px

เรื่อง : Castle of Black Iron
Chapter 448: หอกที่น่าตะลึง


Chapter 448: หอกที่น่าตะลึง
ทุกคนต่างก็เงียบ พวกเขาพากันหันไปหา โกแจค หัวหน้าของอผ่าหมาป่าเลือดรวมถึง แกนกูลา ด้วย

ความหมายของ จางเทีย น่ะชัดเจน เกมแห่งความตายนี้ยังไม่จบ !

ตอนนั้นสีหน้าของ โกแจค ซีดขาว  นักสู้ระดับ 9 น่ะไม่ใช่พวกคนธรรมดราในเผ่า เขาเอานักสู้ระดับ 9 จากเผ่ามาแค่ 3 คน  ทั้งสามคนถือว่าเป็นคนสำคัญของกองทัพเขา หลังจากทีเสียสามคนนั้นไป โกแจค คงไม่สามารถอธิบายเรื่องนี้กับเผ่าเขาได้

นอกจากต้องเจอกับความผิดและปัญหาจากเผ่าแล้ว เขารู้สึกเสียดายเพราะสามคนนี้ถือว่าเป็นคนสนิทกับเขาด้วย ก่อนหน้านี้เขาว่าจะขอทรัพยากรจากเผ่าเพื่อให้สามคนนี้พัฒนาความแข็งแกร่งขึ้นมาอีก มันเกินกว่าที่เขาคาดไว้ที่สามคนี้โดนฆ่าที่นี่  มันไม่ต่างอะไรกับการตัดแขนเขาทิ้งเลย

เมื่อมองไปยัง จางเทีย ที่ยืนอยู่ในสนามต่อสู้ด้วยตาที่เบิกกว้าง เขาเกลียด จางเทีย มาซะจนอยากจะลอกหนังของ จางเทีย

“ ตามกฎของเกม เจ้าชนะการต่อสู้ไปแล้ว ไม่จำเป็นที่จะมาท้าทายเผ่าหมาป่าเลือดอีกต่อไป เผ่าหมาป่าเลือดไม่มีนักสู้ระดับ 9 อีกแล้ว ถ้าเจ้ายังยืนกรานเจ้าจะต้องเจอกับนักสู้ระดับ 10ของเผ่า ! “  - แกนกูลา มองไปยัง จางเทีย ด้วยตามที่เป็นประกายราวกับเจอเรื่องสนุกเข้า  อันที่จริง แกนกูลา แนะนำให้ จางเทีย หยุด

“ นั่นคือกฎของเกมใช่มั้ย?”

“ ใช่ เพราะเกมนี้น่ะจะใช้นักสู้ระดับเดียวกัน ถ้าคู่ต่อสู้ไม่มีนักสู้ระดับเดียวกันอีก ผู้ชนะต้องท้าทายกับนักสู้ที่ระดับสูงกว่าเดิม เจ้าน่ะควรคิดดีๆ ! “ - ซาบีน่า อธิบายให้ จางเทีย ฟัง  เพราะ โอลอร่า เองก็เป็นนักสู้ระดับ 10  เมื่อ จางเทีย เป็นทาสของ โอลอร่า ได้ ทุกคนเลยคิดว่า  จางเทีย นั้นเป็นนักสู้ระดับ 9

ซาบีน่า กล่อม จางเทีย ให้หยุด เพราะในความคิดของทุกคนแล้วน้อยนักที่นักสู้ระดับ 9 จะเอาชนะนักสู้ระดับ 10 ได้  คนแบบนั้นยากที่จะหาเจอในเผ่าหมี  นักสู้ระดับ 9 บางคนในเผ่าหมีนั้นสามารถฆ่านักสู้ระดับ 10 ได้จริง แต่คนพวกนั้นที่มีร่างกายที่บ้าคลั่งนั้นหายาก  หลังจากที่บ้าคลั่งแล้วพวกเขาจะเพิ่มพลังจากความบ้าคลั่งที่มีกว่า 3 เท่า

