Chapter 483 : กลับไปยังเผ่าอินทรีย์เทา
หลังจากที่ออกมาจากโลกใต้ดินและข้ามแม่น้ำฟิตจาแล้ว กองทัพเผ่าหมีได้เดินทางกว่า 500 กม.ก่อนที่พระอาทิตย์จะตกดิน ในตอนที่พวกเขามาถึงป่าที่ห่างจากเผ่าอินทรีย์เทากว่า 30 กม. สุดท้ายพวกเขาก็พักที่นั่น
มันรวดเร็วจริงๆที่กองทัพแสนคนได้เดินทางได้ 500 ก.แค่วันเดียว
จางเทีย ไม่ได้อยู่ในแคมป์ของกองทัพ เขากลับพากองทัพซิปโปดอนไปยังเผ่าอินทรีย์เทาด้วยกันกับ โอลอร่า และทหารของเธอ
กว่าเดือนที่ผ่านมา โอลอร่า ได้พาทหารกว่า 400 คนออกมาซึ่ง 200 คนเป็นคนของเธอและอีก 200 คนเป็นของ ซาเลม แต่มีมากกว่า 60 คนที่ออกจากทีม 5 คนโดนฆ่าในการต่อสู้ ส่วนที่เหลือต่างก็เป็นผู้ติดตามของ จางเทีย และทิ้งเผ่าอินทรีย์เทาและ โอลอร่า ก่อนจะย้ายไปยังเนินเขาเทา
ครั้งนี้ทหารมากมายในเผ่าทางทิศตะวันออกที่ร่วมกับกองทัพพันธมิตรได้กลายเป็นผู้ติดตามของ จางเทีย พวกเขาได้ให้ทุกอย่างที่พวกเขาได้เลือกในเส้นทางที่ต่างจากเดิม เกือบ 1 ใน 6 จากแต่ละเผ่านั้นกลายเป็นผู้ติดตามของ จางเทีย
ยกเว้นแค่พวกคนที่ไม่ได้กลับไปที่เผ่าอินทรีย์เทา คนที่เหลือประมาณ 330 คนไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับ ซาเลม หลังจากสิ่งที่พวกเขาเจอมา ถ้าทหารของเผ่าอินทรีย์เทายังคงต้องการอยู่กับ ซาเลม และพ่อ พวกเขาคงถือว่าโง่อย่างมาก
ก่อนที่จะออกจากเผ่า กองกำลังของ โอลอร่า, ออยเลอร์ และ ยูเวนตุส นั้นค้ำอำนาจกันในเผ่าแต่สมดุลนั้นก็โดนทำลายไปแล้ว
เพราะคำพูดของ จางเทีย ที่ว่า ‘ เธอเป็นคนของข้า ไม่ต้องคุกเข่าให้ข้า ‘ นั้นทำให้ทุกคนรู้ว่า โอลอร่า เป็นผู้หญิงของ จางเทีย อีกอย่างแล้ว จางเทีย นั้นเป็นผู้นำในตำนานของเผ่าหมีใหญ่ ธรรมดาแล้ว โอลอร่า จะกลายเป็นผู้หญิงของผู้นำ ภายในป่าน้ำแข็งหิมะผู้หญิงแบบนี้มีโชคชะตาจะเป็นท่านหญิง ถ้า โอลอร่า มีลูกกับ จางเทีย ลูกนั้นก็จะมีสิทธิเป็นไชน์
เทียบกับฐานะของ โอลอร่า ผู้อาวุโสสองคนของเผ่าอินทรีย์เทาน่ะมีดีแค่ในเผ่าห่างไกลแบบนี้
คนแบบนี้จะไปเทียบกับนายหญิงของเผ่าหมีใหญ่ได้ยังไง ?
