Chapter 445: สะดุดตา
ถ้าใครต้องการที่จะเด่นก็แค่ทำตัวให้เด่น วิธีที่เด่นที่สุดคือการทำตามใจตัวเองโดยไม่สนสายตาคนอื่นๆ
ในตอนที่คนอื่นๆรอหัวหน้าของเผ่าหมี การกระทำของ จางเทีย ก็ทำให้ทั้งเต็นท์ต้องเงียบอีกครั้ง เมื่อเห็น จางเทีย กินอย่างเอร็ดอร่อยๆ คนอื่นต่างก็ช็อก
ตอนนั้น เซตตอน เข้าใจว่าไม่ว่ายังไงคนอย่าง จางเทีย ก็ไม่อยู่ในเผ่าอินทรีย์เทา แม้ว่า จางเทีย จะมีความสามารถและเป็นทาสใตอนนี้แต่เขาก็ยังทำตัวราวกับราชา เผ่าอินทรีย์เทาไม่มีทางเก็บคนแบบนี้ไว้ได้ แม้ว่า โอลอร่า จะแต่งงานกับเขาแต่เผ่าอินทรีย์เทาคงถือว่าเป็นแค่ที่พักของเขา
แต่ โอลอร่า น่ะรู้สึกแปลกๆเรื่องนี้ เมื่อเห็นการกระทำของ จางเทีย เธอก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาแต่ในที่สุดเธอก็ยืนยันได้ว่าแม้ว่าจะมีเข็มระเบิดตัวของเขาแต่ชายคนนี้ก็ไม่อาจควบคุมได้
สำหรับ ซาเลม นอกจากความผิดหวัง เขาน่ะคิดว่าจะแก้แค้น ซาเลม รู้ว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะเด่นในงานเลี้ยงของเผ่าหมีได้ แม้ว่าจะไม่ได้มีกฎให้แขกห้ามเริ่มกินก่อนหัวหน้าจะมาถึงแต่มันก็เป็นกฎทั่วไปในป่าน้ำแข็งหิมะ ในสายตาของ ซาเลม แล้วการกระทำของ จางเทีย น่ะหยาบคายและอวดดีด้วย
“ หวังว่าไอ้บัดซบนี่จะไม่รอดในคืนนี้ ! “ - ความคิดนั้นโผล่มาในหัวของ ซาเลม – “ มันจะเป็นการแก้แค้นให้กับ โคก้า “
นอกจาก เซตตอน, โอลอร่า และ ซาเลม แล้วคนอื่นๆต่างก็สงสัยว่า จางเทีย เป็นใคร
บางคนรู้ฐานะของ จางเทีย อยู่แล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงมองไปที่โต๊ะของ โอลอร่า
บรรยากาศด้านในเต็นท์ดูแปลกนิดๆ
“ ทำไมไม่กิน ? มองอะไรกัน ? “ – ด้วยผลไม้ที่อยู่ในมือซ้าย เนื้อที่อยู่ในมือขวา จางเทีย ก็ได้ฝังหัวของเขาลงไปในจาน หลังจากที่พบว่าทั้งเต็นท์เงียบอีกครั้ง จางเทีย ก็เงยหน้าขึ้นมาทักทายคนอื่นๆแล้วเช็ดคราบน้ำมันที่ปาก
คนอื่นๆต่างก็มองหน้ากัน ไม่มีใครขยับเลยสักนิด
จางเทีย ยิ้มออกมาแล้วกินต่อ
ในความเงียบแปลกๆนั้นก็ได้มีเสียงเท้าดังขึ้นมาจากด้านหลังม่านของโต๊ะหลัก
“ นี่คือ ไชน์แกนกูลา ! “ – ทุกคนในเต็นท์ลุกขึ้นยืนด้วยความเคารพรวมถึง จางเทีย ด้วย
ในป่าน้ำแข็งหิมะ ผู้ปกครองเผ่าที่มีคำว่าหมีน่ะมีสิทธิเป็นดยุคได้ตามกฎและชนชั้นของสลาฟ แน่นอนว่าชนชั้นดยุคน่ะถือว่าเป็นตัวแทนของอำนาจ ดยุคนั้นไม่ใช่ชนชั้นสูงของมนุษย์ในยุคนี้ ด้วยความต่างจากเคาท์ลองวินในวังไฮหยวน ถ้าหัวหน้าของเผ่าหมีได้ออกจากป่าน้ำแข็งหิมะ ก็จะไม่มีใครเรียกเขาว่าดยุคอีก
แน่นอนลูกของดยุคก็เรียกว่าไชน์ ในยุคนี้ลูกของราชาจะเรียกว่าเจ้าชาย พวกคนที่ได้รับสืบทอดผ่านทางเจ้าหญิงเรียกว่ารัชชทายาท ลูกของเจ้าชายและดยุคเรียกว่าไชน์ พวกคนที่รับสืบทอดบัลลังก์ของเจ้าชายจะเรียกว่าองค์เหนือหัว พวกคนที่สืบทอดบัลลังก์ของดยุคจะไม่ได้รับการดูแลพิเศษอะไร สามชนชั้นนี้มีการแบ่งลำดับชั้นที่เคร่งครัด
