px

เรื่อง : Castle of Black Iron
Chapter 462: ฉีหยุน


Chapter 462: ฉีหยุน

ก่อนที่จะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นก็ได้มีเสียงคำรามดังมาจากไกลๆ มีเงาหนึ่งได้มาถึงที่นี่เร็วอย่างกับสายฟ้า

เขาเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็ว ด้วยพลังฉีต่อสู้ที่เปล่งออกมาแล้วเขาได้โผล่เข้ามาในแคมป์พร้อมกับเสียงระเบิดของอากาศ

“ มีอะไร ?  ใครส่งลูกดอกทะลุเมฆออกไป ? “

หลังจากเสียงระเบิดนั้นแล้วชายคนนั้นก็ได้ปรากฏตัว

 จางเทีย ชื่นชมในใจ แม้ว่าเขารู้ว่ามีพวกผู้แข็งแกร่งในทีมธนาคารนี้แต่เขาไม่เคยเห็นพวกนี้มาก่อน ตอนนี้ จางเทีย พบว่าผู้แข็งแกร่งนั้นสุดยอดยิ่งกว่าที่เขาได้คิดเอาไว้  อย่างน้อยความเร็วในการเคลื่อนที่ก็เกิน 100 ม./วินาทีซึ่งมากกว่า จางเทีย   แม้ว่าเขาจะใช้สกิลความเร็วออกไปแล้วแต่ จางเทีย ก็ไม่อาจเคลื่อนที่ให้เร็วแบบนั้นได้

มันคือชายคนจีนหัวล้านวัย 40 ปีที่ดูแข็งแกร่ง ในตอนที่เขาถามมานั้นเขาได้มองไปยังเจ้าหน้าที่ที่ยิงลูกดอกขึ้นไปซึ่งทำให้คนๆนั้นกดดดัน

“ ข้าได้รับคำขอร้องใช้บริการ..”

เมื่อได้ยินแบบนั้นชายหัวล้านได้เปลี่ยนสีหน้าและลบความขัดข้องใจไป....

“ บางคนพบมรกตกว่า 1000 ชิ้น ! “

ในตอนที่ชายหัวล้านได้ยินคำพูดต่อมา เขาก็หายหงุดหงิดเป็นปลิดทิ้ง เขาเผยสีหน้าแปลกๆออกมาแล้วถามซ้ำ – “ กว่าพันชิ้น ? “

“ ใช่ กว่าพันชิ้น ! “- เพราะเขายังไม่ได้เห็นของ เขาจึงกลัวว่าตัวเลข 1674 ของ จางเทีย จะไม่แม่ยำ ดังนั้นเขาจึงพูดจำนวนคร่าวๆไป

ตัวเลขนี้อันที่จริงก็น่าทึ่งแล้ว

เมื่อได้ยินชายหัวล้านก็ได้หันไปหา จางเทีย,แซม และ เกอรี่

ตอนนี้ จางเทีย ได้มองไปรอบๆและพบว่าคนอื่นๆต่างก็ดูสับสนยกเว้นแค่ ซาบีน่า  สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ไม่ได้มีเวลาให้พวกเขาได้คิดทบทวน ไม่นานหลังจากที่ จางเทีย ได้มาถึงที่นี่และโยนของให้กับเจ้าหน้าที่ธนาคาร  เจ้าหน้าที่ก็ได้ยิงลูกดอกขึ้นไป ตามมาติดๆด้วยการที่ชายหัวล้านได้มาถึง

เพราะ จางเทีย พูดฮีบรูได้ คำพูดของเขาจึงพอเข้าใจได้ แต่ชายสองคนที่มาจากธนาคารนั้นพูดภาษาจีน ดังนั้นจึงทำให้คนอื่นๆสับสน พวกเขารู้แค่ว่า จางเทีย ได้พบของ 1674 ชิ้นจากด้านนอก สำหรับสิ่งที่ จางเทีย ได้พบมานั้นทุกคนยังคงสับสนกันอยู่

ตาของ เนอร์โด กระตุก เขาจ้องไปยังกระเป๋าของ จางเทีย  เขาไม่รู้ว่าพวกนี้จะได้ของมามากมายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงได้ยังไง  ดูเหมือนว่าของพวกนี้จะมีค่า ไม่งั้นแล้วพวกคนจากธนาคารคงไม่ให้ความสนใจแบบนี้แน่
“ เหี้ย เขาเจอคริสตัลระดับสูงในเวลาสั้นๆแบบนี้น่ะเหรอ  ? โชคดีฉิบหายเลย ! “
ตอนนั้นหลายคนในแคมป์ได้มารวมตัวกัน พวกเขาต่างก็มองไปที่กระเป๋าของ จางเทีย   จางเทีย ยิ้มออกมาและหันกลับมาบอกกับ แซม และ เกอรี่ – “ เอาของเราลง  แสดงให้คนอื่นเห็น ยังไงซะเราก็ต้องนับมันที่นี่ “