อีกอย่างแล้วชื่อเสียงในฐานะเทพธิดากาน้ำเองก็มีอำนาจมากกว่า ออยเลอร์ และ ยูเวนตุส ในเผ่า พวกเขาไม่ได้อยู่ระดับเดียวกันอีกต่อไป
ดังนั้นคนที่แข็งขันมากที่สุดในวันนี้ไม่ใช่กองทัพของเผ่าหมีใหญ่, ไม่ใช่ จางเทีย, ไม่ใช่ โอลอร่า แต่เป็น ซาเลม กองทัพของเผ่าอินทรีย์เทาได้พักผ่อนแต่ ซาเลม ยังคงขี่ม้ากลับไปที่เผ่าอินทรีย์เทาต่อ
เพราะเป็นเผ่าเล็กๆ เผ่าอินทรีย์เทาจึงไม่ได้มีเครื่องมือติดต่อสื่อสาร เพื่อที่จะให้พ่อเขาได้เตรียมตัวนำพาตระกูลออยเลอร์ให้รอด ซาเลม ต้องอธิบายถึงสถานการณ์ตอนนี้กับพ่อก่อนที่ โอลอร่า และ จางเทีย จะกลับมา
เพราะ ออยเลอร์ ต้องการฆ่า จางเทีย ตอนที่ จางเทีย เพิ่งเข้ามาในเผ่า จางเทีย ก็สามารถกำจัดพวกออยเลอร์ได้อย่างง่ายดาย นี่ไม่ต้องพูดเรื่องความขัดแย้งระหว่าง ออยเลอร์ และ โอลอร่า
น่าสนใจจิรงๆ ! ไม่มีใครคิดว่าเมืองเอสไลน์ต้องการฆาตกรเมื่อเดือนก่อนตอนนี้ฆาตกรคนนั้นได้กลายเป็นผู้นำของเผ่าหมีใหญ่และเป็นคนในคำทำนาย ซาเลม รู้สึกว่าตระกูลออยเลอร์น่ะโดนพระเจ้าเล่นตลก
เทียบกับอารมณ์ของ ซาเลม แล้ว ทหารของเผ่าอินทรีย์เทาคนอื่นรวมถึง เซตตอน รู้สึกเหมือนว่าชนะการต่อสู้
แม้ว่าการเคลื่อนที่ครั้งนี้ของพันธมิตรจะไม่ได้ส่งข่าวมาถึงเผ่าอินทรีย์เทาและเป้าหมายของ โอลอร่า เทียบกับเผ่าอื่นๆแล้วแม้แต่เผ่าหมี เผ่าอินทรีย์เทาน่ะถือว่าเป็นผู้ชนะการต่อสู้ โอลอร่า ได้กลายเป็นภรรยาของผู้นำเผ่าหมีใหญ่ เอาจริงๆแล้วแน่นอนว่ามีค่ามากกว่าการได้เงิน 1 รึ 2 ล้านทองอีก
...