มีคำพูดว่ากฎแบบนี้น่ะเกิดมาจากธรรมเนียมของจีน ทุกวันนี้ด้วยการเติบโตทางอำนาจของจีน ระบบชั้นแบบนี้จึงเป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวาง
“ ข้าไม่คิดว่าจะเห็นอำนาจของจีนแผ่มาไกลถึงป่าน้ำแข็งหิมะ “ – ความรู้สึกแปลกโผล่มาในใจของ จางเทีย
หลังจากนั้นก็ได้มีทีมนักสู้ที่สวมเกราะจากนอกประตูเปิดม่านออกก่อนจะไปยืนที่สองฝั่งของประตู หลังจากนั้นชายวัย 20 ปีใส่เกราะดำก็เดินเข้ามา เขาดูอ่อนแอแต่เขาน่ะดูดึงดูดจนไม่อาจมองข้ามได้
ซาบีน่ เองก็เดินตามมาด้านหลัง เธอน่ะสง่าในชุดสีดำ หน้าอกครึ่งหนึ่งเปิดออกตามมาด้วยทหารที่มีสนามพลังฉีที่แข็งแกร่ง
ในตอนที่ชายคนนั้นเข้ามา เขาก็มองไปที่โต๊ะของ จางเทีย แม้ว่าจะตอบรับด้วยท่าทีไม่พอใจแต่เขาก็ยังเงียบ ทหารด้านหลัง ซาบีน่า มองไปที่ จางเทีย หลังจากนั้นพวกเขาก็มองไปที่ ซาบีน่า เงียบๆ ไม่มีใครพอใจเมื่อเห็นโต๊ะที่ยุ่งเหยิงของ จางเทีย ยกเว้นแค่ ซาบีน่า
ในตอนที่เขาเห็น ซาบีน่า จางเทีย ก็ได้ยิ้มออกมา
พวกเขาเดินไปที่โต๊ะหลัก เด็กหนุ่มเกราะดำคือ แกนกูลา ที่ซึ่งนั่งที่โต๊ะตรงกลาง ซาบีน่า และ จางเทีย นั่งอยู่ทางซ้าย สวนคนใส่เกราะอีก 2 คนนั่งอยู่ทางขวา
จน แกนกูลา นั่ง คนอื่นๆถึงได้นั่งตาม
แปะๆ * แกนกูลา ปรบมือเรียกทุกคน – “ ข้าต้องรบกวน ก่อนงานเลี้ยงข้าต้องการแนะนำเพื่อนของข้าให้พวกท่านรู้จัก สองคนนี้คือ รอสลาฟ และ วาจิต จากเผ่าหมีใหญ่ของภูเขาเอลซีด้า พวกเขามาเยี่ยมเราพร้อมกับทีมนักสู้ฆ่าหมี หลังจากที่ได้ยินว่าเราจะมุ่งหน้าไปโลกใต้ดิน พวกเขาก็เลยมาหาข้า !”
แกนกูลา แนะนำอย่างเป็นทางการ ในตอนที่ได้ยินคำว่าเผ่าหมีใหญ่ คนอื่นๆต่างก็ลุกขึ้นยืนแสดงความเคารพ
ในขณะเดียวกันแขกด้านขวามือของ แกนกูลา เองก็ยืนขึ้นด้วยแต่พวกเขาไม่ได้พูดอะไร หลังจากพยักหน้าเล็กน้อย พวกเขาก็นั่งลงไปอีกครั้ง
จางเทีย เห็นว่าหลายคนแสดงท่าทีตื่นเต้นออกมา หลายคนถึงกับลุกขึ้นยืนหลังตรงด้วย ดูเหมือนว่าเป็นเกียรติมากที่ได้ร่วมงานกับเผ่าหมีใหญ่
หลังจากที่อยู่ในป่าน้ำแข็งหิมะมานาน จางเทีย รู้บางอย่างเกี่ยวกับเผ่าหมีใหญ่ อย่างแรกเผ่านี้แข็งแกร่งที่สุดในป่าน้ำแข็งหิมะซึ่งเป็นผู้ปกป้องภูเขาของเหล่าสลาฟ พวกเขามีอำนาจอย่างมากในป่าน้ำแข็งหิมะ อย่างที่สองเผ่านี้น่ะเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับเผ่าอื่นๆในป่าน้ำแข็งหิมะ มีคำพูดว่าเมื่อร้อยปีก่อน เผ่าหมีใหญ่น่ะเป็นแค่เผ่าเดียวในป่าน้ำแข็งหิมะ หลังจากที่มีลูกหลาน เพราะเหตุผลมากมาย เผ่าหมีใหญ่ก็เริ่มแยกเป็นเผ่าต่างๆซึ่งครอบคลุมไปทั่วป่าน้ำแข็งหิมะ
หลังจากที่ตัวละครหลักเข้ามา ทุกคนก็เริ่มสนุกกับอาหารตรงหน้า
...
