px

เรื่อง : Castle of Black Iron
Chapter 413: บาดเจ็บหนัก


Chapter 413: บาดเจ็บหนัก
การกระทำของ จางเทีย ทำให้ ดอร์สัน ช็อกจนหงุดหงิดขึ้นมาในเสี้ยววินาที

ถ้าหนูพุ่งเข้าหาแมวแทนที่จะหนีในตอนที่เห็นแมว มันบ่งบอกได้ถึงการขัดขืน

ดอร์สัน หงุดหงิดอย่างมากและฮึดฮัดอกมา – “ แกอยากหาที่ตายรึไง ! “

ถ้า จางเทีย ทำแบบนี้ตอนที่เขาอยู่แค่ระดับ 7  เขาก็หาที่ตายจิรงๆแต่ จางเทีย น่ะปลุกจุดชีพจรที่ 16 ขึ้นมาได้สมบูรณ์แล้วและขัดเกลาจุดชีพจรจุดที่ 17 แล้ว นี่บ่งบอกว่าเขาต้องจุดชีพจรได้มากกว่าเดิม 4 จุดมากกว่าตอนที่เขาอยู่ระดับ 7 ธรรมดา อีกอย่างแล้วเขาได้กิน Seven-Strength Fruit ของไฮยีน่าไป 3 ผลและได้สู้กับมอนเตอร์ทะเล ใน Trouble-Reappearance Fruit มาหลายครั้ง ผลก็คือเขาเข้าใจถึงวิธีการใช้หมัดเหล็กโลหิตได้ดีกว่าเดิม

ดังนั้น จางเทีย จึงต้องการรู้ความต่างระหว่างนักสู้สองดาวที่ซึ่งปลุกจุดชีพจรได้ 62 จุด

ถ้าคนเราไม่อาจจะสู้กับความกลัวของตัวเองรึศัตรูที่แข็งแกร่งก็คงไม่มีทางก้าวหน้าขึ้นได้

จางเทีย ตั้งใจจะใช้หมัดเหล็กโลหิตผ่านทางดาบ

ดอร์สัน เองก็มีอาวุธ เข้าใส่ถุงมือสีฟ้าซีดในมือ พวกมันดูน่ากลัวอย่างมาก ในตอนที่การต่อสู้เริ่มขึ้น ดอร์สัน ก็ได้จับไปที่ดาบและหน้าของ จางเทีย ด้วยกงเล็บแปลกๆ ช่างเป็นการเคลื่อนที่ที่ร้ายกาจจริงๆ !

จางเทีย ฟันดาบเข้าใส่คอของ ดอร์สัน ด้วยพลังฉีอันทรงพลังของหมัดเหล็กโลหิต หลังจากที่ตัดผ่านอากาศไปมันก็ทำให้เกิดเสียงระเบิดขึ้นมาตอนที่ปะทะกับถุงมือของอีกฝ่าย

การโจมตีของ จางเทีย นั้นทรงพลังและเกินกว่าที่ ดอร์สัน คาดเอาไว้ ในตอนที่ปะทะกับดาบ รอยยิ้มของ ดอร์สัน ก็นิ่งไป  เขาแสดงสีหน้าช็อกออกมา เขาต้องถอยหลังไปถึงสามก้าว นอกจากนี้มือยังชาเล็กน้อยด้วย ในขณะเดียวกันกรงเล็บของเขาก็พลาดไปด้วย

จางเทีย ผิดหวังเล็กน้อย  เขาตั้งใจจะตัดมือของ ดอร์สันแต่เขาไม่คิดว่าถุงมือนั้นจะแข็งแกร่งซะจนกันอันตรายไว้ได้ อีกอย่างแล้ว จางเทีย รู้สึกว่าดาบเขานั้นไม่ได้โดนมือของ ดอร์สันเลยสักนิด มันชนเข้ากับพลังฉีต่อสู้รอบถุงมือซึ่งห่างจากมือหลายเซนติเมตร

