px

เรื่อง : Castle of Black Iron
Chapter 479 : A Letter from Great Prophet


Chapter 479 : A Letter from Great Prophet
ผู้อาวุโสทั้งสามได้เดินออกไปนอกเต็นท์...

ตอนนั้นทหารกว่า 100,000 คนได้นอนหลับกันแต่ข้างนอกก็ยังมีเสียงเอะอะจากที่ไกลอยู่ กองไฟขนาดใหญ่ลุกชูขึ้นบนท้องฟ้า คนนับหมื่นได้นั่งร้องเพลงและเต้นรำรอบกองไฟเพื่อฉลองการกลับมาเกิดใหม่ของพวกเขา

บ่อหิน 7 อันได้ตั้งอยู่ตรงกลางของคนพวกนั้น ตอนนั้นบ่อนี้กลายเป็นของศักดิ์สิทธิ์ที่มีคนจำนวนมากได้มารายล้อมกับเพื่อภาวนา คนมากกว่าเดิมเริ่มเข้ามารายล้อม พวกเขาต้องการแตะของศักดิ์สิทธิ์ที่แสดงให้เห็นถึงปาฏิหาริย์ของเทพ

คนอีกกลุ่มได้นั่งอยู่ที่ปลายแคมป์เผ่าหมีใหญ่ พวกเขาไม่ได้นอนหลังจากได้ยินประกาศเหมือนกับทหารคนอื่นๆ พวกเขาไม่ได้ไปทำการฉลอง พวกเขาแค่นั่งอยู่ด้านนอกปลายแคมป์มองดูเหตุการณ์ในแคมป์หลัก

พวกเขาตาม ปีเตอร์ มาที่นี่ตอนที่ ปีเตอร์ ได้รับการต้อนรับจากทหารของเผ่าหมีใหญ่ ไม่มีใครขอให้พวกเขามา หลังจากที่โดนทหารของเผ่าหมีใหญ่ห้ามเอาไว้ พวกเขาก็นั่งอยู่ที่ปลายแคมป์มองไปยังทิศทางที่ ปีเตอร์ หายไป

กลุ่มคนพวกนั้นคือทหารจากเผ่าอื่น,นักสำรวจและคนต่างๆมากมาย พวกเขาไม่เคยมารวมตัวกันแบบนี้แต่พวกเขาได้รวมตัวกันได้เหมือนน้ำ แม้ว่าจะเงียบแต่ก็มีพลังอันแข็งแกร่งปะทุออกมา

ผู้อาวุโสสามคนได้มองไปยังกลุ่มคนพวกนี้ พวกเขาได้มองไปยังกลุ่มคนพวกนี้อยู่นาน
“ ข้ารู้สึกได้ถึงพลังอันยิ่งใหญ่ซึ่งแข็งแกร่งและคงที่ยิ่งกว่าพวกหน่วยกล้าตายอีก ! “ - โทเลส ถอนหายใจ – “ ถ้ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับคนในเต็นท์ คนพวกนี้คงโจมตีใส่แคมป์ทันที แม้ว่าจะเอาชนะทหารแสนคนไม่ได้แต่พวกเขาก็จะยอมโจมตีโดยไม่สนว่าจะต้องเสียอะไรไป ไม่มีคนจะถอยจนกว่าจะตาย ถ้าเราต้องจัดการกับคนพวกนี้ แม้ว่าเราจะมีคนมากกว่าและกองทัพของเรานั้นแข็งแกร่งกว่าของพวกนั้นแต่เราก็ต้องเสียหายเท่าๆกันแน่ ! “

“ นี่น่ะคือพลังแห่งความเชื่อ คนนั้นคือเทพในสายตาของคนพวกนี้ ! “ - ซาลิน พูดขึ้น
“ เอาจริงๆคนจำนวนมากได้เห็นว่าชายคนนั้นได้แสดงอะไรออกมา ข้ายังคงยากที่จะเชื่อว่าเขาได้เปลี่ยนกาน้ำธรรมดาให้กลายเป็นน้ำพุแสนหวานได้ ! “ - กูลาส ส่ายหน้า – “ ถ้ามันจริง ข้าควรเอามันมาดูด้วยตัวเอง ! “

