Chapter 606: กับดักอันน่ากลัว
ในตอนที่ใช้การทะยานแบบไดนามิคนั้น จางเทีย อยู่ไม่สูงเท่าไหร่แต่มีความเร็วที่สูงมาก หลังจากที่โดนโจมตีแบบนั้นเครื่องบินสูงจากพื้นไม่ถึง 100 ม.ในเวลาไม่กี่วินาที
มันยังคงส่ายและควงไปมาซึ่งทำให้ จางเทีย รู้สึกเวียนหัวนิดๆแต่เขาก็รวบรวมสติได้ทันที ในตอนที่เครื่องบินอยู่ห่างจากพื้นหลายสิบเมตร จางเทีย ก็ได้ดึงร่มชูชีพออกมาแล้วกดปุ่มลงไปทันที
ในตอนที่เขากดปุ่ม ร่มสองอันของร่มชูชีพก็เริ่มหมุ่นพร้อมกับแรงที่ทรงพลังดึง จางเทีย ออกไปจากห้องโดยสาร
...
หลายวินาทีต่อมา...
ตูม*** เครื่องบินระเบิดเป็นชิ้นๆห่างออกไป 200 ม. ชิ้นส่วนกระเด็นออกไปทุกทิศทาง ในตอนที่ จางเทีย ห่างจากพื้นประมาณ 10 ม. เขาก็ตัดร่มออกและให้ร่างกายเขาตกลงที่พื้นเร็วกว่าเดิม
หลังจากที่กลิ้งไปกับพื้นสักพัก จางเทีย ก็รีบดีดตัวขึ้น ในตอนที่เขาพุ่งไปที่ด้านทิศตะวันออกก็ได้มีชายคนหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าเขา
เมื่อเห็นชายคนนั้น จางเทีย ก็ได้หยุดทันที
ชายคนนั้นสวมชุดเกราะสีทองมีจมูกงุ้ม พลังฉีของเขามากยิ่งกว่า เอเบียน เขามองมาที่ จางเทีย ด้วยสายตาเย็นชา จางเทีย รู้สึกเหมือนกับกบที่โดนงูจ้องพร้อมกับขนลุกไปทั่วทั้งตัว
มันคือชายที่ยิงเครื่องบินของ จางเทีย ลงมาตะกี้ ถ้าชายคนนี้เล็งไปที่ห้องโดยสาร จางเทีย ไม่แน่ใจว่าตอนนี้เขาจะยังยืนได้อยู่รึเปล่า
หลังจากที่สู้กับ เอเบียน มาแล้วหลายครั้ง จางเทีย รู้ถึงความแข็งแกร่งระดับนั้นดี ดังนั้นตั้งแต่ที่ชายคนนี้มายืนตรงหน้าเขา จางเทีย ก็เลิกคิดที่จะหนี เพราะความต่างด้านระดับและความแข็งแกร่ง จางเทีย รู้ชัดเจนว่ามันคงเป็นการหาเรื่องให้ตัวเองหากเขาคิดจะหนี
“ เจ้าเป็นใคร ?” - จางเทีย ถามชายคนนั้นเหมือนกับเคยเห็นจมูกงุ้มแบบนี้มาก่อน ในขณะเดียวกันก็มีความคิดแย่ๆโผล่มาในหัวของเขา – “ หลังจากที่เจอปิศาจปีกระดับ 12 สามตัวบนฟ้า ในที่สุดข้าก็โดนยิงตกลงมาโดยผู้แข็งแกร่ง มันบังเอิญแบบนั้นเลยเหรอ ? “
“ ข้า คอส ! “ - ชายคนนั้นอ้าปากพูดพร้อมกับใจที่เต้นรัวของ จางเทีย ความคิดแย่ๆนั้นชัดเจนขึ้นไปอีก – “ ข้ามาพบสมาชิกของตระกูลซีเนลได้ยังไง ?”
