Chapter 524: 3 ปี
จางเทีย รู้สึกว่าเขาอยู่ในฝันอันแสนหวนและกลับไปอยู่ในท้องแม่อีกครั้ง ด้วยน้ำรอบตัวที่อบอุ่น จางเทีย ไม่รู้ว่าเขาหลับไปนานแค่ไหน ในตอนที่เขาได้สติ เขาก็บิดตัวไปมาสักพักก่อนจะลืมตาขึ้นมา
ตรงด้านหน้าเขามืดสนิท หลังจากนั้นสักพัก จางเทีย ก็ตระหนักได้ว่าไม่ใช่เขามองไม่เห็นแต่เพราะเขาโดนรังไหมหนาๆห่อเอาไว้
“ ข้าไม่ได้ตายงั้นเหรอ ?”
ความคิดนั้นแว๊บขึ้นมาในหัวของ จางเทีย จากนั้นเขาก็เริ่มขยับแขนขาตัวเอง เขาเริ่มฉีกรังไหมนั้นทิ้งแล้วเดินออกมา
ในตอนที่เขาเดินออกมา จางเทีย ยังปรับตัวกับแสงด้านนอกไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงต้องหรี่ตาลงเล็กน้อย หลังจากนั้นไม่นาน จางเทีย ก็เริ่มมองไปรอบๆ
เอเบียน เองก็ถูกห่อไว้ในรังไหมสูงกว่า 2 ม.แต่ เอเบียน กลายเป็นซากศพไปแล้ว เขาหดตัวลงจากเดิมกว่าครึ่ง มันเหมือนกับศพกิ้งก่าที่ดูน่ากลัวอย่างมาก เขาแหลมๆนั่นยังคงอยู่ที่หน้าอกของมันอยู่
หลังจากที่มองไปที่ เอเบียน จางเทีย ก็ละสายตาหนี
เขาเห็น Manjusaka Karma Fruit Tree ซึ่งทำให้เขาวางใจขึ้นมาอีกครั้ง ตราบใดที่เขาอยู่ใน Castle of Black Iron เขาก็จะปลอดภัยแต่ต้นไม้เล็กตรงหน้าเขาดูเปลี่ยนไปจากแต่ก่อนเล็กน้อย เอาให้แม่นคือมันสูงและมีใบไม้มากกว่าเดิม – “ บ้านรอบๆไม่ได้เปลี่ยนไปมากแต่ทำไมที่นี่ถึงดูแตกต่างจากแต่ก่อนได้ ?”
จางเทีย จำได้ว่าในตอนที่เขาเข้ามาครั้งที่แล้ว ความยาวและความกว้างของ Castle of Black Iron ไม่ถึง 1 กม. แต่ตอนนี้ทั้งความยาวและความกว้างนั้นมากเกือบ 10 กม.ซึ่งเกือบจะร้อยเท่าจากเดิม จางเทีย ที่ราบตรงหน้าเขาซึ่งปกคลุมไปด้วยป่าและไร่มากมาย ช่างเป็นฉากที่สุดยอดจริงๆ ! มีเนินเขาสูงกว่า 100 ม.อยู่ไกลออกไป เนินเขานี้เต็มไปด้วยต้นไม้ต่างๆ รวมกับบ่อน้ำที่เป็นประกายเนื้อที่กว่า 20 ตร.กม. ทุกอย่างทำให้ จางเทีย ช็อก
ถ้าไม่ใช่เพราะต้นไม้ตรงหน้ากับเมฆหลากสีที่ไหลไปมา จางเทีย เกือบจะคิดว่าเขามาผิดที่
“ แต่มันรู้สึกดีจริงๆที่ได้เกิดใหม่ “
ตอนนั้นจากมุมของแสงใน Castle of Black Iron จางเทีย รู้ว่ามันเป็นตอนบ่าย พวกผึ้งมาบินรอบตัว จางเทีย เมื่อได้กลิ่นที่น่าสนใจจากตัว จางเทีย
จางเทีย รู้สึกได้ถึงความพอใจของพวกมัน
เขายืนอยู่ด้วยความทึ่งสักพัก จางเทีย พบว่า เฮลเลอร์ ไม่ได้อยู่ที่นี่ด้วย ดังนั้นเขาจึงไปที่ข้างๆแม่น้ำที่ไม่ไกลออกไปและเตรียมตัวที่จะอาบน้ำ เพราะเขาพบว่าเสื้อผ้าที่เขาใส่นั้นขาดและเน่าหมดแล้วซึ่งดูแย่ยิ่งกว่าขอทาน นอกจากนี้เขายังรู้สึกอึดอัดด้วย
จางเทีย ไปที่ข้างแม่น้ำ ในตอนที่เขาถอดถุงมือออกเขาก็ได้เห็นมือของเขา
มือนั้นแตกต่างจากแต่ก่อนเพราะมันมีเกล็ดสีดำปกคลุม แต่ละเล็บนั้นคมราวกับใบมีดและสะท้อนแสงออกมา
“ อ่ะ ...” - จางเทีย กลัวซะจนอุทานออกมา ในเวลาเดียวกันเขาก็ผงะกลับหลังแต่ก่อนที่เขาจะล้ม เขาก็รู้สึกว่ามีเท้าเท้าหนึ่งที่ด้านหลังซึ่งทำให้เขารักษาสมดุลเอาไว้ได้ จางเทีย หันกลับไปดู ไม่คาดคิดว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเขาเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็วแต่เขาก็ยังเห็นมันอย่างชัดเจน
มันเหมือนกับหางของ เอเบียน ซึ่งคล้ายกับเท้าที่สามของเขา....