“ ทำไมเป็นแมวขี้ขโมยจัง ! “ - ซาบีน่า พึมพำออกมาเมื่อเห็นว่า จางเทีย กินอาหารไป 1/3 แล้ว
“ แมวขี้ขโมย ? “ - จางเทีย ยิ้มออกมาอย่างขมขื่น
“ เพราะข้ายังไม่ได้กินอะไรมาทั้งวัน เมื่อเห็นอาหารมากมายตรงหน้า ข้าเลยทนไม่ไหว ข้าได้ยินมาว่าแมวน่ะชอบกินปลา โดยเฉพาะเงือก ! “ - จางเทีย หยอก ซาบีน่า
“ ถ้ามีเงือกตรงหน้าเจ้า เจ้ากล้ากินมั้ยล่ะ ? “ - ซาบีน่า กรอกตาใส่
“ ข้าไม่กล้าหรอก ! “
“ ขี้ขลาด ! “ – ซาบีน่า พึมพำแล้วทำท่าโกรธ
“ มีเสือมากมายที่คอยจ้องจะกินอยู่ แน่นอนว่าข้าต้องไม่กล้ากิน ! “ - จางเทีย พูดออกมา เอาจริงๆแม้ว่าพวกเขาจะเจอกันแค่สองครั้งแต่เหมือนรู้จักกันมานาน จางเทีย เองก็แปลกใจ – “ นี่คือผลของการแอบดูผู้หญิงอาบน้ำรึไง ? “
ซาบีน่า มองไปที่คนที่มองมาที่พวกเขาด้วยตาที่คาหวัง เธอได้ยิ้มออกมา – “ ลีน่า บอกข้าว่าเจ้ายังไม่รู้ว่าข้าเป็นใครเลยนิ ? “
“ ช่างเถอะ ! “ จางเทีย ยักไหล่ – “ ไม่ว่ายังไง ข้าว่าข้าพร้อมจะโดนอัดหลังจากมื้อเย็นแล้ว.. “
เมื่อได้ยินคำตอบของ จางเทีย เธอก็ขำจนตัวสั่นทำให้เธอน่าดึงดูดขึ้นไปอีก การหัวเราะของเธอนั้นทำให้ทุกคนมองมาที่เธอ เมื่อความใกล้ชิดของทั้งคู่ หลายคนชื่นชม,อิจฉาและเกลียดชัง
“ แกนกูลา คือน้องชายของข้า เราน่ะมีพ่อคนเดียวกัน ! “ – เธอมากระซิบข้างหู จางเทีย
เมื่อได้ยินแบบนั้น จางเทีย เกือบพ่นไวน์ออกมาจากปาก – “ พี่สาวของ แกนกูลา เหี้ย ! ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคนหลายคนถึงมาคุ้มกันเธอตอนเธออาบน้ำ ! “
“ เกือบทุกคนในป่าน้ำแข็งหิมะรู้จักข้า ข้ากลัวว่ามีหลายคนคิดว่าเจ้าเป็นแขกบังหน้าอีกคนของข้า ! “
ประโยคนี้มีข้อมูลมากมาย ใช้เวลาสักหน่อยกว่า จางเทีย จะเข้าใจ แม้ว่าฐานะของเธอจะน่าตกใจแต่สิ่งที่ทำให้เขาตกใจกว่านั้นคือฐานะ
“ แขกบังหน้า ? “ - จางเทีย คิดถึงคำนี้
“ ใช่ ในสายตาของบางคน ข้าน่ะมีชื่อเสียงแย่ๆ มีคนบอกว่าพวกคนที่นอนกับข้าน่ะรอต่อคิวตั้งแต่นี่ไปจนถึงเอสไชน์ !” – ซาบีน่า อธิบายอย่างใจเย็น ดูเหมอนว่าเธอพูดเรื่องนี้กับผู้หญิงอยู่เพราะเธอไม่ได้อายเลย – “ เจ้ารังเกียจมั้ยที่นั่งใกล้กับข้า ? “
