px

เรื่อง : Castle of Black Iron
Chapter 523: สงครามศักดิ์สิทธิ์เริ่มต้นขึ้น


Chapter 523: สงครามศักดิ์สิทธิ์เริ่มต้นขึ้น
“ ปิศาจเงา ?” - จางเทีย ได้ยินมาในตำนาน ปิศาจแบบนี้ได้สร้างภัยพิบัติให้กับมนุษย์ พวกมันได้ชื่อมาจากความสามารถในการกลายร่าง พวกมันเหมือนกับกิ้งก่าและปลาหมึก พวกมันเกิดมาเพื่อปลอมแปลงหน้าตา ความสามารถในการแปลงร่างนี้พัฒนาไปยิ่งกว่ากิ้งก่ารึปลาหมึก นี่คือความสามารถที่แปลกและอันตรายที่สุดที่ปิศาจได้รับมา หากพวกมันต้องการ พวกมันสามารถปลอมเป็นใครก็ได้

 ความจริงที่ว่า เอเบียน คือปิศาจเงา นั้นต้องทำให้หลายคนตกใจอย่างแน่นอน นี่น่ะเกินกว่าที่ทุกคนคาดเอาไว้แต่ก็มีเหตุผล  เพราะประวัติศาสตร์มนุษย์พวกปิศาจเงาสามารถเปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์ได้สร้างภัยพิบัติที่น่ากลัวให้กับมนุษย์ได้  ในตอนที่ปิศาจเงากลายเป็นคนระดับสูง พวกมันอาจจะกลายเป็นผู้นำ,แม่ทัพรึคนมีอำนาจที่ซึ่งมีอำนาจสั่งการมนุษย์ได้ ถ้าเป็นแบบนั้นปิศาจที่ต้องการใช้งานมนุษย์โดยการให้พวกนั้นอยู่ภายใต้อำนาจของปิศาจและสืบทอดบัลลังก์นี้ต่อไป มันจะอันตรายยิ่งกว่าการที่มนุษย์เจอกับกองทัพปิศาจ

นอกจากการเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์แล้ว ปิศาจเงาก็ยังมีความสามารถอื่นที่น่ากลัว การหลอมรวมเข้ากับยีนส์ของคนอื่น พวกมันคือนักปล้นยีนส์ที่น่ากลัว

ปิศาจเงาคือพวกจอมโกหก,จอมสร้างเรื่องและภัยพิบัติ

“ กลับเป็นว่าปิศาจที่น่ากลัวอยู่ใกล้ข้ามาตลอด อยู่ในเมืองแบล็คฮ็อตอย่างคนมีอำนาจ “

เอเบียน ได้เผยตัวตนที่แท้จริงออกมา มันเดินเข้าไปหา จางเทีย ทีละก้าวๆ  จางเทีย ไม่รู้ว่าทำไมปิศาจแบบนี้ถึงได้มาอยู่ในเมืองแบล็คฮ็อตแต่ จางเทีย รู้ดีว่าเมื่อมันแสดงตัวตนออกมาแล้ว มันก็ไม่คิดที่จะปล่อยให้เขารอดไปจากที่นี่ ถ้าเขาตกอยู่ในเงื้อมมือมัน จางเทีย คงได้แต่หวังให้เขาตายเร็วยิ่งกว่าเดิม

ในตอนที่คู่ต่อสู้มาเจอกันในทางแคบๆ พวกเขาต้องสู้กันจนตาย !

“ ฆ่า... “ - จางเทีย เบิกตากว้างและพุ่งเข้าหา เอเบียน อีกครั้งโดยไม่มีความกลัว  เขาได้ต่อยหมัดเข้าใส่อกของ เอเบียน ราวกับสายฟ้าและเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็ว ท่านี้คือการรวบรวมพลังวิญญาณและพลังฉีทั้งหมดของ จางเทีย  มันทรงพลังยิ่งกว่าการโจมตีที่ จางเทีย เคยทำมา

แต่ เอเบียน ที่มีรูปลักษณ์ปิศาจนั้นแค่ยืนเฉยๆ ในตอนที่  จางเทีย ต่อยเข้ามาที่เกล็ดตรงอก มันก็เริ่มตื่นเต้นขึ้นมา แค่เสี้ยววินาที จางเทีย ได้โจมตี เอเบียน ไปกว่า 100 ครั้งทั่วตัวรวมไปถึงหัว,คอ,หน้าอกและท้องน้อย

