px

เรื่อง : Castle of Black Iron
Chapter 447: การเต้นรำแห่งสายเลือด


Chapter 447: การเต้นรำแห่งสายเลือด
ค้อนขนาดใหญ่ในมือเหมาะกับสถานการณ์ตอนนี้...

ไม่มีใครคิดว่า จางเทีย จะระเบิดนักสู้ระดับ 9 เป็นชิ้นๆได้ด้วยการเหวี่ยงค้อนเพียงครั้งเดียว ความจริงนี้มันน่าเหลือเชื่อ

แรงนี้ดีกว่าการมีทักษะธรรมดานับ 10 อัน ในตอนที่ใช้แรงออกมาเต็มที่ เขาได้ดึงประสิทธิภาพของทักษะและการเคลื่อนที่ออกมาหมด เพราะแรงอันน่ากลัวและความเร็วที่น่าทึ่งนี้จึงทำให้เกิดการโจมตีที่รุนแรงและมีประสิทธิภาพ

จางเทีย ได้กิน Seven-Strength Fruit ไปทั้งหมด 27 ผล แม้ว่า Seven-Strength Fruit ผลเดียวจะไม่ได้ทำให้ จางเทีย ได้เปรียบแต่ Seven-Strength Fruit 27 ผลนี้ก็ทำให้แรงของเขาเพิ่มขึ้นจนน่ากลัว

ลองคิดภาพแรงทั้งหมดของสัตว์มีไว้ในตัวคนเดียวสิ !

จางเทีย รู้ว่าค้อนนี้หนักกว่าดาบยักษ์ที่เขาเคยใช้มาแต่เพราะแรงที่เพิ่มขึ้นมาของเขาแล้ว จางเทีย รู้สึกว่ามันเบายิ่งกว่าดาบยักษ์

แม้แต่ โอลอร่า และ เซตตอน ก็ไม่คิดว่า จางเทีย จะแข็งแกร่งขนาดนี้ เขาไม่เคยแสดงมันออกมาให้พวกนี้ได้เห็นมาก่อน

เมื่อเห็นนักสู้ระดับ 9 ตัวแตกเป็นชิ้นๆด้วยค้อนของ จางเทีย  พวกคนที่ดูอยู่ต่างก็เงียบลงไปกว่า 2 วินาที

“ เป็นแบบนี้ได้ยังไง ? “ - โกแจค คำรามออกมา

แม้แต่ แกนกูลา และแขกสองคนจากเผ่าหมีใหญ่ก็นั่งหลังตรงและมองด้วยท่าทีสนใจ

แน่นอนว่าสองคนนั้นเข้าใจว่ามันหมายความว่ายังไง แม้แต่พวกเขาเองก็ไม่กล้ารับมือกับค้อนนั้นโดยตรง

“ นี่ใช่สัตว์ประหลาดรึเปล่า ?” - แกนกูลา พึมพำออกมาด้วยท่าทีเหลือเชื่อ – “ ค้อนนั่นหนักกว่า 657 กก....”

เมื่อเห็น จางเทีย พลิกสถานการณ์มาได้  ซาบีน่า ก็ดูสดใสขึ้นมาทันที
...
การต่อสู้ดำเนินต่อไป...

เมื่อเห็นเพื่อนตัวเองตัวแตกเป็นชิ้นๆโดยค้อนของ จางเทีย  นักสู้อีกสองคนต่างก็ถอยกลับหลังกระจายตัวออกจากกัน

เพราะมีอาวุธมากมายที่พื้น  นักสู้คนหนึ่งได้วิ่งไปที่มีดเล่มใหญ่ ส่วนอีกคนพุ่งไปหาหอก  พวกเขารู้ดีว่าจะฆ่า จางเทีย ยังไงในสถานกาณ์แบบนี้

ถ้าคนที่ถือมีดนั้นเข้าปะทะกับ จางเทีย สักวินาที  อีกคนก็สามารถใช้หอกโยนใส่ จางเทีย จากที่ไกลๆได้

พวกเขามีแผนที่ดีแต่น่าเสียดายที่ต้องมาเจอกับ จางเทีย

เมื่อเห็นพวกนั้นถอยกลับไป จางเทีย ก็ได้พุ่งเข้าหาคนที่ใกล้ที่สุด  แม้ว่าค้อนจะหนักหลายร้อยกิโลแต่ จางเทีย ก็ยังเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็ว

เมื่อเห็น จางเทีย ยังคงเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็วแม้ว่าจะมีค้อน พวกคนที่ดูต่างก็กลั้นหายใจ – “ คนๆนี้แข็งแกร่งแค่ไหนกัน !  ทำไมเขาถึงยังวิ่งเร็วแบบนี้ได้ทั้งๆที่ถือค้อน ? “

