px

เรื่อง : Castle of Black Iron
Chapter 475: ยินดีต้อนรับ นายท่าน


Chapter 475: ยินดีต้อนรับ นายท่าน
กว่า 20 วันผ่านไป ตอนนี้มันเดือนพฤศจิกายนแล้ว เอาให้แม่นคือวันที่ 2  หลังจากนี้อีก 5 วันก็จะครบ 1 เดือนตั้งแต่ที่ จางเทีย ได้เล่นบทเทพ  จางเทีย น่าจะได้เงินเดือนด้วยถ้าเป็นไปได้

อาหารของหลายคนเกือบหมด แม้ว่าจะยังไม่หิวโหยแต่ จางเทีย กลัวว่าเขาต้องแสดงปาฏิหาริย์อันใหม่ออกมาในอีกไม่กี่วัน

“ ข้าสงสัยว่าจะอธิบายยังไงถ้าเอาอาหารมาที่นี่ได้ “

--- เพื่อที่จะเลี้ยงดูพวกเจ้า เทพได้ฆ่ามอนเตอร์ทะเลและนำเอาเนื้อมาให้

ในตอนที่ความคิดนั้นโผล่ขึ้นมา จางเทีย ก็รู้สึกตลกขึ้นมา

“ ถ้ามันมีน้ำมาตามประสงค์ของเทพ..”
“ มันก็น่าจะมีอาหารออกมาได้ .. “

“ แต่ถ้ามีกองเนื้อโผล่ออกมา มันจะเป็นไปได้มั้ย ? “

 

จางเทีย จำได้ว่าเทพจะไม่ส่งเนื้อย่างมาให้คนที่หิวโหยไม่ว่าจะเป็นตำนานรึเขตไหนๆ ในตอนที่ โมเสส และคนจำนวนมากหิวโหย เทพได้เปลี่ยนน้ำให้เป็นพายแทนที่จะเป็นเนื้อย่าง

ถ้าเขาต้องทำแบบนั้น จางเทีย ตัดสินใจที่จะหนีไปในตอนที่กลับขึ้นไปข้างบนได้ – “ เหี้ย ข้าปลอมเป็นเทพให้นานกว่านี้ไม่ได้แล้ว นี่ไม่ใช่งานของคนเลย ก่อนที่จะโดนจับได้แล้วตัดเป็นชิ้นๆเพื่อทำการศึกษา ข้าควรที่จะหนีจากป่าน้ำแข็งหิมะให้เร็วที่สุด “

ถ้าเขาเอาเนื้อมอนเตอร์ทะเลออกมาจริง จางเทีย ไม่มั่นใจว่าจะมีคนปะติดปะต่อกับการโจมตีของมอนเตอร์ทะเลที่เรือได้รึเปล่า ด้วยการทำแบบนี้เขาอาจะเพิ่มความเสี่ยงให้กับตัวเองอีก มันไม่มีเหตุผลเลย

เมื่อคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้น จางเทีย ก็ยังคงสับสนเกี่ยวกับสัญลักษณ์พลังฉีของเขา เขาสงสัยเกี่ยวกับความหมายของสัญลักษณ์อันใหม่  คำอธิบายของ เฮลเลอร์ ง่ายดายอย่างมาก – “ สัญลักษณ์ใหม่นี้สะท้อนถึงจิตใจ,วิญญาณ,ความต้องการและแรงอันลึกลับของเขา  ความลับของสัญลักษณ์อันใหม่นี้ต้องถูกค้นพบโดย จางเทีย เอง  เฮลเลอร์ บอกมากกว่านี้ไม่ได้ “

แม้ว่า เฮลเลอร์ ไม่ได้บอก จางเทีย เกี่ยวกับคำตอบแต่เขาได้ทำให้ความสงสัยที่ จางเทีย มีเพิ่มขึ้น  จางเทีย มั่นใจว่าสัญลักษณ์ใหม่นี่ไม่ได้เรียบง่าย สำหรับการทำงานของมันแล้วเขาคงคิดมันออกเอง ความสำคัญอย่างแรกคือต้องออกไปจากที่นี่