ด้วยเสียงเท้าของซิปโปดอนที่ดังสนั่น ก็เริ่มเผยให้เห็นปลายเผ่าอินทรีย์เทาออกมาตรงหน้าของทุกคน
ครั้งนี้ จางเทีย คิดว่า โอลอร่า จะจัดการสองคนนั้นอย่างดุดันแต่เมื่อพวกเขามาถึงเผ่าอินทรีย์เทา ภาพลวงตาของ จางเทีย ก็พังทลาย
ยูเวนตุส และ ออยเลอร์ ที่หยิ่งทะนงก่อนหน้านี้ได้คุกเข่ากันอยู่ตรงหน้าประตูเผ่าพร้อมกับคนในครอบครัวหลายสิบคน
ในบรรดาคนพวกนี้คนที่แก่ที่สุดคือ ยูเวนตุส และ ออยเลอร์ ส่วนคนที่เด็กที่สุดอายุได้ 4-5 ปี เพราะความกลัว ผู้ใหญ่นั้นหน้าซีด ส่วนเด็กถูกกดลงให้อยู่ที่พื้นและต่างก็เริ่มร้องไห้กันออกมา
มันเดือนพฤศจิกายนแล้ว ดังนั้นอุณหภูมิตอนเย็นจึงลดลงอย่างมาก ด้วยการใส่เสื้อผ้าธรรมดา ยูเวนตุส และ ออยเลอร์ ที่ซึ่งมักจะมีชีวิตชั้นสูงต่างก็ตัวสั่น น่าสงสารจริงๆ ! คงมีแต่พระเจ้าที่รู้ว่าพวกนี้นั่งรออยู่นานแค่ไหนแล้ว
ซาเลม เองก็คุกเข่ารออยู่ด้วย ข้างๆเขามีผู้หญิงวัย 30 ปีและเด็กสองคน หนึ่งในนั้นอายุได้ 7 ปี ส่วนอีกคนอายุได้ 4-5 ปี ในตอนที่ซิปโปดอน 50 ตัวได้โผล่มาตรงหน้า เด็กก็กลัวจนลืมร้องไห้ พวกเขากลับเกาะแขนพ่อแม่ตัวเองไว้แล้วตัวสั่น
ด้านหลังคนพวกนั้น คนในเผ่าเกือบทุกคนได้พากันแห่ออกมา พวกเขายืนอยู่ไกลๆและมองออกมาด้วยสีหน้าซับซ้อนและสงสัย ทำไมผู้อาวุโสสองคนถึงได้ดูอ่อนแอแบบนี้ รอคอยให้เหล่าคนที่เหนือกว่ามาถึงที่เผ่า
เมอเคล คือคนเดียวที่ยืนอยู่ด้านหลัง ยูเวนตุส และ ออยเลอร์ แล้วมองมายังทหารซิปโปดอนด้วยท่าทีกังวลไปด้วย เขาไม่รู้ว่า จางเทีย จะจัดการกับสองคนนี้ยังไง เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่า จางเทีย จะลงโทษเขาหรือไม่ ยังไงซะเขาก็เป็นคนเอาเข็มระเบิดใส่เข้าในตัว จางเทีย
ภายใต้พลังของเผ่าหมีใหญ่ เผ่าเล็กๆอย่างเผ่าอินทรีย์เทาไม่มีโอกาสจะดิ้นรน หรือต่อสู้ได้เลยด้วยซ้ำ
ทหารทุกคนหยุดห่างออกไป 20 ม. เมื่อเห็นนักบวชยืนอยู่ตรงนั้น โรสลาฟ และ วาจิด ก็ได้มองไปยัง เมอเคล ดูเหมือนว่าพวกเขาจะพุ่งเข้าใส่ เมอเคล ทันทีถ้า เมอเคล คิดจะทำอะไร
ยูเวนตุส และ ออยเลอร์ เงยหน้าขึ้นมามอง จางเทีย ที่อยู่บนหลังซิปโปดอน พวกเขากลัวขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นชุดที่ จางเทีย ใส่จนต้องก้มหัวลงมาอีกครั้งก่อนจะตัวสั่น
จางเทีย ค่อยเข้าไปใกล้ เขาไม่ได้หยุดจนกระทั่งเขาแหลมๆของซิปโปดอนเกือบโดนทั้งสองคนนั้น เขาเริ่มมองไปยังสองคนนั้น