แต่ เอเบียน แค่ยืนเฉยๆราวกับภูเขา
“ เป็นแบบนี้ยังไง ? “ - จางเทีย อึ้ง แต่ละครั้งที่เขาแตะตัว เอเบียน  จางเทีย จะรู้สึกว่ามีแรงมาขวางกั้นเอาไว้ มันเหมือนมีเกราะที่มองไม่เห็นรอบตัว เอเบียน

หางของ เอเบียน สะบัดเข้าใส่ จางเทีย อย่างกับเท้า มันได้ฟาดมาที่อกของ จางเทีย แล้วทำให้เขากระเด็นกลับไปกว่า 30 ม. สุดท้าย จางเทีย ก็ชนเข้ากับกำแพงและตกลงมาพร้อมกับเศษหินที่อยู่บนกำแพง

จางเทีย กระอักเลือดออกมา เขารู้สึกว่ากระดูกของเขาหัก ในเวลาเดียวกันเขาก็รู้สึกว่าเสียงหึ่งในหัวดังขึ้นและมีประกายไฟตรงหน้าเขา ถ้าไม่ได้กิน Iron-Body Fruit เข้าไป จางเทีย รู้ว่าเขาคงพิการไปแล้ว ซี่โครงดูเหมือนจะหักไปสองซี่ นอกจากนี้แล้วกระดูกตรงอกก็แตก เขาหอบหายอย่างแรงและคลานขึ้นมาจากพื้นช้าๆ

“ พวกเจ้ามนุษย์อ่อนแอพอๆกับมดในสายตาของเรา ในบรรดาคนที่ข้าเคยเห็นมา ข้าต้องยอมรับว่าเจ้าเป็นคนที่อยู่ระดับ 8 ที่แข็งแกร่งที่สุดในยุคนี้ ความแข็งแกร่งของเจ้ามากยิ่งกว่านักสู้ระดับ 11  เจ้าทำให้เข้าแปลกใจอย่างมากแต่ช่องว่างนั้นไม่อาจจะย่นลงได้ง่ายๆ ยกตัวอย่างเช่นหนูตัวใหญ่ไม่อาจจะหนักไปกว่าช้างเกิดใหม่ได้ เมื่ออยู่ต่อหน้าปิศาจระดับ 14 ที่ซึ่งสร้างเกราะพลังฉีได้ แม้ว่าเจ้าจะสร้างพลังฉีต่อสู้เหล็กโลหิตขึ้นมาได้แล้วและแข็งแกร่งยิ่งกว่าคนอื่นๆในระดับของเจ้าแต่มันก็ยังคงไร้ประโยชน์ ! แต่ร่างกายของเจ้าทำให้ข้าแปลกใจมากกว่า ! “ – เอเบียน เผยรอยยิ้มออกมาก่อนที่จะเดินเข้ามาหา  จางเทีย ทีละก้าวๆ

“ ปืศาจระดับ 14 ? เกราะพลังฉี ? “ - จางเทีย รู้สึกสิ้นความหวังขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินแบบนั้น มันยากที่ จางเทีย จะย่นระยะห่าง 6 ระดับนี้ได้

จางเทีย พยายามติดต่อไปที่ Castle of Black Iron แต่เขาก็พบว่าพลังวิญญาณของเขาไม่เสถียร  การโจมตีที่น่ากลัวของปิศาจได้ทำให้พลังวิญญาณของเขาปั่นป่วน  บวกกับการปะทะตะกี้ จางเทีย ได้รับบาดแผลหนักไปทั่วตัว แน่นอนว่าพลังวิญญาณของเขาคงไม่คงที่ ตอนนี้พลังวิญญาณของเขาก็เหมือนกับรถที่ขับหนีออกไปซึ่งยากที่จะกลับเข้ามาได้ทันที