ในตอนที่ จางเทีย โดนไล่ตามที่ถ้ำมังกร  เขาได้ตระหนักว่านักสู้ระดับ 10 นั้นได้เปิดทะเลพลังฉีได้สมบูรณ์แล้วและสามารถที่จะปลดปล่อยพลังฉีต่อสู้ได้โดยไม่ต้องโดนตัวคู่ต่อสู้แต่มันเกินกว่าที่ จางเทีย คาดเอาไว้นอกจากการโจมตีออกมาจากตัวแล้ว  นักสู้ระดับ 10 สามารถใช้มันคลุมตัวและอาวุธเพื่อกันการโจมตีของคู่ต่อสู้ได้ด้วย  นักสู้ระดับ 10 นั้นแข็งแกร่งกว่านักสู้ระดับ 9 แค่ในเรื่องการใช้พลังฉีต่อสู้  นักสู้ระดับ 10 มีทักษะมากมายในการใช้พลังฉีต่อสู้ ไม่แปลกใจเลยว่าผู้คนพูดกันว่ามันเป็นการเริ่มต้นในการบ่มเพาะตอนที่ขึ้นไปถึงระดับ 10

จางเทีย เองก็ต้องกระเด็นกลับมาเพราะแรงของอีกฝ่าย  ดอร์สัน ถอยกลับไปแค่ 3 ก้าวแต่ จางเทีย ต้องกระเด็นไปถึง 10 ม. เมื่อเห็นพลังฉีที่เข้มข้นรอบถุงมือนั้น จางเทีย ก็ไม่ได้หนี  เขากลับปล่อยการโจมตีครั้งที่สองออกไป  พลังฉีต่อสู้เหล็กโลหิตนั้นคุกกรุ่นในเลือดของ จางเทีย ในตอนที่เท้าของ จางเทีย แตะไปที่พื้น เขาก็ได้สร้างหลุมเล็กๆขึ้นมา ด้วยความช่วยเหลือจากแรงนั้น จางเทีย ได้พุ่งเข้าหาอีกฝ่ายอย่างกับลูกดอก

ในเสี้ยววินาทีความต้องการฆ่าของ ดอร์สัน ก็ปะทุขึ้นมา  ช่างเป็นคู่ต่อสู้ที่น่ากลัว ! นักสู้ระดับ 10  2 ดาว ต้องถอยกลับไป 3 ก้าวให้กับคนที่อยู่ต่ำกว่าระดับ 10  นี่มันเป็นไปไม่ได้และน่าอายอย่างมาก ! อีกอย่างแล้ว ดอร์สันรู้สึกขนลุกเมื่อมองไปที่ จางเทีย ที่พุ่งเข้ามาหาเขาที่แข็งแกร่งกว่าและดวงตาที่แน่วแน่ไม่สั่นไหว – “ ถ้าเด็กนี่แข็งแกร่งได้ตั้งแต่อายุเท่านี้ โตขึ้นมันจะขนาดไหนกัน ? “

ดอร์สัน รู้ดีก่อนที่จะเป็นนักสู้แข็งแกร่งได้  กุญแจสำคัญคือคนนี้ต้องมีความมุ่งมั่นและจิตใจที่แน่วแน่ตอนที่เผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่งแทนที่จะทักษะที่แข็งแกร่งรึความรู้ลับใดๆ  นี่คือบันไดในการก้าวขึ้นไปต่อ  นอกจากความแข็งแกร่งอันไม่น่าเชื่อของ จางเทีย แล้ว ดอร์สัน กลัวจิตใจและความแน่วแน่ของ จางเทีย ในการเป็นนักสู้แข็งแกร่งให้ได้