“ เจ้าแน่ใจน่ะว่าจะไม่ทำแบบนั้นหลังจากที่คนพวกนั้นเห็นมันแล้ว ?” – โทเลส ชี้ไปยังคนที่ยังคงนั่งรออยู่เงียบๆ

“ ข้าไม่รู้ บางทีข้าอาจจะเห็นเล่ห์กลก็ได้ บางทีข้าเองอาจจะติดกับไปด้วย ในโลกนี้แม้แต่นักเล่นแร่แปรธาตุที่ลึกลับที่สุดก็ต้องทำตามกฎธรรมชาติ การเพิ่ม,พัฒนาและความกระจ่างของอัศวินตามกฎของการบ่มเพาะ แต่นี่น่ะฝืนกฎ น่าเหลือเชื่อ ! “ - กูลาส พูดด้วยท่าทีเคร่งขรึม

“ ด้วยกฎพวกนี้เราสามารถมีพลังอันแข็งแกร่งได้  แต่เราไม่ควรแสดงความเคารพต่อสิ่งที่ไม่รู้ เราควรรู้ว่าเราน่ะเป็นตัวตนเล็กจ้อย ! “ - ซาลิน  พูดขึ้นและมองไปยังดวงดาว – “ ตั้งแต่ยุคโบราณ ไม่มีอะไรที่เป็นนิรันดร์และยิ่งใหญ่กว่าดาวพวกนี้ ข้าคิดว่าสิ่งที่เราได้เห็นในวันนี้อาจจะส่งผลที่เราไม่อาจคาดได้ในอนาคต บางทีในอนาคตตอนที่ผู้คนพูดถึงเรื่องนี้แล้ว คนตัวเล็กในสายตาของเราอาจจะวิเศษก็ได้แต่เราอาจจะกลายเป็นแค่ลูกน้องของคนพวกนั้น... “
หลังจากที่ได้ยินแบบนั้น กูลาส และ โทเลส ก็ถอนหายใจออกมาพร้อมกัน  ทั้งสองรู้ว่า ซาลิน บอกอะไร เพราะเขาเข้าใจกฎของเวลาและมิติ มันราวกับว่าพวกเขาเข้าใจบางอย่าง จากนั้นพวกเขาก็ได้หันกลับไปมองพวกคนที่ทำการฉลองกันอยู่และกลุ่มคนที่นั่งเงียบๆอยู่ปลายแคมป์
หลังจากที่คิดสักพัก โทเลส ก็ได้ถาม ซาลิน – “ เราจะโจมตีเอสไชน์ในวันพรุ่งนี้เหรอ ? ถ้าเราสู้กับเผ่าหมีเหล็ก ทั้งป่าน้ำแข็งหิมะคงวุ่นวาย อีกอย่างแล้วปัญหาใหญ่ก็จะเกิดขึ้น แม้ว่าเผ่าเราจะแข็งแกร่งแต่เราไม่อาจจะรวมทั้งป่าน้ำแข็งหิมะด้วยกำลัง “
“ เราฉลาดกว่าคนในคำทำนายรึไงกัน ? “ – ซาลิน ถาม

ทั้งสองคนส่ายหน้า

“ เจ้าคิดว่าคนในคำทำนายจะทรยศสลาฟรึไง ? “

ทั้งสองคนส่ายหน้าอีก พวกเขาไม่สงสัยในคำทำนายที่จะส่งผลและความรับผิดชอบที่มีต่อสลาฟ ถ้าไม่ใช่เพราะ เอลเซด้า สลาฟ คงไม่เหลืออะไรและกลายเป็นอาหารของปิศาจไปแล้ว

“ ถ้างั้นก็จงเชื่อและทำตามการตัดสินใจของคนในคำทำนายที่ฉลาดและเป็นห่วงโชคชะตาของสลาฟ ! “ - ซาลิน พูดดังขึ้น – “ ถ้าคนในคำทำนายทำตามที่เราคาดไว้ เขาคงไม่ได้ต่างอะไรจากเรา ถ้าเป็นแบบบนั้นเจ้าคิดว่าเขาจะทำในสิ่งที่เจ้าทำไม่ได้ได้ยังไง ?”

