px

เรื่อง : Castle of Black Iron
Chapter 622: เก็บกวาด


Chapter 622: เก็บกวาด

หลังจากที่หนูเข้าไปในนั้นได้  จางเทีย ก็ได้ออกมาจาก Castle of Black Iron และเริ่มมองไปรอบๆ เขาคิ้วขมวดเล็กน้อย ด้วยความช่วยเหลือจากสายตาของเขา เขาสามารถเห็นทุกอย่างที่นี่ได้อย่างชัดเจน

มันดูเหมือนจะเป็นคลังขนาดใหญ่ มันไม่มีของตกแต่งที่นี่เลย มันถือว่าเป็นห้องปิดตาย  จางเทีย เห็นแค่ของสิ่งของ มันเหมือนกับกองฟาง พวกมันมีผ้ากันน้ำปิดคลุมเอาไว้

ผ้าคลุมกันน้ำใหม่อย่างมาก ไม่มีฝุ่นเลยสักนิด พื้นก็มาพรมปู ดูเหมือนว่าจะมีคนเคยอยู่ที่นี่มาก่อน

จางเทีย เดินเข้าไปที่กองของและเปิดผ้าคลุมออก

ก่อนจะเปิดมัน  จางเทีย คิดว่ามีอะไรอยู่ด้านในนั้น เขาคิดว่ามันอาจจะเป็นพวกของทางทหารแต่หลังจากที่เปิดมันแล้วเขาก็ต้องอึ้ง

ที่อยู่ตรงหน้าเขาคือพวกทองแท่ง

แต่ละชิ้นนั้นยาวประมาณ 40 ซม.และกว้าง 10 ซม.หนา 7 ซม. เมื่อเห็นทองแท่งพวกนั้น จางเทีย อึ้งไปกว่า 0.5 วินาที เขาไม่เชื่อสายตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็ได้เหยียดมือออกไปแล้วหยิบทองแท่งขึ้นมาดู

มันหนักอย่างมาก คนธรรมดาอาจจะถือมันไม่ไหว  จางเทีย ชั่งน้ำหนักในมือและรู้ว่ามันคือทองอย่างแน่นอน

มีคำพูดเขียนไว้บนทองนั้นด้วย --- ทอง 99.999%  100 กก.

เมื่อเห็นทองแท่งที่กองกันสูงเกือบเท่าอก  จางเทีย ก็กลืนน้ำลายตัวเอง แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าทำไมตระกูลซีเนลถึงได้เอาของมากแบบนี้มาไว้ที่นี่แต่เขาไม่ต้องการคิดหาเหตุผลในตอนนี้ ที่เขาต้องทำคือเอาของพวกนี้ไปให้หมด แม้แต่พระเจ้าก็ห้ามเขาไม่ได้

“ เหี้ย ถ้าข้าเอาทองพวกนี้ไป ข้าจะจบแหล่งทรัพยากรหลักของกลุ่มสามตาได้ ข้าจะช่วยมนุษย์ได้อย่างมาก !  “- จางเทีย หาเหตุผลให้กับตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็กลืนน้ำลายและรีบลงมือ

ในตอนที่เขาแตะไปที่ทอง เขาก็ส่งมันเข้าไปใน Castle of Black Iron มันคือเวลาที่จะทดสอบความเร็วของ จางเทีย หลังจากที่วนรอบกองทองแล้วแตะมันด้วยมือ เขาก็ส่งพวกนั้นทั้งหมดเข้าไปใน Castle of Black Iron

กองทองกว่า 8 ชั้น แต่ละชั้นมี 25 แท่ง แต่ละแท่งหนัก 100 กก. มันหมายความว่ากองหนึ่งหนัก 20,000 กก. เหรียญทองแต่ละเหรียญหนัก 25 ก. ทองแท่งหนึ่งก้อนเท่ากับเหรียญทอง 40,000 เหรียญ ต้องบอกว่ากองทองแท่งพวกนี้มีค่า 800,000 ทอง