ดังนั้น ดอร์สัน จึงไม่คิดที่จะปล่อยให้ จางเทีย มีชีวิตต่อโดยไม่สนระดับของ จางเทีย   ถ้าเขาปล่อยให้ จางเทีย รอดไปได้ เขากลัวว่าเด็กนี่จะเทียบเท่ากับเขาในด้านความแข็งแกร่งได้ รึอาจจะแข็งแกร่งกว่าเขาอีกในอนาคต  ถ้าเป็นแบบนั้นเขาคงโดนฆ่าแทน   สำหรับศัตรูที่เจ้าเล่ห์ซึ่งมีแววการพัฒนาที่สูงแบบนี้  เกาะงูเวทย์คงต้องฆ่าพวกนี้ให้เร็วที่สุดไม่เปิดโอกาสให้เลยสักนิด

ตอนนั้น ดอร์สัน ได้เริ่มจริงจังกับการต่อสู้

“ ไปตายซะ ! “ - ดอร์สัน ปล่อยพลังฉีต่อสู้สีฟ้าซีดออกมา มันได้ก่อตัวเป็นกรงเล็บและเข้าโจมตีที่อกของ จางเทีย

“ ฆ่า ! “ – ได้ใช้แรงทั้งหมดออกมาในการโยนดาบเข้าใส่ ดอร์สัน ก่อนที่พลังฉีต่อสู้สีฟ้าซีดนั้นจะเข้ามาถึงตรงหน้าเขา

ดาบได้เปลี่ยนเป็นแสงสีขาวหลังจากที่มันออกจากมือของ จางเทีย และบินเข้าใส่อกของ ดอร์สัน หลังจากที่ข้ามกรงเล็บนั่นได้

จางเทีย ทำแบบนี้เพราะเขารู้ว่ามันไม่ได้แตกต่างอะไรกันเรื่องความเร็วและพลังระหว่างการโยนดาบกับการโยนหอกในระยะสั้นๆ  สำหรับผู้ที่แข็งแกร่งในระดับ จางเทีย   มันเหมือนกับการสู้ด้วยดาบปลายปืนเมื่อใช้วิธีนี้สู้

หลังจากที่ฝ่าอากาศไปได้ ดาบได้ทำให้เกิดเสียงกรีดร้องออกมา พร้อมกับเสียงนั้นแล้วหมัดของ จางเทีย และพลังฉีของ ดอร์สัน ก็ได้ปะทะกันจนทำให้เสื้อผ้าขาดว่อน

หลังจากเสียงนั้นจบลง ทั้งสองคนก็ได้หยุดและมองคู่ต่อสู้ที่ห่างออกไป 10 ม.

ตอนนั้นมุมปากของ จางเทีย มีเลือดไหลออกมา แม้ว่าเขาจะทำลายพลังฉีต่อสู้ของอีกฝ่ายได้แต่เขาก็ได้รับบาดเจ็บ นอกจากนี้อวัยวะภายในก็ได้รับบาดเจ็บ แขนเสื้อด้านขวาระเบิดเป็นเถ้า มีแผลมากมายที่แขนราวกับโดนแก้วกรีด

ดรอ์สัน ยังคงยืนอยู่ที่เดิม ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้ขยับเลยสักนิดแต่ช่องโหว่ยาวกว่า 30 ซม.ที่ใต้รักแร้  และดาบของ จางเทีย ก็ได้ปักมิดไปที่พื้นห่างออกไป 30 ม.โผล่มาเพียงแค่ด้ามจับ

จางเทีย ปาดเลือดที่มุมปากออกด้วยมือซ้ายและมองไปที่ ดอร์สัน ด้วยท่าทีเอาจริง  ดอร์สัน ก้มหน้าลงและตรวจสอบเสื้อผ้าที่ขาดของเขาและดูใจเย็นอย่างมาก

“ เจ้าทำให้เข้าแปลกใจได้ทุกครั้งจริงๆ มันเกินกว่าที่ข้าคาดเอาไว้ นี่เป็นครั้งแรที่ได้เห็นคู่ต่อสู้แบบนี้  !” - ดอร์สัน ก้มหน้าลง เขาบอก จางเทีย ด้วยน้ำเสียงใจเย็นอย่างมาก