ไม่มีใครคิดว่า จางเทีย จะสามารถเอาชนะนักสู้ระดับ 10 ได้ เหตุผลก็ง่ายๆ  ถ้าเขาชนะการต่อสู้ได้  จางเทีย ก็คงไม่โดน โอลอร่า จับตัว  ตอนนี้ เซตตอน เป็นเพียงคนเดียวที่มีความสามารถพอๆกับนักสู้ระดับ 10 คนอื่นๆในเต็นท์
“ ปีเตอร์ พอแล้ว.. “ – เซตตอน ตะโกนหา จางเทีย   หวังว่า  จางเทีย จะไม่หุนหัน  ยังไงซะ เซตตอน ก็ชอบ  จางเทีย   เขาไม่ต้องการให้ จางเทีย โดนฆ่าด้วยวิธีนี้ เพราะเผ่าหมาป่าเลือดได้เสียนักสู้ระดับ 9 ไป 3 คนซึ่งเหมือนกับการตบหน้า โกแจค จนเลือดไหล

เซตตอน รู้ว่า โกแจค คงไม่ได้รู้สึกดีหลังจากที่เสียสามคนนั้นไป  บาเทล หัวหน้าของเผ่านั้นไม่ได้มีลูกชายแค่คนเดียว มีการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกันในหมู่พี่น้อง

ถ้า จางเทีย โคจรพลังฉีต่อสู้และใส่ถุงมือ  เขาอาจจะเอาชนะนักสู้ระดับ 10 ได้แต่ตอนนี้พลังฉีของเขาโดนเข็มระเบิดกดทับเอาไว้

โอลอร่า ส่ายหน้าเล็กน้อยให้กับ จางเทีย

โกแจค มองไปที่ จางเทีย ด้วยสายตาที่เกลียดชัง คำพูดของเขาทำให้ทุกคนเกลียดชังเขา – “ เจ้าก็แค่ผู้ร้าย เจ้าคิดว่ามีสิทธิที่จะภูมิใจกับการต่อสู้เล็กน้อยนี้รึไง ? เจ้ารู้ถึงผลลัพธ์การสู้กับนักสู้ระดับ 10 รึเปล่า ? มันมากพอที่จะทำให้เจ้ากลัวได้ ฮาฮา ไอ้หนู  หลังจากวันนี้ข้าเสนอว่าเจ้าควรที่จะไปซ่อนใต้กระโปรงผู้หญิงที่ปกป้องเจ้าได้ซะ  อย่าให้ข้าเจอเจ้าอีก ! “

โกแจค ยั่วให้ จางเทีย รับคำท้า  ด้วยวิธีนี้เขาจะได้ส่งนักสู้ระดับ 10 ไปฆ่า จางเทีย ได้  ผลลัพธ์แบบนั้นดีกว่าการเสียนักสู้รระดับ 9 ไปโดยไม่ทำอันตรายใดๆกับ จางเทีย  ยังไงซะ 3: 1 ก็ต่างจาก 3:0

พวกคนที่อยู่ที่นี่ล้วนแต่ฉลาด  ไม่งั้นแล้วคงไม่สามารถพาทหารตัวเองมาที่นี่ได้  ทุกคนเข้าใจแผนของ โกแจค ทันที

“ หน้าไม่อาย ! “  - ซาบีน่า ชี้ไปยัง โกแจค แล้วด่าออกมา – “ เจ้าลงมาสู้เองสิ ! “

“ ฮี่ฮี่..นอกซะจากว่าเขาจะผ่านการท้าทายที่ว่าได้ เขาก็ยังไม่มีสิทธิจะสู้กับข้าในตอนนี้ “ – โกแจค กอดอกแล้วพูดออกมาดังๆ

ซาบีน่า หงุดหงิดซะจนพูดไม่ออก

“ เอานักสู้ระดับ  10 ของเจ้ามา ข้าอยากเห็นว่านักสู้ระดับ 10 ของเผ่าหมาป่าเลือดเป็นยังไง ! “ - จางเทีย ตอบกลับซึ่งทำให้ผู้คนที่ดูอยู่ต่างก็เงียบ พวกเขามองมาที่ จางเทีย แล้วรู้สึกว่าเขาน่ะบ้า  หลายคนส่ายหน้าเล็กน้อย บางคนแสดงท่าทีสงสารออกมา – “ ช่างเป็นเด็กหนุ่มที่น่าสงสารจริงๆ เขาตัดสินใจบ้าแบบนั้นได้ยังไง ? “
ในความเห็นของหลายคน พวกเขาน่ะไม่ได้ชื่นชมการโจมตีจากค้อนนั้นอีกต่อไป

