Chapter 460: หินอมตะ
ในตอนที่ จางเทีย ปัดฝุ่นที่เคาเตอร์ออกและเห็นของด้านล่าง เกอรี่ กับ แซม ก็ได้เช็ดฝุ่นออกจากเคาเตอร์อื่นด้วยและเห็นของด้านใน
แม้ว่าจะผ่านมาพันปีแต่ของด้านในก็ยังสะอาดเหมือนก่อนหน้านี้
ภายใต้แสงสีเขียวของตะเกียง ของด้านในนั้นดูสว่างขึ้นมา พวกมันดูเหมือนอยู่ในดินแดนแห่งความฝันที่ถูกฝังไว้มาเป็นล้านปี
“ ของพวกนี้...มัน.. “ – แม้แต่ เกอรี่ กับ แซม ก็สับสนขึ้นมาทันที การเจอกับของมากมายแบบนี้ทั้งสองไม่เชื่อว่าพวกเขาอยู่ในโลกความจริง พวกเขาช็อกอย่างมาก
จางเทีย เองก็ไม่เชื่อว่าเขาจะโชคดีแบบนี้ แม้ว่าในยุคนี้จะมีพวกโกหกมากมายอย่างในตลาดมืด พวกนั้นมักจะปลอมเพชรโดยการใช้แก้วสีเขียวเพื่อหลอกคนโง่
เพชรล้ำค่าแบบนี้แสดงฐานะชั้นสูงในบรรดาคนจีนก่อนภัยพิบัติ หลังจากภัยพิบัติแล้วเพชรแบบนี้น่ะมีค่ามากกว่าเดิมจนน่าตกใจ
พวกมันคือมรกต !
มรกต !
ในยุคนี้เพชรแบบนี้มีคำเรียกพิเศษในทวีปตะวันออก หินอมตะ
ก่อนภัยพิบัติ เพชรแบบนี้มีค่าอย่างมากแต่มรกตน่ะไม่มีค่ามากในยุคนั้น
“ ใครกันที่ขายของปลอมเมื่อ 900 ปีก่อน ? “ - ความคิดนั้นแว๊บขึ้นมาในหัว จางเทีย เขามองไปที่เพชรและจี้ในเคาเตอร์
“ ปีเตอร์.. “
เมื่อได้ยินเสียง เกอรี่ จางเทีย ได้หันกลับมาและพบว่าพวกนั้นมองมาที่ จางเทีย ด้วยท่าทีกังวล ชัดแล้วว่าพวกนั้นกำลังคิดบางอย่าง
“ ไปลองดูกัน .. “ - จางเทีย ยิ้ม แม้ว่าเขาจะไม่ได้ขาดเงินในตอนนี้ เขาก็ยังคงคอแห้งผากในตอนที่เขาพูดเสนอขึ้นมา
ตอนที่ จางเทีย ต้องการเปิดเคาเตอร์ตรงหน้า เขาก็เห็น แซม วิ่งขึ้นไปชั้นบน
จางเทีย รู้ว่า แซม นั้นวิ่งไปตรวจชั้นบนให้พวกเขา แม้ว่า จางเทีย จะไม่เชื่อว่าจะมีคนกล้าลงมาโดยเอาชีวิตตัวเองมาเสี่ยงแต่เขารู้ดีว่ามันจำเป็นที่ต้องระวัง
ในตอนที่ แซม ขึ้นไปชั้นบน เกอรี่ ก็ได้มองมาที่ จางเทีย
หลังจากที่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ จางเทีย ได้ต่อยลงไปที่เคาเตอร์ตรงหน้า
หลังจากที่ทำเสียงดังและทำฝุ่นคลุ้งแล้วเขาก็ยังไม่อาจทำลายเคาเตอร์ได้
