px

เรื่อง : Castle of Black Iron
Chapter 628: สถานการณ์วิกฤต


Chapter 628: สถานการณ์วิกฤต
หลังจากที่เข้าไปในบาร์ แค่มองไม่นาน รินฮาท ก็เห็นอุปกรณ์บนหลังของ จางเทีย  จากนั้นเขาก็ได้เดินเข้าไปหาทันที

จางเทีย รู้สึกว่ามีคนมองมาที่เขา เขาหันกลับไปและพบ รินฮาท ที่เดินเข้ามาหาเขาด้วยชุดผู้การ

ตั้งแต่ที่เจอกันในม็อกโกครั้งที่แล้ว จางเทีย ไม่ได้เห็น รินฮาท มานาน เมื่อเห็นอีกฝ่าย จางเทีย ก็พบรอยแผลเป็นใหม่ที่หน้าด้านซ้ายของ รินฮาท   รินฮาท ดูผ่านอะไรมามากกว่าเดิม

แต่ รินฮาท นั้นแทบจะจำ จางเทีย ไม่ได้เพราะ จางเทีย เปลี่ยนหน้าตาและยังเปลี่ยนพลังฉีด้วย ครั้งที่แล้ว จางเทีย อยู่แค่ระดับ 9 พลังฉีไม่ได้แข็งแกร่งเท่าไหร่แต่ตอนนี้ รินฮาท รู้สึกว่าพลังฉีของ จางเทีย นั้นแข็งแกร่ง  เหตุผลคือทั้งคู่นั้นฝึกพลังฉีต่อสู้เหล็กโลหิตเหมือนกัน คนที่ไม่ได้บ่มเพาะพลังฉีต่อสู้เหล็กโลหิตจะไม่รู้สึกถึงมันดีเหมือนกับ รินฮาท

จางเทีย เผยรอยยิ้มออกมาให้กับ รินฮาท ที่มานั่งข้างๆ

“ เพื่อน เอาอีกแก้ว ! “ - จางเทีย บอกกับบาร์เทนเดอร์

รินฮาท มองไปที่ จางเทีย ด้วยท่าทีระวัง – “ ข้าเกือบจะจำเจ้าไม่ได้ ! “

“ ทำแบบนี้ให้มีปัญหาน้อยกว่าเดิม ! “

แม้ว่าจะไม่ได้เจอกันมานานแต่ในตอนที่นั่งด้วยกัน ทั้งคู่ก็คุยกันเหมือนกับเพื่อนที่แยกจากกันแค่ไม่กี่วัน

จางเทีย ไม่ได้อธิบายว่าเขาเปลี่ยนหน้าตายังไง ดังนั้น รินฮาท จึงคิดว่ามันเป็นเพราะยาปลอมตัว
“ เกิดอะไรขึ้นเมื่อหลายเดือนก่อน ? “ - รินฮาท ถามออกมาหลังจากที่กินเบียร์จนหมดแก้วและบอกให้บาร์เทนเดอร์เอามาอีกแก้ว
“ มันเป็นกับดักมาตั้งแต่แรก พวกนั้นรอให้ข้าไปหาที่ตายที่นั่น โชคดีที่ข้าหนีมาได้หลังจากที่โดนทรมานไปมากมาย ! “

เพราะ รินฮาน รู้จัก จางเทีย ดี  เขาจึงไม่ถามว่า จางเทีย ยอมแพ้ให้กับปิศาจรึเปล่า เพราะมันเป็นไปไม่ได้ ใครก็ตามที่รู้จัก วังไฮหยวน จะรู้ว่านั่นคือแผนของปิศาจ