ในตอนที่ จางเทีย ส่งทองเข้าไปข้างใน เขาก็เริ่มทำการคำนวณในใจอย่างรวดเร็ว

หลังจากที่มองไปที่คลัง  จางเทีย พบว่ามีกองทองอย่างน้อย 20-30 กอง

จางเทีย วิ่งไปมาอย่างกับลมแล้วจัดการเก็บทองพวกนั้นทั้งหมด

หลังจากนั้น 20 นาที จางเทีย ก็ออกมาเหลือเพียงแต่คลังที่ว่างเปล่า

ในตอนที่เขาออกมาจากคลัง เขาได้ยินเสียงเบรกของรถด้านนอกประตู หลังจากนั้นคนกว่า 20 คนก็ลงจากรถ เสียงรองเท้าเหล็กที่ดังไปกับพื้นบ่งบอกได้ถึงความเร่งรีบ หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีก็ได้มีคนเปิดประตูบ้านออก

จางเทีย ซ่อนอยู่ในที่มืด ทหารกว่า 20 คนรีบแห่กันเข้ามาในบ้าน เมื่อเห็นคนสุดท้าย  นัยน์ตาของ จางเทีย ก็หดลงทันที

มันคือ รูเบน ลูกชายอีกคนของ คอส   จางเทีย เคยเห็นชายคนนี้มาสองครั้ง

“ นาวาส ไอ้บัดซบนั่น ขยะเอ้ย ! เสียงดังแบบนี้แต่มันยังหลับอย่างกับหมูตาย นอกจากประจบ สกาล่า แล้วมันเป็นได้แค่ขยะ ! ถ้าไม่ใช่เพราะรับใช้เรามาหลายปี ข้าคงโยนมันเข้าไปในหอคอยสุสานแล้ว แม้แต่ซอมบี้ก็ยังมีประโยชน์กว่ามัน ! “ – รูเบน ด่าออกมาในตอนที่ นาวาส ไม่ได้ออกมาทักทายเขา  เขาฮึดฮัดออกมาอย่างเย็นชาพร้อกมับสั่งคนข้างๆ  - “ ไปปลุก นาวาส ! “

“ ได้ครับ !” – ลูกน้องคนหนึ่งรีบวิ่งไปที่ห้อง นาวาส ทันที

“ ไม่จำเป็น ! “ - จางเทีย พึมพำพร้อกมับเดินออกมาจากเงาพร้อมกับหอกในมือ

“ ใครกัน ?? “ - รูเบน คำรามและหันกลับมาพร้อมทหารคนอื่นๆ

“ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ !  “- จางเทีย ทักทาย รูเบน ด้วยรอยยิ้ม

“ เจ้า...” – นัยน์ตาของ รูเบน หดลง เขาจำ จางเทีย ได้ทันที ตอนนั้นแม้ว่าผม,ตาผิวของ จางเทีย จะเปลี่ยนสีแต่เขาก็ยังจำได้

รูเบน อึ้งไปสักพัก จากนั้นก็เผยสีหน้าดีใจออกมา หลังจากนั้นเขาก็ได้แสดงสีหน้านิ่ง เขาไม่ได้โจมตีออกมาทันที เขาไม่ได้ให้ลูกน้องทำการโจมตีด้วย เขาแค่ทำตาเป็นประกายแล้วมองไปรอบๆ  เขาสงสัยว่าจะมีคนอื่นซ่อนอยู่อีกรึเปล่า – “ เจ้าช่วยข้าไว้ครั้งที่แล้ว ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะมามอบตัว ข้าคิดว่าเจ้าคงไม่กล้าพอที่จะกลับมาคนเดียว ข้ายอมรับว่าเจ้ามีทักษะการโยนที่เฉียบคมแต่เจ้าน่ะแค่ระดับ 9 อย่างมากก็อันตรายกับคนระดับ 10 มันไม่เพียงพอสำหรับข้า  มีใครซ่อนอยู่อีกรึเปล่า ? ไม่ว่าใครจะมากับเจ้าก็โผล่หัวออกมา !”

