Chapter 635: เสียใจ
ในวันที่ 23 มีนาคม หลังจากการต่อสู้ดุเดือดไม่สิ้นสุด 8 วัน เมืองม็อกโกนั้นปกคลุมไปด้วยเลือดและเศษเนื้อ
ตกเย็นลำแสงสุดท้ายของแสงอาทิตย์ได้หายไปในป่าแสนไกล จางเทีย ตื่นขึ้นมาในบ้านที่ว่างเปล่าซึ่งไม่ห่างจากกำแพงด้านเหนือของเมืองหลังจากที่พักผ่อนไปได้ 4 ชม.
ในตอนที่ซึมซับยารักษารอบด้านและแรงที่มี จางเทีย รู้สึกว่าเขาสามรถทำงานได้ 7-8 วันโดยที่ไม่ต้องพักแต่เพื่อที่จะไม่ให้สะดุดตารึสร้างปัญหา จางเทีย จึงทำเหมือนกับที่ทหารส่วนมากในเมืองทำ ทำเหมือนกับพวกพาลาดินและนักล่า
กองทัพซอมบี้นั้นน่ากลัว หากพวกมันทำการโจมตี ซอทบี้ทุกตัวจะกลายเป็นสัตว์ป่าที่รู้จักแค่วิธีฆ่าและเดินหน้าเท่านั้น พวกมันพุ่งมาข้างหน้าอย่ากับคลื่นที่ละชุดๆจนกว่าหัวพวกมันจะระเบิดรึโครงสร้างร่างกายถูกทำลาย
เป็นการโจมตีที่น่ากลัวจริงๆ ! ซอมบี้ยังคงคอยโจมตีมนุษย์แม้ว่าจะไม่มีอาหาร,น้ำรึการพักผ่อนแต่คนส่วนมากในเมืองนั้นไม่ได้มีความสามารถแบบนั้น ทหารพวกนี้สู้ได้มากสุดเพียงแค่ 3 วัน ดังนั้นกองทัพในเมืองจึงต้องเข้ากะกันเพื่อทำการป้องกันเมืองเอาไว้โดยแบ่งเป็นสองกะ
ทหารและพาราดินมากกว่า 20 คนนอนอยู่ตามบ้านเหมือนกับ จางเทีย ที่นอนอยู่ในห้องที่มีแค่สองเตียง บางพวกนอนที่โซฟาของห้องนั่งเล่น ตอนนั้นมันทำให้คนอิจฉาหากมีโซฟาไว้นอนรึแบ่งห้องกับคนอื่นได้ ส่วนมากได้แต่หามุมในห้องนั่งเล่นรึทางเดินเพื่อให้นอนหลับโดยการพิงกำแพง
ก่อนหน้านี้เจ้าของบ้านต่างๆอาจจะเป็นแค่ชนชั้นกลาง ดังนั้นทั้งบ้านจึงสะอาดแต่มันก็ดูรกแล้วในตอนนี้ ห้องนั่งเล่นถูกดึงไม้ออกมาเป็นฟืนเพื่อให้ความร้อน ม่านสามชั้นที่กลายเป็นเศษผ้าขี้ริ้ว ตอนนั้นข้างในสกปรกอย่างมาก เศษไม้ตามกำแพงห้องถูกเอาลงมาแล้วปิดหน้าต่างแทนม่านเอาไว้ อากาศด้านในห้องกลิ่นเหม็นอับไปด้วยกลิ่นเท้าและเหงื่ออีกทั้งยังกลิ่นตัว ทุกคนรวมถึง จางเทีย ไม่ได้อาบน้ำมานานกว่า 8 วัน
หลังจากที่ตื่นขึ้นมาแล้ว จางเทีย ได้ลุกขึ้นมาเงียบๆ หลังจากนั้นเขาก็ก้าวข้ามคนอื่นๆที่นอนเกะกะตามทางออกไปจากห้องนั่งเล่น
มีห้องน้ำด้านนอกห้องนั่งเล่น ตั้งแต่ที่กองทัพซอมบี้เข้าบุกเมือง ฝักบัวในห้องน้ำก็ได้หยุดทำงานแต่ห้องน้ำยังคงใช้งานได้หากต้องใช้ทำธุระอื่นๆ แม้ว่าห้องน้ำจะสกปรกแต่ก็ไม่มีใครสน
จางเทีย ในฐานะคน เขาเองก็ต้องเยี่ยวเหมือนกันแต่ในตอนที่เข้าไปในห้องน้ำ เขาถึงกับไม่มีที่วางเท้า จางเทีย ทนไม่ไหวที่จะใจเย็นอีกที่จะเหยียบไปตามกองเยี่ยวและขี้ เขาทำได้แค่ถอย หลังจากที่ออกจากบ้านมา เขาได้ไปถนนใกลๆ หลังจากนั้นก็หันหน้าเข้ากับกำแพงแล้วเริ่มเยี่ยวออกมาอย่างพอใจ
