px

เรื่อง : Castle of Black Iron
Chapter 620: การเป็นเหยี่ยวสายฟ้า


Chapter 620: การเป็นเหยี่ยวสายฟ้า
หลังจากที่สิงเหยี่ยวสายฟ้า จางเทีย ก็รู้สึกพอใจกับการบินบนท้องฟ้าซึ่งไม่มีทางเอาเครื่องร่อนและเครื่องบินพลังคนมาเทียบ

เหยี่ยวนี้เป็นสัตว์ระดับ 1  ความเร็วบนท้องฟ้าของมันไม่มีทางเอานกตัวไหนมาเทียบได้ ผลก็คือไม่มีศัตรูบนท้องฟ้าเลย

ตอนนั้น จางเทีย รู้สึกได้ถึงอิสระที่แท้จริงบนท้องฟ้า

เหยี่ยวเคลื่อนที่ได้เร็วยิ่งกว่าเครื่องบินพลังคนรึเครื่องร่อนที่ จางเทีย ขับอย่างมากแต่มันก็ง่ายราวกับคนธรรมดาเดินบนพื้นสำหรับเหยี่ยว มันไม่ได้เหนื่อยอะไรเลย

จางเทีย รู้สึกผ่อนคลายราวกับลงไปว่างในน้ำ เขารู้สึกผ่อนคลายอย่างมากโดยการใช้กระแสลมและการกระพือปีก ร่างกายของเขายกตัวขึ้นในตอนที่กระแสลมตีขึ้นมาผ่านขนโดยไม่มีแรงต้านทานใดๆเลย

แม้ว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตบินได้แต่มันก็ง่ายพอกับการเดินบนทุ่งหญ้าในการที่ จางเทีย ควบคุมมัน

แม้ว่า จางเทีย จะพยายามควบคุมเหี่ยวนี้หลายครั้งในตอนที่อยู่ใน Castle of Black Iron แต่พื้นที่ด้านในนั้นจำกัดเมื่อเทียบกับด้านนอก ในตอนที่เขาออกมา เขาสนุกกับการบินแบบนี้จริงๆ

ที่ จางเทีย สนใจมากที่สุดคือมุมมองของเหยี่ยว ในบรรดาสัตว์ทั้งหมดแล้วนกนั้นมีสายตที่ดีที่สุด เทียบกับมนุษย์ เหยี่ยวมีสายตาที่กว้างกว่า ในตอนที่บินแม้ว่าจะเป็นตอนเย็นแต่ด้วยแสงจากดวงจันทร์ มันก็สามารถเห็นของบนพื้นได้อย่างชัดเจน แม้แต่หนูที่วิ่งตามหญ้าห่างออกไปเป็นไมล์ก็หลบไม่พ้นสายตา

เหยี่ยวสายฟ้าเกิดมาพร้อมกับความสามารถที่เฉียบคม มันเหมือนกับการมองผ่านกล้องส่องทางไกล มันมองเห็นสิ่งที่อยู่ไกลราวกับของนั้นอยู่ตรงหน้า ถ้าไม่ใช่เพราะ จางเทีย มีสายตามองที่มืด สายตาของเขาคงเทียบกับเหยี่ยวสายฟ้าไม่ได้
หลังจากที่ออกจากปราสาทขอบเหล็กแล้ว  จางเทีย ได้ใช้สัญชาตญาณในการบิน ไม่นานเขาก็มาถึงเมืองโทคิ
กำแพงเมืองได้รับความเสียหายเล็กน้อยแต่มันก็ยังมีคนอยู่ด้านใน

จางเทีย เห็นทีมซอมบี้เดินลาดตระเวนรอบเมืองและมีสิ่งต่างๆเกิดขึ้นมากมายตามมุมมืด

ในมุมมืดบางพวกกำลังทำบางอย่างหลังจากที่หนีจากพวกซอมบี้ บางพวกคุยบางอย่างกันเบาๆ บางพวกขายของ ผู้หญิงและผู้ชายบางคนไปหาความสุขในห้อง บางพวกกำลังฆ่าคน...
ในถนนสลัวๆในเมืองโทคิ ชายคนหนึ่งเดินลงมาจากรถม้า ในตอนที่เขากำลังจะเปิดประตูบ้านที่ข้างถนน พวกคนใส่หน้ากากก็ได้พุ่งออกมาด้านข้างแล้วแทงหัวใจ,คอ,และท้องน้อยของชายคนนั้นด้วยมีดสีเขียวหม่นพร้อมกัน
ในเสี้ยววินาทีชายคนนั้นก็โดนแทงหลายสิบครั้ง เลือดเริ่มไหลออกมาทั่วบันไดหน้าประตู