เมื่อมองตาที่เป็นประกายของ รูเบน  จางเทีย ก็รู้ว่าชายคนนี้น่ะระแวง เมื่อพูดไม่กี่คำเขาก็เผยหลายอย่างออกมา  จางเทีย ต้องการที่จะตอบกลับแต่ความคิดหนึ่งแว๊บมาในหัวทำให้เขาเปลี่ยนใจ

“ ฮี่ฮี่ แน่นอนข้ากล้ามาที่นี่คนเดียว เมืองโทคิไม่ได้อันตรายเท่ากับรังสิงโต พวกที่มากับข้าน่ะจะโผล่ออกมาเองถ้าพวกเขาต้องการ ตอนนี้พวกเขาได้ทำลายแผนของเจ้าอยู่ เจ้าแค่ต้องรออีกสักพัก จากนั้นเจ้าก็จะได้เห็นพวกเขาเอง ! “ - จางเทีย ตอบกลับอย่างใจเย็น

อย่างที่ จางเทีย คาดเอาไว้ ในตอนที่เขาพูดจบ รูเบน แสดงท่าทีลนลานเล็กน้อยแต่มันก็รวบรวมสติได้ในไม่ช้า – “ เจ้าเตรียมตัวมาดี ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะมีเวลาสนใจเมืองโทคิในตอนที่แนวป้องกันของเจ้าน่ะกำลังจะถูกทำลายโดยกองทัพซอมบี้ ! “

“ เจ้ารู้ดีกว่าข้าว่าลูกน้องกลุ่มสามตาซ่อนตัวอยู่ในพันธมิตรมากแค่ไหน  เจ้าคิดว่าผู้แข็งแกร่งทุกคนจะทำตามคำสั่งพันธมิตรรึไง ? ตั้งแต่ที่ข้าออกจากที่นี่ครั้งที่แล้ว ก็มีบางคนคอยจับตาดูตระกูลซีเนลและเมืองโทคิเอาไว้ “ - จางเทีย ฮึดฮัดพร้อมกับกอดอก ถ้านับคะแนนการแสดง เขาได้ไป 90 คะแนนเลย

“ ไร้สาระ แล้วไง ! แม้ว่าพ่อของข้าและคนแข็งแกร่งของตระกูลซีเนลจะไม่ได้อยู่ในเมืองแต่เจ้าก็ไม่อาจทำลายแผนของเราได้ นอกจากข้า ตระกูลซีเนลเพิ่งจะจ้างผู้อาวุโสมาดูแลความปลอดภัยของยาน  เขาเป็นอัศวิน ! คนที่มากับเจ้าอาจจะเป็นอัศวิน  แม้ว่าเขาจะทำลายยานและกันไม่ให้ส่งของออกไปได้แต่เจ้าก็ไม่สามารถที่จะเอามันออกไปได้หมด ! “ – เมื่อพูดถึงผู้อาวุโสของตระกูลซีนล  รูเบน ก็ได้สติกลับมา – “ ถ้าเจ้าอยากสู้ที่นี่จริงๆ  มันมีซอมบี้ 5 แสนตัวในเมือง เจ้าจะต้องเสียหายอย่างมาก ! “

ความฉลาดนั้นอาจจะสร้างขึ้นมาได้ เพราะ จางเทีย ดูใจเย็นและมั่นใจ  รูเบน จึงคิดว่า จางเทีย ไม่ได้มาที่นี่คนเดียว แค่ไม่กี่คำพูดเขาก็เผยข้อมูลมากมายให้กับ จางเทีย ซึ่งทำให้ จางเทีย ใจเต้นรัว

แนวป้องกันจะถล่มในไม่ช้า

พวกชนชั้นสูงและผู้แข็งแกร่งของตระกูลซีเนลได้ออกจากเมืองไปแล้วเหลือผู้แข็งแกร่งเพียงสองคนในเมืองนี้คือ รูเบน และผู้อาวุโส

