Chapter 415: กลยุทธที่เจ้าเล่ห์
ในสายตาของ จางเทีย หนูปิศาจนี้วิ่งเร็วกว่าสัตว์อื่นๆที่อยู่บนพื้นดิน พวกมันพุ่งเข้ามาหาอย่างกับสายฟ้า แม้แต่พวกระดับ 6 หลายคนก็ยังเทียบความเร็วของพวกหนูปิศาจไม่ได้
ความเร็วนี้คือสิ่งที่น่ากลัวของพวกมัน
ต้องขอบคุณที่ จางเทีย อยู่ตรงใจกลางบ่อ มีระยะห่างระหว่างเขากับหนูพวกนั้น 30 ม. ซึ่งฝ่ายหลังน่ะคงเข้ามาไม่ได้ง่ายๆ ผลก็คือ จางเทีย ใช้น้ำเป็นพันธมิตรของเขา
จางเทีย ได้รับบาดเจ็บมา ดังนั้นแล้วเขาจึงใช้ความสามารถออกมาได้ 10% ทั้งสองฝั่งต่างก็มีข้อจำกัดของตัวเอง
หนูปิศาจมากกว่าเดิมได้พุ่งเข้ามาหาเขาด้วยตาแดงกล่ำของมัน จางเทีย ยืนอยู่บนหินและสะบัดดาบคู่ของเขา เขาพยายามที่จะฆ่าพวกนั้นก่อนที่พวกนั้นจะมาถึงหินของเขา
เขาใช้แรงออกมาเต็มที่แต่ก็ผลักดาบออกมาได้แค่ 2 ม.จาก 6 ม.ซึ่งทำได้แค่ป้องกันตัวเองและหินนั่น
ดาบคมๆนั้นช่วย จางเทีย ได้อย่างมาก แม้ว่าขนของพวกหนูนั้นจะลื่นอย่างกับน้ำมันแต่ก็เจอตัดขาดเมื่อโดนดาบ
การบาดเจ็บของพวกเดียวกันทำให้พวกหนูที่เหลือนั้นร้อนรนและคลั่งกว่าเดิม ด้วยการโดนกระตุ้นกับเรื่องนี้ พวกมันจึงเริ่มพุ่งเข้าหา จางเทีย ทีละตัวๆโดยไม่สนเรื่องการบาดเจ็บอีก
หลังจากสู้มา 2 ชม. น้ำรอบๆนั้นก็เริ่มเปลี่ยนสีแดงและมีศพมากมายที่กองอยู่บนน้ำ แม้แต่ จางเทีย ก็ไม่รู้ว่าเขาฆ่าหนูไปกี่ตัวแล้ว เขาเดาว่าน่าจะสัก 300-400 ตัว
จางเทีย เองก็ได้รับบาดเจ็บด้วย เท้าของ จางเทีย โดนกัดอยู่หลายครั้ง อีกอย่างแล้วแขนและเอวของเขาก็โดนกรงเล็บของพวกหนู ถ้าไม่ใช่เพราะการฟื้นฟูร่างกายของเขา จางเทีย คงทนการรต่อสู้นี้ไปกว่า 2 ชม.ไม่ได้ แม้จะเป็นแบบนั้นแต่หลังจากที่ฆ่าหนูมาได้ 300-400 ตัว ใบมีดของ จางเทีย ก็สั้นลงมาเหลือแค่ 1 ม. มันไม่ต่างอะไรจากดาบยาวธรรมดาเลย เขาทำให้มันยาวกว่านี้ไม่ได้
สุดท้ายแล้วพวกหนูก็หยุดโจมตีในตอนที่บ่อเต็มไปด้วยศพของหนู
จางเทีย หอบหายใจและคุกเข่าลงที่หินด้วยขาเดียวแล้วมองไปยังหนูพวกนั้น ถ้า จางเทีย อยู่ในสภาพที่ดี เขาสามารถสู้ได้ต่อสองวันติดโดยไม่ต้องกระพริบตาด้วยซ้ำแต่ตอนนี้ จางเทีย รู้สึกเหนื่อยอย่างมาก แต่ละครั้งที่เขาสะบัดดาบ เขารู้สึกได้ถึงความเจ็บทั่วทั้งตัวโดยเฉพาะที่หลังที่เขาโดนโจมตีมา
หลังจากที่พกวหนูนั้นหยุดโจมตีไปสักพัก จางเทีย ก็คิดว่าการต่อสู้นี้จบลงแล้ว ตอนนั้นเองพวกหนูตัวเล็กกว่าเดิมขนสีดำม่วงก็ได้เดินออกมาจากฝูงหนู มันมาที่ชายฝั่งแล้วมองมาที่ จางเทีย
ในตอนที่มันโผล่ออกมา หนูทุกตัวต่างก็หลีกทางให้และมองไปที่มัน
แม้ว่ามันจะเป็นสัตว์อสูรแต่ จางเทีย ก็รู้สึกได้ถึงความต้องการฆ่าในตาของมัน
“ หัวหน้ามันรึเปล่า ?” - จางเทีย อยากจะฮึดฮัดแต่ในตอนที่เขาขยับปาก เขาก็ตระหนักได้ว่าเขาน่ะเหนื่อยอย่างมาก...