“ นักสู้ระดับ 10 น่ะไม่ใช่แค่แข็งแกร่งแต่ยังมีการตัดสินใจที่มั่นคงด้วย  แม้แต่ลูกหมีก็ไม่กล้าที่จะมาหยามหมาป่าตอนที่มันโตแล้ว ! “ – แกนกูลา หันไปหาแขกสองคนจากเผ่าหมีใหญ่

สองคนนั้นมองไปที่ จางเทีย ก่อนจะส่ายหน้าเล็กน้อย – “ มีคนแข็งแกร่งและมีพรสวรรค์ในโลกนี้แต่น้อยคนนักที่จะมีชีวิตยืนยาว “

“ นักบวชซาริน ได้บอกว่าไว้หิมะบนยอดเขาเอลซีด้าไม่ได้ตกลงมาตลอดปีแต่หิมะส่วนมากน่ะละลายได้อย่างง่ายดาย แม้ว่าพวกมันจะอยู่สูงแต่ก็มีโชคชะตาที่ต่างกัน ดังนั้นเมื่อคนเราอยู่ตำแหน่งที่สูงแล้ว พวกเขาอาจจะเสียตำแหน่งนั้นได้ง่ายๆ “  - โรสลาฟ หนึ่งในสมาชิกเผ่าหมีได้พึมพำออกมา

แม้ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ต่อนนี้แต่หลังจากที่ได้ยินคำพูดของ ซาริน   แกนกูลา ที่ก็ได้พยักหน้าเล็กน้อย เขาเอามือทาบไปที่อกด้านซ้าย – “ นักบวชซาริน น่ะฉลาดที่สุดในป่าน้ำแข็งหิมะจริงๆ ! “

“ น่าเสียดายจริงๆ ! “

“ ใช่ น่าเสียดาย ! “
...
ภายใต้สายตาสงสารของทุกคน นักสู้ระดับ 10 ที่สู้กับ เซตตอน ตะกี้ก็ได้ฮึดฮัดอกมา เขายืนห่างจาก จางเทีย ไป 40 ม. ตามกฎของเกมแล้วถ้าคู่ต่อสู้ปล่อยพลังฉีต่อสู้ออกมาได้ พวกเขาควรจะอยู่ห่างกัน 40 ม.ในตอนเริ่มต้น

จางเทีย มองไปที่อีกฝ่ายโดยไม่แสดงท่าทีอะไร

ในตอนที่ทหารของ แกนกูลา ประกาศเริ่มการต่อสู้  โอลอร่า ที่ยืนอยู่ด้านนอกก็กรีดร้องออกมา

“ เดี๋ยว  ปีเตอร์ เป็นสมบัติของข้า  ข้าไม่เห็นด้วยกับการที่เขาเข้าร่วมการดวลนี้ ! “

เสีงของเธอนั้นแหลมและฟังดูดูถูกนิดหน่อย  จางเทีย หันกลับมาและพบว่าตัวเธอสั่นและจ้องมาที่เขา   เขาไม่รู้ว่าเป็นภาพลวงตารึเปล่าแต่เขารู้สึกว่าตาของเธอนั้นเหมือนจะเปียกๆ

“ โอลอร่า ตามกฎของเกมแล้วการตัดสินใจของผู้เข้าแข่งทั้งสองนั้นถือว่าเหนือกว่าทุกอย่าง ไม่มีใครขัดได้  ข้าเดาว่าเจ้าคงเจ็บปวดที่ของเล่นเจ้าจะตาย ฮี่ฮี่..” - โกแจค ฮึดฮัดออกมา  หลังจากที่มองไปยัง โอลอร่า แล้ว เขาก็ได้หันกลับมามองที่ แกนกูลา – “ เพราะ ปีเตอร์ ตกลงที่จะต่อสู้ เขาคงรู้สึกผิด ไชน์ เจ้าช่วยประกาศเริ่มการต่อสู้ที ! “

“ โอลอร่า  โกแจค พูดถูก เจ้าไม่มีสิทธิในการดวลนี้  !” - แกนกูลา ตอบกลับหลังจากที่มองไปยัง โอลอร่า

โอลอร่า เงียบไป เธอยังคงจับจ้องไปที่ จางเทีย ต่อ

จางเทีย แค่ยิ้มให้กับ โอลอร่า

“ มาเริ่มกันเลย  !” - แกนกูลา หันไปบอกทหารที่อยู่ด้านข้าง

ไม่นานหลังจากนั้นทหารก็ได้ยืนขึ้น  เขาก็ได้ยกดาบแล้วโยนมันออกไปในอากาศ...