เกอรี่ กับ แซม ลังเลเล็กน้อย  เพราะมีคนมากมายมารวมตัวกัน พวกเขาจึงกังวลเรื่องความปลอดภัยของมรกตแต่เมื่อเห็น จางเทีย เอากระเป๋าตัวเองลงแล้ว ทั้งสองก็ทำแบบนั้นด้วย  พวกเขาได้แกะห่อผ้าออกจากที่พื้นแล้วเปิดห่อออกทีละชั้นๆ
เพราะพวกเขาเจอมันที่ชั้นวางกำมะหยี่สีดำในเคาเตอร์  พวกเขาจึงห่อมันด้วยของนุ่มๆเพื่อลดความเสียหายในการขนส่ง  สำหรับของเล็กๆอย่างแหวนและตุ้มหู พวกเขาได้ห่อมันกว่า 100 ชิ้นเข้ารวมกัน  สำหรับของใหญ่ๆแล้วอย่างกำไลรึจี้ พวกเขาได้ห่อแยกกัน
พวกเขาได้เอาแจกันทองเหลืองสามอันกลับมาด้วย สำหรับเพชรและของเล็กๆแล้วพวกเขาได้ห่อมันแล้วใส่มันลงไปในแจกัน

เมื่อเห็นของที่ถูกเปิดออก พวกคนที่มามุงต่างก็ยื่นคอเข้ามาดูและก็ต้องอึ้ง  เทียบกับของมากมายแล้วแจกันสามอันนั้นกระจอกไปเลย ทุกคนต่างก็จ้องไปที่หินสีเขียวที่มีขนาดเล็กและใหญ่

“ อ่า เพชรมากมายจริงๆ ! “ – บางคนอุทานออกมา

“ ปีเตอร์ รวยแล้ว เขาเจอของในซากรึไง ?”

“ แน่นอน พวกเขาเข้าไปมือเปล่า  แน่นอนว่าพวกเขาต้องเจอมันในซาก ! “

“ พวกมันคืออะไร มรกตรึคริสตัลเขียว ? พวกมันดูมีค่าอย่างมาก....”

“ พวกมันดูเหมือนกับเต่า... “

“ เต่าไม่ได้ส่องแสงแบบนี้  ! “
พวกคนที่มุงอยู่ต่างก็เริ่มคุยกัน ส่วนมากไม่เคยเห็นมรกตมาก่อน ดังนั้นจึงคิดว่าของที่เห็นนั้นคือสิ่งที่พวกเขาเคยได้ยินกันมา

มีแค่ เนอร์โด และไม่กี่คนที่เปลี่ยนสีหน้าตอนที่เห็นมัน

ด้วยเสียงระเบิดของอากาศก็ได้มีผู้แข็งแกร่งจากธนาคารมาสมทบ คนที่มามุงเองก็มากขึ้นเรื่อยๆ  สิ่งที่ จางเทีย ไม่คิดคือ โรสลาฟ และ วาจิด เองก็ได้พานักสู้ของเผ่าหมีใหญ่มาที่นี่ด้วย

ไม่รู้ว่ามันเป็นภาพลวงตารึเปล่า  จางเทีย รู้สึกว่าสองคนนั้นเหมือนจะถอนหายใจออกมาตอนเห็นเขา หลังจากที่รู้ว่าพวกเขาโดน จางเทีย เห็น สองคนนั้นก็เดินไปข้าง ซาบีน่า เหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

มันไม่แปลกที่จะเจอคนจากเผ่าหมีแต่เผ่าหมีดูเหมือนกระตือรือร้นเกินไป ดังนั้น จางเทีย จึงสนใจพวกนั้นเป็นพิเศษ

จางเทีย ยืนเงียบอยู่ข้างๆมองดูเจ้าหน้าที่ของธนาคารประเมินค่าของมรกตเหล่านั้น

หลังจากที่ตรวจสอบสิ่งของแล้วชายวัย 30 จากธนาคารก็ได้ลุกขึ้นยืนพยักหน้าให้กับชายวัย 50  เขาพยายามอย่างที่สุดที่จะสลัดความตื่นเต้นออกไป
ชายวัย 50 คือหัวหน้าของทีมธนาคาร  ชายหัวล้านนั้นเป็นลูกน้องของเขา

“ ปีเตอร์  ข้า ซูเฉิน หัวหน้าของทีมสำรวจ  ข้าต้องการยืนยันอีกครั้ง ท่านมั่นใจหรือไม่ว่าจะให้เราเก็บหินอมตะเหล่านี้เอาไว้ให้ท่าน ?”