จางเทีย ตกใจจนหน้าซีดทันที เขาเริ่มกังวล ตอนนั้นเสื้อผ้าของเขาฉีกขาดพร้อมกับมีปีกยื่นออกมาจากไหล่ของเขา แต่ละปีกยาวกว่า 3 ม. ปีกได้กระพืออย่างแรงจนลาก จางเทีย ขึ้นมาจากพื้น
หลังจากที่เสื้อผ้าฉีกขาดแล้ว จางเทีย เห็นเกล็ดสีดำทั่วตัว ในภาพสะท้อนจากน้ำ เขาถึงเห็นเขาที่หน้าผากของเขาด้วย
เขาเงยหน้าขึ้นแล้วกรีดร้อง – “ เกิดอะไรขึ้น ? อ่ะ ...ข้าเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง ? “
ตอนนั้นเขาก็พบว่าเสียงเขาแปลกไปจากเดิม เสียงเขาแหบแห้ง
เฮลเลอร์ วิ่งเข้ามาหาจากที่ไกลๆและหยุดตรงหน้า จางเทีย ห่างออกไปหลายเมตร เมื่อมองสีหน้าใจเย็นของ เฮลเลอร์ จางเทีย ก็ได้สติขึ้นมาเล็กน้อย
ตอนนั้นปีกได้ยกตัวเขาขึ้นไปกว่า 8 ม.และและทำให้เขาลอยตัวอยู่ตรงนั้น
“ อ่ะ เฮลเลอร์ เกิดอะไรขึ้นกับข้า ? ข้าดูเหมือน เอเบียน ได้ยังไง .. “
“ ไม่ต้องกังวล เจ้าของปราสาท ลงมานี่ก่อน ข้าจะอธิบายให้ท่านฟังช้าๆ ! “ - เฮลเลอร์ เงยหน้าขึ้นพูดกับ จางเทีย
“ อ่า..เอิ่ม...เอิ่ม..ข้าจะลงไปยังไง ข้าควบคุมมันไม่ได้ ! “
“ ท่านทำได้ นี่คือสัญชาตญาณเหมือนกับการเดินและหายใจ หากท่านไม่กังวล ท่านจะรู้วิธีลงมาเอง !”
หลังจากที่ได้ยินข้อเสนอของ เฮลเลอร์ จางเทีย ก็พยายามใจเย็นลง หลังจากนั้นในตอนที่เขาตั้งใจจะลงไป เขาก็ได้ลงไปที่พื้นได้อย่างมั่นคงพร้อมกับกระพือปีกของเขา
ปีกอันทรงพลังคู่นี้ห่อตัวกลับเข้าไปทันที
ก่อนที่ จางเทีย จะได้อ้าปากพูด เฮลเลอร์ ก็แสดงภาพสามมิติตรงหน้า จางเทีย
...