“ เจ้ารู้สึกผิดมั้ยกับการมาที่นี่ ?” - จางเทีย ถามกับตัวเองแต่แม้แต่ตอนนี้เขาก็ยังไม่รู้สึกผิดเลยสักนิด เขาต้องทำบางอย่าง เขาสงสัยว่าทำไมปิศาจระดับ 14 ถึงได้มาซ่อนตัวอยู่ในแบล็คฮ็อตในรูปร่างมนุษย์
“ ข้ารู้ว่าเจ้าคิดอะไร สำหรับปิศาจเงาแล้วเราไม่สามารถใช้ความสามารถทั้งหมดของเราออกมาได้  เราจึงต้องใช้ความสามารถของเราในการรวมเราเข้ากับสังคมมนุษย์ เรามีปิศาจมากมาย ในสายตาของมนุษย์ที่แข็งแกร่งโดยเฉพาะอัศวิน มันไม่ต่างอะไรเลยระหว่างปิศาจระดับ 14 และนักสู้ระดับ 8  ดังนั้นข้าจึงเลือกซ่อนตัวในเมืองนี้เพื่อสั่งสมอำนาจในฐานะนักเล่นแร่แปรธาตุและใช้บทบาทนั้นแทนที่จะใช้พลังของปิศาจระดับ 14! “
ก่อนที่ จางเทีย จะถามเหตุผล เอเบียน ก็อธิบายออกมาแล้ว – “ หลังจากที่รู้เรื่องนี้ เจ้าจะตายตาหลับ อย่าดิ้นรนอีกเลยเพราะมันจะทำให้เจ้าเจ็บปวดมากกว่าเดิม ข้ารู้สึกได้ถึงพลังชีวิตของเจ้า ถ้าข้ากลืนกินเจ้าได้ ข้าอาจจะพัฒนาไปสู่ร่างสอง ข้าได้รอวันนี้มานาน มันยากอย่างมากที่ข้าจะได้พบคนที่เหมาะกับการกลืนกันและเพิ่มพลังชีวิตจำนวนมากให้กับข้า คนธรรมดานั้นไร้ประโยชน์สำหรับข้า ถ้าข้ากินคนธรรมดา ข้าต้องจ่ายพลังชีวิตเท่ากับที่ได้จากพวกเขา “

จางเทีย รู้สึกว่า เอเบียน ทำราวกับเขาเป็นเศษเนื้อ
ถุย** จางเทีย ถุยเลือดออกมาแล้วเผยรอยยิ้ม –“  เจ้าต้องการกลืนกินข้า ? ไปกินขี้ซะ ! “

หลังจากที่พูดจบ จางเทีย ก็ได้พุ่งเข้าหาปิศาจเงาอีกครั้ง  จางเทีย ไม่มีทางยอมให้ไอ้บัดซบนี่มีความสุขแม้ว่าจะเอาชีวิตตัวเองไปเสี่ยงก็ตาม

ตอนนั้น จางเทีย ได้ดึงมีดออกมา เขาได้ใช้แรงทั้งหมดของตัวเองโยนมันเข้าใส่ เอเบียน ด้วยความเร็วเสียงเหมือนกับการโยนหอก

มีดได้หยุดอยู่ตรงตาซ้ายของ เอเบียน ตามมาติดๆด้วยการเสียงระเบิดของอากาศ

เกราะพลังฉีของ เอเบียน สั่นไหวอยู่สักพัก มีดนั้นได้ตกลงไปตรงหน้า เอเบียน ที่ซึ่งจับมันด้วยมือแล้วโยนมันกลับไปใส่ จางเทีย พร้อมกับทำให้เกิดระเบิดเสียงขึ้นมาอีกครั้ง มีดเกือบแทงทะลุกระดูกสะบักทางด้านซ้ายของ จางเทีย ทำให้เลือดจำนวนมากไหลออกมาจากไหล่ ในเวลาเดียวกัน จางเทีย ก็กระเด็นกลับไปและสุดท้ายก็ถูกตรึงไว้ที่กำแพงด้านหลัง  จางเทีย ฮึดฮัดออกมา ครึ่งตัวของเขาอาบไปด้วยเลือด เขาดูน่าเวทนาแต่พลังต่อสู้ในตาของเขายังคงลุกไหม้ เขามองไปที่ เอเบียน ที่เดินเข้ามาหาเขา