เพราะเขาคุยกับ จางเทีย  ชายวัย 50 ปีจึงไม่ได้พูดภาษาจีนอีกต่อไป  เขาได้พูดฮีบรูแทน  เมื่อได้ยินคำถามนั้นพวกคนที่ดูอยู่ต่างก็เงียบไปทันที

จางเทีย พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม – “ ใช่ ข้าเชื่อใจธนาคาร ข้ารู้ว่าธนาคารของเจ้าให้บริการแบบนั้นด้วย แต่ข้าไม่รู้ว่าจะจะรับมันได้ที่นี่รึข้าต้องเอามันกลับไปที่เอสไชน์เอง ! “

“ ถ้าเป็นธุรกิจธรรมดาท่านต้องไปจัดการที่สาขาที่เอสไชน์แต่นี่มันเป็นกรณีพิเศษ เราส่งคนมาที่นี่เพื่อรับของเหล่านี้ได้ ! “
“ ดี ไม่มีปัญหา ! “ - จางเทีย พยักหน้า
เมื่อได้ยินคำตอบของ จางเทีย   ซูเฉิน ก็ได้พยักหน้าให้กับเด็กจีนที่ซึ่งแบกกล่องขนาดกลางมา  เด็กคนนั้นได้เอาคริสตัลสื่อสารออกมาจากกล่องและติดต่อไปยังพวกที่อยู่ด้านบน

จางเทีย มองดูเด็กนั้นใช้คริสตัลสื่อสารด้วยท่าทีสนใจ – “ คนอื่นจะมาถึงกันตอนไหน ? “

“ ยานของเรายังอยู่ด้านนอก ทันทีที่ได้รับข้อความ ผู้แข็งแกร่งของธนาคารจะมาถึงใน 5 ชม. ! “ - ซูเฉิน ยืนยัน

จางเทีย เชื่อในคำพูดของอีกฝ่าย  จางเทีย รู้ว่าความเร็วของผู้แข็งแกร่งนั้นน่ากลัวอย่างมาก แม้ว่าจะใช้เวลาหลายวันในการมาที่นี่แต่ผู้แข็งแกร่งนั้นจะใช้เวลาแค่ไม่กี่ชั่วโมง ถ้าไม่ได้มากับคน 200-300 คน  จางเทีย เองก็มั่นใจว่าเขาจะมาถึงที่นี่ได้ในเวลาไม่กี่ชั่วโมงเช่นกัน

“ ดี  พวกเจ้าเก็บมันได้แล้ว ! “ - หลังจากที่พูดจบ จางเทีย ก็ได้มองไปยัง แซม กับ เกอรี่  จากนั้นก็ได้ไปที่เต็นท์ตัวเองเพื่อใส่เสื้อผ้า

ในตอนที่ทั้งสามคนเดินออกไป ซูเฉิน ก็ได้โบกมือ  คนอื่นๆของธนาคารก็ได้เดินไปหาเขา หลังจากนั้นทีมธนาคาร 6 คนก็ได้ทำการล้อมมรกตเหล่านั้นเอาไว้

ตอนนั้นพวกคนที่มุงอยู่เริ่มโวยวาย
“ หินอมตะ ? นี่คือหินอมตะงั้นเหรอ ? “
“ ปีเตอร์ เจอหินอมตะงั้นเหรอ ? “

ทั้งแคมป์เริ่มวุ่นวายขึ้นมาทันที

เนอร์โด ถอนหายใจออกมา แม้ว่าเขาจะยังใจเย็นแต่เมื่อเห็นสีหน้าเคร่งขรึมของพวกเจ้าหน้าที่ธนาคารแล้ว เขาก็แทบบ้า !  ใจของเขาเต้นรัว ตาของเขาแดงกล่ำแต่ต่อหน้าคนพวกนี้ เนอร์โด ไม่กล้าที่จะแย่งเพชรพวกนั้น

หลังจากที่กลืนน้ำลายแล้ว เนอร์โด ได้ถาม ซูเฉิน และคนอื่นๆ – “ ข้า...ขอรู้ค่าหินอมตะพวกนี้ได้มั้ย ?”