ในตอนที่ ยูเวนตุส คุกเข่าลงไป ไขมันของเขาก็สั่นไหวไปมา แม้ว่าตอนนี้มันจะเย็นแต่หลังของเขาชุ่มไปด้วยเหงื่อ แม้แต่ ออยเลอร์ ที่รู้จักกันดีกว่าหยิ่งยโสก็ไม่กล้าที่จะเงยหน้าขึ้นมา เขาไม่กล้าที่จะเถียงเลยด้วย
เขานึกถึงภาพของสองคนในหนึ่งเดือนก่อนหน้านี้และที่เป็นอยู่ตอนนี้ จางเทีย ได้หลับตาและเริ่มลิ้มรสอำนาจที่ตัวเองเหนือกว่าเป็นครั้งแรก
หลังจากที่ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง จางเทีย ก็มองไปยังฝูงผู้คนด้านหลังสองคนนี้ หลังจากที่มองไปยังเด็ก 3-5 ปีและผู้หญิงที่กลัวอยู่สักพัก ความต้องการฆ่าของ จางเทีย ก็ได้หายไปทันที
สุดท้ายเขาก็ได้จ้องไปที่ชายแก่สองคนเหมือนกับมองเศษเนื้อ เขารู้สึกเบื่อขึ้นมาทันที
“ เมื่อรู้ความผิดแล้วก็ยืนได้ ! “ - จางเทีย พูดอย่างใจเย็น
หลังจากที่ได้ยินทั้งสองก็เงยหน้าขึ้น พวกเขาไม่เชื่อสิ่งที่ได้ยิน ตอนนั้นคำพูดของ จางเทีย น่ะสำคัญที่สุดสำหรับพวกเขา หลังจากที่มองหน้ากัน ทั้งสองก็ไม่กล้าคุกเข่าอีกต่อไป พวกเขาเริ่มพยุงตัวเองลุกขึ้นยืน
ขาของ ยูเวนตุส คงจะชา ในตอนที่ลุกขึ้นยืน เขาได้เสียสมดุลและเกือบล้มลงไปกับพื้นอีกครั้ง หลังจากที่ยืนขึ้นมา ออยเลอร์ ก็ยังเซไปมาด้วย
ครอบครัวของพวกนั้นด้านหลังก็ลุกขึ้นมาและแสดงสีหน้าสับสนออกมาบนใบหน้า
“ ท่านปีเตอร์ ข้า... “ - ออยเลอร์ ต้องการจะพูดบางอย่าง
จางเทีย ไม่ได้สนใจที่จะฟัง เขาไม่อยากพูดอะไรด้วย เขาสะบัดเชือกและขี่ซิปโปดอนออกไปพร้อมกับทหารของเขาเข้าไปในเผ่าอินทรีย์เทา
ทั้งสองมองไปที่แผ่นหลังของ จางเทีย เหมือนไม่อาจเชื่อว่า จางเทีย ปล่อยพวกเขาไปแต่ผู้หญิงหลายคนด้านหลังนั้นเริ่มร้องไห้ออกมาด้วยความโล่งใจ...
...
ในตอนเย็นหลังจากที่ถอดเกราะออกและอาบน้ำแล้ว จางเทีย ก็ได้ไปใส่ชุดหลวมๆ เขาอยู่ข้างในตึกของ ยูเวนตุส และมองไปยังท้องฟ้า
บ้านที่ดีที่สุดในเผ่าอินทรีย์เทาเป็นของ ยูเวนตุส ดังนั้น ยูเวนตุส จึงพาครอบครัวย้ายออกไปและเอาที่ที่ดีที่สุดให้กับ จางเทีย กับทหาร
จากฐานะของ จางเทีย ตอนนี้แล้ว มันถือเป็นเกียรติของเผ่าอินทรีย์เทาที่ได้มี จางเทีย มาอยู่ด้วย แน่นอนว่าพวกเขาต้องจัดที่ที่ดีที่สุดให้กับ จางเทีย