“ บิชอปซาลิน ก่อนที่จะเปิดกล่องเจ้าเองก็ไม่แน่ใจว่าเขาใช่คนคนนั้นรึเปล่า ? “ - กูลาส ถาม
“ เพราะเวลาและมิติเป็นสิ่งที่ลึกลับเกินไป สิ่งที่ข้าเห็นและยืนยันนั้นอาจจะไม่จริงเสมอไป สำหรับชีวิตและอนาคตของทหารแสนคนของเผ่าเรา ข้าคงต้องเลือกทางที่มีเหตุผลแต่ตอนนี้ข้ารู้สึกว่าไม่มีเหตุผลในการสงสัยอีก “

“ มีอะไรในกล่องนั่นกันแน่ ?” - โทเลส ถามออกมา

“ อันที่จริงข้าก็ไม่รู้ คำทำนายไม่อยากให้เราได้เห็นมัน ใครจะไปรู้ได้ยังไง ?” - ซาลิน พูดออกมาเศร้าๆ
...
ในตอนที่ผู้อาวุโสสามคนกำลังสงสัยอยู่นั้น จางเทีย ก็อึ้งกับของในกล่อง

ข้างในกล่องไม่มีของสุดยอด  ความลับ,ไม่มีอาวุธเวทย์,ไม่มีของมีค่า มันแค่เศษกระดาษแผ่นเดียว ใช่ มันดูเหมือนเป็นจดหมาย

หลังจากที่มองไปสักพัก  จางเทีย ก็ได้หยิบมันขึ้นมาแล้วแผ่ออกก่อนจะเริ่มอ่านด้านใน แม้ว่าเศษกระดาษนี้จะเปลี่ยนสีไปแต่ตัวหนังสือด้านในก็ยังชัดเจน

หลังจากที่มองไปแค่บรรทัดแรก จางเทีย ก็เกือบดีดตัวขึ้นมา มันเขียนไว้ด้วยภาษาจีนแต่สิ่งที่ทำให้ จางเทีย อึ้งไม่ใช่ว่าเขียนสวยรึอะไรแต่เป็นเนื้อหาในบรรทัดแรกต่างหาก

---- สวัสดี จางเทีย  บางทีข้าควรเรียกเจ้าว่า ปีเตอร์แฮมเพสเตอร์ ข้าคือ เอลซีด้า

หลังจากที่อ่านบรรทัดแรกแล้ว มันเหมือนกับมีสายฟ้ามาผ่า ในเสี้ยววินาทีเขาก็รู้สึกขนลุกไปทั่วทั้งตัวและสีหน้าก็ได้เปลี่ยนไป

กล่องนี้มันมีลูกเล่นอย่างมากแต่จดหมายนี้แน่นอนว่าต้องไม่ใช่กับดักอย่างแน่นอน เพราะแม้แต่พ่อแม่และเพื่อนในเกาะมังกรลับก็ไม่รู้ว่าเขาอยู่ไหน นี่ยังไม่รวมกับการที่เขาเปลี่ยนหน้าตาอีก ดังนั้นจดหมายนี่น่ะจึงเป็นของจริง มันถูกเขียนไว้โดย เอลซีด้า จริงๆ
หลังจากที่สับสนอยู่สองนาที จางเทีย ก็ได้สติ  จากนั้นเขาก็อ่านจดหมายต่อ

---- ไม่ต้องทึ่งกับการที่ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นใคร ในตอนที่เจ้าเห็นมันผ่านเวลาและมิติได้ เจ้าจะรู้สิ่งที่เกิดขึ้นในอนาคตเหมือนกับข้า

----- ไม่ต้องชื่นชมข้า เส้นทางนี้มันยากและโดดเดี่ยวซึ่งไม่เหมาะกับเจ้า ในตอนที่เจ้าอ่านจดหมายนี้แปลว่ามนุษย์ไม่ต้องการผู้ตรวจการอย่างข้าที่ซึ่งเห็นผ่านเวลาและมิติได้ สิ่งที่พวกเขาต้องการคือนักรบที่กล้าหาญซึ่งใช้ดาบฟันฝ่าเพื่อการอยู่รอดของมนุษย์ !

รีวิวผู้อ่าน