px

เรื่อง : Castle of Black Iron
Chapter 630: เขตยิงซูประเทศไทเซีย


Chapter 630: เขตยิงซูประเทศไทเซีย
เขตยิงซู ประเทศไทเซีย ทวีปตะวันออก....
ในฐานะที่เป็นประเทศที่แข็งแกร่งที่สุดและเป็นหลักของสังคมมนุษย์ในยุคนี้ เขตยิงซูมีคนกว่าพันล้านคน ทุกคนใฝ่ฝันที่จะไปที่นั่น ไทเซียนั้นแทนสังคมชั้นสูงและอำนาจในยุคนี้  ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาจะบอกว่าทวีปตะวันออก --- ไทเซีย --- นั้นเป็นเหตุผลหลักที่คนรอดมาได้หลังจากภัยพิบัติ

เกือบทุกประวัติศาสตร์ได้บอกว่าหากไม่มีไทเซียรึไม่มีคนพวกนี้ ใครก็ตามก็รู้ได้อย่างชัดเจนว่ายุคนี้คงจบเพราะคนของที่นี่นั้นคือผู้เชี่ยวชาญแห่งยุคนี้ที้แท้จริง

ในยุคนี้อำนาจของคนที่นี่นั้นได้สร้างความหวังสูงที่สุดให้กับการรอดของมนุษย์ทุกคน

ถ้าไม่คิดจากตำนานที่เกิดขึ้นมานานในประวัติศาสตร์มนุษย์เกือบ 6,000 ปี ด้วยภัยพิบัติที่มีมาแต่เริ่มต้น มีกว่า 5,000 ปีที่บอกกันว่าอยู่ที่ฝั่งซ้ายของโลกและอีก 900 ปีอยู่ที่ฝั่งขวา  ในตำนานกว่า 6,000 ปีนั้นไม่มีประเทศไหนที่เทียบกับไทเซียได้เลย จริงๆแล้วไม่มีประเทศรึพันธมิตรที่เทียบกับไทเซียนได้เลยสักนิดที่เคยมีบันทึกไว้ในหนังสือ พวกประเทศและพันธมิตรที่มีอำนาจในหนังสือนั้นไม่ต่างอะไรกับแมงเม่าที่อยู่ต่อหน้าพระจันทร์อย่างไทเซีย

ไทเซียนั้นมีอำนาจและรุ่งเรืองเกินกว่าที่คนธรรมดาจะคาดถึง ผลก็คือพวกที่ไม่สามารถคิดถึงอำนาจและความรุ่งเรืองนั้นมีแต่จะโหยหามัน ในตอนที่สงครามมาถึง พวกเขาเริ่มลนลานในการอพยพเข้ามาในไทเซีย เขตยิงซูในฐานะเขตนอกนั้นมีผู้อพยพจำนวนมากโดยเฉพาะเมืองชายแดนซึ่งดูคึกคักอย่างมาก
...
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกของ จางหยาง ที่มายังเขตแดนของเมืองฟู่ไห่ แต่ละครั้งที่เขามาที่นี่ จางหยาง จะรู้สึกช็อกแม้ว่าเขาจะเคยเห็นความเจริญในเขตไฮหยวนมาก่อนก็ตาม

ฟู่ไห่นั้นคือ 1 ในเมืองของเขตจิงซู มันไม่ได้มีขนาดใหญ่ที่สุด มันอยู่แค่ระดับกลางแต่ จางหยาง ก็เกือบจะสติหลุดในตอนที่มาที่นี่เป็นครั้งแรก

ท่าเรือแห่งนี้ยาวกว่า 70 ไมล์ มีท่าจอดเรือกว่า 20,000 แห่งไม่ว่าจะเล็กรึใหญ่ ในท่าสินค้านั้นมีเครื่องจักรขนาดใหญ่มากมาย เมื่อเดินตามท่าเรือแห่งนี้ เขาจะรู้สึกได้ว่าราวกับเดินในป่าที่เต็มไปด้วยเรือและสินค้า ที่นี่ จางหยาง เห็นกับเรือที่น้ำหนักมากกว่า 1 ล้านตัน

มีรางรถไฟในท่าเรือที่ต่อจากท่าทางใต้ไปยังทางเหนือ ใช้เวลา 1 ชม.กว่าจะเดินทางจากทางใต้สุดมายังทางเหนือสุดด้วยรถรางนี้