ชายคนนั้นล้มลงไป พวกคนฆ่ารีบเอากระเป๋าออกจากมือชายคนนี้ก่อนจะรีบหนีออกไป พวกนั้นถึงกับค้นศพก่อนที่จะหนีเข้าตรอกมืดๆอย่างรวดเร็ว

ก่อนที่ชายคนนี้จะถูกฆ่า เขาได้กรีดร้องออกมาซึ่งทำให้คนในบ้านตื่น ตอนนั้นโคมไฟในห้องหนึ่งก็ถูกเปิดขึ้น.....

ในตอนที่ผู้หญิงรีบลงมาที่ชั้นล่างและเปิดประตูพร้อมกับเทียนที่ถือมาด้วย นักฆ่าก็หนีไปไกลกว่า 500 ม.แล้ว
พวกนักฆ่านี้ไม่คิดว่าที่พวกเขาทำลงไปนั้นอยู่ภายใต้สายตาของเหยี่ยวที่บินอยู่บนท้องฟ้า
หลังจากที่หนีมาได้ 2-3 ไมล์ นักฆ่าก็ลดความเร็วลงและเข้าไปในสลัมของทาส หลังจากที่ซ่อนตัวในที่หนึ่งแล้ว พวกนั้นก็ถอดหน้ากาก พวกนี้เป็นเด็กหนุ่มที่ดูลนลานและตื่นเต้น พวกนี้เปิดกระเป๋าออกและพบว่ามันเต็มไปด้วยอาหารอย่างขนมปัง พวกนี้แบ่งอาหารกันแล้วออกมาจากที่นั่นทันที....

เมื่อเห็นแบบนั้น จางเทีย ก็ตระหนักได้ว่าคนที่โดนฆ่านี้เป็นแค่คนธรรมดาในห่วงโซ่ของตระกูลซีเนลที่ยอมแพ้ให้กับพวกตระกูลซีเนลและปิศาจ เขาโดนพวกทาสแอบตามมา พวกเด็กหนุ่มยอมเอาชีวิตตัวเองมาสี่ยงฆ่าชายคนนี้หน้าบ้าน --- บางทีเพื่อขนมปังรึเพื่อต่อต้านคนดูแลของตระกูลซีเนลและปิศาจ

มีคำบอกว่าที่ไหนมีการต่อต้าน มันก็จะมีการต้าทาน  มันเป็นเรื่องธรรมดาที่จะเห็นแบบนี้ในเมืองโทคิ

คำสั่งของ สกาล่า นั้นไม่ใช่แค่ให้สมัครใจ  มันเป็นคำสั่งจริงๆ แม้ว่าในตอนกลางวันจะไม่มีใครฝ่าฝืนแต่กลางคืนก็ยังคงมีคนคอยฝืนอยู่ดี

คำสั่งนี้ไม่ใช่ของจริง ปิศาจและกลุ่มสามตาได้เปลี่ยนเมืองนี้เป็นคุกขนาดใหญ่และคลังมนุษย์ ตามคำสั่งนี้ปิศาจคือผู้ปกครอง พวกบัดซบกลุ่มสามตาคือผู้ดูแลคุกนี้ นี่คือความจริงของโลกใหม่ที่พวกสามตาเคยบอกเอาไว้

มุมมองต่างกันก็ให้ความรู้สึกต่างกัน  หลังจากที่เห็นการฆ่านี้ จางเทีย ก็เริ่มกระจ่าง เขาเห็นมุมมองโลกใหม่ที่ สกาล่า และกลุ่มสามตาพูดถึง
หลังจากที่ออกมาจากเขตนั้น จางเทีย ก็ได้ไปที่ซันอเวนิวตามเส้นทางที่เขาจำได้ มันคือที่ที่ตระกูลซีเนลจับเขาขังไว้เมื่อหลายเดือนก่อน

บนท้องฟ้าเขาพบว่าคฤหาสน์ถูกทำลายไปแล้ว ตึกมากมายตามท้องถนนก็ยังได้รับความเสียหายแต่ความเสี่ยหายนั้นไม่ได้เกิดจากระเบิดนักเล่นแร่แปรธาตุแต่เป็นอย่างอื่น

“ เกิดอะไรขึ้น ?” - ความคิดหนึ่งแว๊บขึ้นมาในหัว – “มีบางคนมาที่นี่เพื่อช่วยข้างั้นเหรอ ? “

“ ใครกัน ?”