ข่าวดีอย่างเดียวคือธนาคารโกเด้นร็อกและเผ่าหมีใหญ่ได้ส่งทีมช่วยเหลือมาที่นี่และช่วยจากด้านนอกเมื่อหลายวันก่อนแล้ว ประโยชน์จากเรื่องนี้คือพวกเขาจะสามารถออกไปจากที่นี่ได้เร็วกว่าที่คาดไว้
“ ถ้าอุโมงค์พลังลงมาก่อนที่อาหารทุกคนจะหมด “ - จางเทีย เดินออกมาจากเต็นท์แล้วคิดถึงเรื่องนี้

เขาได้นอนอยู่ในเต็นท์หลักของพันธมิตรที่ซึ่ง แกนกูลา เคยนอน  ทุกคนคิดว่ามันเข้าท่ารวมไปถึง แกนกูลา เองด้วย ยกเว้นแค่ จางเทีย ที่ซึ่งรู้สึกอายนิดๆกับเรื่องนี้

มันสบายจริงๆที่ได้นอนในเต็นท์แบบนี้คนเดียว ถ้าเป็นแต่ก่อน จางเทีย รู้สึกว่า ซาบีน่า และ โอลอร่า คงมาหาเขาที่เต็นท์ ไม่คาดคิดว่าทั้งคู่น่ะเว้นระยะห่างกับเขา แม้ว่าจะอยู่ข้างตัวแต่แม้แต่จับพวกเธอก็ต้องระวังกว่าเดิมเพราะฐานะของ จางเทีย  ไม่ใช่แค่ โอลอร่า แม้แต่ ซาบีน่า เองก็แสดงท่าทีเคร่งขรึมกว่าเดิมเมื่ออยู่ต่อหน้า จางเทีย

“ นี่คือการเสียสละกับการที่ข้าต้องเล่นบทเทพรึไง ? “ – ในที่สุด จางเทีย ก็รู้ว่าทำไมพวกหมอกผีได้ถึงดูผิดปกตินัก – “ บ้าเอ้ย พวกเธอก็ต้องทำแบบนี้ .. “

เมื่อเห็น จางเทีย เดินออกมาจากเต็นท์ ทหารทุกคนที่คุ้มกันต่างก็มองเขาด้วยท่าทีเคร่งขรึม

ตอนนั้น โรสลาฟ และ วาจิด ได้เดินเข้ามาหา  พวกเขาดูนอบน้อมกว่าเดิมราวกับเด็กกว่าเป็นพันปี
โอลอร่า เองก็เดินเข้ามาหาเขาพร้อมกับถือกาน้ำมาด้วย  จางเทีย ไม่เห็นสีหน้าภายใต้หน้ากากของเธอ หลังจากที่มองไปยังกระโปรงเขียวและกำไหล,แหวนที่เขาให้เธอไว้  จางเทีย ก็ถอนหายใจออกมา  จางเทีย รู้ว่า โอลอร่า ไม่ได้สนเรื่องรายละเอียดพวกนี้มาก่อน เทียบกับเธอตนนี้แล้ว ถ้าเธอสวมเสื้อผ้านักรบและถือกาน้ำน่าเกลียดนั่น   จางเทีย คงรู้สึกดีกว่านี้เยอะ

แต่ จางเทีย รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ แม้ว่าเธอจะไม่ชอบแต่งตัวแต่เธอก็ต้องสนใจภาพลักษณ์ที่เธอได้ตอนนี้ ถ้าคุณต้องการให้ผู้หญิงแต่งตัวสบายๆในที่แบบนี้คงไม่ต่างอะไรจากการทำลายภาพลักษณ์ของเธอ
ตอนแรก โอลอร่า ไม่ชินกับการใส่กำไลเพราะมรกตนั้นบอบบางสำหรับนักสู้ระดับ 10  มันพังง่าย มันไม่เหมาะที่จะสวมมันไว้ เมื่อเห็น ซาบีน่า ใส่กำไลที่ จางเทีย ให้มา  โอลอร่า ก็ใส่ด้วย นอกจากนี้เธอยังใส่แหวนตาอินทรีย์ไว้ด้วยซึ่งดูแล้วสะดุดตาอย่างมาก โดยเฉพาะตอนที่เธอจับกาน้ำ แหวนและกำไลจะทำให้คนอื่นสะดุดตาเอง