ในตอนที่ดาบหมุนควงอยู่ในอากาศนั้น เมื่อมันสูงไปได้ประมาณ 7-8 ม.มันก็ได้เริ่มร่วงลงมา

ทุกคนรู้ว่าการต่อสู้จะเริ่มตอนที่ดาบตกลงถึงพื้น  ไม่มีใครสนว่า ปีเตอร์ จะอยู่ต่อหน้านักสู้ระดับ 10 ได้นานแค่ไหน ในสายตาพวกเขาแล้วพวกเขารู้ผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นแล้ว

ในที่สุดดาบก็ร่วงลงมาปักลงที่พื้น

ในตอนที่ดาบแตะพื้น ทั้งสองคนก็ได้เริ่มขยับ

ใน 0.1 วินาทีแรก นักสู้ระดับ 10 ได้ปล่อยสัญลักษณ์พลังฉีต่อสู้รูปเสือสูงกว่า 10 ม.ออกมา...ส่วน  จางเทีย ได้หยิบหอกจากพื้นขึ้นมาถือไว้

ใน 0.1 วินาทีต่อมา อีกฝ่ายก็ได้พุ่งเข้าหา จางเทีย

ในทางกลับกัน จางเทีย พร้อมที่จะโยนหอกออกไปแล้ว

ใน 0.1 วินาทต่อมา อีกฝ่ายได้พุ่งมาได้กว่า 10 ม.

แต่ จางเทีย กลับยิ้มออกมา

“ ไปตายซะไอ้หนู.. “ - ใน 0.1 วินาทีต่อมา คู่ต่อสู้ได้คำรามและได้ปล่อยหมัดพลังฉีขนาดใหญ่ออกมาซึ่งตอนนี้ห่างจาก จางเทีย ไปเพียง 20 ม.

ตอนนั้น จางเทีย ก็ได้โยนหอกของเขาออกไป

ใน 0.1 วินาทีครั้งที่ห้า เกือบทุกคนในเผ่าหมีได้ยินเสียงระเบิด รวมถึงผู้คนที่ดูอยู่และพวกนักสู้ที่อยู่ในรัศมี 1 กม.ด้วย

เมื่อได้ยินเสียงนั้นนักสู้หลายคนในเผ่าหมีรู้สึกสับสน พวกเขารู้ว่าเสียงนี้ดังขึ้นมาจากเต็นท์จัดงาน ดังนั้นนักสู้หลายคนจึงหยิบอาวุธตัวเองขึ้นมาและวิ่งไปที่ที่เกิดเสียง

ในเสี้ยววินาทีนั้นทั้งเผ่าเริ่มวุ่นวายขึ้นมาทันตา

ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขาเห็นแค่สัญลักษณ์พลังฉีของนักสู้ระดับ 10 ของเผ่าหมาป่าเลือดหายไปในวินาทีเดียวและเห็นโล่สูงกว่า 20 ม.เป็นแนวป้องกันนั้นถล่มลง  โล่บางอันถึงกับแตก  เสียงอันดังสนั่นของการแตกหักของโล่เหล็กดังขึ้นมา

เพราะการต่อสู้จบลงในเวลาไม่ถึง 1 วินาที พวกคนระดับต่ำหลายคนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น  แค่พริบตาเดียวทุกอย่างก็ได้เปลี่ยนไป

พวกเขาช็อก  ผลลัพธ์นี้ทำให้พวกเขาพูดไม่ออก

“ เกิดอะไรขึ้น ? ทำไมนักสู้ระดับ 10 ถึงไม่ขยับ ? เกิดอะไรขึ้นกับโล่แนวป้องกัน ? ข้ารู้ว่าพวกมันสามารถกันการโจมตีของทหารม้าเกราะหนักได้  ฟ้าผ่ารึไง ? “ – ชายคนหนึ่งรู้สึกว่าเขาไปเหยียบใครเข้า ดังนั้นเขาจึงก้มหน้าลงไปดูแต่เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมา เขาก็พบว่าการต่อสู้นี้จบลงแล้ว ทุกคนยืนนิ่งและจ้องไปยังจุดๆเดียว

