px

เรื่อง : Castle of Black Iron
Chapter 554: ร่างกายกันน้ำระดับต้น


Chapter 554: ร่างกายกันน้ำระดับต้น
จางเทีย ช็อกอย่างมากกับการโจมตีครั้งแรกของยาน ยานนี้ได้โยนระเบิดไป 8 ครั้ง ครั้งละ 3 ถัง  ผู้เสียชีวิตของยานนั้นคือ 0  ความสำเร็จนี้ยิ่งใหญ่มากเพราะพวกเขาได้ฆ่าซอมบี้ไปอย่างน้อย 40,000 ตัว ทำลายสะพานสำเร็จและปกป้องกองทัพมนุษย์ไว้ได้

มันยังเป็นผลดีจากภูมิประเทศ หากเป็นที่อื่น ซอมบี้คงมีพื้นที่อื่นให้เคลื่อนที่ได้ ระเบิด 24 ถังคงไม่ได้ผลแบบนี้แต่องค์ประกอบที่สำคัญที่สุดของการต่อสู้นี้คือพลังทำลายล้างที่เขารู้สึกเป็นครั้งแรก

ถ้าไม่ใช่บนสนามรบจริง เราคงไม่รู้ถึงความสำคัญของการโจมตีทางอากาศ หลังจากเห็นแบบนั้น จางเทีย ก็เข้าใจถึงหลักการของมัน

อะไรคือการโจมตีทางอากาศ ? เอาง่ายๆข้าจัดการเจ้าได้แต่เจ้าทำอะไรข้าไม่ได้ ข้าจะจัดการเจ้าเมื่อไหร่ก็ได้ที่ต้องการ เจ้าไม่อาจป้องการการโจมตีของข้าได้เลย หลังจากที่อัดเจ้าแล้ว ข้าจะกลับแต่เจ้าตามข้าไม่ได้ ในตอนที่เจ้าและศัตรูของเจ้าสู้กันที่พื้น มันจะเป็นการต่อสู้สองมิติแต่เมื่อเจ้าอยู่ในอากาศและศัตรูอยู่ที่พื้น เจ้าก็จะมีการโจมตีทางอากาศ

สมาชิกทุกคนบนยานต่างก็ตื่นเต้นกับความสำเร็จครั้งใหญ่ ตั้งแต่ที่พวกเขาขึ้นยานมา พวกเขาเพิ่งได้โจมตีใส่พวกปิศาจ การต่อสู้อันนี้แค่อันเดียวก็ทำให้ทุกคนรู้สึกได้ถึงการเดินทางที่คุ้มค่า ถ้าให้ต้นหนพูด การต่อสู้นี้ถือว่าหอมหวานสำหรับยานต่อสู้ ถ้าเป็นกองทัพ หลังจากที่ผ่านการต่อสู้นี้แล้วพวกเขาคงได้รับเหรียญ

แม้ว่าบนยานนี้จะไม่ได้เหรียญมาแต่พวกเขาก็เริ่มคิดว่ายานไอ้โง่นี้นำพาโชคมาให้พวกเขาจริงๆ

ถ้า จางเทีย ไม่ต้องการที่จะไปดูที่โอลิสและไปเข้าร่วมการต่อสู้เลย พวกเขาคงไม่ได้ทำความสำเร็จครั้งใหญ่แบบนี้ ลูกเรือเป็นพวกที่เชื่อในโชคราง หากกัปตันพวกเขานำโชคและชัยชนะมาให้ยาน แม้ว่ากัปตันจะไม่รู้เรื่องการสั่งการ กัปตันก็จะได้รับความเคารพจากลูกเรืออยู่ดี

ทหารที่พื้นได้แสดงความเคารพให้กับยาน บาสงคนส่งสัญญาณแสงมาให้ยานโดยใช้เกราะตัวเองสะท้อนกับแสงแดด

“ กัปตัน กองทัพได้ขอบคุณเรา พวกเขาคือกองกำลังมนุษย์จากเขตนี้ พวกเขาเชิญพวกเราไปที่ฐานของพวกเขา ! “ – เจ้าหน้าที่ส่งสัญญาณได้แปลสัญญาณแสงที่ส่งมาแล้วบอกกับ จางเทีย