คืนนี้ตระกูลซีเนลดูเหมือนจะพร้อมขนของมีค่าที่ปล้นมาไปที่อื่น

หลังจากที่คิดอยู่ไม่นาน จางเทีย ก็ยิ้มออกมา  - “ ขอบคุณที่บอกข้อมูลข้ามากแบบนี้ ! “

“ เจ้าหมายความว่าไง ? “ – รูเบน เปลี่ยนสีหน้า

“ ข้าหมายถึงเจ้าตายได้แล้ว ! “

ไม่นานหลังจากที่พูดจบ จางเทีย ก็ขว้างหอกออกไป

หอกนั่นมีแรงและพลังฉีต่อสู้เหล็กโลหิตของ จางเทีย  นี่คือทักษะที่ จางเทีย พัฒนาในหลายเดือนที่ผ่านมา   จางเทีย พบว่าเขาสามารถใช้พลังฉีต่อสู้ห่อหุ้มหอกเอาไว้ได้  เขาไม่ใช่แค่ทำให้หอกนั้นรุนแรงกว่าเดิมแต่ยังทำให้เสียงเบาลงด้วย ด้วยการห่อหุ้มของพลังฉีต่อสู้เหล็กโลหิต หอกนั้นไม่ได้เกิดเสียงเสียดแทงกับอากาศอีก มันนุ่มนวลราวกับแทงทะลุน้ำ

รูเบน พร้อมที่จะหลบและป้องการหอกของ จางเทีย  ในตอนที่ จางเทีย ลงมือ เขาเองก็ลงมือเช่นกัน เขาเปลี่ยนตำแหน่งตัวเองและพร้อมปล่อยสัญลักษณ์พลังฉีต่อสู้ออกมาเป็นคำเตือน ....

เขาต้องการที่จะจับหอก จางเทีย เอาไว้แต่เขาพบว่าหอกนั้นไม่สามารถที่จะรูสึกได้เลยตั้งแต่ที่มันออกมาจากมือของ จางเทีย  หลังจากที่ช็อก เขาก็รู้ว่ามันหมายถึงอะไร....

“ เป็นไปไม่ได้ ข้าระดับ 12 แล้ว ... “- ความคิดสุดท้ายแว๊บขึ้นมาในหัวของ รูเบน

ตัวของ รูเบน ระเบิดกลายเป็นหมอกเลือดพร้อมกับเสียงเบาๆในอากาศ

จางเทีย เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและต่อยออกมากว่า 20 ครั้งในเสี้ยววินาทีทำให้ทหารที่มาด้วยนั้นตายตาม รูเบน ไป

ในวินาทีเดียว หอกและหมัดเหล็กโลหิตก็ทำให้ จางเทีย เคลียร์พื้นที่ทั้งหมดได้

ตอนนั้น จางเทีย ตระหนักได้ว่าเขาแข็งแกร่งแค่ไหน ก่อนที่หมอกเลือดของ รูเบน จะจางหายไป  จางเทีย ก็ได้พุ่งออกมาจากบ้านและฆ่าทหารคนอื่นในรถ  ไม่มีใครที่จะส่งคำเตือนออกไปได้

ทั้งบ้านนั้นกลับคืนสู่ความสงบอีกครั้ง นอกจากศพและเลือดที่กระจายไปทั่วพื้น ไม่มีใครจะมาที่นี่อีก

หลังจากที่จัดการทุกอย่างเสร็จ  จางเทีย ก็ทำการสิงเหยี่ยวและรีบบินขึ้นไปบนฟ้า เขามุ่งหน้าไปทางเหนือของเมือง   จางเทีย จำได้ว่ามีฐานของยานอยู่ที่นั่น  มันคือที่เดียวที่ให้ยานลงจอดในเมืองได้

ในตอนที่ จางเทีย บินอยู่นั้น เขาเห็นฐานของยานแต่มันเกินกว่าที่เขาคาดไว้ที่ตระกูลซีเนลจะขนของมีค่าออกไปที่อื่น

จากระยะพันเมตรสูงขึ้นไป จางเทีย ได้ทำการสังเกตไปรอบๆยาน  แค่บินได้ไม่นานเขาก็เห็นเปลวไฟในเมืองจากที่ที่เขาจากมา

ไม่ถึง 3 นาที จางเทีย ก็เห็นคนหนึ่งพุ่งมายังเมืองโทคิอย่างกับดาวตก

เดาว่าคนนั้นจะไม่กลับมาในอีก 7-8 นาที ดังนั้น จางเทีย จึงดิ่งลงไปด้านล่างและไปยืนอยู่บนดาดฟ้าของยาน...