ทีมทหารพากันวิ่งตามท้องถนน หลายตึกทั้งสองฝั่งของเมืองถูกทหารยึดเอาไว้ใช้งาน บางตึกถูกทำลาย บางส่วนถูกซ่อมแซม ตอนนั้นทุกคนในเมืองรู้ว่าพวกเขาคงต้องเสียเมืองนี้ ดังนั้นเจ้าหน้าที่หลายคนจึงเลือกที่จะสู้ต่อ
หลังจากที่รู้ว่าเมืองนี้คงต้องถูกถล่ม จางเทีย ไม่ได้รู้สึกแย่กับมัน เขาแค่มองทหารที่ผ่านเขาไป เมื่อเห็นหน้าที่เด็กพอๆกับเขาและคิดภาพที่คนพวกนี้สามารถรอดไปได้ในตอนที่เมืองถล่ม จางเทีย ก็รู้สึกโล่งใจ ในสนามรบ หลังจากที่ได้เห็นความเป็นความตายมากมาย คนเราจะไม่ตื่นเต้นรึกลัวอีกต่อไป หลายวันมานี้ จางเทีย มองดูคนหลายแสนคนโดนฆ่าต่อหน้าต่อตาเขา
สำหรับทหารของกองทัพพวกนี้ พวกเขามีโอกาสที่จะถอยแต่พวกเขาไม่ได้ทำเพราะพวกเขาขังตัวเองไว้ในป้อมและสู้กับปิศาจกว่า 5 วันจนกระทั่งศพของซอมบี้นั้นกองกันขวางช่องโหว่เอาไว้ จากนั้นพวกเขาจึงค่อยถอย
ตอนนั้นในตอนที่มองคนที่ตายไปต่อหน้า คุณจะรู้สึกเสียใจ ในตอนที่เห็นคนกว่า 10 คนตายไปต่อไหน้า คุณจะรู้สึกหงุดหงิดและเจ็บปวดแต่เมื่อเป็นร้อยคน,พันคน,หมื่นคนรึแสนคนตายไปต่อหน้า ความรู้สึกที่มีนั้นจะด้านชา หลังจากนั้นจะรู้สึกเพียงแค่เสียใจ
มันก็เหมือนกับที่คุณรู้สึกในตอนที่เห็นใบไม้ร่วงหล่นลงมาและเปลี่ยนเป็นโคลน ในสายตาของ จางเทีย พวกนักสู้หนุ่มๆเหล่านี้นั้นก็แค่ใบไม้ที่ไม่ว่าจะสีอะไรก็ตาม
มีจุดเสบียงหลายที่ตามท้องถนนที่ใกล้กับกำแพง พวกเขาได้ให้ขนมปังก้อนใหญ่ที่มีเศษเนื้อและเนื้อกระป๋อง ทหารที่วิ่งไปตามท้องถนนจะไปรับอาหารพวกนี้มา ในตอนที่กินเสร็จ พวกเขาจะรีบวิ่งกลับไปที่กำแพงรึเข้าไปในป้อมด้านในกำแพงเมือง
เมืองม็อกโกนั้นมีอาหารเพียงพอ คิดจากทหารที่ประจำการอยู่แล้ว พวกเขาสามารถรอดไปได้กว่า 2 เดือนแต่ทุกคนรู้ดีกว่าเมืองนั้นทนไม่ได้ถึง 2 เดือน เมื่อเป็นแบบนั้นมันจะไร้ความหมายหากยังเก็บอาหารพวกนี้เอาไว้
จางเทีย รับขนมปังและเนื้อกระป๋องมา ในตอนที่เขากิน เขาก็ได้เดินไปตามกำแพง
ข้างนอกนั้นมืดแล้ว คบไฟตามกำแพงถูกจุดขึ้นมา ซอมบี้ได้เข้าโจมตีแนวป้องกันของเมืองกว่า 8 วันติด
ซอมบี้ยังคงร้องโหยหวนออกมาด้านนอกเมือง พวกเจ้าหน้าที่บนกำแพงต่างก็ตะโกนกันด้วยความหงุดหงิด แม้ว่าเสียงของซอมบี้นั้นจะยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลงแต่เสียงของผู้คนต่างก็แหบแห้ง