“ บัดซบ ! “ - รินฮาท ด่าออกมา  เขารู้ว่า จางเทีย พูดความจริงแต่เขาไม่สามารถเปลี่ยนสิ่งที่คนอื่นคิดได้ เพราะไม่ใช่ทุกคนที่รู้จัก จางเทีย  คนธรรมดาส่วนมากจะคิดตามคนอื่นและข่าวที่ออกมา ดังนั้นตอนนี้มีหลายคนในเซลเนสที่คิดว่า จางเทีย เป็นคนทรยศที่ยอมแพ้ให้กับปิศาจ พวกเขาเริ่มด่าและสาปแช่งอินทรีย์เซเลน  ข่าวที่ว่า จางเทีย ยอมแพ้ให้กับปิศาจนั้นถือว่าทำลายขวัญกำลังใจของกองทัพแนวหน้า แม้ว่าหลายคนจะไม่เชื่อแต่พวกเขาก็จะสงสัย ถ้าพวกเขาสงสัย จิตใจในการสู้ก็จะสั่นครอน  ผลก็คือพวกเขาไม่สามารถรักษาการต่อสู้ของตัวเองเอาไว้ได้ ถ้า จางเทีย แสดงสีหน้าแบบเดิม เขาจะต้องมีปัญหาอย่างแน่นอน
บาร์เทนเดอร์เอาเบียร์อีกแก้วมาให้ รินฮาท  เขาดื่มมันจนหมดอีกครั้งและโขกลงกับเคาเตอร์ – “ เจ้าจองห้องรึยัง ? “

“ ยัง ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะมาเร็วแบบนี้ ! “

“ ข้าไปเจอ ร้อยโทสตีเว่น ระหว่างทาง เขาบอกข้าเกี่ยวกับเจ้า ข้าเลยมาที่นี่ ! “
“ บังเอิญจริงๆ ระหว่างที่กลับข้าเห็นพวกนั้นโดนซอมบี้ไล่ล่า ข้าเลยช่วยพวกเขา ! “
“ ไปที่อื่นเถอะ ที่นี่มันเสียงดังไปหน่อย ! “
จางเทีย พยักหน้าก่อนจะดื่มเบียร์จนหมดแล้วทิ้งตังไว้  หลังจากนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืนเดินตาม รินฮาท ออกไป

“ ทำไมกองทัพจินหยวนถึงได้ถอยจากเซลเนส ? “
“ เจ้ารู้มั้ยว่าเกิดอะไรขึ้นที่เมืองโว ? “ - รินฮาท ถามกับ จางเทีย แทนที่จะตอบ

“ ไม่ใช่ว่ามันถล่มแล้วงั้นเหรอ ? “

รินฮาท เผยสีหน้าเคร่งขรึมออกมา – “ นักสู้ทั่วไปอาจจะไม่เข้าใจมันว่าเมืองโวถล่มได้ยังไง จริงๆแล้วซอมบี้ไม่ได้เจอการต่อต้านอะไรเลย การต่อสู้ที่แท้จริงเริ่มด้านในเมือง “

จางเทีย ช็อกกับข่าวนี้ – “ นี่มันบ้าอะไร ? “

“ ก่อนที่ซอมบี้จะมาถึง พันธมิตรได้เปลี่ยนกองทัพสองกองซึ่งดูแลด้านนอกเมืองบอกว่าให้เปลี่ยนกะ ทั้งสองกองทัพได้รับคำสั่งให้ไปดูที่ใหม่ บนสองที่นั้นมันมีพื้นที่ทับซ้อนกัน ในเขตทับซ้อนก็ยังมีอีกกองทัพที่เฝ้าอยู่ ดังนั้นจึงไม่มีกองทัพไหนถูกส่งไปป้องกันในพื้นที่นั้นช่วยแต่ซอมบี้บุกฝ่าจากจุดนั้นมา ในตอนที่ซอมบี้เข้ามาในเมือง ประตูเมืองทั้งสองถูกเปิดออกอยู่แล้ว เครื่องป้องกันตามกำแพงนั้นไม่ได้ผลเลยสักนิด ! “