“ ซี่...ซี่...ซี่...” – หนูหัวหน้านั้นยืนขึ้นด้วยขาหลังของมันและเงยหน้ามันขึ้น ตามมาติดๆด้วยหนูทุกตัวก็ทำตามมันด้วย
จางเทีย ตื่นตัวขึ้นมาทันที เขาสังเกตมันดีๆ พวกมันไม่ได้ร้องให้เขา – “ ข้าได้ยินมาว่าพวกมันมีความจำดีเกี่ยวกับศัตรู เพราะข้าฆ่าพวกมันไปเยอะ ข้าสงสัยว่ามันจะใช้กลยุทธแบบใด “
หนูมากกว่าเดิมได้พุ่งออกมาอีกครั้ง ในตอนที่ จางเทีย คิดว่าหนูนั้นจะว่ายน้ำมาหาเขาเหมือนเดิม เขาก็กลัวกับการกระทำของมันในครั้งนี้ พวกมันเหยียบศพพวกตัวเองและเข้ามาใกล้ จางเทีย โดยการโดด 3-4 ครั้ง
“ ว๊าว เหี้ย ! โดดเป็นกบเลย ...” - จางเทีย ด่าออกมาและจัดการตัดหนูบางตัวเป็นชิ้นๆด้วยดาบคู่ของเขา
หนูเริ่มโดดเข้ามาเรื่อยๆ มันไม่ได้แตะน้ำก็เข้ามาใกล้เขาได้ ด้วยวิธีนี้พวกมันสามารถโจมตี จางเทีย ได้เร็วกว่าเดิมหลายเท่า
จางเทีย รู้ว่าเขาน่ะต้องใช้แรงทั้งหมดที่ตัวเองมีออกมา – “ หนูพวกนี้มันฉลาด “ – บางทีพวกมันคงมีแผนสำรองตอนที่ว่ายน้ำมาหาเขาตั้งแต่แรกแล้ว
แค่ 10 นาที แม้ว่า จางเทีย จะฆ่าพวกมันไปหลายสิบตัวแต่เขาก็ได้รับบาดเจ็บมากกกว่า 10 นาทีก่อนเยอะ
ต้องขอบคุณที่พวกมันเป็นแค่แผลเล็กๆน้อยๆไม่ได้ส่งผลต่อการเคลื่อนไหว ด้วยประสบการณ์การต่อสู้มากมาย จางเทีย ได้หลบการโจมตีที่จุดสำคัญของตัวได้
เมื่อรู้สึกถึงลมที่พัดเข้ามา จางเทีย ได้หันกลับไปดูและพบว่ามีรอยข่วนที่คอของเขาซึ่งใกล้กับไหล่ – “ โจมตีเร็วจริงๆ ! “ - ถ้า จางเทีย ไม่ได้รับแผลมาก่อนหน้านี้ เขาคงจัดการกับมันได้ง่ายๆแต่มันเกือบทำให้เส้นเลือดที่คอเขาเปิด
มันคือหนูตัวสีม่วงดำ มันไม่ได้หนีไปไหนมันเริ่มวิ่งไปตามศพใช้ศพเป็นเหมือนก้อนหิน ในเวลาเดียวกันมันก็ได้มองมาที่ จางเทีย เหมือนจะหาช่องโหว่และเตรียมที่จะโจมตีครั้งสุดท้ายใส่เขา
“ บ้าเอ้ย นี่มันหนูจริงเหรอ ?” - จางเทีย ช็อก เมื่อเห็นว่ามีหนูมากกว่าเดิมที่คลั่งและโดดใส่เขา จางเทีย ก็รู้สึกว่ามันยากกว่าเดิมในการรับมือพวกนี้ – “ พ่อคนนี้ไปจะมีปัญหากับหนูรึโดนหนูฆ่ารึไง ? ไม่มีทาง ! “
“ ต้องทำไง ? ต้องทำยังไง ? “
ทันใดนั้นใจของ จางเทีย ก็เต้นรัว เขาเห็นบ่อตรงหน้าเขา เขาเกือบจะตบตัวเองอย่างแรง – “ โง่จริงๆ ! ข้าโง่เพราะโดนไอ้โง่ ดอร์สัน นั้นโจมตีเอารึไง ? แม้ว่าข้าจะเพิ่งออกมาจากน้ำแต่ข้าก็กลับลงไปได้ ข้าน่ะเพิ่งฟื้นตัวแต่ข้ารอดมาได้ แม้ว่าหนูพวกนี้จะโจมตีได้ด้วยการโดด แต่ข้ากลายเป็นกบได้ ข้าไม่เชื่อว่าพวกมันจะกัดก้นข้าได้ในน้ำ ! “
หลังจากที่มองไปยังบ่อที่เต็มไปด้วยศพของหนู จางเทีย ก็พยายามสุดตัวเพื่อไม่ให้รังเกียจ ในเวลาเดียวกันเขาก็ฟันดาบออกไปอย่างหงุดหงิด หลังจากที่ฆ่าหนูไปอีกสองตัว เขาก็โดดลงไปในน้ำทันที