“ ขอบคุณในความหวังดี บอกพวกเขาไปว่ายานนี้คือกองกำลังส่วนตัวของเขตไฮหยวน เราจะมุ่งหน้าไปที่เซลเนสเพื่อจัดการพวกปิศาจ ขอให้พวกเขาโชคดี ! “ - จางเทีย ยิ้ม

ไม่นานหลังจากนั้นสัญญาณแสงก็ได้ถูกส่งออกไป สัญญาณแสงอีกอันก็ได้ส่งมาจากพื้น
“ พวกเขาบอกว่าเดินทางปลอดภัย “

“ ไปกันต่อ ! “
หลังจากที่ยานได้วนรอบสนามรบหนึ่งรอบ มันก็ได้มุ่งหน้าไปยังทางเหนือ หลังจากการต่อสู้นี้แล้ว จางเทีย รู้สึกถึงขวัญกำลังใจที่เพิ่มขึ้น
“ กัปตัน ท่านคิดว่าเราจะได้อาหารดีๆเป็นรางวัลรึเปล่า ? “ - ต้นหนถาม จางเทีย

“ หืม บอกพ่อครัวให้ทำอาหารดีๆให้เรากิน แต่ละคนจะได้ไวน์คนละแก้วในตอนเย็น หลังจากทำเสร็จก็กินได้เลย ไม่ต้องเรียกข้านอกจากว่าจะมีเรื่องสำคัญ  ข้าจะกลับไปทำการบ่มเพาะที่ห้อง ! ถ้าฉุกเฉิน ถ้าข้าไม่ตอบอะไรกลับไป มันหมายความว่าข้าปิดประสาทสัมผัสและไม่อาจรบกวนได้ ถ้าเป็นแบบนั้นเจ้าจัดการแทนได้เลย “

“ ครับ ! “

หลังจากที่พยักหน้าให้พวกนั้นแล้ว จางเทีย ก็ได้ออกมาจากห้องสั่งการและกลับไปที่ห้องพักตัวเอง ระหว่างทางที่กลับมา ลูกเรือที่เจอกับ จางเทีย ต่างก็แสดงความเคารพ จางเทีย มากกว่าเดิม

ห้องของกัปตันนั้นเป็นห้องที่กว้างและหรูหราที่สุดบนยาน ทั้งห้องมีพื้นที่กว่า 30 ตร.ม. มีแค่ห้องนี้ที่มีห้องน้ำในตัว มีแค่ จางเทีย ที่มีสิทธิอาบน้ำในยาน นี่คือสิทธิของกัปตัน

หลังจากที่เข้ามาในห้องแล้ว จางเทีย ก็ล็อคห้องจากด้านใน หลังจากนั้นเขาก็ได้เข้าไปใน Castle of Black Iron

หลังจาก 3 ปี มีน้ำมากมายที่ดูดซับเข้ามาในบ่อแห่งความวุ่นวายจากแม่น้ำ ผลก็คือ เฮลเลอร์ ได้ขยายอาณาเขตจากไม่ถึง 1 ตร.กม.ไปเกือบ 100 ตร.กม. ในตอนที่ จางเทีย เข้าไป เขารู้สึกว่าได้เข้าไปในโลกที่กว้างใหญ่

ต้นไม้เล็กๆนั้นยังคงอยู่ตรงกลาง ด้วยค่าออร่าที่เพิ่มขึ้นมาต้นไม้ต่างๆรอบๆต้นไม้เล็กนั้นเริ่มสูงขึ้นอย่างมาก ต้นไม้บางพวกโดยเฉพาะพวกต้นสนและต้นพาราซอลนั้นสูงกว่า 10 ม.  ฉากสวนและต้นไม้รอบๆที่หนาแน่นนี้ทำให้ จางเทีย รู้สึกถึงความสำเร็จ

หลังจากที่นึกถึงหน้าต่างสเตตัสที่เขาไม่ได้ทำการตรวจสอบมานาน จางเทีย ก็เปิดมันขึ้นมาดูตรงหน้า
Castle of Black Iron:

——Length: 13 krusa

——Width: 13 krusa

——ค่าออร่า: 4785189

——ค่าความดี: 793176

——พลังงาน: 8631473

——ผลลัพธ์พิเศษ:

สัตว์:ไส้เดือบเบอร์ 1, ผึ้งเบอร์ 1

Plants:มันฝรั่งเบอร์ 1, บัคทอร์นเบอร์ 1, องุ่นเบอร์ 1, ข้าวเบอร์ 1, ฟักทองเบอร์ 1, ข้าวสาลีเบอร์ 1

จุลินทรีย์ : ยีสต์พลังงาน
จางเทีย รู้สึกว่าเขาไม่เคยรู้สึกรวยแบบนี้มาก่อนจนเขาได้อ่านสเตตัสนี้ นอกจากพื้นที่ที่มากกว่าเดิมและสัตว์,ต้นไม้ที่กลายพันธุ์ แม้แต่ค่าออร่าและพลังงานก็เพิ่มขึ้นเป็นล้าน

เริ่มตั้งแต่ยีสต์พลังงาน จางเทีย ได้ตั้งชื่อด้วยวิธีขี้เกียจๆ พวกสิ่งมีชีวิตจะถูกตั้งชื่อตามครั้งที่กลายพันธุ์  ถ้าครั้งนั้นมีพร้อมกันหลายครั้งอย่างเช่นในครั้งที่สองก็ 2.1 รึ 2.2 แม้ว่าการตั้งชื่อแบบนี้จะขาดการอธิบายไปบ้างแต่มันก็ดูง่ายและเข้าใจได้อย่างดี

ในสามปีตอนที่ จางเทีย หลับ  ผึ้ง,องุ่น,ข้าว,ฟักทองและข้าวสาวลีได้ทำการกลายพันธุ์ไปหนึ่งรอบ หลังจากที่พัฒนาขึ้นมาแล้ว สิ่งมีชีวิตพวกนี้ก็เริ่มเหมาะกับสภาพแวดล้อมและให้ผลผลิตมากกว่าเดิม ตามที่ เฮลเลอร์ บอกมา พวกกลายพันธุ์น่ะจะถือเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดใหม่ซึ่งจะมีการปรับตัวที่ดีขึ้น
แม้ตอนนี้จะยังไม่หลากหลายแต่ จางเทีย รู้สึกเสมอว่าพวกมันต้องมีบทบาทที่ยิ่งใหญ่ในอนาคตอย่างแน่นอน

หลังจากที่ปิดหน้าต่างสเตตัสแล้ว จางเทีย ก็เดินไปที่ต้นไม้เหล็กๆ ในบรรดาผลไม้ที่ต้น จางเทีย เห็น Trouble-Reappearance Situation และ Fruit of Redemption ซึ่งได้ห้อยอยู่ที่ต้นมานานโดยได้มาจากพวกปลาเกล็ดทราย

จางเทีย เอามือไปวางที่ผลไม้และอึ้งกับข้อความที่แสดงออกมา

--- Fruit of Redemption – ได้มาจากความขอบคุณของปลาเกล็ดทราย  วิธีใช้ : เก็บและกินโดยตรง เตือน : ผลไม้นี้เอาออกจาก Castle of Black Iron ไม่ได้ หลังจากเด็ดแล้ว 12 ชม. พลังงานและความทนมันจะลดลง

---- ด้วยผลไม้นี้ เจ้าของปราสาทจะพัฒนาความต้านทานความเย็น 672% และรู้สึกถึงทิศทางการไหลของน้ำ 2172%

---- ผลไม้นี้สุกแล้ว ด้วยผลไม้นี้แล้วความต้านทานความเย็นและการรับรู้กระแสน้ำจะขึ้นไปสูงกว่าขีดจำกัดในการปล่อยปลาเกล็ดทราย

---- ด้วยผลไม้นี้เจ้าของปราสาทจะเพิ่มความต้านทานความเย็น 20 เท่าและรับรู้กระแสสน้ำ 35 เท่า  DNA ที่เกี่ยวข้องกับมันได้ทำงาน

---- ครั้งนี้ร่างกายของท่านจะเพิ่มร่างกายกันน้ำระดับต้นขึ้นมา

---- ผลของร่างกายกันน้ำระดับต้นมีดังนี้ :

