px

เรื่อง : Castle of Black Iron
Chapter 561: อินทรีย์เซลเนส


Chapter 561: อินทรีย์เซลเนส
สองวันต่อมากองทัพยานของจินหยวนก็ได้กลับมาที่ป้อมคริสตัลพร้อมกับกลิ่นควัน พวกเขาได้กลับมาพร้อมกับข่าวที่น่าตื่นเต้น

หลังจากที่เสียสละคนไปกว่า 200,000 คน รถเกราะและรถถังกว่า 2,400 คันและยานอีก 240 ลำ ในที่สุดเมืองแฟตก็กลับมาเป็นของมนุษย์

แม้ว่าเมืองแฟตจะกลายเป็นซากแต่มันก็ยังเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับมนุษย์ที่กู้เมืองกลับคืนมาได้

เพราะนี่เป็นเมืองแรกที่มนุษย์ทวงคืนจากปิศาจได้ตั้งแต่ที่เริ่มสงครามมา ชัยชนะครั้งนี้ไม่ใช่แค่เพิ่มขวัญกำลังใจแต่ยังเป็นการตัดเส้นทางกองทัพปิศาจไปทางใต้ด้วย

แม้ว่าคู่ต่อสู้หลักของพันธมิตรจะเป็นแค่ซอมบี้แต่ 1/3 ของมันก็ถอยกลับไปทางด้านเหนือแล้วแต่ไม่มีใครสนเรื่องนี้ พวกเขาสนแค่ชัยชนะครั้งแรกที่มนุษย์ได้รับมาตั้งแต่ที่สงครามเริ่ม

หลังจากที่รู้เรื่องชัยชนะ หายคนต่างก็คลายความเครียดลง

เมืองแฟตไม่ใช่แค่สร้างขวัญกำลังใจแต่ยังมีตำนานอีกคนในกองกำลังทางอากาศที่คนเกือบล้านคนได้เห็นที่ปีกซ้ายของเซลเนส

เพราะคนในตำนานนี้จำนวนของยานที่ตกลงไปจึงลดลงไปกว่า 500 ลำซึ่งเป็นส่วนที่หน่วยประสานงานได้คาดเอาไว้มาเหลือแค่ 180 ส่วนนักบินบนยานที่เสียชีวิตเองก็ลดลงมาจาก 85% มาเหลือไม่ถึง 20%

สุดท้ายด้วยความสามารถของกองทัพยานซึ่งสามารถยึดครองพื้นที่ทางอากาศบนเมืองแฟตได้ก็ทำให้พวกซอมบี้ที่อยู่ภาคพื้นดินโดนโจมตีอย่างหนัก ผลก็คือซอมบี้ได้หนีไปยังทางทิศเหนือซึ่งทำให้การต่อสู้ที่เมืองแฟตจบเร็วกว่าที่คาดไว้
ไม่มีใครรู้ว่าคนในตำนานนั้นคือใคร ในตอนที่การต่อสู้จบลง ด้วยการตรวจสอบแล้วไม่มีกองทัพไหนเลยที่จะหาตำนานคนที่ซึ่งสร้างสิ่งมหัศจรรย์บนเมืองแฟตโดยใช้เครื่องร่อนได้

ในแค่ 5 วันชื่อเล่นอันสั่นสะเทือนแผ่นดินในหมู่กองทัพอากาศที่ปีกซ้ายของเซลเนสก็ดังกระฉ่อน --- อินทรีย์เซลเนส

“ บางทีอินทรีย์เซลเนสอาจจะอยู่ในจินหยวนของเรา ! “ – ที่ปรึกษาบนยานของ หลานหยุนซี อุทานออกมาในตอนที่ยานค่อยๆลงจอด – “ เครื่องร่อนระดับเหยี่ยวน่ะสร้างขึ้นโดยเขตไฮหยวน ! “

“ ล้อเล่นรึเปล่า ? กองทัพอากาศของจินหยวนมานี่หมดแล้ว เจ้าจะบอกว่าชายคนนั้นบินมาที่นี่จากจินหยวนรึไง ?” - ร้อยโทขั้นสองอีกคนค้าน

“ ชายคนนั้นอยู่ในอากาศได้ถึง 5 วัน นั่นเป็นสถิตใหม่ เขาอาจจะทำแบบนั้นได้ ! “

“ ลืมไปได้เลย เขตไฮหยวนน่ะได้ขายยานมากมาย ข้าได้ยินมาว่าหลายประเทศน่ะได้สิทธิในการผลิตมันด้วย ดูยานระดับโทสะที่อยู่ในเซลเนสตอนนี้สิ เขาขับแค่เหยี่ยว เจ้าน่ะไม่ได้ข้อมูลอะไรจากมันหรอก ! “