จางเทีย เริ่มทำการคั้นหารอบๆด้วยสายตาเฉียบคมของเขา เขาพบรูหนึ่งบนกำแพงและร่องรอยของรอยขูดหลายสิบเมตรด้านหลัง

“ หลานหยุนซี ? “ - ไม่รู้ว่าทำไมเมื่อเห็นมัน จางเทีย คิดภาพ หลานหยุนซี กัดปากแน่นแล้วยิงลูกดอกออกไปในตอนที่โดนซอมบี้นับไม่ถ้วนล้อม หายปีก่อน จางเทีย  ได้เห็น หลานหยุนซี สู้กับพวกคนแข็งแกร่งของตระกูลเฉินในเมืองสวรรค์  รอยนี้เองก็คล้ายกับรอยในตอนนั้นแต่มันเทียบไม่ได้กับพลังที่มากแบบตอนนี้ สิ่งนี้คือหน้าไม้ที่ หลานหยุนซี ใช้ซึ่งเพราะสายเลือดที่ตื่นขึ้นมาของเธอ...

มันเกิดขึ้นมานาน ดูจากหญ้าที่งอกขึ้นมาในซากแล้ว จางเทีย ตระหนักได้ว่ามันเกิดขึ้นก่อนการโจมตีปราสาทขอบเหล็ก
ในตอนที่เขาคิดว่า หลานหยุนซี มาที่นี่เพื่อช่วยเขา เขาก็รู้สึกอยากร้องไห้แม้ว่าตาของเหยี่ยวจะไม่มีน้ำตาออกมาก็ตาม

หลังจากที่รู้ว่าตระกูลจางและตระกูลหลานจะไม่ให้ หลานหยุนซี มาอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนี้ จางเทีย ก็วางใจขึ้นมา หลังจากที่รวมกับฉากด้านนอกเมือง  จางเทีย ก็เดาว่ามันคือ หลานหยุนซี ที่ทำการโจมตีทางอากาศหลังจากที่ยืนยันได้ถึงภัยของหอคอยสุสานปิศาจด้านอกเมือง
หลังจากที่ปลุกจุดชีพจร 1 ใน 7 ที่หัวใจขึ้นมา จางเทีย ไม่รู้ว่าเขาน่ะฉลาดขึ้นกว่าเดิม  การคาดการณ์ของเขานั้นใกล้เคียงกับความจริงอย่างมาก

จางเทีย ยังคงบินอยู่บนเมืองและทำการสังเกต  ด้วยสายตาของเหยี่ยว จางเทีย สามารถเห็นทุกอย่างไม่ว่าเขาจะผ่านไปที่ไหน  เขารู้สึกเหมือนกับมองจากโต๊ะวางแผน  เขาถึงกับเห็นห้องด้านในที่ไม่มีผ้าม่านด้วย

เทียบกับเมื่อหลายเดือนก่อน เมืองโทคิดูรกร้างมากในตอนนี้ แคมป์ซอมบี้ด้านนอกเมืองนั้นว่างเปล่า หลังจากที่บินอยู่สักพัก จางเทีย ก็ไม่เห็นกองทัพปิศาจรึปิศาจปีกเลย  มันคือพวกซอมบี้ที่ประจำการอยู่ที่นี่
เมื่อเป็นแบบนั้น จางเทีย จึงสนใจตึกที่สูงและหรูหราที่สุดทางใต้ของเมือง

ในตอนที่ จางเทีย ตรวจสอบว่ามีผู้แข็งแกร่งของตระกูลซีเนลในเมืองหรือไม่ในตอนนั้น เขาก็เห็นคนหนึ่งในตึกพวกนั้น ...

มันคือไอ้บัดซบ นาวาส

แม้ว่า จางเทีย จะไม่เห็นหน้าตาในที่มืดของอีกฝ่ายได้ชัดแจนแต่เขาก็บอกได้ว่าเป็นไอ้บัดซบนั่นจากวิธีการเดินของมัน...
 

รีวิวผู้อ่าน