ท่าเรือฟูไห่นั้นมีขนาดใหญ่อย่างมาก เมืองมันเองก็เช่นกัน  หลังจากที่มายังไทเซียและไปรวบรวมข้อมูลจากทุกด้าน  จางหยาง ก็ได้ประทับใจในประเทศแห่งนี้แล้ว มันมีขนาดใหญ่เกินไป

จางหยาง ไม่รู้ว่าประเทศนี้มันใหญ่แค่ไหนเพราะทั้งทวีปตะวันออกรวมไปถึงเขตที่เป็นสีดำและเทาในแผนที่นั้นเป็นส่วนของไทเซีย ตามคนจีน[1] ของที่นี่บอกมา ทวีปตะวันออกนั้นคืออาณาเขตของไทเซีย
ในอาณาเขตของประเทศ เขตอมตะทั้ง 9 คือเขตที่เจริญที่สุด  ตามมาด้วยเขตชั้นบน 36 เขตและ 72 เขตในลำดับต่อมา ป่านั้นมีเขตระดับกลางและเล็กมากมายที่คนไปรวมตัวกัน

เงื่อนไขพื้นฐานในการเป็นเขตขนาดใหญ่ของไทเซียนั้นคือเขตนั้นต้องมีเมืองชั้น A อย่างน้อย 108 เมือง นี่ไม่รวมเงื่อนไขและข้อกำหนดอื่นๆ
หลังจากที่อยู่ในไทเซียมาหลายเดือน  จางหยาง ก็ยังไม่รู้ว่าไทเซียนั้นมีระบบแบ่งชั้นเมืองกันยังไง เขาได้ยินแค่ว่าแม้แต่ยีแยงในจินหยวนก็แทบจะไม่ผ่านข้อกำหนดให้เป็นเมืองชั้น A ที่นี่ได้ สำหรับเงื่อนไขอื่นๆแล้วมันคงไม่ผ่านข้อกำหนด

ในทวีปไว่ อาณาจักรนอแมนได้ทำตามรูปแบบของไทเซียในทุกด้านรวมถึงระบบสังคม,การแบ่งชั้น,การแบ่งชนชาติ....

ผู้ก่อตั้งอาณาจักรนอแมนซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในทวีปไว่กลายเป็นคนธรรมาในไทเซีย ในสายตาของคนส่วนมากในไทเซียที่รู้จักอาณาจักรนอแมน ผู้ก่อตั้งอาณาจักรนอแมนเป็นแค่คนฉลาดที่ปกครองคนหลังจากที่เดินทางมาที่ไทเซียเพื่อเรียนรู้ระบบ มีคนแบบนี้มากมายคล้ายๆกันในทวีปอื่นๆและที่ยังไม่พัฒนา  แม้แต่ตอนนี้ก็ยังมีคนจำนวนมากที่มายังไทเซียด้วยความคิดแบบเดียวกัน พวกเขาหวังว่าจะหาทางลัดในการก่อตั้งดินแดนของตัวเองเพื่อที่พวกเขาจะได้ร่ำรวยและมีสิทธิเหนือกว่าผู้อื่นในตอนที่กลับไปยังบ้านเกิด

สำหรับคนจีนที่อาศัยอยู่ในทะเลมานาน ในตอนที่ จางหยาง มายังไทเซีย เขาต้องปรับตัวเรื่องเกียรติและความภูมิใจของคนจีน หลังจากที่ไทเซียได้พัฒนาขึ้นอย่างมาก พวกคนจีนที่หัวดื้อด้านนั้นจะเรียกตัวเองว่าเป็นพระเจ้า

ในยุคนี้การเป็นอยู่ของคนจีนในไทเซียนนั้นมีสิทธิที่จะคิดแบบนั้นได้

เอาเขตยิงซูเป็นตัวอย่าง ในฐานะเขตใหญ่ ระยะทางระหว่างทางใต้มายังทางเหนือและทางตะวันออกมายังตะวันตกนั้นมากกว่า 20,000 ไมล์ พื้นที่ของยิงซูเพียงอย่างเดียวก็เกินกว่าอาณาเขตของตระกูลแบล็คซอนทั้งหมด บวกกับพื้นที่ของเกาะและทะเลของยิงวูแล้ว ขนาดของยิงซูเพียงอย่างเดียวนั้นมากกว่าตระกูลแบล็คซอนหลายเท่า