ดังนั้น จางเทีย จึงอึ้ง แม้ว่าเขาจะใช้แรงไปแค่ 30% แต่มันก็น่าตกใจ แม้แต่เหล็กตรงหน้าเขา เขาก็จัดการมันได้แต่เคาเตอร์นี่ไม่เป็นอะไรเลย
“ ก่อนภัยพิบัตติเคาเตอร์ที่ขายของมีค่าไม่ได้ทำขึ้นมาจากแก้วธรรมดาแต่เป็นแก้วพิเศษเหมือนกับอัลลอย มันถูกใช้เพื่อปกป้องของมีค่าข้างในไม่ให้โดนปล้น แม้ว่ามันจะดูเหมือนกระจกธรรมดาแต่มันน่ะแข็งกว่าเหล็กอีก ! “ - เกอรี่ อธิบาย
จางเทีย เผยท่าทีอายเล็กน้อยออกมา เขาขยับไปด้านหลังเคาะเตอร์ เขาเห็นลิ้นชักอยู่ตรงนั้น หลังจากที่แตะมันสักพักแล้ว จางเทีย ก็ดึงล็อคของมันออก หลังจากนั้นเขาก็ได้เอาของออกมาจากเคาเตอร์
มีกำไลสีเขียวหม่น จากประสบการณ์ในร้านของชำแล้ว เขาบอกได้ว่ากำไลนี้ไม่ได้ทำมาจากแก้วแน่นอน มันต่างกับเพชรรึหินอื่นๆที่เขาเคยเห็นมา
กำไลนี้สะอาดและยังสวย ดอนเดอร์ เคยบอกถึงวิธีการบ่งบอกมรกตแต่ ดอนเดอร์ พูดมันด้วยรอยยิ้มราวกับว่า จางเทีย คงไม่มีโอกาสได้เห็นมันจริงๆ เขาบอกกับ จางเทีย ว่าหินอมตะส่วนมากจะทำขึ้นโดยพวกคนจีนที่มีอำนาจในทวีปตะวันออก นักเล่นแร่แปรธาตุน้อยคนนักที่มีมัน พวกคนที่ได้หินอมตะไปแน่นอนว่าไม่ใช่คนธรรมดา ตอนนั้น จางเทีย มีเงินแค่ไม่กี่ทองแดงต่อวัน เขามีเงินไม่พอซื้อเบียร์ข้าวกินด้วยซ้ำ แน่นอน ดอนเดอร์ ไม่เชื่อว่า จางเทีย จะมีโอกาสจับเพชรแบบนั้นได้ในอนาคต
จางเทีย เอากำไลนั้นมาแนบหน้า
ตอนนั้นเขาก็รู้สึกเย็นขึ้นมา
เขาเอาไฟแช็คออกมาแล้วลองเผามันดู
หลังจากนั้นกว่า 10 วินาที จางเทีย ก็ได้เอาไฟแช็คออก เขาลองเช็ดที่ที่โดนเผา เขาพบว่ามันยังใหม่เหมือนแต่ก่อน สีมันไม่เปลี่ยนเลยสักนิด
ในฐานะนักสำรวจแล้ว แน่นอนว่า เกอรี่ รู้ว่าวิธีง่ายที่สุดในการยืนยันว่ามันเป็นของจริงรึเปล่า ไม่ต้องพูดถึงแก้วระดับต่ำในยุคนี้ แม้แต่ก่อนภัยพิบัติ มันยังมีมรกตปลอมอีกตั้งเยอะ
ในตอนที่ จางเทีย เช็ดรอยไหม้ออก เขาก็เห็น เกอรี่ เดินมาใกล้เขา เกอรี่ ยกตะเกียงเพื่อตรวจสอบมัน เมื่อเห็นว่าสีมันไม่เปลี่ยน เกอรี่ ก็ถึงกับกลั้นหายใจ หลังจากมองไปรอบๆเห็นเคาเตอร์อื่นๆที่มีฝุ่นปกคลุม เกอรี่ ก็ได้รู้สึกอึ้งและตัวสั่นไปทั้งตัว
ตอนนี้เรื่องที่สำคัญคือเอาของพวกนี้ออกไปโดยไม่ให้คนอื่นสนใจ