px

เรื่อง : Castle of Black Iron
Chapter 626: การสังหารโหด !


Chapter 626: การสังหารโหด !
หลังจากที่เปลี่ยนร่างมาบ่อยๆ จางเทีย ก็สามารถใช้ทักษะควบคุมได้เร็วและง่ายกว่าเดิม ในตอนที่เหยี่ยวพุ่งไปเกาะที่ต้นไม้ ร่างของ จางเทีย ก็ได้ปรากฏตัวขึ้นมา

มันเหมือนกับว่าเหยี่ยวนั้นได้กลายร่างเป็นคนขึ้นมาในตอนที่เกาะที่ต้นไม้ มันน่าตกใจอย่างมาก ในสายตาของคนที่มองอยู่ จางเทีย น่ะเกือบจะเป็นพ่อมดรึสัตว์ประหลาดซึ่งสามารถเปลี่ยนร่างเป็นสัตว์ได้ในพริบตา

จางเทีย ปรากฏตัวออกมาด้วยหน้าตาของ ปีเตอร์แฮมเพสเตอร์ ตอนนั้น จางเทีย เหมือนกับนักสำรวจที่ใส่รองเท้าเหล็กและชุดหนัง จางเทียมีอุปกรณ์พิเศษที่หลังซึ่งเป็นลังอาวุธที่มีขวานสองคมอยู่ด้านในจำนวนมาก

เขาถือขวานสองคมไว้ในมือทั้งสองข้าง เขาได้อาวุธทั้งหมดนี้มาจากตระกูลเฉิน

ขวานแต่ละอันนั้นหนัก 60 กก. ขวานสองคมนั้นใหญ่ราวกับพระจันทร์เต็มดวง ส่วนด้ามจับนั้นสั้นอย่างมาก นี่คือบูมเมอแรงหนัก แม้ว่ามันจะหนักสำหรับคนอื่นแต่มันเบาอย่างกับกิ่งไม้สำหรับ จางเทีย

ในตอนที่เขาออกมาจาก Castle of Black Iron  จางเทีย ก็ได้พุ่งออกไปได้กว่า 500 ม.เร็วราวกับสายลมพร้อมกับขวานที่เหมือนกับปีก

แสงจันทร์ที่สาดลงมาที่ใบมีดนั้นเหมือกับสายน้ำที่สะท้อนแสงอันน่าขนลุกเป็นพระจันทร์เสี้ยวออกมา

จางเทีย วิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว ทุกที่ที่เขาผ่านนั้นจะถูกเปิดออกราวกับคลื่น ในเวลาเดียวกันคมของขวานก็ฟันพุ่มไม้ออกไปทำให้พวกมันกระจายออกไปทุกทิศทาง  ทุที่ที่ จางเทีย ผ่านไปนั้นเหมือนกับคลื่น เมื่อมองดูจากท้องฟ้ามันจะเหมือนกับสายฟ้าที่ จางเทีย ยิงออกมาซึ่งกระจายออกไปใส่ทั้งสองฝั่งที่สู้กันอยู่ ในพริบตาเดียว จางเทีย ก็ได้ย่นระยะห่างลงมาเหลือ 200 ม.
...
“ แบบนี้เราหนีไม่ได้แน่  พี่น้องบาทาเรียน อยู่กับข้าเพื่อหยุดซอมบี้ คนอื่นๆหนีไปให้เร็วที่สุด ถ้ารอดไปได้ จำไว้ว่าให้บอกเรื่องนี้กับลูกชายข้าด้วยว่าพ่อคนนี้สู้จนตัวตาย เราหน่วยเกราะนั้นไม่ได้ขี้ขลาด หลังจากที่ออกจากรถเกราะมาแล้ว เราก็ยังฆ่าพวกห่านี้ได้... ! “ - ชายกำยำคนหนึ่งที่ตัวเต็มไปด้วยเลือดตะโกนออกมา เขาหยุดและวิ่งกลับเข้าไปหาพวกซอมบี้

“ หัวหน้าหน่วย... “ - พวกนักสู้ข้างๆชายคนนี้ตะโกนออกมา หลังจากที่ได้ยินคำสั่งนั้น หนึ่งในสามของคนที่หนีก็ได้หยุดทันทีและวิ่งกลับเข้าไปหาพวกซอมบี้ที่จำนวนมากกว่าพวกเขาอย่างเห็นได้ชัด