1.เจ้าของปราสาทสามารถเคลื่อนที่ได้ยอ่างอิสระและมีแรงในการต่อสู้ในน้ำมากกว่าเดิม 15% นอกจากนี้ยังดำได้ลึกกว่าแต่ก่อน 20%

2.ในสภาพแวดล้อมที่ขาดออกซิเจน เจ้าของปราสาทจะอยู่ได้นานกว่าเดิม 50%

3.ความขอบคุณของปลาเกล็ดทรายได้ทำให้ท่านได้ร่างกายกันน้ำระดับต้นมา ตราบใดที่ไม่โจมตีสิ่งมีชีวิตในน้ำระดับต่ำกว่า 9 โดยตั้งใจ พวกมันจะไม่โจมตีท่านไม่ว่าเงื่อนไขใดๆ นอกจากนี้สิ่งมีชีวิตสูงกว่าระดับ 9 ในน้ำจะมีอคติต่อท่านน้อยลง

4.ด้วยร่างกายนี้โอกาสที่จะควบคุมสิ่งมีชีวติในน้ำด้วยทักษะการควบคุมสัตว์จะเพิ่มขึ้น 10%
เมื่ออ่านข้องความนี้แล้ว จางเทีย ก็คึกขึ้นมา เขารีบเด็ดผลไม้ลงมาแล้วกินมันทันที หลังจากที่ดูดซับพลังงานกว่า 2 ชม. จางเทีย ก็รู้สึกได้ถึงร่างกายที่เปลี่ยนไป

ในสภาพแวดล้อมที่ไม่มีน้ำ จางเทีย รู้สึกได้ถึงความชื้นในอากาศได้มากก่วาเดิม แม้เขาจะหลับตา แต่เขาก็ยังรู้สึกได้ถึงบ่อน้ำที่ไม่ไกลออกไปได้

นอกจากความชื้นในอากาศแล้ว จางเทีย ยังรู้สึกถึงการไหลของอากาศรอบๆตัวเขาด้วย ยังไงซะน้ำและอากาศก็เป็นของเหลว ด้วยความต่างเรื่องความหนาแน่ พวกมันจึงมีคุณสมบัติคล้ายกันหลายด้าน  ตอนนี้ จางเทีย รู้สึกได้ถึงการไหลของน้ำได้อย่างชัดเจน  เขายังรู้สึกถึงการไหลของอากาศด้วย แม้แต่อันหลังจะไม่มากเท่าอันแรกก็ตาม
ความรู้สึกถึงการไหลของอากาศนี้คือสิ่งที่ จางเทีย ต้องการมากที่สุด

หลังจากที่ทดสอบผลของร่างกายใหม่ด้วยการหลับตาแล้ว จางเทีย ก็ลืมตาขึ้นมาและพบ เฮลเลอร์ มายืนตรงหน้าเขา

“ อ่ะ เฮลเลอร์ เจ้ามาที่นี่ตอนไหนกัน ? “

“ ตอนที่ท่านดูดซับพลังงานอยู่ นายท่าน ! “

จากนั้น จางเทีย จึงได้ถาม เฮลเลอร์ – “ เจ้าบอกข้าได้มั้ยว่าข้าจะได้ผลไม้มาอีกมั้ยหากข้าทำการปล่อยปลาเกล็ดทรายอีก ? “

“ แต่ละเผ่าพันธุ์นั้นจะให้ผลไม้ที่จำกัด นายท่าน นี่คือขีดจำกัดของเผ่าพันธุ์ที่พัฒนาร่างกายของท่าน  !” - เฮลเลอร์ พูดต่อ -* “ แม้ว่าท่านจะไม่ได้ Fruit of Redemption อีกหลังจากที่ปล่อยปลาเกล็ดทรายแต่ท่านก็ยังได้ค่าความดี อีกอย่างแล้วยิ่งท่านปล่อยมากเท่าไหร่ ค่าความดีที่ท่านมีก็จะมากขึ้นและยิ่งมีโอกาสน้อยที่ท่านจะโดนสิ่งมีชีวิตในน้ำสูงกว่าระดับ 9 โจมตีเอา ! “