ในตอนที่ เซตตอน บอกว่า จางเทีย ได้ส่งของขวัญให้กับ โอลอร่า  ฐานะของ โอลอร่า ก็พิเศษขึ้นมา ไม่ว่าเธอจะไปไหนเธอก็จะได้รับความเคารพ แม้ว่า ซาบีน่า จะไม่พูดอะไรแต่ จางเทีย รู้สึกได้ว่าสายตานั้นดูน่ากลัวขึ้นกว่าเดิม
จางเทีย รู้ว่า โอลอร่า และ ซาบีน่า ไม่ชอบกัน ไม่คาดคิดเลยว่าที่จะอยู่ร่วมกันได้แบบนี้

การกระทำของ ซาบีน่า ทำให้เธอกลายเป็นเทพธิดาไปจริงๆ เธอรับหน้าที่ในการแจกจ่ายน้ำ  ซาบีน่า เจอผู้คนมากมาย  จางเทีย ได้ไปตรวจสอบดูในตอนที่เธอทำงานและพบว่ารอยยิ้มของเธอใจดีและบริสุทธิ์อย่างมาก ท่าทีของเธอเกือบทำให้ จางเทีย คิดว่าเธอเป็นคนอื่นไป

ดังนั้นในช่วงนี้ชื่อของเทพธิดาแห่งน้ำจึงโด่งดังกว่าเทพธิดากาน้ำ

จางเทีย เดินนำหน้าออกไปด้วยท่าทีเคร่งขรึม

หลังจากเดินได้ไม่กี่ก้าว จางเทีย ก็หันกลับไปมอง โรสลาฟ และ วาจิด – “พวกเจ้าสองคนไม่ต้องจริงจังขนาดนั้นก็ได้ คนอื่นๆเองก็ด้วย ถ้าพวกเจ้าไม่รู้จะจักผ่อนคลายกล้ามเนื้อบนหน้า เจ้าลองยิ้มดูก็ได้ ข้าไม่รังเกียจหรอกนะ คนอื่นก็ด้วย ! “

เมื่อได้ยินคำพูดของ  จางเทีย ทั้งสองก็คิ้วขมวดเล็กน้อย หลังจากที่มองหน้ากัน โรสลาฟ ก็ได้หันกลับไปสั่งทหาร – “ ได้ยินมั้ย ? ผ่อนคลายใบหน้าและยิ้มออกมา ! “

เมื่อมองไปที่หน้าบิดเบี้ยวของพวกนั้นซึ่งเกือบเหมือนเด็กร้องได้  จางเทีย ก็ยอมแพ้ – “ เอาล่ะ ทำตามที่ต้องการเถอะแต่อย่าบังคับให้ตัวเองยิ้ม ทำตัวตามสบาย ! “

ทุกคนกลับไปเป็นแบบเดิม

หลังจากที่เข้ามายังเส้นทางที่มีผู้คนนับหมื่นล้อม พวกเขาก็ได้มาถึงทางเข้าอุโมงค์ที่ซึ่ง ซาบีน่า และคนของเธอรอคอยอยู่แล้ว

 แม้ว่าทุกคนจะได้เห็น จางเทีย เทน้ำมาหลายครั้งแล้วแต่ก็ยังจับตาดูน้ำที่ไหลออกมา หลายคนคุกเข่าไปกับพื้นแล้วประกบมือเข้าด้วยกัน ดูเหมือนว่าพวกเขาจะรู้สึกถึงความศักดิ์สิทธิ์..