“ กลุ่มสามตางั้นเหรอ ? “ - จางเทีย ไม่คิดว่าเมืองโวจะพังเพราะแบบนี้ ในตอนที่เขาจำการลอบฆ่าที่เขาเจอในตลาดนักล่าที่เมืองโวได้  จางเทีย ก็เข้าใจอำนาจของกลุ่มสามตาว่ามากกว่าที่เขาคิดเอาไว้
รินฮาท พยักหน้า – “ พันธมิตรเสียทั้งสามกองทัพไป หลังจากที่เมืองโวถล่ม  กองทัพสองหน่วยกว่าล้านคนที่ดูแลด้านอกเมืองก็โดนซอมบี้กว่า 4 ล้านตัวล้อม ในที่สุดก็เหลือไม่ถึงแสนคนที่ฝ่าวงล้อมมาได้ จากการสืบสวนแล้วเราพบว่าแผนที่การตรวจตานั้นถูกเปลี่ยน แผนที่เดิมทั้งสองกองทัพนั้นจะประจำการอยู่  จากการสืบสวนนี้คนรับผิดชอบตายไปแต่หัวหน้าของเจ้าหน้าที่ที่นั่นเป็นคนทำการตัดสินใจให้ส่งกองทัพทั้งสองหน่วยออกไป ลูกชายสองคนของเขาก็ตายในเองด้วยแต่นอกจาก นายพลโฮเวิด  พันธมมิตรไม่สามารถหาสายลับนั่นได้เลย หลังจากที่เมืองโวถล่มไปแล้ว กองทัพยานของจินหยวนก็ได้ออกจากเซลเนสไป ! “

หลังจากที่ได้ยินคำอธิบาย จางเทีย ก็รู้สึกขนลุก  ในเซลเนสสิ่งที่น่ากลัวไม่ใช่ปิศาจที่มาจากทางเหนือแต่เป็นอำนาจของกลุ่มสามตาในพันธมิตรที่รับใช้ปิศาจ อำนาจนั้นฝังลึกในทวีปไว่ราวกับหนอนในกระดูก กลุ่มสามตาเก่งเรื่องการซ่อนตัว เรารู้ว่ามีสายลับซ่อนตัวอยู่ในพันธมิตรซึ่งทำให้ทุกอย่างปั่นป่วนแต่หาไม่ได้ว่าเป็นใคร ? นี่แหละคือส่วนที่น่ากลัวจริงๆ
ดูจากกองกำลังร่วมของวังไฮหยวนและตระกูลใหญ่อื่นๆของจินหยวนที่ไม่สามารถหาพวกกลุ่มสามตาในเซลเนสได้ หลังจากที่เสียป้อมคริสตัลไป พวกนั้นก็ออกไปจากเซลเนสเพื่อไม่ให้กลุ่มสามตาปั่นหัวได้อีก
ในความเห็นของ จางเทีย  การที่จินหยวนถอยกลับไปนั้นบอกได้ว่าแนวหน้านั้นทนได้ไม่นานแน่
“ กองทัพยานของจินหยวนกลับไปแล้วเหรอ ? “

“ ไม่ แม้ว่ากองทัพยานของจินหยวนจะออกจากเซลเนสแต่พวกเขาก็ยังสู้เพื่อมนุษย์ พวกเขาไปช่วยอาณาจักรนอแมนส่งคนไปทางใต้ “
“ ดูเหมือนว่าแม้แต่อาณาจักรนอแมนก็เตรียมที่จะอพยพ เพราะยานระดับโทสะกว่าพันลำของจินหยวน ถ้าจุเต็มที่ พวกเขาสามารถย้ายคนได้กว่า 5 แสนคนในทีเดียว ถ้าแนวป้องกันในเซลเนสพังลงจริงๆ การย้ายคน 5 แสนคนนี้หมายความว่าลดกองทัพซอมบี้ลงหนึ่งกองทัพ  จากมุมมองนี้มันเป็นการกำจัดกองทัพซอมบี้ก็ว่าได้ บางทีกองทัพยานนั้นเลือกทำก็เพราะเหตุผลนี้ “

“ กองทัพซอมบี้หลายสิบกองแห่กันมาจากทางเหนือทำให้ผู้คนในแนวหน้าต้องตื่นตัว หลังจากที่รู้ว่าปิศาจสามารถผลิตซอมบี้ได้ มนุษย์ก็จะตัดแหล่งทรัพยากรนั้น อีกอย่างแล้วพวกเขาต้องจัดการพวกบัดซบกลุ่มสามตาจากแคมป์มนุษย์ไป ถ้ามนุษย์ไม่สามารถทำสองอย่างนี้ได้ พวกเขาก็ต้องแพ้ภัยตัวเอง “
“ หลานหยุนซี อยู่ไหน ?”

