px

เรื่อง : Castle of Black Iron
Chapter 532: การต่อสู้แรก


Chapter 532: การต่อสู้แรก
นอกจาก เอเบียน แล้วนี่เป็นครั้งแรกที่ จางเทีย ได้เห็นปิศาจซึ่งเคยมีตัวตนแค่ในหนังสือ

นี่คือกองกำลังปิศาจที่โด่งดังและน่ากลัวที่สุด --- ปิศาจเกราะเหล็ก

ปิศาจเกราะเหล็กสูงกว่า 2.2 ม. มันมีความอึดและพลังทำลายล้างที่สูง เกราะสีดำของมันหนาพอๆกับแผ่นเหล็กซึ่งไม่อาจที่จะพังได้ด้วยธนูและลูกดอกธรรมดาที่ห่างออกไป 100 ม.ได้

ในตอนที่ จางเทีย ได้โดดลงจากขบวนรถ เขาก็เห็นปิศาจเกราะเหล็กสะบัดใบมีดของมันฆ่าผู้คนที่ปีนออกจากขบวนรถเป็นชิ้นๆอย่างรวดเร็วด้วยพายุดำที่เกิดจากใบมีดของมัน

ปิศาจเกราะเหล็กบางตัวถึงกับมุดเข้าไปในขบวนรถและได้ทำให้เลือดกระจายออกมาจากขบวนรถจำนวนมาก

ต่อหน้าปิศาจกว่าสิบตัว ทหารทุกคนในรถไฟไม่ได้มีโอกาสที่จะตอบโต้ ทั้งรถไฟนี้เหมือนกับเหยื่อที่ถูกลากมาที่ข้างแม่น้ำและโดนจระเข้าที่ดุร้ายรุมล้อม  เศษเนื้อและเลือดมีให้เห็นอยู่ทั่วทุกที่  บางครั้งสัญลักษณ์พลังฉีต่อสู้ได้ปรากฏออกมาแต่สัญลักษณ์เหล่านั้นก็ได้หายไปทันทีไม่ว่าจะเป็นแมงมุมรึตะขาบก็ตาม

ในตอนที่ จางเทีย ลงมายืนที่พื้นเขาก็เห็นปิศาจเกราะเหล็กตัวหนึ่งกระโดดมาอยู่ตรงหน้าและพุ่งเข้าใส่เข้าใส่พร้อมกับที่คำรามออกมา

ในสายตาของปิศาจแล้วขบวนของ จางเทีย ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะเป็นเทศกาลนองเลือดอีกอันของพวกมัน

ในตอนที่นักโทษประหารเหล่านั้นตาม จางเทีย ออกมา พวกเขาก็ได้เห็นปิศาจที่พุ่งเข้ามาหา เสียงกรีดร้องอันน่ากลัวเหมือนวันจุดจบของโลกได้เข้ามาหาพวกเขา

จางเทีย หรี่ตาและดึงหอกออกมาจากมือก่อนจะโยนเข้าใส่ปิศาจตัวนั้น

เกือบจะในเวลาเดียวกันหัวของปิศาจก็ได้ระเบิดออก ตามมาติดๆด้วยเสียงระเบิดของอากาศ ปิศาจเกราะเหล็กยังคงวิ่งต่ออีกสองก้าวก่อนจะล้มลงไป

บางทีในสายตาของพวกปิศาจแล้วทหาระดับ 4 และนักสู้ระดับ 8 สามารถฆ่าได้ง่ายๆด้วยการฟันหนึ่งรึสองครั้ง ก็คล้ายๆกันสำหรับมุมมองของ จางเทีย ที่นักสู้ระดับ 10 และทหารระดับ 1 สามารถฆ่าได้ง่ายๆด้วยหอกแค่อันเดียว ไม่ต้องพูดถึงปิศาจระดับ 9 เลย มันได้เปรียบอย่างเห็นได้ชัด