“ ทำไม ? “

“ นี่คือกรรมลึกลับ มันอธิบายได้ยาก ท่านคิดว่าเป็นเหตุผลว่าทำไมมนุษย์ถึงได้เกลียดปิศาจก็ได้ มันเพราะปิศาจได้ฆ่าคนไปมากมายและได้สร้างปัญหาให้กับมนุษย์  ในทางกลับกันสิ่งมีชีวิตในน้ำที่ท่านได้ช่วยและปลาเกล็ดทรายที่ท่านได้ปล่อยไป พวกมันยิ่งยอมรับในตัวท่านมากกว่าเดิม ! “

จางเทีย พยักหน้า – “ ข้าต้องปล่อยสัตว์น้ำชนิดอื่นเพื่อพัฒนาร่างกายของข้างั้นเหรอ ? “

“ ใช่ ท่านต้องปล่อยสัตว์ที่ระดับสูงกว่าเดิมเพื่อพัฒนาร่างกายกันน้ำของท่าน แน่นอนว่าก่อนที่ท่านจะพัฒนาร่างกายกันน้ำได้ ท่านจะได้ Fruit of Redemption ของสิ่งมีชีวิตนั้นๆ ผลไม้พวกนั้นก็จะนำความสามารถใหม่มาให้กับท่าน ! “

จางเทีย พยักหน้า – “ เพราะครอบครัวข้าไม่นานก็จะออกจากเขตไฮหยวนีกับ ลินดา,เบเวอร์รี่,ฟิโอน่า และคนอื่นๆที่ปราสาทจินวู ข้าจะไม่คิดเรื่องการปล่อยสัตว์ชนิดอื่นจนกว่าจะไปตั้งหลักที่ทวีปตะวันออกได้ อีกอย่างข้าต้องหาโอกาสอธิบายกับคนอื่นๆ ถ้าข้าทำมันชัดเจนเกินไป มันจะทำให้คนรอบๆสนใจ ถ้าเป็นแบบนั้นข้าคงแก้ปัญหาด้วยเงินไม่ได้ “

หลังจากที่ตั้งหลักที่ทวีปตะวันออกได้ ตามการจัดเตรียมของ จางเทีย ก่อนที่จะออกจากเกาะมังกรลับแล้ว จางเทีย ต้องการให้ พอล ช่วยเขาปล่อยด้วงทองคำ หลังจากที่เสีย Seven-Strength Fruit ไป จางเทีย ต้องหาวิธีพัฒนาร่างกายตัวเองอย่างรวดเร็วให้ได้ เพราะแรงนั้นคือส่วนที่ทรงพลังที่สุดและอาวุธที่มีประสิทธิภาพที่สุดของนักสู้ เยอะกว่าความสามารถอื่นๆหลายเท่านั้นก็คือแรง ยกตัวอย่างเช่นแม้ว่าร่างกายกันน้ำนี่จะดี แต่ จางเทีย ไม่ได้อยู่ในน้ำ  ถ้าเขาไปเจอกับคนแข็งแกร่งกว่าเขาหลายระดับเข้า เขาอาจจะไม่มีโอกาสใช้พรสวรรค์นี้สักนิด

ดังนั้นแรงคือองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดของนักสู้
จางเทีย หวังว่าจะได้กิน Fruit of Redemtion ที่ด้วงทองคำจะให้ ราชาของแรงของสัตว์ทั้งหมด
“ หลังจากที่ฆ่าทีมปิศาจครั้งที่แล้ว นอกจาก Trouble-Reappearance Fruit  ข้าไม่ได้อะไรเลย “ - จางเทีย คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ตอนที่เขานึกถึง Fruit of Plunder หลังจากที่ฆ่า เอเบียน มา
“ อ่ะ ข้าจำได้ว่าข้าฆ่าปิศาจเกราะเหล็กไป 10 ตัวในครั้งที่แล้ว ทำไมข้าถึงไม่ได้ Fruit of Plunder เป็นรางวัล ? “ - จางเทีย ถาม เฮลเลอร์
“ ท่านจะได้ Fruit of Plunder จากปิศาจเงาเท่านั้น มันเป็นของเอกลักษณ์ ! “
“ ผลไม้แบบไหนที่ข้าจะได้จากการฆ่าปิศาจตัวอื่นๆ ? “
“ ฮี่ฮี่ คำถามนี้เกินกว่าที่ข้าจะเข้าถึงได้ ก่อนการปรากฏของผลไม้ ข้าไม่อาจจะบอกท่านได้ว่าจะมีผลไม้แบบไหนเกิดขึ้นมา เพราะมันอาจจะนำท่านไปสู่เส้นทางอันตรายเพื่อผลไม้ เราต้องทำตามกฎธรรมชาติ ข้าบอกได้แค่ว่าท่านจะได้รางวัลจากการฆ่าปิศาจตัวอื่นแต่รางวัลนั้นไม่อาจจะบอกได้หากเงื่อนไขในการผลิตยังไม่เพียงพอ ! “

