ไอ้ขี้ขลาดเอ้ย รู้จักแต่รังแกคนอ่อนแอแต่กลัวคนแข็งแกร่ง ถ้าแกกลับมา ข้าจะแสดงทักษะการยิงของข้าให้ดู เหี้ยเอ้ย ! “

ดอร์สัน นั้นหงุดหงิดจนเกือบกระอักเลือด ในไม่กี่วินาทีเขาก็ได้หายไปในป่าห่างออกไปร้อยเมตร

หลังจากที่เห็นว่าอีกฝ่ายน่ะหายไปในป่า  จางเทีย ก็รู้สึกว่าหลังของเขาชุ่มไปด้วยเหงื่อและรู้สึกหนาวขึ้นมาเมื่อลมพัดผ่าน

บางคำพูดน่ะจริง บางอันน่ะไม่ เขาน่ะรู้ตัวตนของ ดอร์สัน ว่ามาจากเกาะงูเวทย์ตั้งแต่แรก  สำหรับเนื้อหาเกี่ยวกันปราชญ์ดาบน่ะแต่งมาล้วนๆ



จริงๆแล้วตั้งแต่ที่ ดอร์สัน เดินออกจากถ้ำไป  จางเทีย กลัวมากซะจนหลังเหงื่อชุ่ม เขาไม่คิดเลยว่าเขาจะไล่คนจากเกาะงูเวทย์จากถ้ำได้ในเวลาที่สั้นแบบนี้ ในฐานะคนที่เข้าใจเรื่องพลังต่อสู้และแข็งแกร่งกว่าระดับ 9 นิดหน่อย  ถ้าเขายังคงอยู่ในช่องแคบแบบนั้น จางเทีย รู้ว่าเขาคงรอดได้ไม่ถึง 2 นาที

ตั้งแต่ที่เขาออกจากถ้ำมังกรมา จางเทีย รู้ช่องว่างระหว่างเขากับนักสู้ระดับ 10  หลังจากที่บ่มเพาะมาหลายวัน แม้ว่าเขาจะก้าวหน้าและได้กิน Seven-Strength Fruit ของไฮยีน่าแต่เขายังคงรู้สึกว่าช่องว่างนั้นคงลดไม่ได้ในเวลาที่สั้นแบบนี้ เขาน่ะไม่มั่นใจเลยว่าจะเอาชนะ ดอร์สัน ได้

ต้องขอบคุณที่ จางเทีย เป็นฝ่ายชนะ เขาแต่งเรื่องเกี่ยวกับปราชญ์ดาบซึ่งแม้แต่เขาก็โดนตัวเองหลอกได้  ด้วยความช่วยเหลือจากความใจเย็นและการแสดงที่สมบูรณ์แบบแล้ว ในที่สุด จางเทีย ก็ไล่ ดอร์สัน ไปได้

แน่นอน ดอร์สัน ไม่ได้หนีไปไกล  จางเทีย รู้ว่าคนแข็งแกร่งแบบนี้ไม่มีทางที่จะหนีเพราะคำพูดของเขาแน่  จางเทีย รู้ว่า ดอร์สัน ต้องแอบจับตามองดูเขาเพื่อตัดสินคำพูดของเขา ถ้าเขามั่นใจว่าปราชญ์ดาบจะไม่ปรากฏตัวออกมารึ จางเทีย ตั้งใจที่จะหนี  เขาคงโผล่ออกมาเอง
มองไปยังแม่น้ำข้างนอกถ้ำ  จางเทีย ได้เผยรอยยิ้มออกมา  จางเทีย รู้ว่าเขาโดนไล่ตาม เขาจะไม่เตรียมพร้อมไว้ล่วงหน้าได้ยังไง ?ทำไมเขาต้องเลือกพักข้างแม่น้ำซึ่งนั่นเป็นการันตีการเอาตัวรอดของเขา

ก่อนที่จะออกจากที่พัก จางเทีย คิดว่าจะจัดการไอ้บัดซบนั่นสักหน่อย แต่การโจมตีนั้นไม่ได้ทำร่างกายของ ดอร์สัน บาดเจ็บแต่มันรบกวนจิตใจและพลังวิญญาณซึ่งทำให้อีกฝ่ายน่ะใจเย็นไม่ได้เมื่อต้องเจอกับ จางเทีย ในอนาคต  ยิ่งไอ้บ้านั่นลนมากเท่าไหร่ จางเทีย ยิ่งปลอดภัยมากเท่านั้น