ในตอนที่คนผ่านขีดจำกัดมาได้ เขาจะสามารถจัดการคนที่ต่ำกว่าได้ราวกับจัดการมดและหนอน ในสายตาของ เอเบียน  จางเทีย น่ะเป็นแค่หนอน ดังนั้นปิศาจระดับ 9 ในสายตา จางเทีย เองก็ด้วย

หอกในมือของ จางเทีย ใช้ได้ผลอย่างมาก

ไม่ ถึงครึ่งวินาที จางเทีย ก็ได้โยนหอกออกไปอีกสามอัน จนทำให้หัวของปิศาจสามตัวที่กำลังฆ่าคนโดยห่างออกไป 100 ม.ระเบิดออก

ตามมาติดๆด้วยการที่ จางเทีย กระโดดขึ้นไปบนรถไฟแล้ววิ่งไปที่หัวขบวน
ขบวนของ จางเทีย อยู่ตรงส่วนหลังๆของรถไฟ ดังนั้นขบวนส่วนมากจึงอยู่ด้านหน้า จางเทีย ด้านบนรถไฟนั้นเขาจะมองภาพที่เกิดขึ้นได้ดีกว่าเดิมเกี่ยวกับสถานกาณ์จากทั้งสองฝั่ง มันจะสะดวกกว่าเดิมสำหรับ จางเทีย ในการฆ่าปิศาจด้วยหอกของเขา

ก่อนที่ จางเทีย จะโดดขึ้นไปบนรถตรงหน้า เขาก็ได้โยนหอกออกไปอีกสองอันและได้ฆ่าปิศาจอีกสองตัวไป

ในเสี้ยววินาที จางเทีย ก็ได้ฆ่าปิศาจไปกว่า 6 ตัว

ปิศาจตัวที่เหลือกรีดร้องออกมา พวกมันได้พุ่งเข้าหา จางเทีย จากทุกทิศทาง  ปิศาจพวกนี้แข็งแกร่งยิ่งกว่าพวกมนุษย์ระดับเท่ากัน

จางเทีย ได้โยนหอกออกไปอีกสี่อันในชั่วพริบตาและกุดหัวปิศาจสี่ตัวไปทันที ตอนนั้นปิศาจสามตัวสุดท้ายก็ได้มาอยู่ข้างๆ จางเทีย

ปิศาจตัวหนึ่งได้ฉีกส่วนบนของรถไฟออกมาจากด้านในด้วยดาบของมันแล้วฟันเข้าใส่ท้องน้อยของ จางเทีย  เขากระโดดหลบ เกือบจะพร้อมกันปิศาจตัวหนึ่งก็ได้โดดทะลุหลังคารถออกมาและพุ่งเข้าใส่ จางเทีย 
จางเทีย เข้าไปใกล้กับปิศาจตัวนั้นมากกว่าเดิมเผชิญหน้ากับใบมีดอันคมกริบและการเคลื่อนที่อันลึกลับ  จางเทีย ที่สูงแค่ไหล่ของปิศาจและหนักน้อยกว่าครึ่งของมันต่อยเข้าไปที่อกของปิศาจตัวนั้นระเบิดร่างกายมันออกเป็นชิ้นๆและทำให้เนื้อและเลือดกระจายออกไปทั่ว...

ปิศาจสองตัวที่เหลือกรีดร้องอีกครั้งและได้พุ่งเข้าใส่ จางเทีย พร้อมกัน ก่อนที่ดาบจะโดนตัว จางเทีย   เขาก็ได้เหวี่ยงตัวเองไปชนกับปิศาจตัวหนึ่งอย่างกับอย่างกับวัวคลั่งจนทำให้มันกระอักเลือดออกมาราวกับโดนรถไฟชนเอาก่อนจะกระเด็นกลับหลังออกไป