“ ก่อนที่กองทัพยานจินหยวนจะออกจากเซลเนส  หลานหยุนซี ได้ถูกส่งกลับไปที่วังไฮหยวน ข้าไม่รู้ว่าทำไม หัวหน้าของกลุ่มยานตอนนี้คือ หวังฮู ! “

จางเทีย ประทับใจในตัว หวังฮู เล็กน้อย  หลังจากที่รู้ว่า หลานหยุนซี ปลอดภัย  จางเทีย ก็ผ่อนคลายขึ้น

“ มีคนของจินหยวนยังอยู่ที่เซลเนสอีกรึเปล่า ? “
“ แค่ไม่กี่คน มีคนบอกว่าพวกที่เหลืออยู่คือชนชั้นสูงและผู้แข็งแกร่งมากกว่าระดับ 10 จากตระกูลใหญ่แต่ทุกคนถอดชุดกองทัพตัวเอง พวกเขาอยู่ในเซลเนสไม่ใช่ในฐานะทหารแต่เป็นพาลาดิน ไม่มีใครรู้เบาะแสของพวกนี้ “

“ แล้วคนของรัฐฮูนล่ะ ? พวกเขามีฐานเครื่องร่อนนอกเมืองม็อกโก พวกเขาหนีไปได้รึเปล่า ?”
เพราะรัฐฮูนนั้นเป็นประเทศเล็กๆ  รินฮาท จึงคิดสักพักก่อนจะตอบกลับ – “ ตอนที่ซอมบี้ได้บุกเข้าที่ป้อมคริสตัล  ฐานยานและเครื่องร่อนระห่างป้อมคริสตัลกับเมืองได้อพยพกันแล้ว พวกเขาอาจจะไปที่ฐานส่วนหลัง ต้องขอบคุณป้อมคริสตัลนี่ถ่วงพวกกองกำลังหลักซอมบี้ไว้ได้ ฐานพวกนั้นจึงทำการอพยพกันได้อย่างรวดเร็ว ! “

“ ในตอนที่ข้าตกอยู่ในกับดักครั้งที่แล้ว  ฟอร์ด อาจจะร่วมมือกับกลุ่มสามตา ชายคนนั้นยังอยู่ที่นี่รึเปล่า ? “ - จางเทีย ถามพร้อมกับกัดฟันด้วยความหงุดหงิด – “ ชายคนนั้นต้องรู้รายละเอียด “

“ ฟอร์ด ตายแล้วหลังจากที่เจ้าโดนปิศาจจับไป ! “
“ ตาย ? “

“ ใช่ ตาย เรื่องของเจ้ามันส่งผลอย่างมาก ดังนั้นพันธมิตรจึงส่งคนไปสอบสวนเรื่องนี้ เพราะความเครียด ฟอร์ด จึงฆ่าตัวตาย แน่นอนว่าเรารู้ว่าคนอย่างเขานั้นอาจจะโดนสั่งให้ฆ่า ! หลังจากที่ ฟอร์ด ตายไป พันธมิตรก็ไม่รู้อะไรอีกเลย ! “

หลังจากที่ได้ยินข่าวนี้ จางเทีย ก็ยกเลิกแผน ตามแผนก่อนหน้านี้ จางเทีย กลับมาที่ม็อกโกเพื่อตรวจสอบ ฟรอ์ด เพื่อที่จะจับสายลับของกลุ่มสามตาจากพันธมิตร หลังจากที่เส้นทางนี้โดนตัดแล้ว  จางเทีย ก็ไม่มีวิธีอื่นอีก
“ แล้วพันธมิตรเป็นยังไง ? ใครรับผิดชอบ ?”

“ ตั้งแต่เมืองโวถล่ม พันธมิตรก็เป็นแค่ฉายา ตอนนี้เจ้าไม่สามารถหาใครในสถานนี้ได้ยกเว้นแค่ป้ายชื่อ “

หลังจากที่รู้สถานการณ์ตอนนี้ของพันธมิตร  ใจของ จางเทีย ก็มีอารมณ์มากมาย – “ แล้วกองทัพที่เหลือในเซลเนสล่ะ ?”