ในตอนที่เห็นสีหน้าพวกนั้นซึ่งเกือบจะเหมือนเดิม จางเทีย ก็เข้าใจมันทันที เขากลัวว่าเขาคงให้พวกนี้ผ่อนคลายไม่ได้ก่อนที่จะหนีไปจากที่นี่
จุดประสงค์ของเทพได้แสดงออกมาอีกครั้ง หลังจากพิธีเสร็จ จางเทีย ก็ได้ส่งกาน้ำให้กับ โอลอร่า  หลังจากนั้นเขาก็เทศน์อีกชั่วโมง...

ในตอนที่เขาอ้าปาก ทุกคนต่างก็นิ่งฟัง  แม็กซิม นั้นรีบจดตามทุกคำพูด...
...
ในตอนที่ จางเทีย เทศน์ อีกด้านของอุโมงค์นั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

ทีทหาร 70,000-80,000 คนได้พากันเอาหินที่ขวางตรงหน้าออก

หินขนาดใหญ่ก้อนหนึ่งขวางทางพวกเขาเอาไว้ซึ่งยากที่จะขยับได้

“ หลีกไป ! “ – เมื่อได้ยินเสียงคำราม คนอื่นๆต่างก็วิ่งหนี  ด้วยพลังฉีที่พุ่งเข้ามาพร้อมกับร่างหนึ่ง แค่เพียงหมัดเดียว เขาได้ฝังมือเข้าไปในหินใหญ่ หินใหญ่ก้อนนั้นแตกออกเป็นชิ้นๆทันทีซึ่งทำให้ขนได้ง่ายกว่าเดิม

ตามมาติดๆหลังจากนั้นคือทหารที่พากันแห่เข้ามาขนหินออกไปราวกับมด

ครึ่งชั่วโมงต่อมาก็ได้มีหินก้อนใหญ่อีกก้อนที่แตกเป็นชิ้นๆ ทหารพวกนั้นตะโกนออกมาและทำทางทะลุไปอีกด้านได้

สิ่งที่ทำให้ทุกคนสงสัยคือไม่มีใครอยู่อีกด้าน ในตอนที่พวกเขาอึ้งอยู่นั้นก็ได้มีทีมนักสู้ได้พุ่งเข้าไป

เมื่อได้ยินเสียงเท่าที่พุ่งมาด้านหลัง ใจของ จางเทีย เต้นรัว เขากลัวจนแทบสะดุ้ง ต้องขอบคุณที่เขายืนนิ่งและไม่ได้ขยับ ดังนั้นคนเป็นหมื่นเลยไม่ได้แตกตื่นไปด้วย

หลังจากที่เปิดอุโมงค์ได้ ทหารเห็นเพียงแค่ชายหนุ่มรูปหล่อคนหนึ่งนั่งอยู่บนลานหิน คนนับมหื่นนั่งอยู่ต่อหน้าชายหนุ่มคนนั้น พวกนั้นไม่เห็นพวกที่มาใหม่เลยด้วยซ้ำ

มีเสียงชายคนเดียวที่ดังก้องไปทั่ว
ผู้หญิงสองคนยืนอยู่ข้างๆ คนหนึ่งถือกาน้ำ    โรสลาฟ และ วาจิด ยืนอยู่ด้านหลังพร้อมกับคนของเผ่าหมีใหญ่

ฉากตรงหน้านี้ไม่ต้องเดาเลยว่าบ่งบอกฐานะของชายคนนี้

คนที่มาใหม่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ

“ ความกลัวนั้นมาจากความผิดพลาดที่คิดเอาไว้ซึ่งมันคือฝันร้าย  ข้าได้ใช้แสงกับคนที่สร้างฝันร้าย เขาได้รวมแสงเข้ากับฝันร้ายและเผชิญหน้ามัน ในตอนที่เขาตื่นขึ้นมา ถ้าเขาจำแสงนั้นได้ เขาก็จะไร้ความกลัว ส่วนความผิดพลาดของฝันร้ายก็จะถูกเปิดเผยออกมา นี่ไม่ได้พึ่งภาพลวงตารึการคาดคิดแต่มันขึ้นอยู่กับมุมมองที่พวกเจ้ามีต่อโลกจริง มุมมองที่ไม่ใช่แค่ทำให้เจ้าเป็นอิสระแต่ยังทำให้เจ้ากระจ่างเหมือนกับว่าเจ้าเกิดมาเป็นอิสระ... “