เมื่อมองไปยังทิศทางที่ ดอร์สัน หนีไป  จางเทีย ก็หัวเราะออกมา ในเวลาเดียวกันเขาก็ทุบอกและกระทืบเท้า

ในตอนเย็น เสียงหัวเราะของ จางเทีย อาจดังออกไปหลายไมล์  จางเทีย มั่นใจว่า ดอร์สัน ได้ยินเสียงหัวเราะของเขาแน่นอนเพราะ ดอร์สัน จับตาดูเขาอยู่

“ ไอ้บัดซบจากเกาะงูเวทย์ ใช่มั้ย? เจ้ามันขี้กลัวเหมือนกระต่ายจริงๆ  กลัวซะจนกลัวเรื่องที่แต่งมาด้วยเหรอ ?  กล้าดียังไงถึงมาเป็นนักฆ่า ? กลับไปกินนมแม่ไป ฮาฮา... “ - จางเทีย พูดต่อ – “ ข้ารู้ว่าเจ้าน่ะอยู่ใกล้ๆ ไอ้ขยะ ! ไอ้ขี้ขลาด ! นอกจากฟันทองแล้ว เจ้าหาอย่างอื่นแข็งบ้างได้มั้ยในตัว ? สมองเจ้าน่ะโง่พอๆกับปลา แม้แต่ปลาก็ยังกล้ากว่าเจ้าอีก ข้าล่ะไม่รู้ว่าสมองเจ้าจะมีแต่ขยะรึเปล่า จำไว้ว่าครั้งหน้าให้ฉลาดกว่านี้ด้วย อย่าเชื่อคนอื่นอย่างกับคนโง่ง่ายๆ ! เจ้ารอปราชญ์ดาบที่นี่ ปู่คนนี้จะไม่อยู่ด้วยหรอก รอนี่นะ ข้าจะไปตัดหัวเจ้าเองในไม่ช้า ! “

หลังจากที่พูดจบ จางเทีย ก็ได้โดดลงไปในแม่น้ำ นอกจากน้ำที่กระเซ็นขึ้นมาแล้วไม่มีเสียงใดๆเหลืออีกเลย

แม่น้ำนั้นมีฟองปุดๆขึ้นมาและพระจันทร์เสี้ยวที่เหมือนกับยิ้ม พวกมันเหมือนกับสนุกกับสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่ ..

10 วินาทีต่อมาก็ได้มีเสียงคำรามดังขึ้นในป่า  ดอร์สัน ได้โผล่ออกมา เขาพุ่งไปยังที่ที่ จางเทีย โดดลงน้ำ หลังจากที่ดูดีๆแล้วเขาก็ตั้งใจที่จะโดดลงไปในน้ำแต่ด้วยความลังเล เขาได้คำรามออกมา – “ ปีเตอร์ ข้าจะลอกหนังเจ้า... “
...
ครึ่งชั่วโมงต่อมา จางเทีย ก็ได้ปีนขึ้นมาจากฝั่งโดยห่างจากที่เดิมไปกว่า 70 กม.  จางเทีย ไม่เชื่อว่าจะมีคนที่ว่ายน้ำทวนกระแสไปได้ 70 กม.ในครึ่งชั่วโมงแบบนี้ได้  นี่คือข้อได้เปรียบที่ดีที่สุดของ จางเทีย

ในน้ำก็มีอันตรายโดยเฉพาะในตอนเย็น ระหว่างทาง จางเทีย ได้เจอกับจระเข้ตัวใหญ่กว่า 10 ตัวซึ่งยาวกว่า 5 ม.และพวกปลากินเนื้อด้วย แม้ว่าพวกมันจะว่ายในน้ำได้เร็วและต้องการที่จะเข้ามาใกล้เมื่อเห็น จางเทีย แต่พวกมันก็โดนทิ้งไว้ด้านหลังง่ายๆ  เพื่อที่จะไม่ทิ้งเบาะแสอะไรไว้ให้ ดอร์สัน  จางเทีย เลยไม่ได้ฆ่ามัน แม้ว่าพวกมันจะว่ายน้ำได้เร็วแต่เทียบกับ จางเทีย พวกมันเหมือนกับเต่าต่อหน้ากระต่ายบนดิน

หลังจากที่ขึ้นฝั่งมา จางเทีย ได้พบกับโพรงไม้  ในตอนที่เขาเข้าไปโพรงไม้ เขาก็ได้เข้าไปใน Castle of Black Iron ทันที...

“ เจ้าของปราสาท ยินดีต้อนรับสู่ Castle of Black Iron....” - เฮลเลอร์ ทักทายออกมา…

รีวิวผู้อ่าน