แน่นอนว่ายิงซูเองก็คือว่าเจริญอย่างมากในฐานะเขตชั้นสูง
ยิงซูแบ่งออกเป็น 7 เขตย่อยซึ่งรวมไปถึงเมืองชั้น A 130 เมืองและเมืองชั้นต่ำกว่านั้นกว่าพันเมืองและเมืองขนาดเล็กกว่าหมื่นเมือง   17 ปีก่อน พวกเจ้าหน้าที่เขตได้ทำการคำนวณประชาการในยิงซูคร่าวๆโดยคิดจากการใช้เกลือ ตามการสำรวจแล้วมีคนจีนประมาณ 6.7 พันล้านคนที่อยู่ในยิงซู ดังนั้นที่นี่ก็ต้องมีคนจีนมากกว่า

แต่มันก็แค่เขต เราลองคิดภาพถึงความเจริญและอำนาจได้ว่าเป็นประเทศไทเซีย

หลังจากที่มายังยิงซูแล้ว อย่างแรก จางหยาง ได้ซื้อแผนที่อาณาเขตของไทเซียซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 4 ตร.ม.. มันเป็นเวอร์ชั่นแบบเล็ก บนแผนที่ จางหยาง เห็นว่าส่วนใต้สุดมายังส่วนทางเหนือสุดไม่นับรวบพื้นที่สีเทาแล้วคือ 380,000 ไมล์

มันหมายความว่าต้องใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งปีด้วยการเดินทางโดยรถไฟถึงจะเดินทางผ่านระยะทางนี้ได้ด้วยความเร็ว 100 กม./ชม. นี่นับรวมการเติมน้ำและถ่าน 2 ชม.ในแต่ละวัน  จริงๆแล้วหลายคนเคยลองมาแล้ว  จางหยาง ได้ยินมาว่ามันต้องใช้เวลาอย่างน้อย 20 เดือนกว่าจะเดินทางจากส่วนล่างสุดมายังส่วนบนสุดได้

แต่บนแผนที่ จางหยาง พบกว่าระยะทางระหว่างส่วนทางตะวันออกและตะวันตกนั้นประมาณ 1/3 ของอันก่อนหน้า
จางหยาง เริ่มรู้สึกวางใจขึ้นมา เขาไม่เคยรู้สึกวางใจในตอนที่เขาอยู่ที่แบล็คฮ็อต ในตอนที่เขากลับไปยังเขตไฮหยวน เขารู้สึกวางใจขึ้นนิดหน่อยแต่เขาไม่ได้สบายใจซะทีเดียว ในตอนที่เขาก้าวเข้ามายังไทเซียและรู้ว่ามีคนจีนเป็นพันล้านอยู่ที่นี่ มันก็ทำให้ จางหยาง รู้สึกวางใจขึ้นมาอย่างมาก ในขณะเดียวกันความร้อนรนในใจที่ร่ำร้องมากว่า 20 ปีก็ได้หายไปทันทีในตอนที่เขามายังที่แปลกๆแห่งนี้
จางหยาง ตระหนักได้กว่าไทเซียนั้นเป็นที่ที่คือต้นตอของตระกูลจางและเป็นที่สำหรับตระกูลจางพัฒนาตัวเองขึ้นมา

ตามที่ จางปิง ลุงของพวกเขาเคยพูดไว้ว่าที่นี่คือที่ที่พวกเขาควรจะมา
...
จางหยาง เดินมองดูท่าเรือพยัคฆ์ 08 พร้อมกับคนอื่นๆ หลังจากที่ได้รับข้อความแล้ว จางหยาง รู้ว่าเครื่องไอน้ำที่หนัก 3-5 หมื่นตันในที่สุดก็ได้มาถึงที่ท่าเรือพยัคฆ์ 08  ในท่าเรือแห่งนี้ เรือน้ำหนักต่างกันจะจอดที่ท่าเรือต่างกัน  ท่าเรือต่างนั้นก็หมายถึงความลึกและขนาดของท่าเรือด้วย ในท่าเรือที่ใช้คำว่าหนู มันจะเป็นเรือหนัก 1 ล้านตัน พวกเครื่องจักไอน้ำซึ่งหนักกว่า 500,000 ตันล้วนแต่ไปจอดที่ท่าเรือที่ใช้คำว่าวัว