“ มีทหารอีกกว่า 2 ล้านคนในม็อกโกและสลาดิค หลังจากที่ยานที่เหลือออยู่และกองทัพภาคพื้นดินอพยพไปที่ฐานด้านหลัง กองทัพก็จับจองที่ดินตามแนวหน้าแล้วลงมือตามที่ตัวเองต้องการ ! “
“ อ่ะ ? มันจะไม่วุ่นวายรึไง ? “

“ เกือบจะเป็นแบบนั้น สถานการณ์ในม็อกโกน่ะซับซ้อนกว่านั้น เพราะมีกองทัพมากมายมารวมตัวกัน มันจึงซับซ้อนทีจะร่วมมือกันได้ ในทางกลับกันสลาดิคนั้นดีกว่า มีกองทัพของนอนแมนสองกองที่นั่น แม้ว่าจะเสียหายมาเยอะแต่มันก็ไม่ร้ายแรง หลังจากที่เมืองโวถล่ม เจ้าชายของเราก็เข้าดูแลสลาดิค บางประเทศถูกเชิญให้ออกจากสลาดิคไป !”
จางเทีย รู้ว่ากองทัพของประเทศอื่นๆอาจไม่สามารถไล่ออกจากเมืองไปได้หากไม่ใช้กำลัง เพราะกองทัพของนอแมนมีจำนวนมากกว่าในสลาดิค แน่นอนว่าพวกเขาจึงควบคุมสถานการณ์ทั้งหมดของเมืองได้โดยใช้กำลังแต่พวกเขาก็จำเป็นต้องจ่าย จากสถานกาณณ์ตอนนี้ กองทัพที่มาจากประเทศต่างกันในแนวหน้าอาจจะดำเนินการด้วยตัวเอง ถ้าไม่ใช่เพราะพวกปิศาจที่อยู่ตรงหน้าแล้ว พวกเขาอาจจะสู้กันเองก็ได้
แม้ว่าจะไม่ได้สู้กันเองแต่กองทัพของประเทศต่างๆก็ต้องสงสัยกันเอง พวกเขาจะกลัวกันเอง เพราะการมีอยู่ของพวกกลุ่มสามตา แต่ละกองทัพจึงกลัวว่าอีกฝ่ายจะเป็นพวกกลุ่มสามตาที่จะมาโจมตีพวกเขาในตอนวิกฤต ดังนั้นหัวหน้าแต่ละกองทัพจึงต้องไต่ร่ตรองอย่างดี กองทัพแบบนั้นจะมาร่วมมือกันสู้กับปิศาจอย่างจริงใจได้ยังไง ?
หลังจากที่ได้ยินคำตอบของ รินฮ่าท  จางเทีย ก็เข้าใจถึงการอพยพของจินหยวน  กองกำลังหลักที่ยินหยวนส่งมาคือกองทัพยานซึ่งไม่สามารถที่จะสู้กับปิศาจได้หากขาดการสนับสนุนภาคพื้นดิน กองทัพยานน่ะต้องพึ่งกองทัพภาคพื้นดินในด้านเสบียงและการป้องกัน ดูจากสถานการณ์ตอนนี้ในเซลเนส เมื่อมีปัญหาใดๆเกิดขึ้นกับการร่วมมือภาคพื้นดิน ทั้งกองทัพยานของจินหยวนอาจจะโดนทำลาย กองทัพยานจึงต้องออกไปจากแนวหน้าเพราะความกังวลจากปัญหาทุกด้าน

หลังจากที่คิดถึงปัญหาในมุมมองที่สูงกว่าเดิม จางเทีย ก็เกือบจะคิดออกว่าทำไมเขาไม่คิดให้เร็วกว่านี้ สำหรับพวกที่ทำการตัดสินใจของจินหยวน พวกเขายอมส่งกองทัพมาโดยแบกรับความรับผิดชอบแต่พวกเขาไม่ต้องการให้เหล่าคนจีนต้องมาเสียงชีวิตที่นี่ที่ไกลจากจินหยวน  การตัดสินใจแบบนั้นอาจจะดูโหดร้าย สำหรับกองทัพยานที่ส่งไปช่วยอาณาจักรนอแมนอพยพคน  พวกเขาอาจจะมีการแลกเปลี่ยนเบื้องหลังก็ได้