มันเกินกว่าที่นักสู้สองคนคาดเอาไว้ที่ จางเทีย ยังคงเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็วแม้ว่าถือค้อนอยู่

ในตอนที่นักสู้คนหนึ่งได้ยกมีดขึ้นมา เขาก็เห็น จางเทีย โผล่มาตรงหน้าแล้ว

“ ฆ่า ...” - ตาของ จางเทีย เป็นประกายราวกับสายฟ้า  เขายกค้อนขึ้นแล้วฟาดเข้าใส่ชายคนนั้น

ชายคนนี้สีหน้าเปลี่ยนไปทันที เขาใช้สัญชาตญาณตัวเองถอยกลับหลังแต่เขาก็พบว่า จางเทีย ตามเขามาติดๆอย่างกับเงา  ไม่ว่าเขาจะเปลี่ยนการเคลื่อนที่ไปยังไง เขาก็ยังคงเว้นระยะห่างจาก จางเทีย ไม่ได้เลยสักนิด

ค้อนได้สร้างลมอันรุนแรง ตอนวิกฤต ชายคนั้นก็ฟาดมีดของตัวเองฟันเข้าใส่ค้อนใหญ่อันนั้น...

เสียงปะทะดังสนั่นซะจนแก้วหูของผู้คนสะเทือน ผลก็คือมีดหนัก 70-80 กก.นั้นงอไป 90 องศาและกระเด็นออกไป อีกอย่างแล้วมือของชายคนนั้นก็มีเลือดไหลออกมาตรงส่วนง่ามมือจากแผลที่ฉีกขาด  เขากระเด็นออกไปแล้วกระอักเลือดออกมาจากปากด้วย

จางเทีย ยังคงโจมตีต่อไปอีก...

ปัง !  ด้วยเสียงดังสนั่นอีกครั้ง   จางเทีย ได้ปัดหอกที่พุ่งเข้ามาใส่เขาทิ้ง ในขณะเดียวกันก็ได้มีเสียงระเบิดอากาศที่เกิดจากหอกดังขึ้นมา

ระเบิดเสียง ! แต่การโจมตีนี้ใช้ไม่ได้ผลกับ จางเทีย

ตั้งแต่คืนที่เขาได้ช่วย โอลิน่า ไว้นั้น จางเทีย ก็ได้พัฒนาสายเลือดตัวเองขึ้นมาได้แล้ว แม้ว่า จางเทีย จะไม่รู้ชื่อของทักษะใหม่ที่ได้มาแต่เขาก็ยังใช้พรสวรรค์นั้นออกมาได้ในตอนวิกฤต

สายเลือดนี้เองก็เกี่ยวข้องกับการโยน  สายเลือดใหม่นั้นทำให้ จางเทีย มีสัญชาตญาณที่น่าทึ่ง เขาสามารถรู้สึกได้ถึงเส้นทางของอาวุธและเตรียมที่จะหลบมันได้  จางเทีย ถึงกับเปลี่ยนทิศทางของมันได้และทำการโจมตีโต้กลับได้ด้วย

เพราะเขาไม่รู้ชื่อของสายเลือดที่เขาได้ปลุกขึ้นมา จางเทีย จึงได้ตั้งชื่อมันว่า ‘ สะท้อนการโยน ‘

ชายที่อยู่ห่างออกไปนั้นต้องการจะฆ่า จางเทีย ด้วยหอก  เขาแสดงทักษะที่มีออกมา ถ้าคู่ต่อสู้มีจำนวนมากกว่านี้และโยนหอกเข้ามาใส่เข้าพร้อมกัน บางทีมันอาจจะเป็นอันตรายต่อ จางเทีย ได้แต่ถ้ามีแค่คนเดียว แม้ว่าจะทำระเบิดเสียงได้ด้วยแต่มันก็ไม่ได้เป็นภัยกับ จางเทีย เลยสักนิด โดยเฉพาะเมื่อ จางเทีย น่ะเตรียมรับมือกับมันไว้แล้ว

เมื่อเห็นหอกโดนจัดการได้ด้วยค้อน  แกนกูลา ก็ได้โดดขึ้นจากเก้าอี้ทันที คนอื่นๆต่างก็กลั้นหายใจ – “ ข้าฝันไปรึเปล่า ? ชายคนนี้ปัดหอกความเร็วเสียงได้ด้วยอาวุธหนักแบบนั้นได้ยังไง....”