การตอบสนองของ จางเทีย น่ะเกินกว่าที่หัวหน้าหนูคิดเอาไว้ ในเสี้ยววินาทีหนูทุกตัวก็ได้ร้องออกมา
ในตอนที่หัวหน้านั้นได้พุ่งไปหาเขาและกะจะโจมตีอีกครั้ง จางเทีย ก็ได้เคลื่อนไหวในน้ำเล็กน้อยและดำลึกลงไป 6-7 ม.ในทีเดียว หลังจากนั้นเขาก็สะบัดมือเพื่อพยุงตัวเองในน้ำ
จางเทีย เงยหน้าขึ้นและพบว่ามีหนูหลายตัวได้โดดลงมาในน้ำและคิดจะโจมตีเขา บางตัวเอาหัวจุ่มลงมา แม้ว่าพวกมันจะมองมาที่ จางเทีย และอยากที่จะดำลงมาแต่พวกมันก็ดำมาได้แค่ครึ่งเมตร ยังไงก็ทำได้แค่สะบัดเล็บและหางของพวกมัน
เมื่อเห็นแบบนั้น จางเทีย ก็โล่งใจแล้วยิ้มออกมา อย่างที่เขาคิดไว้ แม้ว่าสัตว์หลายตัวที่มีกงเล็บจะว่ายน้ำได้แต่มีไม่กี่ตัวที่ดำน้ำได้ ตามความรู้ที่เขามี เขารู้ว่ามีหมีบางตัวที่ดำน้ำได้เพื่อหาปลา แม้ว่าหนูพวกนี้จะว่ายน้ำได้แต่พวกมันดำน้ำไม่ได้แต่ในฐานะสัตวที่ฉลาดที่สุด แน่นอนว่ามนุษย์นั้นสามารถดำน้ำได้ดีกว่าพวกหนู
เมื่อเห็นศพหนูมากมายบนน้ำ จางเทีย ก็รู้สึกสะอิดสะเอียนโดยเฉพาะกลิ่นคาวเลือดและเครื่องในของพวกหนู
จางเทีย รู้สึกว่าเขาลอยอยู่ในหม้อซุปหนูซึ่งมีแต่คนเถื่อนกิน
แต่ถึงยังไง จางเทีย ก็ต้องรอดไปให้ได้
เมื่อเห็นท้องพวกมันในน้ำ จางเทีย ก็ได้เผยรอยยิ้มออกมา เขาแอบว่ายขึ้นมาด้านบน ในตอนที่เขาห่างจากหนู 1 ม. เขาก็ใช้ดาบของเขาเฉือนที่คอจนถึงท้องของพวกมัน ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็ว่ายหนี..
ในไม่กี่นาที จางเทีย ก็ฆ่าหนูไปมากกว่า 10 ตัวแต่พวกมันน่ะแตะต้องเขาไม่ได้เลยสักนิด
จางเทีย เริ่มดีใจกับเรื่องนี้ – “ ต้องขอบคุณการดำน้ำที่ข้าฝึกมา ในที่สุดก็ช่วยชีวิตตัวเองได้และยังพลิกกลับมาชนะได้อีก “
ด้วยการแอบโจมตีใส่พวกหนูใต้น้ำ..โอ้ ไม่ใช่สิ หนูปิศาจ แม้ว่าจะน่ารังเกียจแต่ข้าคิดว่ามันเป็นกลยุทธที่มีประสิทธิภาพ วัยรุ่นต้องเจ้าเล่ห์หน่อย
พวกหนูว่ายกลับไปที่ฝั่ง จางเทีย โผล่หัวออกมาจากน้ำเพื่อสูดอากาศ เขาพบว่าพวกหนูนั้นยังคงมองเขาอยู่
หนูพวกนี้ได้โดดลงมาในน้ำ จางเทีย ได้ดำลงไปอีกครั้งแล้วแอบโจมตีต่อ
หลังจากนั้นหลายรอบก็มีศพมากกว่าเดิมที่ลอยเหนือน้ำ ในตอนที่ จางเทีย โผล่หัวขึ้นมาบนน้ำอีกครั้ง เขาก็ไม่เจอหนูสักตัวรอบๆชายฝั่ง บางทีหนูพวกนี้อาจจะรู้ว่าพวกมันไม่ได้ประโยชน์อะไรกับการทำเรื่องนี้ พวกมันแตะต้อง จางเทีย ไม่ได้ ดังนั้นจึงหนีไป
จางเทีย ปีนกลับมาแล้วนอนลงที่หิน เขารู้สึกหมดทั้งแรงกายและวิญญาณ จางเทีย มองไปยังบ่อที่เต็มไปด้วยศพของหนูและทันใดนั้นก็อยากอ้วกขึ้นมาแต่เขาก็ไม่มีแรงพอที่จะอ้วก
...