“ จริงเหรอ ?” - จางเทีย ยิ้มออกมา – “ แต่ข้าไม่คิดว่ามันจะน่าแปลกใจพอ ดาบของข้าน่าจะแทงทะลุหัวใจของเจ้าและปักเจ้าลงกับพื้นไปแล้ว ! “
“ ข้าก็ว่าเจ้าเกือบทำได้ ! “ - ดอร์สัน มองไปที่ จางเทีย ด้วยท่าทีสงบแบบเดิม  ในเวลาเดียวกันเขาก็ได้หรี่ตาลง – “ เจ้าสามารถทำให้เกิดเสียงระเบิดของเสียงได้ด้วยดาบในระยะที่สั้นแบบนี้ได้ ถ้าข้าเป็นนักสู้แข็งแกร่งที่ซึ่งปลุกจุดชีพจรได้ 55 จุด เจ้าอาจฆ่าข้าไปแล้ว  น่าเสียดายจริงๆ ! ข้าคิดถึงระดับข้าอยู่ระดับสูงสุดของระดับแล้ว การโจมตีของเจ้าน่ะไร้ประโยชน์กับข้า ! “

“ รอไปก่อนเถอะ ! “

“ เจ้ามั่นใจจังนะ แต่เจ้ารู้หรือไม่ว่านักสู้แข็งแกร่งที่แท้จริงหมายถึงอะไร ? นักสู้แข็งแกร่งนั้นหมายถึงคนที่ก้าวข้ามนักสู้ระดับ 9 มาได้ทุกด้าน แม้ว่านักสู้ระดับ 9 สามารถปลดปล่อยระเบิดเสียงได้ด้วยอาวุธบางอย่างทำให้เกิดแรงทำลายอันมหาศาลแต่เรานักสู้แข็งแกร่งสามารถทำลายกำแพงเสียงได้ในระยะและเวลาที่สั้น  มันคือความต่างระหว่างนักสู้ระดับ 9 และนักสู้ระดับ 10  นอกจากนี้แล้วนักสู้แข็งแกร่งเองก็รับรู้ได้ถึงอาวุธที่เข้าใกล้พวกเขา ระเบิดเสียงพวกนี้น่ะไร้ประโยชน์กับนักสู้แข็งแกร่ง ! “

“ เจ้ายังไม่ได้เห็นการโยนที่เร็วที่สุดของข้า ! “ - จางเทีย ไม่ได้ไขว้เขวกับคำพูดของอีกฝ่าย  เขายังคงมั่นใจ  จางเทีย ได้เห็นความหวังจากการโจมตีครั้งนี้  เทียบกับหอกบินของเขาที่โดนหลบได้ง่ายจากนักสู้แข็งแกร่งจากตระกูลเฉินในถ้ำมังกรแล้ว  จางเทีย รู้ว่าเขาเข้าใกล้เป้าหมายได้มากกว่าเดิม  เขาเกือบจะฆ่า ดอร์สัน ได้   ความเร็วในการโยนของเขานั้นเร็วกว่าแต่ก่อนเยอะ

“ จริงๆแล้วเจ้าคิดว่าพลังทำลายระหว่างความเร็วเสียงกับความเร็วสองเท่าของเสียงน่ะเท่ากันงั้นเหรอ ?  แม้ว่าระเบิดเสียงของข้าจะเท่ากับความเร็วเสียง เจ้าคิดว่าเจ้าจะหลบได้เหรอถ้าข้าโยนด้วยความเร็ว 2 รึ 3 เท่าของเสียง ?  เจ้าคิดรึว่าเจ้าจะรู้ตัวได้อีก ? “