ปิศาจตัวสุดท้ายคำรามออกมา ตาของมันแดงกล่ำไปด้วยเลือด ปิศาจตัวสุดท้ายได้ทิ้งดาบของมันแล้วพุ่งเข้าใส่ จางเทีย พร้อมกับกงเล็บอันคมกริบ  จางเทีย เผชิญหน้ากับกรงเล็บนั้นด้วยหมัดจนทำให้มันระเบิดออกตั้งแต่ข้อมือไปจนถึงไหลและตกลงจากรถไฟไป
จางเทีย ตามปิศาจตัวนั้นลงไป ก่อนที่จะถึงพื้นเขาก็ได้กระทืบมันซ้ำ ผลก็คือคนสองคนได้พุ่งลงมาที่พื้นราวกับค้อนเหล็กจนทำให้พื้นเป็นหลุมขึ้นมา ปิศาจตัวนั้นระเบิดออกราวกับแตงโม

ปิศาจที่กระเด็นกลับไปพยายามที่จะลุกขึ้นมาจากพื้น ในตอนที่ จางเทีย เดินเข้าไปหามัน มันก็ได้คุกเข่าหนึ่งข้างลงที่พื้นแล้วกระอักเลือดออกมา

จางเทีย เหยียบไปที่หางของมันแล้วกำคอของมันเอาไว้ด้วยมือขวา  ปิศาจเริ่มดิ้นรนและจับแขนของ จางเทีย เอาไว้ต้องการที่จะฉีกแขนของ จางเทีย ออก ตอนนั้นคอของมันก็หักลง หลังจากนั้นมันก็โดนโยนลงไปที่พื้น

“ ใครอีก ? “ - จางเทีย คำรามพร้อมกับมองไปรอบๆ  เขาพบว่าไม่มีปิศาจเหลืออีกต่อไปแต่ทหารและนักโทษจำนวนมามองมาที่เขาด้วยสายตาตกตะลึง

เมื่อมองไปที่เหล่าทหาร รังสีอาฆาตของ จางเทีย ก็ค่อยๆหายไป  ตั้งแต่ที่เขาสู้กับ เอเบียน มา ความแค้นในใจที่มีก็ได้ปลดปล่อยออกมาสักที
จางเทีย มองไปที่คนอื่นๆแล้วโบกมือให้ มิเชล วิ่งเข้ามาด้วยท่าทีตื่นเต้น ในตอนที่เขามายืนตรงหน้า จางเทีย เขาก็ได้มองศพของปิศาจก่อนจะมองไปที่เท้าของ จางเทีย   เขาใจเต้นรัวและกลืนน้ำลายก่อนจะอุทานออกมาในใจ –“  เหี้ย นี่มันคนบ้าอะไรวะ ? “

“ หัวหน้า...จะให้ข้าทำอะไรดี ? “

“ เพราะปิศาจพวกนี้ต้องการที่จะทำลายรางรถไฟ พวกมันไม่ใช่แค่ทำลายเส้นทางนี้เท่านั้น เอาคนไปตรวจสอบที่นั่น ถ้ามีปัญหาอะไรให้ส่งสัญญาเตือนที่หน้าถนนและกันรถไฟในเส้นทางอื่น ! “ - จางเทีย สั่งออกมา มันคือรางรถไฟหลายสาย มันง่ายที่นักสู้ระดับ 9 จะทำให้รถไฟตกรางได้  สำหรับการโจมตีที่เกิดกับเส้นทางนี้ มันยากที่จะบอกได้ว่าเส้นทางอื่นๆปลอดภัย

หลังจากที่ได้รับคำสั่ง มิเชล ก็ตื่นตัวขึ้นมา เขารีบวิ่งไปหาคนอื่นๆก่อนจะวิ่งออกไปตรวจดูตามราง ตามที่ จางเทีย ได้คาดเดาไว้ ไม่ถึง 300 ม.หลังจากที่ มิเชล วิ่งไป เขาก็ได้ตะโกนออกมา – “ รางโดนเลื่อนห่างไปด้านนอก 10 ซม... “

เมื่อเจอปัญหา มิเชล ก็เริ่มส่งสัญญาเตือนที่รางรถไฟพร้อมกับคนอื่นๆ
เจ้าหน้าที่ยศร้อยโทขั้นหนึ่งที่ซึ่งครึ่งตัวชุ่มไปด้วยเลือดได้เดินเข้ามาหา จางเทีย พร้อมกับทหารคนอื่นๆด้วยท่าทีลังเลและได้พูดออกมาอย่างตะกุกตะกัก – “ ทะท่าน..”