นักสู้นับไม่ถ้วนเริ่มร้องไห้ออกมา นอกจากกลุ่มที่วิ่งกลับไป คนมากมายก็หันกลับมาวิ่งเข้าใส่ซอมบี้  สุดท้ายแล้วก็ไม่มีใครที่จะหนีอีกต่อไป ทุกคนต่างก็วิ่งแห่กันกลับเข้าไปหาซอมบี้กันหมด

“ ไอ้บ้า อาร์ เอากลุ่มสองกับกลุ่มสามไป...” – หัวหน้าหน่วยที่หันกลับมาตะโกนใส่คนที่วิ่งตามหลังเขา

“ หัวหน้า เราน่ะชินกับการโจมตีศัตรูกับท่านแล้ว ให้พวกเราทำมันอีกครั้งเถอะ ...”
หลังจากที่รู้ว่าทุกคนจะสู้ซอมบี้ด้วยกันกับเขา  ชายคนนั้นก็น้ำตาไหลออกมา เขาไม่ได้พูดอะไรต่อและพุ่งนำหน้าทีมไปพร้อมกับแทงดาบสั้นใส่ตาของซอมบี้  หลังจากที่สะบัดเล็กน้อยเขาก็ทำลายหัวของมันได้ หนอนที่อยู่ด้านในซึ่งเหมือนปลาหมึกนั้นตกลงมาที่พื้นและเริ่มร้อง ชายคนนั้นกระทืบมันทันที...

ในตอนที่กลุ่มหนึ่งไม่หนี ทั้งสองฝ่ายจึงเข้าปะทะกันในเสี้ยววินาที

นักสู้ต่างก็ถือดาบสั้นซึ่งยาวกว่า 30 ซม. ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้เปรียบกับอาวุธแบบนี้ นอกซะจากว่าจะตัดหัวรึแทงใส่หัวพวกซอมบี้ แผลธรรมดานั้นจะไม่ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของมันเลย

ในตอนที่เข้าปะทะกัน มนุษย์ทุกคนก็เริ่มการต่อสู้อันดุเดือด

เมื่อมองไปที่สีหน้าน่ากลัวของซอมบี้ซึ่งมีมากกว่าพวกเขาหลายเท่า นักสู้ทุกคนก็คิดว่าพวกเขาคงต้องตายในครั้งนี้
แต่ตอนนั้นเองพระจันทร์สองดวงก็ได้พุ่งเข้ามา....

เมื่อเห็นขวานของ จางเทีย  พวกเขาก็คิดว่าเห็นภาพลวงตา เพราะใบมีดที่พุ่งไปด้วยความเร็วสูง เส้นทางด้านนั้นจึงเกิดเส้นแสงขึ้นมา

ในตอนที่พระจันทร์ทั้งสองพุ่งเข้าไป มันก็ได้ทำลายพุ่มไม้ตรงหน้า หลังจากนั้นมันก็พุ่งเข้าใส่พวกซอมบี้สับมันเป็นชิ้นๆเหมือนกับพุ่มไม้ ผลก็คือเนื้อของซอมบี้กระเด็นไปทั่วทุกทาง หลังจากที่ทำลายเส้นทางโชกเลือดตรงหน้ากว่า 20 ม.  ใบมีดทั้งสองก็สะบัดกลับมา ไม่ว่าพวกมันจะผ่านไปที่ไหน พวกมันก็จะสร้างเส้นทางที่เต็มไปด้วยเลือดและเนื้อของพวกซอมบี้....

ในเสี้ยวพริบตาซอมบี้กว่า 60 ตัวก็ตายไป

แต่สิ่งที่น่าตกใจกว่านั้นก็ตามมา

ในตอนที่ จางเทีย มาถึง เขาได้ตบไปที่หลังตัวเองพร้อมกับลังอาวุธนั้นส่งเสียงออกมาเบาๆ ในเวลาเดียวกันขวานขนาดใหญ่ก็โผล่มาที่หลังของเขาราวกับขนของนกยูง  จางเทีย เอามือวางที่ไหล่ตัวเองแล้วจับหอกอีกสองเล่มมา หลังจากนั้นพระจันทร์อีกสองดวงก็ทะยานขึ้นและบินเข้าใส่พวกซอมบี้

หลังจากที่พระจันทร์ทั้งสองพุ่งออกไป พระจันทร์สองอันแรกก็ได้กลับมาที่หลังของ จางเทีย ราวกับสิ่งมีชีวิต
ในตอนที่นักสู้ทุกคนกังวลว่า จางเทีย จะได้รับบาดเจ็บจากขวานที่พุ่งกลับมา  จางเทีย ก็ได้ผลักมันออกไปเบาๆแล้วยิงขวานอีกสองเล่มไปยังอีกสองทิศทางทำลายพวกซอมบี้ทิ้ง