ตอนนี้มันเดือนพฤศจิกายนแล้ว เหมือนสี่เดือนได้ผ่านไปตั้งแต่เรื่องที่เกิดขึ้นที่เมืองสวรรค์ จางเทีย ยังคงจำได้ถึงความสำคัญที่เขาได้รับมาหลังจากเรื่องในเมืองสวรรค์ ‘ ถ้าเรื่องของ จางเทีย ไม่ถูกเปิดโปงโดยข้า ตามการวิเคราะห์ของอาจารย์ไซม่อน ไข่ของหนอนตุ๊กตาอาจจะฟักออกมาในปีหน้า ผลก็คือคนนับล้านในเมืองสวรรค์จะกลายเป็นซอมบี้ที่น่ากลัวภายใต้การควบคุมของหนอนพวกนั้น ถ้าเป็นแบบนั้นเขตแลงของจินหยวนคงตกอยู่ในความวุ่นวาย สงครามครั้งที่สามคงปะทุขึ้นในไม่ช้า ‘
แม้ว่าเรื่องจะโดนเปิดโปงออกไปแต่เพราะเรื่องร้ายมากมายที่ปิศาจได้ทำนั้นยังไม่ได้ถูแก้ปัญหา จางเทีย รู้ว่าสงครามจะมาถึงในอีกสองเดือนเป็นอย่างน้อย สงครามครั้งนี้ยาวนานที่สุด ฤดูหนาวที่ยาวนานที่สุดที่มนุษย์เคยเจอมา
‘ เพื่อนข้าในเมืองแบล็คฮ็อตเป็นยังไงกันบ้าง ? ‘
จางเทีย ยังคงจำเพื่อและแฟนในเมืองแบล็คฮ็อตได้ ตอนนั้นความเศร้าก็โผล่เข้ามาในหัว
ไม่ว่ายังไงก็ตาม จางเทีย ก็ได้ตัดสินใจว่าจะกลับไปยังแบล็คฮ็อตหลังจากที่ออกจากป่าน้ำแข็งหิมะ
ตอนนั้นประตูด้านหลัง จางเทีย ก็เปิดออก จางเทีย ไม่ได้หันกลับมา เขารู้ว่านั่นเป็นใคร
หลังจากที่เข้ามาหา จางเทีย แล้ว โอลอร่า ได้กอด จางเทีย แน่นและได้เอาหน้าแนบกับหลังเขา
หลังจากนั้นสักพักเขารู้สึกว่าหลังของเขาเปียกจากน้ำตาของเธอ
“ ไม่เป็นไร มันผ่านไปแล้ว ไม่ต้องร้อง .. “ - จางเทีย หันกลับมาแล้วเช็ดน้ำตาบนหน้าเธอออก
เกือบหนึ่งชั่วโมงก่อน จางเทีย ได้รู้เรื่องการประชุมของเผ่าอินทรีย์เทา ยูเวนตุส และ ออเยอร์ ได้ลาออกจากตำแหน่ง พวกเขาได้ส่งอำนาจทั้งหมดให้กับ โอลอร่า นอกจากนี้ ยูเวนตุส ถึงกับ ‘ บริจาค ‘ เงินกว่า 300,000 ทองให้กับเผ่าอินทรีย์เทา ออยเลอร์ บอกให้ลูกชายและคนติดตามสาบานภักดีต่อ โอลอร่า ตอนนี้ โอลอร่า ได้กลายเป็นผู้นำของเผ่าอย่างเป็นทางการแล้ว
จากวันนี้เป็นต้นไปจะมีผู้นำของเผ่าอินทรีย์เทาแค่เพียงคนเดียว
เรื่องบาดหมางในเผ่ามาถึงจุดจบ ทั้งเผ่าจะกลับไปอยู่ในมือ โอลอร่า
ก่อนที่ จางเทีย จะได้เช็ดน้ำตาอออกหมด เธอก็กอด จางเทีย แน่นแล้วจูบเขาอย่างบ้าคลั่ง สุดท้ายเธอก็ผลัก จางเทีย ลงไปที่เตียง....
...
เซตตอน และทหารของ จางเทีย ต่างก็รีบลงไปชั้นล่าง...
หลังจากนั้นอีก 10 นาที เซตตอน ก็ได้ยินเสียง โอลอร่า ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดจากชั้นบน ตอนนั้นเขาก็ถอนหายใจออกมา --- มันก็ไม่แปลกหรอก !