นี่มันเกินความสามารถของ จางเทีย ที่จะปิดระยะห่าง 6 ระดับ มันคือความสิ้นหวัง
“ ข้าบอกเจ้าแล้ว ถ้าช่องว่างสามารถปกปิดด้วยแรง ผู้คนก็ไม่ต้องบ่มเพาะอีกต่อไป ! “ – เมื่อพูดจบ เอเบียน ก็ค่อยๆเดินมาตรงหน้า จางเทีย

จางเทีย เอื้อมมือขวาออกไปแล้วดึงมีดออกจากไหล่ซ้ายและแทงเข้าใส่ เอเบียน

เอเบีน ยื่นกงเล็บออกมาแล้วบิดข้อมือขวาของ จางเทีย เล็กน้อยแล้วหักมันทันที

จางเทีย เตะไปที่ท้องน้อยของ เอเบียน ราวกับขวานใหญ่ที่สับลงมา เมื่อเห็นแบบนั้น เอเบียน ก็ได้สะบัดหางเข้าใส่เท้าของ จางเทีย  ด้วยเสียงกระดูกที่ดังลั่น กระดูกเท้าของของ จางเทีย จึงหักทันที
จางเทีย กระอักเลือดออกมาแล้วทรุดเข่าลงไปข้างหนึ่งเพื่อรักษาสมดุล ตอนนั้น เอเบียน ได้ยื่นกงเล็บออกมาปักเข้าที่คอของ จางเทีย   ยก จางเทีย ขึ้นจากพื้น จากนั้นเขาก็ชู จางเทีย มาตรงหน้าแล้วมองเข้าไปในตาของ จางเทีย

“ ข้าไม่ค่อยได้เห็นคนดื้อด้านที่เก่งแบบนี้ หากเจ้าสัญญาณกับข้าว่าจะรับใช้ปิศาจแล้วสืบทอดเลือดของข้า ข้าจะให้เจ้ารอด เจ้าจะมีเงินทองและผู้หญิงจำนวนมาก เจ้าสามารถสนุกกับทุกอย่างบนโลกได้ .. “ – เอเบียน มองไปที่ จางเทีย ด้วยดวงตาที่มืดมิดและพูดออกมาอย่างเย็นชา

“ ไป...ตายซะ ! “ - จางเทีย ใช้หัวของเขาฟาดเข้าใส่หน้าของ เอเบียน  แม้ว่าหัวของ จางเทีย จะเลือดไหลออกมาแต่ เอเบียน ยังคงเป็นดังเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง  จางเทีย เงยหน้าขึ้นมาดูและกัดฟันแน่นก่อนจะโขกหัวไปอีกครั้ง  เลือดได้ไหลออกมาตามหัวของ จางเทีย  หลังจากที่โขกหัวเป็นครั้งที่สาม กะโหลกของ จางเทีย ก็แตก หน้าผากของเขาผิดรูปไป  เกราะป้องกันของ เอเบียน ยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลงมั่นคงราวกับเหล็ก
ตาของ จางเทีย เริ่มเบลอเพราะเลือดทำให้โลกตรงหน้าของ จางเทีย ดูเป็นสีแดงขึ้นมา

“ ถ้าอย่างนั้นก็ไปลงนรกซะ.. “ – เมื่อเห็นว่า จางเทีย ไม่ตกลง หางของ เอเบียน ก็ชูขึ้น ปลายหางได้แทงเข้ามาที่สันหลังจนถึงคอของ จางเทีย
ตัวของ จางเทีย เริ่มสั่นไหว ด้วยการโดนหางนี้แทง จางเทีย รู้สึกว่าพลังฉี, เลือดและพลังงานของเขาโดนหางนี่ดูดซับไป

“ พลังชีวิตมากจริงๆ มากกว่านักสู้ระดับเจ้า 20 เท่าเลย เป็นของขวัญที่ดีที่สุดจากเทพปิศาจ ! “ - เอเบียน เริ่มตื่นเต้นขึ้นมาพร้อมกับยิ้ม ในขณะเดียวกันก็ได้แลบลิ้นออกมาเลียไปตามเลือดที่ไหลออกมาจากหัวของ จางเทีย ราวกับเป็นอาหารอันโอชะ