“ แต่ข้ารู้สึกว่าชายคนนั้นมักจะโผล่มาใกล้ๆกับยานของจินหยวน หลายคนก็เห็นแบบนั้น ! “
“ เมืองแฟตน่ะใหญ่ อีกอย่างแล้วมันอยู่บนท้องฟ้า เราเคลื่อนที่กันอย่างรวดเร็ว ตราบใดที่เขาอยู่ในสนามรบ เขาก็จะเห็นเราได้ง่ายๆ บางทีเจ้าควรกลับไปถามความเห็นของกองทัพอากาศฝ่ายอื่นๆ พวกเขาอาจจะคิดว่าคนนั้นมักจะโผล่มาใกล้ๆพวกเขาก็ได้ ! “

หลานหยุนซี  มองไปที่ป้อมคริสตัลด้านล่างและต้องคิ้วขมวดเล็กน้อย  คำพูดของเจ้าหน้าที่ทุกคนดังก้องในหูของเธอ การต่อสู้อันดุเดือดได้มาจบลง เธอไม่สนเรื่องที่พวกนี้พูดถึงเรื่องนี้เพื่อลดความเครียดที่เกิดจากการต่อสู้
“ นั่นเขารึเปล่า ? “ -หลานหยุนซี ส่ายหน้าเบาๆ – “ ไอ้บ้านั่นจะเชี่ยวชาญการขับแบบนั้นได้ไง คนนั้นออกจากวังไฮหยวนไปได้ 3-4 ปี เขาไม่เคยจับเครื่องร่อนในวังไฮหยวนมาก่อน แม้ว่าจะเคยเรียนการขับเครื่องร่อนมาก่อนแต่เขาคงทำแบบนั้นไม่ได้ “

“ ไม่มีสายเลือดแบบนั้น แม้ว่าคนที่มีประสบการณ์กว่าสิบปีในกองทัพก็ยังต้องอึ้งกับทักษะของเขา ไอ้บ้านั่นจะทำในไม่กี่ปีได้ไง ? “
“ แต่ทำไมข้าถึงรู้สึกคุ้นเคยนัก ? “

หลานหยุนซี ไม่รู้ว่าทำไม เธอแค่รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย !
ยานของ หลานหยุนซี ได้ลงจอดที่ป้อมคริสตัล ในตอนที่เธอลงมาจากยาน เธอก็รู้สึกถึงบรรยากาศแปลกๆที่ป้อม ก่อนที่เธอจะถาม คนสนิทของเธอคนหนึ่งก็ได้เดินเข้ามากระซิบกับเธอ
หลังจากที่ได้ยิน หลานหยุนซี ก็เปลี่ยนสีหน้าทันที...
...
“ จางเทีย ได้มาถึงป้อมคริสตัลกับลูกเรือของยานไอ้โง่ในวันที่ 14 ของเดือนนี้ ในเช้าวันต่อมาเขาได้ออกไปพร้อมกับยาน ลูกเรือของยานเขาได้บอกว่าหลังจากที่ยานได้ออกจากป้อมคริสตัลแล้ว จางเทีย ได้ขับเครื่องร่อนออกไปจากยาน เขาบอกลูกเรือว่าหากเขาไม่กลับมาในสองวัน พวกเขาขับยานกลับมาที่ป้อมคริสตัลได้  ยานได้อยู่ข้างนอกกว่า 3 วันและกลับมาที่ป้อมในวันที่ 18 ของเดือนนี้  จางเทีย ไม่ได้กลับมากับพวกเขา ในเย็นวันที่ 20 ของเดือนนี้ หลังจากที่ออกจากที่นี่ไปห้าวัน  จางเทีย ก็ได้กลับมาโดยเครื่องร่อนแต่เขาได้รับบาดเจ็บหนักและอยู่ในอาการโคม่าอยู่ ! “

ในตอนที่รีบเดินไปที่ห้องรักษาของ จางเทีย ในป้อมคริสตัล  คนสนิทของ หลานหยุนซี ได้กระซิบกับเธอ

“ เจ้าหมายถึงเขาอยู่บนเครื่องร่อนนั่นถึง 5 วันเลยเหรอ ? “

“ พวกลูกเรือบอกข้าแบบนั้น ไม่มีใครคนอื่นเห็นว่า จางเทีย ได้ออกจากยานเขาโดยเครื่องร่อน ดังนั้นข้าไม่รู้ว่ามันจริงรึเปล่า ! “

“ เครื่องร่อนเขาเป็นแบบไหน ?” - ใจของ หลานหยุนซี เต้นรัวในตอนที่รีบถามออกมา

“ เขาขับแบบเหยี่ยวที่ผลิตขึ้นโดยวังไฮหยวน ในตอนที่เขากลับมา เครื่องร่อนของเขาเต็มไปด้วยเลือดและบาดแผล ตามการทดสอบแล้วเลือดพวกนี้เป็นเลือดของปิศาจปีก  นี่ทำให้เกิดความช็อกอย่างมากในป้อมคริสตัล ห้องโดยสารถูกทำลายโดยอาวุธของปิศาจปีกระดับ 10..”