ถ้าไม่ใช่เพราะหอกของ จางเทีย ที่ระเบิดปิศาจที่อยู่ข้างๆคนพวกนี้ หัวของชายคนนี้คงโดนตัดไปแล้ว
บนรถไฟกองทัพที่มุ่งหน้าไปที่แนวหน้า ชายคนหนึ่งได้ทำการจัดการทีมปิศาจระดับ 9 ลงได้ในเสี้ยวพริบตานั้นมีสิทธิที่จะเป็นเจ้าหน้าที่ได้  จากความแข็งแกร่งของ จางเทีย อย่างน้อยเขาก็ได้เป็นพันโท

ตอนนั้น จางเทีย ไม่ได้อยากอธิบายอะไรให้พวกนั้นฟัง หลังจากที่มองไปที่พื้นสักพัก จางเทีย ก็ถอนหายใจออกมา – “ ร้อยโทขั้นหนึ่ง มาช่วยคนด้วยกัน.. “
...
หลังจากนั้น จางเทีย และคนที่พอขยับได้ก็เริ่มไปหาคนบาดเจ็บและศพตามขบวนรถไฟและพาพวกเขาออกมา

เพราะรถไฟอยู่ๆตกราง มันจึงทำให้ผู้โดยสารจำนวนมากต้องตาย การฆ่าล้างของปิศาจที่ตามมาทำให้สถานการณ์เลวร้ายขึ้นไปอีก นอกจากวัสดุทางทหาร รถไฟคันนี้ยังมีทหารกว่า 2000 คนจากพันธมิตรกลุ่มดาวแต่ตอนนี้มีแค่ 400 คนที่พอขยับได้ อีก 500 คนได้รับบาดเจ็บหนักและต้องการการรักษา

นี่คือผลลัพธ์การต่อสู้ระหว่างทหาร 2000 คนกับปิศาจ 13 ตัว

พันโทของทหารสองพันคนนี้เป็นนักสู้ระดับ 9  ในตอนที่เขาออกมาจากรถไฟ เขาก็ถูกฉีกเป็นชิ้นๆโดยปิศาจสามตัว ถ้าไม่ใช่เพราะเขา จางเทีย คิดว่าทหาสองพันคนนี้คงรอดไปไม่ได้

จางเทีย รู้สึกกลัวขึ้นมาเล็กน้อย ในที่สุดเขาก็เข้าใจความน่ากลัวของกองทัพปิศาจที่มีผลต่อสงครามสองครั้งก่อน เมื่ออยู่ต่อหน้าปิศาจเหล่านี้ ทหารธรรมดาไม่มีทางที่จะเอาชนะได้เลย มันไม่ต่างกับการที่พวกเขาไม่มีแขนขา  ต่อหน้าปิศาจเหล่านี้กว่า 95% ของทหารล้วนแต่จะถูกกำจัด

“ แล้วสงครามที่หนักหนาจะเป็นยังไง ? “
...
หลังจากที่เคลื่อนย้ายคนเจ็บและศพออกมาจากขบวนรถไฟ พวกก็พบเครื่องพลุสัญญาณจากขบวนรถคันหนึ่ง

หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีพลุก็ถูกจุดขึ้นไปบนฟ้าทำให้เกิดพลุสีแดงขึ้นมาทันที

1 ชม.ต่อมาก็ได้มียานลำเล็กได้บินมาที่นี่จากทางเหนือ
...
อุบัติเหตุเกิดขึ้นห่างจากเมืองม๊อกโกไป 200 กม.ซึ่งใกล้กับแนวหน้าของที่ราบเซลเนสมากที่สุด พวก จางเทีย ต้องใช้เวลา 2 วันกว่าจะไปถึงที่แนวหน้า....

รีวิวผู้อ่าน