แม้ว่าหลายคนจะเคยได้ยินถึงหินอมตะแต่น้อยคนนักที่รู้ราคาของมัน

“ แม้ว่าหินอมตะจะมีคุณภาพแตกต่างกันไป แต่พวกนี้โดยทั่วไปก็ไม่ได้แย่ ถ้า ปีเตอร์ เชื่อใจให้เราเก็บมันไว้ให้เขาแล้ว ข้าคิดว่าธนาคารของเราคงจ่ายให้เขามากกว่า 1.4 ล้านทอง ! “ – ซูเฉิน ตอบกลับอย่างจริงจังก่อนจะถอนหายใจ -  “ ข้าไม่คิดว่า ปีเตอร์ จะโชคดีแบบนี้ ข้าได้ยินมาว่าเขาเพิ่งมาถึงที่นี่แค่ไม่กี่ชั่วโมง  ! “
เมื่อได้ยินแบบนั้นคนฉลาดบางคนรีบวิ่งไปที่เต็นท์ของ จางเทีย  คนที่เหลือมองหน้ากัน พวกเขาเห็นสายตาทึ่งและชื่นชมจากคนอื่นๆได้ -  “ บ้าเอ้ย ทำไมชายคนนี้ถึงได้โชคดีนัก ? “

ความโชคดีของ จางเทีย ทำให้คนอื่นๆอิจฉา
...
ในตอนที่เขาออกมาจากเต็นท์  จางเทีย ก็เห็นลูกน้องของ โอลอร่า ที่ซึ่งคุ้มกันด้านนอกเต็นท์ของเขา

“ ปีเตอร์...เจ้า...เจ้า... “ – ชายที่ถามนั้นพูดออกมาด้วยท่าทีอายแล้วเอามือถูกัน

แค่มองไปที่ชายคนนั้น จางเทีย ก็รู้ว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร  ดังนั้น จางเทีย จึงได้บอกเกี่ยวกับตำแหน่งที่เขาพบเพชรพวกนี้ ในตอนที่ชายคนนั้นได้ยินคำตอบ เขาก็หันหลังกลับแล้ววิ่งออกไปโดยไม่ได้ขอบคุณ จางเทีย  หลังจากวิ่งไปได้สักพักเขาก็รู้ตัวว่าเขาหยาบคาย เขาหันกลับมาและต้องการจะพูดบางอย่างกับ จางเทีย แต่เขาพบว่า จางเทีย ยิ้มให้เขาแล้วโบกมือให้

“ ไม่เป็นไร รีบเถอะ มันขึ้นอยู่กับโชคของเจ้า ! “

จางเทีย ไม่ได้แสดงท่าทีเหนือกว่าต่อหน้าพวกนี้ เพราะตึกนั้นได้ถล่มลงมา จางเทีย จึงไม่ได้เก็บกวาดที่นั่นทั้งหมด ดังนั้นแล้วแน่นอนว่าพวกเขาอาจจะเจอของมีค่าข้างในบ้าง

ในเสี้ยวพริบตาสมาชิกกว่า 200 คนในแคมป์ของ จางเทีย ก็ได้วิ่งออกไปยกเว้นแค่กองทัพของ โอลอร่า, เนอร์โด และ ซาบีน่า

อำนาจของต้นแบบนี้ไม่มีใครเทียบได้

ไม่กี่นาทีในตอนที่ จางเทีย กลับมา เขาก็พบว่า โอลอร่า, เนอร์โด และ ซาบีน่า กำลังพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ของธนาคาร  เมื่อเห็น จางเทีย พวกนั้นต่างก็จ้องไปที่ จางเทีย

บางทีบางคนอยากจะไปลองดูที่ที่ จางเทีย เจอมรกตพวกนี้แต่ดูจากฐานะพวกนี้แล้ว พวกนี้รู้สึกอายที่จะทำตาม จางเทีย

“ พวกเจ้าพูดอะไรกันอยู่ ?” – เมื่อเห็นท่าทีแปลกๆของพวกนั้น  จางเทีย ก็ได้ถามออกมา