“ ฮาฮา.. “ - ดอร์สัน ยิ้ม – “ เจ้าพูดถูก ถ้าเจ้าใช้ความเร็วสองเท่าของเสียงได้ ข้าคงหลบไม่ได้ง่ายๆ จริงๆแล้วถ้าเจ้าใช้ความเร็วมากกว่าเดิม 20% ได้ ข้าคงหลบไม่ได้แต่นักสู้น่ะมีความจำกัดเรื่องแรง  ไม่มีใครฝ่าขีดจำกัดมาได้  เจ้าอาจจะใช้แรงจนถึงขีดจำกัดแล้ว  ข้าไม่เคยได้ยินว่านักสู้คนไหนปล่อยการโจมตีที่เร็วเป็นสองเท่าของความเร็วเสียงได้ เจ้ามันเลว ! ถ้าเจ้าไม่ก่อกวนพวกเรา เจ้าอาจจะมีโอกาสแข็งแกร่งขึ้นได้ในอนาคต  น่าเสียดายที่คนหนุ่มมากมายแบบเจ้าน่ะคิดว่าตัวเองเป็นศูนย์กลาง สุดท้ายแล้วก็ต้องตายเพราะมัน”

“ ข้ารู้สึกว่าข้าจะรอดไปได้ดีและมีชีวิตอีกนาน ! “ - จางเทีย ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

“ จริงเหรอ ? “ - ดอร์สัน หรี่ตาอีกครั้ง – “ มาจบเรื่องกันดีกว่า ! “

ในตอนที่ ดอร์สัน พูดจบ เขาก็ได้มาอยู่ตรงหน้า จางเทีย   แม้ว่า จางเทีย จะเตรียมสำหรับการใช้สกิลความเร็วแต่ความเร็วของอีกฝ่ายนั้นเกินกว่าที่ จางเทีย คาดไว้  ถ้า จางเทีย พุ่งเข้าหาอีกฝ่ายเหมือนกับลูกดอก  งั้น ดอร์สัน เองก็ด้วย   อีกฝ่ายอยู่ห่าง จางเทีย ไปเกือบ 10 ม.แต่โผล่มาตรงหน้าได้ใน 0.1 วินาที  เขาได้ชี้ไปที่หัวใจของ จางเทีย ด้วยถุงมือของเขา  มันเป็นการโจมตีที่ดุดันทั้งด้านพลังและความเร็ว  ถ้าเขาโดนตัว จางเทีย  เขาก็จะควักหัวใจของ จางเทีย มาได้อย่างแน่นอน

ในตอนที่สู้ ผลของสกิลความเร็วจะลดลงไป 80% ต้องขอบคุณผล 20% ที่ยังเหลืออยู่   จางเทีย ยังคงเคลื่อนที่ได้เร็วกว่าเดิม 24% และหลบมันได้ ไม่งั้นแล้ว จางเทีย อาจจะได้รับบาดเจ็บหนัก

ในตอนที่ จางเทีย หลบ เขาเห็น ดอร์สัน ต่อยเขามาอีกครั้ง ครั้งนี้ จางเทีย ไม่สามารถที่จะหลบมันได้ ดังนั้นแล้วเขาจึงรับการปะทะจากถุงมือนั้นไปเต็มๆ
หลังจากที่ส่งผลต่ออวัยวะภายใน  จางเทีย รู้สึกเหมือนจะกระอักเลือดแต่เขาได้กลืนมันลงไป  พลังฉีต่อสู้ของ ดอร์สัน นั้นรุนแรงและเฉียบคม  จางเทีย รู้สึกว่าพลังนั่นต้องการจะขุดเข้ามาในร่างกายเขา ต้องของคุณพลังฉีต่อสู้เหล็กโลหิตที่ไร้คู่ปรับ  ในตอนที่พลังฉีนั้นต้องการจะรุกล้ำมาที่แขนของเขา มันก็โดนฉีกขาดด้วยพลังฉีต่อสู้เหล็กโลหิต  แม้จะเป็นแบบนั้นแต่แขนของ จางเทีย ก็ยังได้รับแผลมากมาย