ในเสี้ยวพริบตาร่างของ จางเทีย ก็โผล่ออกมา เขาพุ่งเข้าไปในห้องเก็บของด้านล่างยาน  ตอนนั้น จางเทีย ใช้ความเร็วสูงสุดของตัวเองออกมา ระหว่างทางเขาเจอกับพวกลูกเรือ  เขาฆ่าพวกนั้นทั้งหมดโดยพวกนั้นยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ

แค่ไม่กี่สิบวินาที จางเทีย ก็ได้ไปถึงห้องเก็บของด้านล่าง หลังจากที่ทำลายประตูด้วยหมัดเดียวแล้ว เขาก็เห็นลังมากมายตรงหน้า

จางเทีย ไม่ได้เช็คของด้านในด้วยซ้ำ  เขาแต่ลังพวกนั้นแล้วส่งพวกนั้นเข้าไปใน Castle of Black Iron ในตอนที่เขาทำแบบนั้น เขาก็ราดน้ำมันไปรอบๆด้วย...

ใช้เวลาไม่ถึง 1.5 นาที จางเทีย ก็จัดการปล้นของทั้งหมดเสร็จ หลังจากที่วิ่งออกมาจากยานแล้ว เขาก็พุ่งเข้าไปในยานลำที่สองที่อยู่ข้างๆ

พวกคนที่มาป้องกันนั้นเป็นนักสู้ต่ำกว่าระดับ 9 พวกนั้นอ่อนแอเกินไปเมื่ออยู่ต่อหน้า จางเทีย

หลังจากนั้น 5 นาที จางเทีย ก็ได้ทำลายห้องเก็บของของยานลำที่สี่ หลังจากที่เขาพุ่งเข้าไปเก็บของราดน้ำมันใส่ห้องเครื่องไว้  หลังจากที่เก็บกวาดยานทั้งสี่ลำแล้ว  จางเทีย ก็เผาศพไปพร้อมกับยานเพื่อปกปิดร่องรอย....

ตอนนั้นคนที่ออกไปตะกี้รู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติที่นี่ เขาเพิ่มความเร็วในการกลับมาซึ่งทำให้เกิดเสียงระเบิดของอากาศอันน่ากลัว

หลังจากที่ได้ยินเสียงและรู้ว่าอีกฝ่ายจะกลับมาเร็วแค่ไหน จางเทีย ก็เริ่มกลัวขึ้นมา เสียงนี้เร็วกว่าที่เขาคิดว่า 2-3 เท่า   จางเทีย ตระหนักได้ถึงพลังของอัศวิน  เขารีบวิ่งเข้าไปในป่าข้างๆกับฐานของยาน

ในตอนที่เสียงนั้นเข้ามาใกล้ นกหลายตัวได้เริ่มบินหนีออกไป จางเทีย เข้าไปใน Castle of Black Iron และสิงเหยี่ยวพร้อมกับบินหนีไปกับนกพวกนั้น

หลังจากที่ จางเทีย หายไปไม่ถึงครึ่งนาที แปลวไฟพร้อมกับพลังฉีอาฆาตที่แข็งแกร่งและพลังอันน่ากลัวก็แว็บผ่านด้านล่างของ จางเทีย   จางเทีย กลัวซะจนเหงื่อชุมไปทั่วตัว

หลังจากทำแบบนั้นแล้ว จางเทีย  ก็ไม่กล้าที่จะกลับเข้าไปในเมืองโทคิอีก  เขามุ่งหน้าไปที่ศูนย์เซลเนสทางใต้แทน...

รีวิวผู้อ่าน