“ ข้ารู้ !” - จางเทีย พยักหน้าแล้วเก็บ Trouble-Reappearance Fruit   ขึ้นมากิน หลังจากดูดซับพลังงานแล้วเขาก็ได้ออกจาก Castle of Black Iron ไป
...
ในตอนที่ จางเทีย กลับมาในห้องกัปตัน ไม่มีใครบนยานที่รู้ ว่า จางเทีย ได้พัฒนาความสามารถของเขาได้ใน 2 ชม.

เสียงร้องดีใจดังขึ้นมาจากด้านนอกประตู นี่เป็นครั้งแรกที่ จางเทีย ให้ลูกเรือดื่มกันได้ แม้ว่าจะได้ไวน์คนละแก้วเล็กๆแต่ผลสำเร็จและอาหารเย็นในวันนี้ก็ทำให้พวกเขาตื่นเต้น

จางเทีย นั่งขัดสมาธิลงบนเตียง หลังจากนั้นเขาก็ได้เข้าไปใน Trouble-Reappearance Fruit   เพื่อสู้บนยาน
...
ในฉากนั้น...

จางเทีย ได้ปรากฏตัวมาในห้องสั่งการ เมื่อมองลงไปด้านล่าง จางเทีย พบซอมบี้จำนวนมากที่หายไป ยกเว้นแค่ไม่กี่ตัวที่มองมาบนยานด้วยท่าทีสับสน พวกมันต้องการจะโจมตียานแต่พวกมันไม่รู้ว่าจะทำยังไง ดังนั้นพวกมันจึงได้แต่วิ่งไปมาไล่ตามเงาของยาน

ฉากนี้มีอีกความหมายสำหรับ จางเทีย  จางเทีย ไม่ได้เปิดใช้ซอมบี้ที่พื้น เขาแค่เอาพวกมันเข้ามาไม่กี่ตัว

ไม่มีใครในห้องสั่งการนี้ จางเทีย ได้มายังตำแหน่งคนบังคับหางเสือแล้วนั่งลงไป หลังจากนั้นเขาก็ถือคันบังคับแล้วดึงมันขึ้น ผลก็คือยานซึ่งสูงจากพื้น 400 ม.ได้เงยหน้าขึ้นแล้วพุ่งขึ้นไปทันที

ไม่กี่นาทีตอนที่ไอ้โง่ขึ้นไปสูงได้พันเมตร จางเทีย ก็ได้รักษาระดับยานแล้วออกจากห้องควบคุมมา

ตามทางของห้องควบคุม จางเทีย ได้ไปยังส่วนเครื่องร่อนที่อยู่ด้านล่างยาน

ในส่วนนั้นเครื่องร่อนเครื่องหนึ่งมีปีกกว้างกว่า 12 ม.อยู่ทางปากทาง  ปีกและตัวของมันดูสวยงาม ตัวของมันทำมาจากวัสดุเดียวกับเหล็กที่ปกป้องถุงอากาศซึ่งทั้งมั่นคง,ทน,และเบา รูปร่างส่วนนอกของเครื่องร่อนนั้นเหมือนกับของที่มนุษย์เคยทำขึ้นมาก่อนภัยพิบัติ