ชายคนนั้นยังคงมองมาที่หน้า จางเทีย แม้แต่ความรู้สึกที่เปลี่ยนแปลงเล็กน้อยของ จางเทีย ก็หนีสายตาเขาไปไม่ได้ หลังจากที่บอกชื่อกับ จางเทีย คอส พบว่านัยน์ตาของ จางเทีย หรี่ลงเล็กน้อย จากนั้นเขาก็ได้ถอนหายใจออกมา – “ ดูเหมือนว่าเจ้าจะเป็นคนที่ทำลายแผนของตระกูลซีเนลในป่าหมอกพระจันทร์ เจ้าฆ่าลูกชายของข้า แคมโบ ถูกต้องหรือไม่ ? “
“ ข้าไม่รู้ว่าเจ้าพูดถึงเรื่องอะไร “ – ชัดแล้วว่าในสงครามไม่มีกฎว่าห้ามโกหก ดังนั้น จางเทีย จึงไม่บอกความจริง หลังจากได้ยินคำพูดของ คอส จางเทีย ก็รู้สึกขนลุก กับดักนี้มีไว้ให้เขาโดยเฉพาะ
“ เจ้าไม่จำเป็นต้องคิดอะไรมากหรอก ข้าน่ะมารอเจ้าที่นี่ ข้าไม่คิดว่าเจ้านักสู้ระดับ 9 ที่เคยได้รับเกียรติเป็นอินทรีย์เซลเนสจะมีพรสวรรค์ขนาดนี้ เจ้าเกือบที่จะหนีการเข้าล้อมของปิศาจปีกระดับ 12 สามตัวได้ ดูเหมือนว่าเจ้ามารอให้ข้าฆ่า “ - ชายคนนั้นเผยรอยยิ้มเย็นชาออกมา
“ ใช่ ข้าคือ จางเทีย อินทรีย์เซลเนส ข้ายอมรับว่าเจ้าน่ะแข็งแกร่งกว่าข้าแต่อย่าฝันที่จะได้ข้อมูลจากข้า ! “- จางเทีย มองไปที่ชายคนนั้นด้วยสีหน้าใจเย็น
ชายคนนั้นหัวเราะออกมาก่อนจะมองไปที่ จางเทีย ด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย - “ ฮาฮาฮา ข้าต้องการข้อมูลจากเจ้างั้นเหรอ ? เจ้าคิดว่าเราจะกลัวพันธมิตรรึไง ?ใครกันที่ส่งเจ้ามาที่นี่ ? เจ้าได้ฝึกสูตรธาตุทั้งห้ารึยังล่ะ ?”
“ เจ้าพูดเรื่องอะไร ?” - ในที่สุด จางเทีย ก็เปลี่ยนสีหน้า
“ ข้าแค่เปิดโอกาสให้เจ้าเห็นชัดๆว่าใครกันที่จะชนะสงครามนี้ ! “
ในไม่กี่วินาที จางเทีย ก็ได้ยินเสียงระเบิดอากาศอีกและได้มีคนกลุ่มหนึ่งโผล่มาล้อมเขาไว้
คนพวกนี้คือคนของตระกูลซีเนลที่ จางเทีย เคยเห็นในชั้นใต้ดินของป่าหมอกพระจันทร์
เมื่อเห็น จางเทีย พวกนั้นเหมือนกับหมาป่าที่มองดูกระต่ายตัวน้อย จางเทีย มองไปรอบๆและพบว่าเขาคงหนีไปไม่ได้ในครั้งนี้ ดังนั้นเขาจึงเงียบและอยากดูว่าพวกนี้จะทำยังไง
“ เอาตัวเขากลับไป ! “ – คอส ชี้ไปที่ จางเทีย พร้อมกับพลังฉีต่อสู้ที่พุ่งเข้าใส่ จางเทีย เพราะ จางเทีย อยู่ห่างจาก คอส แค่ 10 ม. เขาจึงไม่มีเวลาที่จะหลบ เขาปวดหัวขึ้นมาก่อนจะสลบแล้วล้มลงกับพื้นทันที
“ พ่อ ทำไมเราไม่ฆ่าเขาสำหรับการตายของ แคมโบ ? “ – รูเบน ก้าวเข้ามาและเลียปากพร้อมกับมองไปที่ จางเทีย ที่นอนอยู่ที่พื้น ในเวลาเดียวกันตาของเขาก็เป็นประกายขึ้นมา
“ จับเป็น เขายังมีประโยชน์ต่อตระกูลซีเนล เราต้องจัดการกับเขาตอนเขาหมดประโยชน์แล้ว เจ้ากลัวว่าเขาจะหนีไปได้รึไง ? “- คอส พูดออกมาอย่างเย็นชาและทำให้คนอื่นๆมองหน้ากันแล้วพยักหน้า
คอส โบกมือให้ สกาล่า เดินเข้ามายก จางเทีย ขึ้นด้วยมือเดียว หลังจากนั้นพวกเขาก็พุ่งเข้าไปที่เมืองโทคิ
...
จางเทีย ไม่รู้ว่าเขาหมดสติไปนานแค่ไหน ในตอนที่เขาตื่นขึ้นมาเขารู้สึกได้แค่ความอุ่นและสบายราวกับแช่น้ำร้อนอยู่
เขาลืมตาขึ้นมาและพบว่ากำลังนอนอยู่บนเตียงขนาดใหญ่ ตรงหน้าเขาคือม่านกันยุงสีทอง เตียงนี้มีกลิ่นหอมกุหลาบนิดๆด้วย
“ ข้ายังมีชีวิตอยู่อีกงั้นเหรอ ? “- หลังจำฉากสุดท้ายก่อนหมดสติได้ จางเทีย ก็ลุกขึ้นจากเตียงทันทีแต่ทุกอย่างตรงหน้าก็ทำให้เขาสับสน...
เขาอยู่ในห้องนอนที่หรูหรา
“ นายท่าน ท่านตื่นแล้ว.. “ – สาวสวยบางคนเดินเข้ามาล้อมทันทีในตอนที่ จางเทีย ลุกขึ้นนั่ง