หลังจากนั้นมากกว่า 10 นาทีเมื่อได้ยินคำอธิบายของ เฮลเลอร์ และดูที่ เฮลเลอร์ แสดงภาพ DNA สองอันที่กลืนกินกัน จางเทีย ก็ต้องอึ้ง
“ เจ้าหมายความว่าเขาไม่ได้กลืนกันข้า แต่ข้ากลืนกินเขาแทน ? เขานั่นมันอะไรกัน ? ทำไมมันถึงได้ทรงพลังแบบนั้น ? ทำไมมันถึงทำลายเกราะพลังฉีได้และส่งพลังของ เอเบียน มาให้ข้าแทน ? “ - จางเทีย จับไปที่เขาตรงหน้าผากตัวเองแล้วถาม
“ ท่านจำตำนานในหุบเขาหมาป่าตอนที่ท่านเข้าไปฝึกที่นั่นได้หรือไม่ ? “
“ เจ้าหมายถึงงูกินทองที่ทำให้สมาคสแบล็คซอนต้องตกใจอย่างงั้นเหรอ ? “
“ ใช่ ของนี่คือฟันของมัน มันคือของพิเศษที่สุดของงูกินทอง ของชิ้นนี้มีความสามารถในการกลืนกินและแทงทะลุทุกอย่าง หลังจากที่ใช้พลังฉีต่อสู้ของท่านเข้าไป ท่านก็เปิดการทำงานของมัน ดังนั้นท่านจึงสามารถแทงทะลุเกราะของ เอเบียน ได้ ในขณะเดียวกันตอนนั้น เอเบียน กำลังพัฒนาเป็นร่างสองซึ่งบ่งบอกได้ว่า DNA ของเขากำลังทำงาน ทั้งสามจึงสร้างการการโคจรที่ลึกลับ ภายใต้ผลของมันร่างสองของ เอเบียน จึงได้ส่งผ่านมาที่ท่านซึ่งทำให้ท่านมีสภาพแบบนี้ “
“ ข้ากลับไปเป็นแบบเดิมได้มั้ย ? “ - จางเทีย ถาม
“ ได้ ท่านทำได้ หน้าตาแบบเดิมท่านคือร่างแรก ส่วนที่ท่านเป็นตอนนี้คือร่างสอง ด้วยความสามารถของปิศาจเงา ท่านสามารถเปลี่ยนทั้งสองร่างได้ตามใจ ! “
“ ข้าเป็นมนุษย์รึปิศาจกันแน่ตอนนี้ ? “
“ ขึ้นอยู่กับที่ท่านให้การนิยามคำว่ามนุษย์และปิศาจ ! “ - เฮลเลอร์ มองด้วยสีหน้าจริงจัง
“ เจ้าหมายความว่ายังไง ? “
“ ถ้าท่านแยกปิศาจในเรื่องหน้าตากับมนุษย์ ท่านก็เป็นปิศาจ ถ้าท่านแยกในด้าน DNA ท่านก็ไม่ใช่ทั้งปิศาจและมนุษย์ เพราะ DNA ของท่านได้รวมกันจากสิ่งที่พิเศษของทั้งสอง ตอนนี้ท่านคือเผ่าพันธุ์กลายพันธุ์ ถ้าท่านต้องการแยกมนุษย์จากปิศาจในด้านความสามารถ ท่านก็คือปิศาจเพราะท่านสามารถทำทุกอย่างที่ปิศาจเงาทำได้ ถ้าท่านแยกในด้านวิญญาณและความรู้สึก ท่านยังคงเป็นตัวท่านเองก็คือมนุษย์ ! แน่นอนมันขึ้นอยู่กับว่าท่านจะแยกตัวเองยังไง ถ้าเป็นคนอื่นเมื่อเห็นท่าน พวกเขาคงคิดว่าท่านเป็นปิศาจอย่างแน่นอนแต่ปิศาจจะคิดว่าท่านคือเผ่าพันธุ์เดียวกัน ร่างแรกของท่านถือว่าเป็นการแปลงร่างของปิศาจเงา ไม่มีใครเชื่อว่าท่านคือ จางเทีย ! “
หลังจากได้ยินคำตอบจาก เฮลเลอร์ จางเทีย ก็อึ้งและเริ่มเจ็บปวดในใจ ไม่มีคนธรรมดาคนไหนที่อยากได้รูปลักษณ์แบบนี้
“ ดังนั้น...”
“ ดังนั้นหลังจากที่ท่านออกจาก Castle of Black Iron ตราบใดที่ท่านเผยร่างที่สองออกมารึความสามารถพิเศษของปิศาจ ท่านจะถูกปฏิบัติเหมือนกับปิศาจ ปิศาจเงาซึ่งเป็นศัตรูตัวฉกาจของมนุษย์ ตามกฎชาร์ตเตอร์แล้วใครก็ตามที่ฆ่าปิศาจเงาได้จะได้เลื่อนขั้นเป็นลอร์ด ท่านรู้ใช่มั้ยว่ามันหมายถึงอะไร ? “
แน่นอน จางเทีย รู้ดีว่าหากเขาบอกเรื่องนี้กับใครเขาคงโดนฆ่า
“ โอ้ ตอนนี้เวลาเท่าไหร่แล้ว ? ข้าอยู่ในรังไหมนั่นมานานแค่ไหน? ข้าต้องไปเจอเพื่อนข้า ! “
เฮลเลอร์ มองไปที่ จางเทีย ไม่พูดอะไรออกมากว่า 10 วินาทีก่อนจะอ้าปากพูดขึ้น – “ มันเป็นวันที่ 1 มีนาคม ปี 894 ..”
“ อะไรนะ ? “ - เมื่อมองไปที่สีหน้านิ่งของ เฮลเลอร์ จางเทีย ก็รู้สึกมึนหัว หน้าของเขาซีดสนิท เขาไม่คิดว่าเขาจะหลับไปนานถึง 3 ปี !