“ ตอนนี้เขาเป็นยังไงบ้าง ? “

“ ผู้อาวุโสหลานได้ทำการตรวจสอบบาดแผลและรักษาแล้ว  ผู้อาวุโสบอกว่าเขาปลอดภัยแล้วแต่เขาไม่ได้หลับมานาน บวกกับได้รับบาดเจ็บ เขาอาจจะตื่นมาในอีก 2-3 วัน !”
...
หลานหยุนซี เห็นลูกเรือของยานไอ้โง่ที่ตาแดงกล่ำรออยู่นอกห้อง เมื่อเห็น หลานหยุนซี และคนอื่นๆ ลูกเรือพวกนั้นก็เข้ามาห้ามทันที

“ กัปตันของเรายังอาการหนักอยู่ ห้ามใครเข้า ! “

“ บังอาจ ! นี่คือศิษย์พี่ของ จางเทีย  ผู้สั่งการของกองทัพอากาศจินหยวน ... “- คนหนึ่งข้างๆ หลานหยุนซี ด่าออกมา

“ อ่ะ นี่คือผู้หญิงที่กัปตันของเราชอบ...” – ลูกเรือคนหนึ่งกระพริบตาปริบๆเหมือนนึกบางอย่างได้

หลานหยุนซี มองไปที่ลูกเรือและถามออกมาอย่างใจเย็น – “ จางเทีย พูดถึงข้าด้วยรึ ?”

ภายใต้สายตาของ หลานหยุนซี  ลูกเรือคนนั้นหัวใจเริ่มเต้นรัว เขาได้บอกทุกอย่างออกมาหมด – “ กัปตันบอกเราว่าผู้หญิงที่เขารักอยู่ในเซลเนส เขาบอกว่าเธอเป็นหญิงแกร่งที่มีแมลงวันมารุมตอม...”

“ หญิงแกร่ง ? ” - ผู้ชายบางคนข้างๆ หลานหยุนซี มองไปที่ลูกเรือ  หลานหยุนซี ไม่ได้พูดอะไร เธอไม่สนเกี่ยวกับลูกเรือพวกนี้ เธอแค่เข้าไปในห้อง พวกลูกเรือทำได้แค่ยอมให้เธอเข้าไป

หลานหยุนซี เข้าไปในห้องนั้นคนเดียว

ผ้าปูเตียงและกำแพงสีขาวนั้นมีกลิ่นยาฆ่าเชื้อ  จางเทีย ดูเหมือนจะหลับอยู่ เขาหายใจช้าๆแต่คงที่

หลานหยุนซี ยืนอยู่ข้างเตียงของ จางเทีย และมองหน้าซีดๆของ จางเทีย  พลังฉีอันน่ากลัวของเธอได้หายไป ตาของเธอเริ่มดูอ่อนโยนขึ้นมา เธอจับไปที่หน้าของ จางเทีย แล้วปัดผมที่ปกหน้าของเขาออก

จางเทีย คือคนที่ปกป้องเธอบนท้องฟ้าที่เมืองแฟต ตอนนี้ หลานหยุนซี มั่นใจในความรู้สึกของเธอ แม้ว่าเธอไม่รู้ว่า จางเทีย ทำมันได้ยังไงแต่เมื่อมองไปที่ชายคนที่ยอมโดนขังและไล่ออกจากวังมังกรลับและยังปกป้องเธอในเซลเนสแล้วมันก็ไม่มีอย่างอื่นสำคัญ
“ เจ้านี่มันโง่จริงๆ ! “ - หลานหยุนซี ถอนหายใจออกมาช้าๆ
หลังจากนั้นสักพัก...

ก็ได้มีเสียงแปลกๆดังขึ้นในห้องซึ่งดังขึ้นมาจากท้องของ จางเทีย

ในตอนที่เธอได้ยินเสียงนั้น หลานหยุนซี  ก็ได้เอามือออกจากหน้า จางเทีย แต่ก่อนที่เธอจะได้ดึงมือกลับ จางเทีย จับมือเธอเอาไว้  จางเทีย ลืมตาขึ้นมาทันที เขามองไปที่ หลานหยุนซี พร้อมกับรอยยิ้ม  หลังจากนั้นเขาก็ดึงมือของเธอมาที่ปากของเขา เขาดมมันก่อนที่จะจูบมัน

หลานหยุนซี เกือบจะร้องออกมา – “ ไอ้บ้านี่ตื่นตั้งนานแล้วแต่เขาทำเป็นหลับ “

“ เจ้าบ้านี่ ! “

รีวิวผู้อ่าน