ใช้เวลากว่า 2 เดือนกว่าครอบครัวจางจะเดินทางจากทวีปไว่มายังเขตยิงซูโดยยานเมื่อปีที่แล้ว แม้ว่ายานจะเร็วและสะดวกสบายแต่มันก็ไม่อาจจะจุคนรึสิ่งของมากได้มากมายนัก ดังนั้น จางหยาง จึงตัดสินใจที่จะพาคนมาในปีที่แล้ว คนกลุ่มที่สองนั้นมาถึงในวันนี้ พวกเขามาโดยเรือไอน้ำหนักกว่า 36,000 ตันซึ่งกลุ่มจินวูได้ซื้อมา หลังจากที่เดินทางในทะเลมากกว่า 9 เดือน ในที่สุดพวกเขาก็ได้มาถึงท่าเรือฟู่ไห่ในเช้าวันนี้ ดังนั้น จางหยาง จึงได้มารอที่นี่พร้อมกับคนอื่นๆ

นอกจากพวกคนที่เชื่อใจได้จากองค์กรจินวูและญาติของพวกนั้น มันยังมีของที่ จางหยาง ได้ให้คนเอามาจากเขตไฮหยวนด้วยรวมไปถึงอุปกรณ์ที่ใช้ในบริษัทต่อยานของพ่อ  ยังไงซะพวกนี้ต่างก็เป็นของมีค่า  จางหยาง จึงให้พวกนั้นจัดเก็บแล้วส่งมาที่นี่

หลังจากที่รอที่ท่าเรือมานานกว่า 2 ชม.  จางหยาง ก็ยังไม่เห็นเรือของตนแต่พวกเรืออื่นๆนั้นได้มาจอดเทียบท่าแล้ว

ในตอนที่เรือได้จอด ผู้โดยสารจำนวนมากต่างก็พากันร้องออกมาอย่างดีใจ  สำหรับพวกนั้นแล้วนี่มันเหมือนกับกำจัดความขมขื่นและพบความสุขใหม่ ทุกอย่างที่นี่นั้นถือว่าดีสำหรับคนพวกนี้

ตอนนั้นเองพวกคนที่มายิงยิงซูโดยเรือไอน้ำอย่างน้อยก็ไม่ได้จนหากดูจากเสื้อผ้าพวกเขา
...
“ พ่อ นั่นอะไร ? “ – เด็กหญิงคนหนึ่งอายุประมาณ 11 ปีในกระโปรงสีสวยเงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับชี้ไปยังวัตถุบนท้องฟ้าในตอนที่เดินผ่าน จางหยาง

“ สาวน้อย แน่นอนว่ามันเป็นยาน ! ในตอนที่เราตั้งรกราก นายท่านคิดว่าจะเพิ่มยานเข้ามาในการเดินทาง มีคนบอกว่าไทเซียนั้นมีขนาดใหญ่ มันจะไม่สะดวกสำหรับเราอย่างมากหากเดินทางโดยไม่มียาน ! “ – ผู้หญิงอ้วนคนหนึ่งบอกกับเด็กสาว – “ ข้าไม่คิดว่าสาวน้อยจะพูดภาษาจีนได้ดีแบบนี้หลังจากเรียนมันมาแค่สองปี ! “

“ ไม่ ลิซ่า นั่นไม่ใช่ยาน มันไม่มีถุงอากาศ.. “ – เด็กสาวอุทานออกมา

“ อะไรกัน ? “

บางคนเงยหน้าขึ้นไปมองและต้องอึ้งทันที พวกเขาถึงกับตะโกนออกมา – “ ยานบินได้โดยไม่มีถุงอากาศได้ยังไง ? “

หลังจากที่ได้ยินเสียงตะโกนพวกนั้น คนมากมายก็หยุดเดินและเงยหน้าขึ้นไปมองบนฟ้ารวมไปถึง จางหยาง ด้วย

นี่คือวัตถุยาวกว่า 200 ม.ที่ร่อนอยู่บนฟ้าสูงไปประมาณ 1,000 ม. วัตถุนั้นต่างจากยาน อีกอย่างแล้วมันไม่ได้มีถุงอากาศรึปีก เมื่อมองจากพื้นมันคือเรือ ด้วยความต่างจากเรือธรรมดาคือมันลอยอยู่บนฟ้า

หลังจากที่มายังยิงซูได้หลายเดือน นี่เป็นครั้งที่สองที่ จางหยาง ได้เห็นเรือบิน ในตอนที่เขาเห็นมันครั้งแรก เขาเองก็อึ้งแต่ในตอนที่เขาเกือบจะชินกับมันแล้วแต่เขาก็ยังคงสนใจในมันอย่างมาก เขาประทับใจกับพลังการพัฒนาของประเทศไทเซีย

รีวิวผู้อ่าน