ร่างกายของ เอเบียน เริ่มเปล่งแสงสีแดงออกมา ด้วยการลิ้มรสเลือดแสงนั้นเริ่มห่อหุ้มตัว จางเทีย

จางเทีย รู้สึกว่าเขากำลังหมดแรงไปอย่างรวดเร็ว  กระบวนการนี้กลับกันกับตอนที่เขากิน Seven-Strength Fruit  ในตอนที่หางนี้แทงเข้ามา จางเทีย รู้สึกว่าแรงของพลังฉี,แรงของเลือด,แรงของกระดูก,แรงของไขกระดูก,แรงของเส้นเลือด,แรงของช่องทางและแรงของจิตวิญญาณถูกสูบไปจากร่างกายอย่างรวดเร็วและไหลไปในตัว เอเบียน
พลังชีวิตที่ปิศาจพูดถึงนี้คือแรงทั้งเจ็ดในร่างกายมนุษย์
แสงสีแดงรอบตัว เอเบียน เริ่มเปล่งแสงสดใสมากกว่าเดิม เลือดที่อาบไปทั่วตัว จางเทีย ก็มากขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายแล้วเขาก็ได้งอกออกมาจากหน้าผากของ เอเบียน  ในขณะเดียวกันแผ่นกระดูกก็ได้ปรากฏมาที่หลังของ เอเบียน ราวกับปีกของหนู

เอเบียน ตื่นเต้นอย่างมาก เขาเงยหน้าขึ้นแล้วคำรามออกมา
จางเทีย ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับ เอเบียน ดูเหมือนว่าจะเป็นการพัฒนาแต่ จางเทีย รู้ว่าเขาน่ะเสียพลังชีวิตไปอย่างรวดเร็ว เขากำลังจะตาย – “ ถ้าไม่ใช่เพราะ Seven-Strength Fruit พวกนั้น ข้าคงตายไปแล้ว “

จางเทีย ใช้สัญชาตญาณขยับมือซายแล้วเอื้อมไปที่ดาบคู่ของเขา ในเวลาเดียวกันดาบพลังฉีก็ได้โผล่มาจากเอวแล้วพันรอบคอของ เอเบียน

“ โฮ่โฮ่ ข้าไม่คิดมาก่อนว่าเจ้าจะมีลูกเล่นแบบนี้ด้วย แต่มันไร้ประโยชน์ อาวุธธรรมดาไม่อาจจะฝ่าเกราะของข้ามาได้..” - แม้ว่าดาบนี้จะพันรอบคอของ เอเบียน แต่มันก็แค่ส่ายหน้าก็ทำให้ดาบนี้หลุดจากมือ จางเทีย แล้ว  เอเบียน มองมาที่ จางเทีย อย่างพอใจและปล่อยให้ จางเทีย ดิ้นรน  - “ ดิ้นรนเข้าไป มนุษย์เอ๋ย กลัวเข้าไป มนุษย์ที่อ่อนแอ เลือดของเจ้าจะได้หวานยิ่งกว่าเดิมหากเจ้ากลัว ! “
...
“ ครั้งนี้ข้าจะตายจริงๆงั้นเหรอ ? “ - สติของ จางเทีย เริ่มพร่ามัว

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน สุดท้าย จางเทีย ก็ตื่น นี่คือการตื่นตัวครั้งสุดท้ายของชีวิตเขา ในตอนที่เขาตื่น เขาพบว่าเขามีพลังชีวิตแค่เพียง 10% ส่วน เอเบียน นั้นน่ากลัวยิ่งกว่า แสงสีเลือดที่ครอบคลุมตัว จางเทีย เหมือนกับดักแด้เลือดซึ่งทำให้ จางเทีย อ่อนแอลงอย่างมาก

เพราะพลังวิญญาณมากมายถูกดึงออกไป จางเทีย จึงรู้สึกว่าพลังวิญญาณที่เหลือเริ่มคงที่แม้ว่ามันจะไหลออกไป
เขาที่หน้าผาก เอเบียน เริ่มโตขึ้นเรื่อยๆ เมื่อมองไปที่เขานั่น  จางเทีย ก็ได้เอาสิ่งที่เหมือนเศษเหล็กที่เขาเก็บมาจากแม่น้ำตอนที่เข้าร่วมการฝึกเอาตัวรอดจากCastle of Black Iron ออกมา หลังจากนั้นเขาก็ใช้พลังฉีต่อสู้เหล็กโลหิตเข้าไปก่อนจะแทงมันใส่ที่หัวใจของ เอเบียน