หลังจากที่มองไปที่เครื่องร่อนนั้น  จางเทีย ได้เปิดเข็มขัดของตัวเครื่องออก หลังจากนั้นก็ได้ตรวจสอบการเชื่อมต่อระหว่างเครื่องร่อนกับตัวปล่อย
หลังจากที่ตรวจสอบแล้ว จางเทีย ก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วโดดเข้าไปในตัวเครื่อง จากนั้นเขาก็ใส่แว่นตากันลม,หมวกและถุงมือ เขาได้มองไปยังตัวเครื่องต่างๆในห้องเครื่องนั้นและเริ่มนึกรายละเอียดที่อยู่ในคู่มือสำหรับเครื่องร่อนที่เขาได้อ่านมาเมื่อหลายวันก่อน หลังจากนั้นเขาก็ถูมือทั้งสองข้างของตัวเอง

“ หวังว่าข้าจะไม่ตายแย่ๆในการลองครั้งแรก ! “ - จางเทีย พึมพำออกมาแล้วลดระดับคันโยกที่อยู่ด้านซ้ายมือ

ในตอนที่เขากดคันโยกลงไป  จางเทีย รู้สึกได้ถึงลมที่พัดเข้ามา หลังจากที่ตัวยานได้เปิดออก เครื่องร่อนก็ได้ไถลลงไปทันที...

ในตอนที่เครื่องร่อนไหลออกมาจากยาน หัวใจของ จางเทีย หยุดเต้นไปหลายวินาที ตามมาติดๆเขาพบว่าเครื่องร่อนนั้นไม่ได้ร่อนลงไปแต่มันกลับกางปีกออกหลังจากที่ออกจากยานมาได้ 20 ม.....

จางเทีย ร้องออกมา – “ วู๊ ! “

แค่ 10 กว่านาทีเครื่องล่อนก็ได้หลุดการควบคุมและได้พุ่งลงไปที่พื้น  จางเทีย รีบปลดเข็มขัดและหยิบเอาเหล็กจากห้องเครื่อง จากนั้นเขาก็กดลงที่ปุ่มทันที
ร่มชูชีพนั้นเริ่มกางออกและดึง จางเทีย ออกมาจากห้องเครื่องของเครื่องร่อน...

การลองครั้งแรกของ จางเทีย กับเรื่องร่อนก็ต้องจบลง...
...
แค่ 10 นาทีต่อมา จางเทีย ก็ได้ลงมาจากยานพร้อมกับเครื่องร่อนอีกครั้ง

ครั้งนี้ จางเทีย อยู่ในอากาศได้กว่า 30 นาที..
...
จางเทีย อยู่ในอากาศได้ 2 ชม.ในการลองครั้งที่สาม...

...
ในครั้งที่สี่ จางเทีย  ไม่ได้ใช้ร่มชูชีพอีกต่อไป...
...
ในครั้งที่ห้า จางเทีย เริ่มเล่นลวดลายกับเครื่องร่อน...

นี่บ่งบอกได้ถึงผลของ Trouble-Reappearance Situation  ทุกอย่างน่ะปรากฏออกมาเหมือนในความจริง เพราะแบบนั้น จางเทีย จึงเรียนรู้วิธีขับเครื่องร่อนได้ในครึ่งวัน

หลังจากที่ลองมาหลายครั้ง ทักษะการขับเครื่องร่อนของเขาก็พัฒนาขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

ในวันที่สองทักษะการขับขี่ของ จางเทีย เกือบจะเท่ากับพวกมืออาชีพ

ในวันที่สาม จางเทีย สามารถทำท่าเสี่ยงๆได้ด้วยเครื่องร่อนภายในระยะ 2 ม.กับยาน

ในวันที่สี่  จางเทีย ได้เล่นซ่อนหากับฝูงอีแร้งปากเล็กด้วยเครื่องร่อนของเขา เขาขับเครื่องร่อนด้วยมือเดียวแล้วได้ใช้ลูกดอกมือด้วยมืออีกข้าง ด้วยเสียงอากาศที่ระเบิดออกมา พวกอีกแร้งที่ไล่ตามมานั้นจะกลายเป็นหมอกเลือดไปทีละตัวๆ เขตรอบเครื่องร่อน 400 ม.กลายเป็นเขตห้ามบินไปทันที
...
ในวันที่หก ผ่านมากว่าหนึ่งเดือน ไอ้โง่ในที่สุดก็ได้เดินทางมาถึงเซลเนส….

 

รีวิวผู้อ่าน