นักสู้ทุกคนได้ยินเสียงพึมพำในตอนที่ จางเทีย เอามือจับไปที่ขวานบูมเมอแรงของเขา ในตอนที่นักสู้อยู่ใกล้กับ จางเทีย จะได้ยินเสียงนี้ พวกเขารู้สึกอยากที่จะอ้วกออกมา...
ในเสี้ยวพริบตาเดียว จางเทีย ก็โยนขวานออกไปจากหลังเขา 7 อัน บวกกับสองอันแรกที่โยนออกไป พระจันทร์ทั้ง 9 ล้อมรอบ จางเทีย แต่ละอันนั้นสร้างแสงวงกลมขึ้นมา
พระจันทร์พวกนี้เหมือนกับมีแรงเหวี่ยงอันน่ากลัว ทุกที่ที่พวกมันผ่าน พวกมันจะเฉือนพวกซอมบี้ให้เลือดกระจายออกมาราวกับฝน  หัวและคอซอมบี้ต่างก็ตกลงมาที่พื้น ของสิ่งใดตรงหน้าพระจันทร์นี้ล้วนแต่ต้องถูกทำลายเป็นชิ้นๆ

พระจันทร์พวกนี้ว่องไวราวกับผีเสื้อที่กำลังเต้นภายใต้แสงจันทร์และหาดอกไม้เลือดของมัน  พวกมันทั้งรวดเร็วและไม่อาจจะแตะต้องได้ พวกมันบินไปทั่วทุกทิศทางก่อนจะกลับมาหาเจ้าของ หลังจากที่ได้รับคำชมจากเจ้าของแล้ว พวกมันก็บินออกไปด้วยความตื่นเต้นอีกครั้ง...

หลังจากที่ จางเทีย มาถึง เขาช่วยนักสู้ทุกคนจากการต่อสู้ ทุกคนมองมาที่เขาด้วยตาที่เบิกกว้างราวกับเห็นผี ตะกี้พวกเขารู้สึกว่าตัวเองเกือบจะตาย สำหรับพวกเขาแล้วพวกเขาต้องเผชิญหน้ากับซอมบี้มากมายซึ่งไม่มีโอกาสชนะได้เลย หลังจากที่ จางเทีย มาถึง นักสู้ทุกคนรู้สึกว่าซอมบี้นั้นได้ถูกชายคนนี้เข้าล้อมไว้แทน มันฟังดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ที่ชายคนเดียวจะทำการล้อมซอมบี้ทั้งพันได้  อย่างไรก็ตามนี่คือสิ่งที่พวกเขารู้สึก มันมากกว่านักศิลปะที่แสดงผลงานระดับสูงต่อหน้าคนอื่นๆในการต่อสู้นี้
ภายใต้แสงจันทร์  จางเทีย เดินอย่างสบายๆผ่านทางพื้นหญ้าที่เต็มไปด้วยเลือดของซอมบี้ราวกับชายผู้ไร้เทียมทานที่เดินอยู่บนฟ้า  พระจันทร์ทั้ง 9 ดวงนั้นพุ่งขึ้นลงไปมาฉีกความมืดออก
หลังจากนั้นสักพักพวกนักสู้ก็ได้สติ พวกเขาเห็นว่าความืดนั้นได้หายไปแล้ว

“ อ่ะ ระวังหลัง...”

ในตอนที่ จางเทีย เดินเข้าไปหาพวกนักสู้ หัวหน้าหน่วยก็ได้ตะโกนออกมาในตอนที่ซอมบี้ที่เสียแขนไปหนึ่งข้างยืนอยู่ด้านหลัง จางเทีย และกำลังจะแทงมาที่หลังของเขาด้วยดาบยาว เมื่อเห็นแบบนั้นนักสู้ทุกคนก็ใจเต้นรัว

แต่ความจริงที่ทุกคนกังวลนั้นไร้ค่า
ก่อนที่มันจะได้แทง จางเทีย ด้วยอาวุธของมัน พระจันทร์สองอันก็พุ่งเข้าใส่ซอมบี้จากทางด้านหลังพร้อมกับตัดหัวกับเอวมันขาดออกจากกัน ผลก็คือร่างกายของมันถูกตัดเป็นสามส่วน  จางเทีย ไม่ได้แม้แต่หันกลับไปมอง เขาเอื้อมมือออกมาพร้อมกับพระจันทร์ทั้งสองที่ตกลงมาในมือเขาเผยให้เห็นรูปร่างเดิมของมัน