“ เจ้าฝึกพลังฉีต่อสู้แบบไหนกัน ? “ - เมื่อเห็น จางเทีย ทำลายพลังฉีต่อสู้ของตัวเองได้  ดอร์สัน ก็ช็อก  จริงแล้ว ดอร์สัน เองก็ฝึกพลังฉีต่อสู้ระดับสูงมา  สำหรับนักสู้ระดับต่ำๆแล้วถ้าโดนพลังฉีต่อสู้ของ ดอร์สัน เข้าไป พวกนั้นต้องโดนรุกล้ำโดยพลังฉีต่อสู้ของเขา  ผลก็คือเส้นเลือดจะฉีกขาด  ถ้านักสู้ระดับต่ำๆนั้นทำลายพลังฉีของเขาได้ โอกาสเป็นไปได้อย่างเดียวคือต้องฝึกพลังฉีต่อสู้ที่เหนือกว่า ดอร์สัน  มีแค่พลังฉีต่อสู้ระดับท็อปเท่านั้นที่กันการรุกล้ำของพลังฉีต่อสู้ของ ดอร์สัน ได้โดยอยู่ระดับต่ำแบบนี้

หลังจากที่รู้ว่า จางเทีย ได้ฝึกพลังฉีต่อสู้ระดับท็อป  ดอร์สัน ก็ตัดสินใจหนักแน่นกว่าเดิมในการฆ่า จางเทีย  - “ ชายคนนี้อันตรายเกินไป ข้าต้องฆ่าเขา  ถ้าไม่งั้นแล้วเขาจะเป็นอันตรายกับเกาะงูเวทย์ในอนาคตแน่ “

จางเทีย ไม่ได้สนใจจะตอบคำถามของอีกฝ่าย  ในตอนที่ จางเทีย เริ่มสู้กับนักสู้แข็งแกร่งในระยะสั้นๆนี้ เขารู้ได้ถึงความแข็งแกร่งของอีกฝ่าย  จางเทีย ตระหนักได้ว่าเขาคงรับมือกับอีกฝ่ายในระยะทางสั้นๆไม่ได้  นอกจากประสบการณ์ต่อสู้มากกว่า  ความเร็วในการโจมตีของ ดอร์สัน เองก็เหนือกว่า  สิ่งที่ยากกว่านั้นคือ ดอร์สัน สามารถปลดปล่อยพลังฉีต่อสู้ออกมาในอากาศได้ ดังนั้นก่อนที่หมัด จางเทีย จะไปถึงอีกฝ่าย  พลังฉีต่อสู้ของ ดอร์สัน ก็อัดเข้าตัว จางเทีย แล้ว

ต้องขอบคุณที่ จางเทีย กระจ่างเรื่องหนึ่งฉากหนึ่งการเคลื่อนที่มาและมีพลังวิญญาณที่สูงซึ่งช่วยให้เขาจับการเคลื่อนที่ของ ดอร์สัน ได้  นอกจากนี้เขายังได้ใช้สกิลความเร็วซึ่งเพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่มา 24% ไม่งั้นแล้ว จางเทีย คงโดนฆ่าในเสี้ยวพริบตา

แต่ จางเทีย ก็ยังลำบากในการรับมือการโจมตี  หลังจากสู้กันกว่า 10 รอบ  ไหล่ของ จางเทีย ก็ระเบิดออกเพราะพลังฉีของอีกฝ่าย   จางเทีย รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเอาชนะอีกฝ่ายในระยะทางสั้นๆจากความแข็งแกร่งของเขาตอนนี้  วิธีที่ได้ผลวิธีเดียวคือต้องใช้หอกของเขาซึ่งเป็นอาวุธที่ทรงพลังที่สุดของ จางเทีย

ในตอนที่เขาถอยกลับ จางเทีย ก็เพิ่มความเร็วขึ้นจากเดิม 120% ซึ่งเป็นผลจากสกิลความเร็ว  ในเสี้ยวพริบตา จางเทีย ก็ออกไปห่างจากเดิม หลายสิบเมตรและเพิ่มความเร็วขึ้นไปอีก