ชายข้างๆเขาอ้าปากข้างและตาถลนเหมือนกับคนโง่โดยไม่สนคำถามของเขา

ตอนนั้นนเองก็ได้มีเสียงเท้าของกองทัพดังขึ้นมาพร้อมกับกองทัพของเผ่ามีได้แห่กันเข้ามาจากทั่วทุกทิศทาง

“ มัน...ปลอดภัย บอกพวกนั้นให้กลับไป  !” - แกนกูลา สั่ง  แม้ว่าเขาจะใจเย็นตลอดตั้งแต่ที่เริ่มงานเลี้ยงแต่เสียงของเขาตอนนี้ดูสั่นเล็กน้อย

เมื่อได้รับคำสั่ง พวกทหารก็พากันแยกย้ายกันออกไป

หลังจากที่พกวนั้นกลับไปแล้ว แกนกูลา เหมืนอจะต้องการพูดบางอย่างแต่เขาก็รู้สึกว่าคอของเขานั้นแห้งผาก

แกนกูลา ไม่ได้เห็นว่า โรสลาฟ และ วาจิด ที่อยู่ข้างๆนั้นลุกขึ้นยืน สีหน้าของทั้งคู่แดงกล่ำ จมูกของพวกเขาขยาย ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังจะบ้าขึ้นมา

ไม่มีใครพูดอะไรออกมาเกี่ยวกับสิ่งที่เห็น พวกเขาจ้องไปที่สนามต่อสู้แล้วถามกับตัวเอง – “นั่นภาพลวงตาใช่มั้ย?”
...
นักสู้ระดับ 10 ของเผ่าหมาป่าเลือดยังยืนห่างจาก จางเทีย ไป 20 ม. เขาก้มหน้าลงมาดูและพบกับรูที่อกของตัวเอง  เขาสงสัยว่าทำไมเขาถึงมีชีวิตอยู่  เขาสับสน เขาไม่ได้รู้สึกเจ็บเลยแม้แต่นิด เขารู้สึกแค่ว่าแรงและประสาทสัมผัสนั้นค่อยๆหายไปทีละนิดๆ

“ อะไร..นี่มันอะไรกัน ? “ – เมื่อมองไปยังเด็กหนุ่มที่ห่างออกไป 20 ม. เขาก็ถามออกมาอย่างอ่อนแรง

“ หอกไง ! “ - จางเทีย พูดอย่างใจเย็น – “ ข้าไม่ต้องการฆ่าเจ้าแต่เจ้าไม่ควรรับใช้ไอ้บัดซบนั่น ! “

“ หอก..” – นักสู้ระดับ 10 พูดซ้ำอีกครั้ง  เขาเข้าใจทันทีเขาไม่ได้ต่างอะไรกับสัตว์อสูรในป่าน้ำแข็งหิมะเมื่อต้องเจอกับหอกของ จางเทีย  หลังจากที่คิดแบบนั้นแล้วสีหน้าของเขาก็สดใสขึ้นมา ตาของเขาจ้องไปที่ จางเทีย และพึมพำประโยคสุดท้ายออกมา – “ ข้า..สมาชิกของเผ่าหมาป่าเลือด โกแจค ..เป็น..ตัวแทน..ของทั้งเผ่าไม่ได้.. ! “

“ ข้าไม่ได้เกลียดเผ่าหมาป่าเลือด ข้าแค่ต้องการหัวของมัน ! “

เมื่อได้รับการยืนยันของ จางเทีย  นักสู้คนนั้นก็ได้ยิ้มออกมาก่อนจะล้มลงไปที่พื้น

 จางเทีย มองนักสู้ที่ตายแล้วได้ถอนหายใจออกมา หลังจากนั้นเขาก็หยิบเอาดาบและหอกขึ้นมาก่อนจะเดินไปหา โกแจค

เมื่อเห็น จางเทีย เดินเข้ามาใกล้ แกนกูลา พร้อมกับหอก   ทหารก็ได้ทำการคุ้มกัน แกนกูลา ทันที่

“ หลบไป คิดว่าร่างกายของเจ้าแข็งแกร่งกว่าโล่รึไง...” - แกนกูลา คำรามออกมาด้วยตาที่เป็นประกาย  เขาแสดงสัญชาตญาณของตัวเองออกมา ---   ไม่นานทหารตรงหน้าเขาก็ได้ถูกเตะกระเด็นออกไป