“ เราคุยเรื่องโชคของเจ้า ! “ – ซูเฉิน ยิ้มออกมาแล้วแสดงท่าทีสงสัย  - “ เราได้เข้าร่วมการสำรวจมาหลายที่แล้วแต่นี่เป็นครั้งแรกที่เราเห็นคนอย่างเจ้าได้ของมากมายแบบนี้หลังจากมาถึงแค่ไม่กี่ชั่วโมง ! “
จางเทีย ยักไหล่แต่ยังคงเงียบ

“ จริงๆแล้วตอนคนโชคดีใช้โชคจนหมด เราคนจีนก็จะไม่เรียกมันว่าโชคอีกต่อไป ! “

“ เจ้าเรียกว่าอะไร ? “ – เนอร์โด ถาม

“ ฉีหยุน ! “ – ซูเฉิน พูดออกมาเป็นภาษาจีน  ไม่มีคำอะไรที่เหมือนกันในภาษาฮีบรู  ในตอนที่พวกเขาได้ยินคำแปลกๆนี้ ทุกคนต่างก็แสดงสีหน้าต่างไป – “ ปีเตอร์ มีฉีหยุนที่ยิ่งใหญ่ ! “

 “ อะไรคือฉีหยุน ? เจ้าช่วยอธิบายหน่อยได้มั้ย ? “ – เกินกว่าทุกคนคาด โรสลาฟ ตัวแทนของเผ่าหมีใหญ่ได้ถามออกมา

“ ฉีหยุนหมายถึงคนที่ได้รับการโปรดปรานจากเทพและสามารถทำเรื่องที่ยิ่งใหญ่ได้ ! “

เมื่อได้ยินคำตอบ คนจากเผ่าหมีสองคนก็ได้มองหน้ากันแต่ก็ยังคงเงียบ

แม้แต่ จางเทีย ก็รู้ว่าโชคของเขาค่อนข้างดีในหลายวันมานี้ แม้ว่าเขาจะเจออันตรายแต่เขาก็รอดมาได้ ไม่ว่าเขาจะเจอปัญหาอะไรในช่วงนี้แต่เขาก็จัดการผ่านพ้นมันมาได้ อย่างเช่นค่าหัวและเข็มระเบิด...นี่นะตัดกับประสบการณ์ 16 ปีที่เขามีมา  จางเทีย รู้สึกว่ามันต่างกันอย่างมาก

โดยเฉพาะค่าหัว ก่อนที่เขาจะจัดการมันได้ บางคนได้ยกเลิกคำสั่งจับกุมให้เขาแล้ว  แม้ว่าเขาจะโดนจับด้วยการที่เสี่ยงกับการโดนตัดหัว แต่เขาก็รอดมาได้ง่ายๆ อีกอย่างแล้วเขาเพิ่งขุดตึกเล็กๆนั่นไม่กี่ชั่วโมงก่อนแต่มันเกินกว่าที่เขาคาดเอาไว้ที่เขาเจอหินอมตะมากมายแบบนี้ – “ ข้าไม่คิดว่าข้าจะโชคดี มีบางอย่างพิเศษเกิดขึ้นกับข้ารึไง ? “
จางเทีย นึกถึงต้นไม้เล็กๆทันที นอกจากจะให้ผลไม้กับเขาแล้ว มันยังทำให้เขาเปลี่ยนความคิด มันบอก จางเทีย ว่าไม่มีอะไรในโลกที่ได้มาแบบไม่มีเหตุผล  ของแน่นอนว่าทุกๆอย่างย่อมมีเหตุผล

จางเทีย ถาม เฮลเลอร์ ในใจอีกครั้ง

“ เฮลเลอร์ เจ้าอยู่รึเปล่า ? ข้าเองก็รู้สึกว่าโชคของข้าค่อนข้างดีในหลายวันมานี้ มันค่อนข้างแตกต่างจากแต่ก่อน เจ้ารู้เหตุผลมั้ย ? มันเกี่ยวข้องกับต้นไม้เล็กๆนั้น... “

แค่ไม่กี่วินาทีเสียงของ เฮลเลอร์ ก็ได้ดังขึ้นมา

“ ก่อนหน้านี้มันเกี่ยวข้องกับตัวท่านเอง Manjusaka Karma Fruit Tree เพิ่งจะให้ผลไม้ใหม่มา ในระบบการสร้างนี้โชคของคุณถือว่าดี ตราบใดที่คุณเห็นผลไม้นี้ คุณจะรู้ว่าทำไม “

จางเทีย อึ้ง – “ อะไรนะ ? ผลไม้ใหม่ ? แต่ข้ายังไม่ได้ทำอะไรพิเศษเลย ....”

รีวิวผู้อ่าน