เมื่อเห็นว่า จางเทีย กำลังจะหนี  ดอร์สัน ก็ได้ยิ้มออกมาแล้วตามไปทันที

ในความเห็นของ ดอร์สัน แล้ว  แน่นอนว่าเขาต้องตาม จางเทีย ทันในไม่ช้าแต่เขาพบว่าเขาคิดผิด  จางเทีย เคลื่อนที่ได้เร็วพอๆกับรถสปอร์ต  ในเสี้ยวพริบตา ความเร็วของ  จางเทีย ก็สูงกว่า 100 กม./ชม  ดอร์สัน ไม่เคยเห็นนักสู้ระดับ 9 คนไหนที่วิ่งได้เร็วแบบนี้  แม้แต่นักสู้แข็งแกร่งที่เพิ่งยกระดับมาก็วิ่งเร็วแบบนี้ไม่ได้

ในฐานะนักสู้ระดับ 10 แล้ว  ดอร์สัน สามารถเคลื่อนที่ได้เร็วกว่าเสียงในระยะทางสั้นๆแต่ถ้าเขายังคงไล่ตาม จางเทีย ด้วยความเร็วสูงแบบนี้ เขาน่ะต้องเป็นอัศวินก่อนถึงจะทำได้

ดอร์สัน ได้ใช้ความพยายามทั้งหมดในการไล่ตาม จางเทีย แต่เขาก็ทำได้ดีสุดแค่ 30 ม. หลังจากนั้นระยะทางก็มากขึ้นกว่าเดิมเรื่อยๆ

ในตอนที่ทั้งคู่ห่างกัน 50 ม.  ดอร์สัน ก็กัดฟันแน่นและได้เอาลูกปัดขนาดเท่ากับไข่ออกมาและโยนเข้าใส่ จางเทีย โดยไม่พูดอะไร ...

มันก็เหมือนกับที่  ดอร์สัน ไม่คิดว่า จางเทีย จะสร้างเรื่องน่าแปลกใจได้มากมาย   จางเทีย ก็ไม่คิดว่าคนๆนี้จะโยนอาวุธลับได้ด้วยความเร็วเสียงเช่นกัน

ก่อนที่ จางเทีย จะได้ยินเสียง เขาก็รู้สึกได้ถึงลมอันแหลมคนจากด้านหลัง ก่อนที่จะหลบ หลังของ จางเทีย ก็โดนของนั่นปะทะเข้า

หลังจากที่กระอักเลือดออกมา จางเทีย พยายามที่จะใจเย็นก่อนที่จะสลบ  เขากัดฟันแน่นและได้เปลี่ยนทาง หลังจากที่วิ่งไปต่อได้ 70-80 ม.ด้วยความเร็วที่มากกว่าเดิม   จางเทีย ก็กระโดดลงจากผาตรงหน้า

ดอร์สัน พุ่งตามมา  เมื่อเห็นว่า จางเทีย โดดลงจากผา   เขาก็ได้คิดสักพักแต่สุดท้ายแล้วเขาก็ไม่ได้โดดลงไปตาม

มันเป็นหุบเขาที่ไร้หลุม  แม้ว่าจะเป็นตอนกลางวันแต่แสงอาทิตย์ก็สาดไปไม่ถึงด้านล่าง  ดอร์สัน เห็นหมอกที่ม้วนตัวอยู่ด้านล่างกว่าพันเมตรซึ่งทำให้มันน่ากลัวขึ้นมา  นอกจากใช้ร่มชูชีพแล้ว ถ้าเขาโดดลงไป เขาคงแหลกเป็นชิ้นๆแม้ว่าจะเป็นนักสู้ระดับ 10

ไม่นาน จางเทีย ก็หายไปในหมอก....

“ เหี้ย ! “ - หน้าของ ดอร์สัน หม่นลง  ถ้าเป็นคนอื่น ดอร์สัน มั่นใจว่าคนๆนั้นคงตายกับการทำแบบนี้แต่เมื่อเขาคิดถึง ปีเตอร์ ใจของเขาก็เริ่มเต้นรัว  ถ้าไม่เห็นศพ เขาคงวางใจไม่ได้

หลังจากที่มองไปยังด้านล่าง   ดอร์สัน ก็หันกลับและออกมาจากที่นั่น....
 

รีวิวผู้อ่าน