เมื่อเห็นฉากนี้นักสู้ทุกคนรวมถึงหัวหน้าหน่วยก็ต้องกลืนน้ำลาย จนตอนนี้มันก็ยังมีคนขยี้ตาตัวเองเพราะไม่เชื่อสิ่งที่เห็น – “ คนเดียวกำจัดซอมบี้นับพันเร็วแบบนี้ได้ยังไง ? “
หลังจากที่อยู่ในเซลเนสมานาน พวกเขาเคยเห็นผู้แข็งแกร่งมากมายแต่นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเห็นคนอย่าง จางเทีย  ที่ซึ่งสามารถฆ่าซอมบี้มากมายได้ง่ายดายแบบนี้โดยที่มือตัวเองไม่เปื้อนเลือด

ขวานสองคมในมือเขายังคงเป็นประกายและคมเหมือนใหม่แต่มันไม่มีคราบเลือดเลย  จางเทีย ถอนหายใจออกมา ‘ อาวุธพวกนี้อาจจะเอามาจากวังไฮหยวนรึทวีปตะวันออกโดยตระกูลเฉิน มันน่าจะทำขึ้นมาจากอัลลอยชั้นสูง ‘
จางเทีย สอดขวานกลับไปที่หลังของเขา ขวานทั้งเก้าบนหลังเขานั้นเหมือนกับหางของนกยูง เมื่อเห็นแบบนี้หลายคนอาจจะเยาะเย้ยแต่ตอนนี้พวกนักสู้รู้สึกว่ามันวิเศษและเท่อย่างมาก

ในตอนที่ จางเทีย เดินเข้าไปหา ขวานที่หลังของเขาก็เก็บเข้าไปในรังของมัน  จนตอนนั้นพวกนักสู้ที่ จางเทีย ช่วยไว้จากนรกจึงได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขารีบดินเข้าไปหา จางเทีย และล้อมเขาไว้พร้อมกับมองอย่างชื่นชม

“ นายท่าน ขอบคุณสำหรับการช่วยเหลือ เราอาจจะตายแล้ว  !” – หัวหน้าหน่วยชื่นชม จางเทีย พร้อมกับทำความเคารพ

จนตอนนี้ จางเทีย เพิ่งเห็นว่าตราของหัวหน้าหน่วยคนนี้ดูคุ้น เขาจำได้ว่า รินฮาท เองก็มีตราแบบเดียวกัน  แน่นอนว่าชุดของคนพวกนี้แตกต่างจากของ รินฮาท   พวกนี้อาจจะเป็นหน่วยอื่น

“ เจ้ามาจากกองทัพคันไถเหล็กหน่วยเหนือของอาณาจักรนอแมนรึเปล่า ? “- จางเทีย ถาม

หลังจากที่รู้ว่า จางเทีย รู้จักหน่วยพวกเขา นักสู้ทุกคนก็ช็อก หัวหน้าหน่วยยืดอกขึ้นมาทันที – “ ใช่ เราคือทีม107เกราะหนักของกองทัพคันไถเหล็ก ! “
เมื่อได้ยินคำตอบ จางเทีย ก็เผยรอยยิ้มออกมา ‘ ข้าไม่คิดว่าข้าจะได้เจอกับพี่น้องจากอาณาจักรนอแมนอีกแต่มันไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะอาณาจักรนอแมนได้ส่งไพ่ตาย 3 กองทัพมาที่นี่ซึ่งเป็นกองทัพภาคพื้นดิน ¼ ในเซลเนส ‘  - “ เจ้ารู้จัก รินฮาท รึเปล่า ? “

“ อ่ะ ? ท่านรู้จัก ผู้การรินฮาท ด้วยเหรอ ?” - ร้อยโทเผยสีหน้าแปลกใจออกมา

“ เราเป็นเพื่อนกัน ! “

ไม่นานหลังจากที่ จางเทีย พูดจบ เขาก็รู้สึกว่าคนรอบๆเปลี่ยนสีหน้า หลายคนยิ้มออกมาราวกับเห็นพี่น้อง
“ ดีเลย...” - ร้อยโทคนนั้นเผยรอยยิ้มออกมาทันที
“ โอ้ ทำไมพวกเจ้าถึงได้มาอยู่ที่นี่ได้ ? “
“ เรื่องมันยาว... “

“ เจ้าจะกลับไปที่เมืองม็อกโกหรอกเหรอ ? “

“ ใช่ ! “

“ มาสิ ข้าเองก็จะไปที่นั่นเหมือนกัน ! “

รีวิวผู้อ่าน