สุดท้ายแล้วขอบฟ้าบนหัวของเขาก็เริ่มซีดลง จางเทีย รู้สึกช็อกในใจตอนที่พลังวิญญาณของเขาก็ได้ฟื้นฟูขึ้นมาเหมือนกับระดับน้ำหลังจากเกิดพายุ
จางเทีย พยายามล็อคไปยังประตูวาร์ปด้วยพลังวิญญาณ เขาทำได้และเข้าไปใน Castle of Black Iron โดยไม่ลังเล
“ เจ้าของปราสาท...” - จางเทีย มองไปยัง เฮลเลอร์ ที่รอยเขาอยู่นานด้วยท่าทีเคร่งขรึม
“ ข้ารู้ว่าเจ้าจะพูดเรื่องอะไร ข้าแค่ต้องการพัก ค่อยคุยเรื่องนี้กันทีหลังตอนข้าตื่น ! “ - จางเทีย โบกมือด้วยท่าทีเหนื่อย
เฮลเลอร์ ไม่ได้พูดอะไร หลังจากที่โค้งให้ จางเทีย เขาก็ได้เดินจากไป
จางเทีย ดื่มยารักษารอบด้านกว่า 200 มล. หลังจากนั้นเขาก็ถอดเสื้อผ้าเปียกๆออก หลังจากที่อาบน้ำแล้วเขาก็ได้กลับไปที่ห้องตัวเอง เขาเอาผ้ามาห่อตัวแล้วหลับไปทันที
ยารักษารอบด้านทำงาน ไม่นาน จางเทีย ก็รู้สึกได้ถึงความอุ่นที่ไหลอยู่ในตัว ไม่กี่นาที จางเทีย ก็เริ่มหายใจได้ปกติแล้วหลับลงไปอย่างสบาย
…
ด้านนอกห้อง เฮลเลอร์ ยังคงยืนอยู่ด้านล่างลานที่ต้นไม้เล็กๆ เขามองไปยังท้องฟ้าของ Castle of Black Iron ที่เริ่มสว่างขึ้นมา เฮลเลอร์ พึมพำออกมา – “ เป็นเจ้าของปราสาทที่น่ารำคาญซะจริง ! ทักษะต่อสู้ระดับต่ำอย่างหมัดเหล็กโลหิตพัฒนาขึ้นมาจากความรู้ของคนในยุคทองแดงซึ่งถูกค้นพบเมื่อหลายหมื่นปีก่อนนี่ ทำให้ผู้คนสับสนได้ง่ายๆ ในยุคทองแดง มันไม่มีผู้แข็งแกร่งรึวีรบุรุษ มีเพียงแค่คนธรรมดาที่ต้องการอยากเป็นพระเจ้าที่จะควบคุมทุกอย่าง...” – หลังจากที่พูดจบ เฮลเลอร์ ก็ได้กวาดมือลง ผลก็คือมันเหมือนดึงม่าน Castle of Black Iron เข้าสู่ความมืดอีกครั้ง..
...
แต่ในเวลาเดียวกัน ดอร์สัน ที่อยู่ในหุบเขาห่างออกไปร้อยไมล์จากที่ของ จางเทีย หลังจากที่เดินทางมาหนึ่งคืน เขาพบว่าเขากลับมาที่จุดเดิม ในที่สุดเขาก็หมดความอดทนและได้คำรามออกมา
“ ใครก็ได้บอกข้าทีว่าข้าอยู่ที่ใด ? อ๊าก...”
เมื่อไม่มีใครตอบรับ เสียงของเขาก็ได้ดึงดูดไฮยีน่ามากมายที่มองเขาอยู่
ในขณะเดียวกันก็มีอินทรีย์ตัวใหญ่ที่บินอยู่บนท้องฟ้า...