“ ยานกี่ลำที่มีให้ใช้ในเซลเนสตอนนี้ ? ตอนที่ข้าหนีมาจากแคว้นไททานิค ข้าเห็นสุสานปิศาจทางเหนือของเซลเนส พวกมันสร้างซอมบี้ได้จำนวนมากในแต่ละวัน ถ้าไม่ทำลายมัน ม็อกโกและสลาดิคอาจทนได้ไม่นาน ! “
“ แม้ว่าหอคอยสุสานด้านนอกเมืองโทคิจะถูกทำลายแต่กองทัพยานของพันธมิตรเองก็เสียหายอย่างมาก ใน 2 เดือนที่ผ่านมาพวกเขาแพ้ให้กับกองทัพปิศาจปีกอยู่หลายครั้งและเสียยานไปจำนวนมาก ตอนนี้พลังของกองทัพยานฝ่ายมนุษย์อ่อนแอลงอย่างมาก ผลก็คือมนุษย์น่ะไม่มีการโจมตีทางอากาศเลย มียานแค่ 3,000 ลำในเซลเนสตอนนี้  ยานทุกลำพร้อมที่จะอพยพคนในอาณาเขตรัฐซิมเบียน พวกเขายืนยันความปลอดภัยทางอากาศด้านหลังม็อกโกและสลาดิคได้และให้การสนับสนุนทางอากาศที่จำกัดสำหรับทั้งสองเมือง พวกเขาน่ะผ่านเส้นแนวกลางของเซลเนสไม่ได้ด้วยซ้ำตอนนี้ ! “ – รินฮาท อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ

สงครามมันแค่เพิ่งเริ่มต้นแต่ปิศาจและกลุ่มสามตาก็ได้เปรียบอย่างมากแล้ว นี่ทำให้คนเราต้องรู้สึกสิ้นหวัง
จางเทีย เงียบไป เขาไม่คิดว่าเซลเนสจะกลายเป็นแบบนี้ในเวลาแค่ไม่กี่เดือน เทียบกับปิศาจที่เป็นหนึ่งเดียวกันแล้ว พลังของพันธมิตรนั้นไม่ใช่แค่อ่อนแอลงแต่ยังแยกตัวกันด้วยซึ่งยากที่จะเป็นหนึ่งเดียวกัน แม้ว่าจะร่วมมือกันแต่พวกเขาก็ต้องเจอกับปัญหามากมาย การมีอยู่ของพันธมิตรนั้นคือสัญลักษณ์ของความล้มเหลวของพันธมิตรแห่งแรกของทวีปไว้ในสงครามครั้งที่สาม
จางเทีย ไม่รู้ว่าประเทศที่เหลือจะสู้กับปิศาจยังไง เขาคิดหาทางที่ได้ผลไม่ออก จางเทีย ได้แต่มองในแง่ร้ายเกี่ยวกับสถานการณ์ในเซลเนส ที่เขากังวลมากที่สุดคือม็อกโกและสลาดิคจะทนไปได้นานแค่ไหน ?
รินฮาท พา จางเทีย มายังอพาทเมนต์ หลังจากที่มาถึงชั้นบนสุดของอพาทเมนต์ 4 ชั้น  รินฮาท ก็ได้โยนกุญแจให้กับ จางเทีย – “ พวกคนรวยเคยอยู่ที่นี่มาก่อน หลังจากที่พวกเขาหนีแล้ว บ้านนี้เลยว่าง คนที่อยู่ที่นี่ล้วนแต่เป็นเจ้าหน้าที่ ทหารทั่วไปไม่กล้าที่จะมาก่อเรื่องที่นี่ เอากุญแจไป ตอนที่กลับมาเมืองม็อกโกหลังจากนี้ก็อยู่ที่นี่ซะ ข้าจะได้หาเจ้าได้ง่ายๆ ! “