หลังจากที่ปัดหอกทิ้งแล้ว   จางเทีย ก็ได้ฟาดค้อนลงที่พื้น จากนั้นเขาก็ได้ใช้ด้ามจับค้อนเป็นที่ค้ำแล้วถีบเข้าใส่อกของคู่ต่อสู้ที่ใช้มีด

เสียงกระดูกอกของอีกฝ่ายดังขึ้นมา   จางเทีย ได้ทำให้อีกฝ่ายกระเด็นไปกว่า 20 ม.แล้วกลิ้งไปกับพื้น

ในตอนที่ จางเทีย กลับมายืน เขาก็ได้หยิบค้อนขึ้นและพุ่งเข้าหาคนที่โยนหอกเข้าใส่เขา

ใช้เวลาไม่ถึง 1 วินาทีจากการจัดการหอกและฆ่านักสู้คนที่สองก่อนจะพุ่งหาคนสุดท้ายที่ยังรอด ในเวลาสั้นๆแบบนี้นักสู้คนสุดท้ายนั้นแทบไม่ได้โยนหอกเล่มที่สองออกไปเลย

ชายคนนั้นห่างจาก จางเทีย ไปประมาณ 40 ม.  เขาได้โยนหอกเล่มที่สองออกมาในตอนที่ จางเทีย เคลื่อนที่ได้ 7-8 ม.

ปัง ! หอกเล่มที่สองโดนค้อนกันเอาไว้ได้

จางเทีย พุ่งไปข้างหน้าอีก 20 ม.ในเสี้ยววินาที...

ปัง ! หอกเล่มที่สามก็กระเด็นออกไปอีก

ตอนนั้นคู่ต่อสู้ไม่ได้มีเวลาโยนหอกเล่มที่สี่ออกมาอีก เพราะ จางเทีย น่ะเข้ามาใกล้แล้ว  ในตอนที่ จางเทีย ห่างไปประมาณ 10 ม.  เขาก็ได้เหวี่ยงค้อนเข้าใส่คู่ต่อสู้

เสียงลมอันรุนแรงพร้อมกับค้อนที่พุ่งเข้าใส่เป้าหมาย  แม้ว่ามันจะไม่เร็วเท่ากับหอกแต่ด้วยพลังและความหนักที่มันมีนั้นมันรุนแรงกว่าหอก 10 เท่าได้

คู่ต่อสู้ทำได้แค่หลบมันแล้วเลิกคิดที่จะโยนหอกเล่มที่สี่ออกไป

ในตอนที่คู่ต่อสู้หลบการโจมตีได้และแม้ว่าคนที่ดูจะคิดว่าเขาจะหลบมันได้แต่ จางเทีย ก็ได้โผล่ออกมาจากมุมอับ เขาเปลี่ยนมุมจับค้อน ในขณะเดียวกัน จางเทีย ก็ได้เลี้ยวขวา เท้าขวาของเขาเป็นเหมือนตัวค้ำ เขาได้หมุนตัว 180 องศาและฟาดค้อนลงมาเป็นเส้นครึ่งวงกลมอย่างกับการเต้น....

ในตอนที่ จางเทีย จับด้ามจับเอาไว้ เขาก็เห็นคู่ต่อสู้ยืนห่างของเขาไป 2 ม.  ชายคนนั้นคิดว่าเขาหลบการโจมตีของ จางเทีย ได้..

 ค้อนนั้นฟาดเข้าใส่คู่ต่อสู้โดยตรง

หมอกเลือดกระจายออกมาอีกครั้ง

รอบๆนั้นเงียบสนิท ตอนแรก จางเทีย ได้แสดงแรงอันน่าทึ่งออกมา ตอนนี้เขาได้แสดงการตัดสินใจและความเร็วอันน่าทึ่งในการฟาดหอก สุดท้ายเขาก็ได้แสดงทักษะต่อสู้ที่เหนือชั้นซึ่งไม่อาจอธิบายได้แค่แรงและความเร็วเพียงอย่างเดียวแต่ยังสุดยอดด้วย ! น่ากลัวจริงๆ !

ภายใต้สายตาของทุกคน ค้อนหนักกว่า 600 กก.นั้นซึ่งเป็นเครื่องหมายของความดุดันได้แสดงการเต้นรำที่สวยงามออกมาเมื่ออยู่ในมือของ จางเทีย

ตูม !  จางเทีย วางค้อนลงไปที่พื้นจนทำให้เกิดหลุม เมื่อได้ยินเสียงนั้นทุกคนจึงรู้ตัว

จางเทีย กดด้ามจับค้อนและแม้ว่าจะไม่ได้พูดอะไรแต่ก็แสดงให้เห็นถึงความหยิ่งทะนงและเสน่ห์แปลกๆ

ตอนนั้นทั้ง โอลอร่า และ ซาบีน่า ต่างก็ตาเป็นประกาย

แต่มีบางคนที่หน้าซีดไป...

“ ใครต่อ ?” - จางเทีย หรี่ตาลงแล้วมองไปที่ โกแจค แล้วถามออกมาอย่างใจเย็น.....
 

รีวิวผู้อ่าน