จางเทีย มองไปที่ ซาบีน่า ตั้งแต่หัวจรดเท้าสักพักก่อนจะส่ายหน้า
“ เจ้ารู้สึกสงสารข้ามั้ยหลังจากที่ได้ยินแบบนี้ ? เจ้าเชื่อที่ได้ยินมารึเปล่า ? “ – ซาบีน่า เน้นน้ำเสียงขึ้น – “ รึเจ้าจะไปตอนนี้เลย ? “
จางเทีย เอาหัวไปใกล้กับหูของเธอจนปากเกือบโดนหูของเธอ เขาพึมพำออกมา – “ ข้าสงสารผู้ชายพวกนั้น พวกนั้นไม่ใช่แค่โง่แต่ตาบอดด้วย จากสถานการณ์ของเจ้าตอนนี้แล้ว เจ้าน่ะบริสุทธิ์เหมือนกับแม่ชีที่โตมาในโบสถ์ตั้งแต่เด็ก ข้าพูดถูกมั้ย ? ถ้าเจ้าต้องการให้ข้าเป็นแขกคนแรกให้ ข้าคงไม่เอาไปอวดหรอก...”
ตอนแรก ซาบีน่า แสดงสีหน้าอึ้งเล็กน้อย สุดท้ายเธอก็หันกลับมามองที่ จางเทีย ด้วยหน้าที่แดงและตาที่เบิกกว้าง
“ เจ้ารู้ได้ยังไง ? “ - เธอถามออกมาเบาๆ
“ ข้าแค่ตาดีซึ่งเก่งเรื่องหาความสวย ! “
“ เจ้าบ้านี่ อย่าบอกคนอื่นเชียว ! “ - ซาบีน่า พูดเหมือนขู่
“ ข้าจะได้อะไร ?” - จางเทีย ถามอย่างไม่อาย – “ เจ้าต้องจ่ายเพื่อให้ข้าเก็บความลับให้ ! “
“ เจ้าต้องการอะไร ?”
“ เพราะเจ้าเชิญข้ามางานเลี้ยงคืนนี้ งั้นข้าจะบอกเจ้าทีหลัง ! “
“ อย่าให้มากเกินไป ! “
“ ไม่ต้องกังวล ข้าไม่ได้โลภมาก ข้ามั่นใจว่าความต้องการของข้าน่ะไม่ได้เปลี่ยนความลับเจ้าเป็นอดีตหรอก ! “
หลังจากเงียบอยู่ 3 วินาที ในที่สุด ซาบีน่า ก็เข้าใจคำพูดของ จางเทีย ดังนั้นเธอจึงหยิกเข้าที่ต้นขาของ จางเทีย จนเกือบทำให้ จางเทีย สะดุ้ง
ราวกับว่าพวกเขาไม่อยากให้คนอื่นได้ยิน พวกเขาจึงนั่งติดกันมาก ในสายตาของแขกคนอื่นๆ ทั้งคู่น่ะใกล้ชิดกันมาก
เมื่อเห็นแบบนั้น โอลอร่า ก็บิดมีดและซ้อมไปมา ผู้ชายคนอื่นๆต่างก็แสดงความอิจฉา
“ ไชน์แกนกูลา เรามีแผนที่จะเพิ่มความสนุกกับงานเลี้ยงนี้ ข้าได้ยินมาว่ามีฆาตกรที่มีค่าหัว 5000 ในเอสไชน์ ข้าได้ยินมาว่าเขาฆ่านักล่าไปสองคน คนของข้าน่ะไม่ชอบเขาและอยากทดสอบพรสวรรค์ของเขา หวังว่า ไชน์แกนกูลา จะเห็นด้วยในเรื่องนี้ ! “ – ชายคนหนึ่งลุกขึ้นยื่นแล้วตะโกนออกมา
เมื่อได้ยินแบบนั้น จางเทีย ก็รู้ว่าสิ่งที่เขากังวลที่สุดก็ได้มาถึงแล้ว..
“ ฆาตรกรที่มีค่าหัว 5000 ทองอยู่ที่นี่ด้วยเหรอ ? “ - ในตอนที่เขาได้ยิน สีหน้าของ แกนกูลา ก็หม่นลงทันที