เพราะนี่เป็นแค่บ้านซึ่งไม่สำคัญสำหรับ จางเทีย และ รินฮาท  จางเทีย จึงไม่ได้พูดอะไรและรับกุญแจไป

“ เจ้าจะไปร่วมกับกองทัพยานของนอแมนและจินหยวนเหรอ ? ถ้าเจ้าต้องการจะไปที่นั่น ข้าเตรียมให้เจ้าได้ เจ้าออกจากม็อกโกได้ในวันพรุ่งนี้ ! “

“ ไม่ ข้ายังไม่อยากออกไปจากทีนี่ ข้ารู้สึกดีกับการอยู่คนเดียว อีกอย่างแล้วข้ายังไม่ได้เอาคืนตระกูลซีเนล ข้ายังไม่ได้ฆ่าพวกปิศาจบัดซบ ! “ – ในตอนที่ จางเทีย พูดถึงตระกูลซีเนล สายตาเขาก็เป็นประกายน่ากลัวขึ้นมา

รินฮาท หัวเราะออกมาก่อนจะถาม จางเทีย – “ เจ้าะระดับเท่าไหร่แล้ว ? “

“ ระดับ 11 ขั้น 5 ! “- จางเทีย บอกออกไปตามจริง

“ ดี เจ้าก้าวข้ามข้าได้จริงๆ ข้าแค่ระดับ 10... “ - รินฮาท หัวเราะออกมากพร้อมกับตบไหล่ของ จางเทีย แล้วยื่นมืออีกข้างให้ – “ มาสิ ให้ข้าลองหน่อยว่าเจ้าโกหกข้ารึเปล่า “

จางเทีย ยื่นมืออกไปแล้วทนแรงบีบของ รินฮาท เอาไว้ แค่ไม่กี่วินาที รินฮาท ก็อึดอัดออกมาแล้วถอยกลับไปสามก้าว หน้าของเขาซีดลงไปเล็กน้อย จนสิบวินาทีต่อมาเขาจึงได้สติขึ้นมานิดๆ
“ เจ้าใช้แรงไปเท่าไหร่ ?” - รินฮาท ถามกับ จางเทีย
“ 80% ! “

“ ไม่เอาน่า บอกความจริงข้ามา ! “ - รินฮาท มองไปที่ จางเทีย ด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

จางเทีย ยิ้มแบบข่มขื่นพร้อมกับเกาหัว – “ 60% ! “

“ ฮาฮา...ต้องแบบนี้สิ ดูเหมือนว่าแคมป์เหล็กโลหิตของเราจะมีคนแข็งแกร่งแน่นอน ! “ – รินฮาท ไม่ได้รังเกียจเลยสักนิด เขาหัวเราะออกมา

“ หัวหน้า เจ้าอิจฉารึไง ? “ - จางเทีย เรียกเหมือนกับเป็นสมาชิกของแคมป์เหล็กโลหิต

“ ตูดข้าสิ คนมากมายที่เก่งกว่าข้าบนโลก ข้าจะไปอิจฉาพรสวรรค์พี่น้องข้าได้ยังไง ? แน่นอน ข้าดีใจกับเรื่องนี้ ข้าคิดว่าเจ้าอาจจะเป็นอัศวินได้ “ - รินฮาท จับที่หนวดตัวเองแล้วมอง จางเทีย ด้วยสีหน้าจริงจัง – “ บางทีข้าอาจะให้สายฟ้าผ่าข้าในอีกไม่กี่วันก็ได้  ข้าจะดูว่าข้าจะแข็งแกร่งแบบเจ้าได้รึเปล่า ! “

ทั้งสองคนพากันหัวเราะออกมา
...
หลังจากที่คุยกันเสร็จ จางเทีย ก็ไปส่ง รินฮาท ลงบันได จน รินฮาท กลับออกไป  จางเทีย จึงดูที่มือตัวเองแล้วพึมพำออกมา – “ ข้าขอโทษด้วยหัวหน้า จริงๆแล้วข้าใช้แรงไปแค่ 30% ... “
...
หลังจากที่เปิดประตูห้องแล้วเข้าไป จางเทีย ก็พบว่าข้างในถูกจัดไว้อย่างดี ดูเหมือนว่าไม่นานมานี้จะไม่มีคนมาอยู่ นอกจากของตกแต่งและโซฟาซึ่งดูหรูนิดๆ มันไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย

หลังจากที่อาบน้ำแล้ว จางเทีย ได้นอนลงไปที่เตียงโดยเอามือหนุนหัว เขามองดูโคมไฟคริสตัลที่ไม่ได้เปิด จากนั้นเขาจึงเริ่มคิดแผนต่อไปของเขา

หลังจากที่รู้ว่าคนที่เขาห่วงนั้นปลอดภัย จางเทีย ก็วางใจ เขาไม่คิดว่าสถานการณ์ตอนนี้ของเซลเนสจะเป็นขนาดนี้แต่เขาพยายามที่สุดแล้ว  จางเทีย ไม่ต้องรับความผิดอะไร เขาไม่ใช่พระเจ้า  เขารู้สึกโล่งใจแทน ‘ ตอนนี้กองทัพยานจินหยวนย้ายออกจากที่นี่ไปแล้ว  ข้าเป็นอิสระที่นี่ ไม่ว่าแนวป้องกันจะทนได้นานแค่ไหน ข้าแค่ต้องคิดเรื่องการเพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเองในเซลเนสและสร้างปัญหาให้ตระกูลซีเนล ไม่ว่าสถานการณ์มันจะย่ำแย่แค่ไหนแต่ข้าก็หนีไปได้ในตอนวิกฤต ‘

‘ บางทีข้าอาจจะเป็นพาลาดิน ! ในช่วงนี้ข้าต้องหาโอกาสที่จะบินไปตามทะเลเพื่อเพิ่มพลังงานให้ Castle of Black Iron ‘

‘ ถ้าข้าฆ่าปิศาจปีกได้ ข้าก็จะได้ Fruit of Source  หากข้าหากฐานของพวกปิศาจปีกได้ ‘
‘ อีกอย่างแล้วข้าแค่มีเหยี่ยวสายฟ้ากับหนูไว้ใช้เข้าสิง จนตอนนี้ข้ายังไม่เห็นผลข้างเคียงของทักษะการควบคุมทางวิญญาณกับร่างกาย ดูเหมือนว่าข้าต้องหาสัตว์มากกว่าเดิมเพื่อรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ‘
เมื่อคิดถึงการเข้าสิง ความคิดแปลกๆก็เกิดขึ้นในหัวของ จางเทีย  จากนั้น จางเทีย ก็ตื่นเต้นขึ้นมา ‘ ตามสูตรป่าเถื่อนแล้ว สิ่งมีชีวิตทุกอย่างสามารถเข้าสิงได้ยกเว้นแค่มนุษย์ มัน..มันหมายความว่าข้าสามารถสิงปิศาจได้ด้วย... ‘
...
จางเทีย ตื่นเต้นกับความคิดนี้อย่างมากจนสุดท้ายเขาก็หลับไป....

จางเทีย หลับอย่างกับหมูตาย หลังจากที่ตื่นขึ้นมาเขาทำอาบน้ำล้างหน้าก่อนจะออกมาจากที่พัก เขาเตรียมที่จะออกจากเมืองม็อกโกไปแต่เขาพบว่ามันสายแล้วที่จะออกไปผ่านประตูเมืองเพราะมันถูกปิดไปแล้วพร้อมกับบรรยากาศด้านในและด้านนอกเมืองก็ดูเครียดกว่าเมื่อวานเยอะ

เมื่อมองออกไป จางเทีย เห็นซอมบี้กว่าล้านตัว  เขารู้สึกตัวชาขึ้นมาทันที

ที่ไกลออกไปพวกซอมบี้เริ่มเดินหน้ามายังเมืองม็อกโก ตอนแรกซอมบี้แค่เดินร่อนไปเรื่อย สุดท้ายแล้วพวกมันก็เดินเข้าทางเมืองอย่างกับคลื่นยักษ์พร้อมกับเสียงเท้าที่ดังสนั่น....
 

รีวิวผู้อ่าน