หลังจากที่พูดจบ จางเทีย ก็ได้หยุด  เขามองไปยังทหารที่เพิ่งเข้ามาและรู้สึกได้ถึงพลังฉีที่แข็งแกร่งจากนักสู้เหล่านั้น

สุดท้าย จางเทีย ก็ถอนหายใจออกมา เขารู้ว่าหน้าที่ของเขาในฐานะเทพปลอมๆได้จบลงแล้ว
แต่ จางเทีย น่ะดีใจเร็วไป..
ในตอนที่ทีมนักสู้ได้มาอยู่ตรงหน้า จางเทีย  พวกนั้นก็คุกเข่าลงต่อหน้าเขา แม้แต่ โรสลาฟ และ วาจิด อีกทั้งคนเผ่าหมีใหญ่ก็ได้เดินมาตรงหน้า จางเทีย และคุกเข่าไปกับพวกนั้นด้วย

ไม่ใช่แค่ จางเทีย  แม้แต่ โอลอร่า และ ซาบีน่า ก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
“ นายท่าน เผ่าหมีใหญ่ยินดีต้อนรับกลับสู่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ ! “
ในตอนที่พวกเขาคุกเข่า พวกเขาก็ได้สร้างเสียงดังก้องที่ปลุกทุกคน

สมองของ จางเทีย ไม่ทำงานไปสักพัก ถ้าไม่ใช่ว่าเขารู้ว่ามีคนด้านหลังเขา เขาอยากรู้ว่าพวกนี้จะเข้ามาคุยกับเขารึเปล่า

“ โรสลาฟ เกิดอะไรขึ้น ? ข้ากลายเป็นนายท่านของเผ่าหมีใหญ่ตอนไหน ! “ - จางเทีย พูดขึ้นอย่างใจเย็นแต่ใจของเขานั้นเต้นรัว – “ พวกนี้หลอกข้ารึไง ?”

“ ตั้งแต่ที่เราเกิดมา ท่านมีโชคชะตาเป็นนายท่านของเรา  นี่คือคำทำนายจากบิชอปเอลซีดา    บิชอบซาลิน ก็ยืนยันมันแล้ว  เรารอคอยวันนี้มากว่าร้อยปี  โปรดยกโทษให้เราด้วย  วาจิด กับข้าได้ทำการยืนยันฐานะของท่านแล้วแต่เราไม่ได้บอกท่านเรื่องนั้น ถ้าท่านโกรธกับการปกปิดนี้ หวังว่าท่านจะพอใจกับนี่.. “ – หลังจากที่พูดจบทั้งสองได้มองหน้ากันและได้แสดงสีหน้าอดกลั้นออกมา ในขณะเดียวกันพวกเขาได้ชักมีดออกมาแล้วแทงเข้าใส่หัวใจตัวเอง

เมื่อเห็นแบบนั้น จางเทีย ก็ได้ยกมือขึ้นแล้วปัดมีดพวกนั้นออก...

หลังจากที่คิดสักพักพร้อมกับหลับตา สุดท้าย จางเทีย ก็ลืมตาขึ้น – “ บิชอปซาลิน อยู่บนนั้นรึเปล่า ? “

“ เพราะบิชอปแก่มากแล้ว เขาจึงไม่สะดวกที่จะเข้ามาข้างใน แม้ว เขาจะมากับกองทัพด้วยแต่เขารอต้อนรับท่านด้านบน ! “

“ งั้นออกไปจากที่นี่ก่อน ! “

จางเทีย ลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปยังทางเข้าอุโมงค์
 

รีวิวผู้อ่าน