ทหารพวกนั้นพูดอะไรไม่ออกและรีบหลีกทางทันที แต่เมื่อเห็นหอกของ  จางเทีย แล้ว พวกนั้นก็หายใจกันได้ไม่สะดวกเท่าไหร่

แกนกูลา มองมาที่ จางเทีย แต่ จางเทีย มองไปที่ โกแจค
เมื่อเห็น จางเทีย เดินเข้ามา โกแจค ก็เริ่มหายใจติดขัดแต่เมื่อเห็น จางเทีย เข้ามาใกลขึ้น คนข้างๆ โกแจค ต่างก็ถอยหนี ผลก็คือทุกคนอยู่ห่างจาก โกแจค ไป 10 ม.

โกแจค เองก็ต้องการจะหนีแต่เมื่อเห็นหอกของ จางเทีย  เขาก็รู้สึกว่าขาของเขานั้นหนักอึ้ง

โกแจค พึมพำออกมา – “ ข้าคือ....”

ด้วยการฟันเพียงครั้งเดียว จางเทีย ก็ได้ตัดหัวของ โกแจค ออก ผลก็คือเลือดได้พุ่งสูงกว่า 1 ม.แล้วอาบไปทั่วหน้าของ จางเทีย

หลังจากที่ปล่อยหอกและดาบแล้ว จางเทีย ก็ได้หยิบหัวของ โกแจค ขึ้นมาแล้วเช็ดเลือดจากหน้าออก  เขาเดินไปตรงหน้า โอลอร่า แล้วทิ้งหัวนั้นลงที่พื้นตรงหน้าเธอ

จางเทีย อยากจะพูดบางอย่างแต่ก็เห็นน้ำตาที่ไหลอาบลงมาตามคางของเธอ

“ ไม่ต้องร้อง ในฐานะสมบัติของเจ้า ข้าควรที่จะแก้แค้นให้เจ้า ! “ - จางเทีย ยิ้ม

“ เจ้า...มันโกหก ! “

 จางเทีย  รู้ว่าเธอหมายถึงอะไร จริงๆแล้วแม้ว่าจะโดนเข็มระเบิดอยู่กับตัวแต่เขาก็สามารถจัดการเผ่าอินทรีย์เทาได้แต่เขาน่ะปกปิดความสามารถตัวเองไว้ตลอด

“ ข้ารู้สึกว่าเรื่องเข้าใจผิดของเราคงได้รับการแก้ไขในไม่ช้า อีกอย่างแล้วนี่ไม่ได้มีปัญหาสำหรับข้า  เพราะเจ้าไม่ได้ฆ่าข้าในคืนนี้ ข้าเลยไม่ต้องฆ่าเจ้า ! “ - จางเทีย พูดออกมาตรงๆ หลังจากที่พูดจบ จางเทีย ก็ได้พูดมุขตลกที่ ดอนเดอร์ พูดให้ฟัง – “ ถ้าข้าตีเจ้า ข้าเองก็ต้องเจ็บ ! “

เมื่อได้ยินแบบนั้น โอลอร่า ก็ตัวสั่น  หลังจากที่มองไปยัง จางเทีย  เธอก็ไม่พูดอะไร เธอกลับหันหลังกลับแล้วเดินออกไป...

ด้วยความสับสนที่มี จางเทีย จึงเริ่มเกาหัว

เซตตอน ยิ้มออกมา เขายกนิ้วโป้งให้กับ จางเทีย แต่เมื่อเห็น จางเทีย มองมาที่เขา  ซาเลม ที่ยืนอยู่ข้างๆก็ต้องยิ้มออกมาอย่างขมขื่น
...
“ เกมได้จบลงแล้ว กลับไปกินข้าวกันได้  !” - เสียงของ แกนกูลา ยังคงดูสงบ

จางเทีย หันกลับมาและพบว่า แกนกูลา ที่มีชื่อเล่นว่าหมาบ้านั้นเผยรอยยิ้มกว้างมาให้เขา ตอนนั้น จางเทีย เห็นรอยยิ้มจริงใจแบบนี้ทุกที่

ยกเว้นแค่ 2 คนจากเผ่าหมีใหญ่ที่มองมาจนทำให้ จางเทีย รู้สึกขนลุก
 

รีวิวผู้อ่าน