กำแพงเมืองนั้นถูกล้อมรอบไปด้วยกลิ่นที่เหม็นและน่ารังเกียจ ถ้าหายใจในสภาพแวดล้อมนี้นานๆ อวัยวะภายในคงได้รับความเสียหายอย่างมาก ผลก็คือพลังในการต่อสู้เองก็จะลดลงไปด้วย
หลังจากที่มาที่กำแพงด้านหนึ่ง จางเทีย พบกับถังขี้ผึ้งถังหนึ่ง นักสู้ต่างก็จะเอาขี้ผึ้งมาถูจมูกเอาไว้เพื่อกันกลิ่น
หลังจากที่สู้มากกว่า 8 วัน ศพของซอมบี้นับล้านนอนอยู่ตามพื้นที่ด้านนอกเมือง หลังจากที่โดนอากาศกว่าแปดวัน ศพหลายศพเริ่มเน่า 3 วันก่อนในตอนที่ซอมบี้ได้ทำลายแนวป้องกันด้านอกเมืองและที่ชายแดนเมือง ที่นั่นก็ยังเต็มไปด้วยศพ
ที่เขตแดนเมือง มันมีซอมบี้นับไม่ถ้วน
แต่การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไป ซอมบี้ที่ดูเหมือนกับคลื่นสีดำยังคงแห่เข้ามาในเมืองอย่างต่อเนื่องซึ่งยิ่งเพิ่มกองศพด้านนอกเมืองให้สูงขึ้นไปอีก
จางเทีย ไม่ได้ใช้ขี้ผึ้งพวกนี้ทาจมูกเพื่อกันกลิ่น เขาทามันลงขนมปังแทนแล้วเคี้ยงมัน แม้ว่าจะมีกลิ่นเหม็นแต่เขาก็ยังคงเดินไปตามกำแพงเพื่อตรวจสอบสถานการณ์ด้านนอกเมือง
หลังจากนั้นหลายชั่วโมงศพของซอมบี้ด้านนอกเมืองกูสูงกว่า 2 ม.แต่พวกซอมบี้ก็ยังคงแห่กันเข้ามาต่อ ตอนนั้นซอมบี้ไม่ได้มือเปล่าอีกต่อไป พวกมันต่างก็ถือชิ้นส่วนของพวกซอมบี้ตรงหน้าเอามาเป็นอาวุธรึอาหารให้กับตัวมันเอง
ซอมบี้ยังคงแห่กันมายังประตูทางเหนือ ศพตัวอื่นๆที่ตายไปเริ่มกลายเป็นโล่ให้กับอาวุธป้องกันบนกำแพง ซอมบี้บางตัวถึงกับกินเนื้อจากศพพวกนั้นแล้วกรีดร้องออกมาแต่พวกซอมบี้ที่มาถึงชายแดนเมืองได้ต่างก็จะทิ้งโล่ของพวกมันเพื่อที่จะย่นระยะห่างจากกำแพงเมืองและความสูงของพวกมันให้ได้
จางเทีย ยังคงกินขนมปังไปต่อแล้วดูการต่อสู้ที่เกิดขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชา
อย่างน้อยม็อกโกก็ยังปลอดภัยในตอนนี้แต่มันทนได้ไม่นาน ทหารด้านนอกเมืองนั้นทำหน้าที่โดนใช้ชีวิตตัวเองเข้าไปเสี่ยง สำหรับทหารในเมือง มันได้เวลาที่พวกเขาจะเสียสละตัวเองในตอนที่ซอมบี้มาถึงที่บนกำแพงได้
กำแพงทางด้านเหนือสูงกว่า 30 ม. ตอนนั้นศพของซอมบี้กองกันสูงกว่า 15 ม. เหลืออีกแค่ 20 ม.พวกซอมบี้ก็จะฝ่าเข้ามาในเมืองได้
7-8 ไมล์ห่างออกไป ที่ที่เครื่องป้องกันโจมตีไม่ถึงคือจุดที่พวกซอมบี้ไปรวมตัวกันมากกว่าเดิมหากเทียบในอาทิตย์ที่แล้ว จางเทีย มองออกไปแล้วเห็นซอมบี้กว่า 2-3 ล้านตัวที่เต็มไปทั่วที่ราบ พวกซอมบี้นั้นกำลังรอคอยเวลาที่เหมาะสมที่จะพากันแห่กันขึ้นมาบนกำแพงเมืองได้...