วัตถุคมๆนั้นเปล่งแสงหม่นๆออกมาหลังจากที่ใส่พลังฉีต่อสู้เหล็กโลหิตเข้าไป มันได้ทำลายเกราะป้องกันของ เอเบียน ไปได้และแทงเข้าใส่หัวใจของมัน

เอเบียน ตัวสั่นขึ้นมาทันที มันมองไปที่วัตถุนั่นด้วยท่าทีเหลือเชื่อ สีหน้าของมันเริ่มแสดงความกลัวออกมา….

จางเทีย เองก็ตัวสั่น ในตอนที่เขาแทงเข้านั้นเข้าไปในตัว เอเบียน เขารู้สึกว่าฝ่ามือนั้นร้อน พลังงานจำนวนมากได้ไหลเข้ามาในร่างกายของเขาผ่านทางเขานั้น  จางเทีย รู้สึกเหมือนกับโดนมัดไว้กับ เอเบียน ทั้งสองไม่อาจที่จะขยับได้

เอเบียน กำลังทำการกลืนกันพลังงานของ จางเทีย ตะกี้นี้แต่หลังจากที่ จางเทีย แทงเขานี่เข้าไป  เขาก็เริ่มกลืนกิน เอเบียน แทน  มนุษย์และปิศาจกับเขาแปลกๆได้สร้างสิ่งลึกลับขึ้นมา

เอเบียน ต้องการอ้าปากพูดแต่มันก็ไม่อาจจะเอ่ยปากออกมาได้แม้แต่คำเดีว  จางเทีย เองก็เช่นกัน  เขารู้สึกแค่ร้อนยิ่งกว่าเดิมไปทั่วตัวพร้อมกับพลังฉี,เลือดและพลังงานที่เริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
ก่อนที่เขาจะหมดสติ จางเทีย ก็ได้ล็อคไปที่ประตูมิติ --- กลับ !

...
ข่าวที่ว่า เอเบียน โดนฆ่าทำให้ปราสาทของเขากลายเป็นที่ว่างเปล่าไปสามวัน คนธรรมดาทุกคนกลัวว่าจะไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้และได้หนีออกมา นอกจากนี้พวกเขายังเอาของมีค่าในปราสาทไปด้วย

ทั้งเมืองแบล็คฮ็อตเริ่มวุ่นวาย

เมื่อมองไปที่ปราสาทที่เท้า เซ่าหยวน ก็ได้คำรามออกมาอย่างหงุดหงิด เขาได้ต่อยลงไปที่ปราสาท  ด้วยการะเบิดนั้นที่เมืองเหมือนกับจะเกิดแผ่นดินไหว  ในเวลาเดียวกันปราสาทของ เอเบียน ก็ได้หายไปเหลือเพียงแค่หลุมลึก 100 ม.และเริ่มมีน้ำเอ่อล้นขึ้นมาแทน

หลังจากนั้นไม่กี่วันก็ได้มีทีมสอบสวนนำโดยพวกคนมีอำนาจและอัศวินที่นอแมนได้มอบหมายหน้าที่มาได้มาถึงที่เมืองแบล็คฮ็อต  ในตอนที่พวกเขายืนอยู่ข้างๆบ่อที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นปราสาทเมื่อหนึ่งเดือนก่อน พวกเขาต่างก็เงียบ
...
หลังจากผ่านไปกว่าหนึ่งเดือนกว่า 30 ประเทศและเขตทั่วสมาคตมแบล็คซอนได้เกิดเรื่องจากปิศาจขึ้นมา ด้วยการโดนควบคุมโดยหนอนปิศาจ พวกกองทัพซอมบี้ได้กระจายตัวไปทั่วราวกับแมลงสาบ...

สงครามศักดิ์สิทธิ์ครั้งที่สามเริ่มต้นขึ้นแล้ว !

รีวิวผู้อ่าน